เลิกเรียน..
หลังจากที่โบกมือลาเพื่อนสาวทั้งสองคนฉันก็มายืนรอรถเมล์ตามปกติเหมือนทุกวันแต่วันนี้ที่ผิดปกติคือทำไมมีแต่คนมองฉันก็ไม่รู้โดยเฉพาะนักเรียนหญิงบางกลุ่มที่หันมามองฉันแล้วก็หันไปซุบซิบกัน เห้ออ! ฉันทำเป็นไม่สนใจคนเหล่านั้นแล้วยืนรอรถเมล์ต่อไปแบบเงียบๆ
“บราวนี่..” อยู่ๆ ก็มีเสียงเรียกฉันมาจากด้านหลังพร้อมกับความรู้สึกที่โดนใครสะกิดทำให้ฉันหันไปมองก็เจอกับนิวเยียร์ที่ยืนยิ้มให้อยู่ข้างหลัง อย่าบอกนะว่าที่คนมองและซุบซิบฉันเนี่ยเพราะว่านิวเยียร์เดินตามฉันมาเหรอ ตาบ้านี่จะหาเหาให้ฉันหรือไงเนี่ย TT
“ว...ว่าไงนิวเยียร์” ^^”
“กลับด้วยกันมั้ย เดี๋ยวรถที่บ้านผมจะมารับ”
“ม...ไม่เป็นไรจ้ะ ฉันกลับรถเมล์ได้ แหะๆ” ฉันยิ้มแห้งตอบนิวเยียร์ไป
บรื้นน~ เอี๊ยดดดด!! เสียงของเบรกรถที่มาจอดตรงหน้าทำให้ฉันกับนิวเยียร์หันไปมอง เจ้าของเสียงนั้นคือเลโอที่นั่งคร่อมอยู่บนรถพร้อมกับถอดหมวกกันน็อคออกมาแล้วมองหน้าเราทั้งคู่ก่อนจะส่งหมวกอีกใบมาให้ฉัน
“ขึ้นรถ...แม่เธอให้ไปรอที่ร้านแม่ฉัน”
“เอ่อ...ไม่เป็นไรฉันไปเองได้” ^^”
“ขึ้นรถ...”
ฉันพยายามบ่ายเบี่ยงเพื่อหาทางออกจากสถานการณ์นี้แต่เลโอยังคงพูดคำเดิมแล้วจ้องหน้าฉันนิ่ง
น...น่ากลัววววว T^T
ฉันต้องจำยอมรับหมวกจากเขามาสวมที่หัวท่ามกลางสายตาของเหล่านักเรียนที่กำลังเลิกเรียนและเสียงซุบซิบของนักเรียนหญิงบางกลุ่มที่เห็นเหตุการณ์อยู่ แต่เมื่อเลโอปรายสายตาหันไปมองนักเรียนกลุ่มนั้นก็รีบแยกย้ายกันทันที
“พี่นิว มีอะไรกันเหรอคะ นิเดินมาเห็นคนมองพวกพี่กันเต็มเลยแถมมีซุบซิบกันอีก”
“พวกพี่มีอะไรกันเหรอคะ ทะเลาะกันเหรอ? แล้วนี่พวกพี่....”
จู่ๆ ก็มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มและมีส่วนคล้ายนิวเยียร์เดินมาทางพวกเราเด็กคนนั้นเดินมากอดแขนนิวเยียร์แล้วเอ่ยถามเขาพร้อมกับทำหน้าสงสัย กับเหตุการณ์ตอนนี้ ก่อนจะหันหน้ามาถามพวกเราแล้วมองหน้าฉันกับเลโอสลับกัน
“ไม่มีอะไรเหรอกนิ นี่บราวนี่เพื่อนสมัยเด็กของเลโอไง คนที่เป็นข่าวกับพี่ครั้งก่อนน่ะ ส่วนนี่นิต้าน้องสาวผมเอง”
“สวัสดีค่ะพี่บราวนี่ พี่นี่เองตัวจริงน่ารักกว่าในรูปอีกนะคะเนี่ย ถึงในรูปจะเบลอหน้าก็เถอะ” ^^
“ส....สวัสดีค่ะ น้องนิต้า ไม่เหรอกจ้ะน้องน่ารักกว่าพี่เยอะ” ^^
นิวเยียร์จัดการแนะนำให้พวกเรารู้จักกันและนิต้าทักทายฉันด้วยรอยยิ้มที่น่ารัก ส่วนฉันเองก็ยิ้มตอบให้น้องเขาเหมือนกัน บ้านนี้หน้าตาดีกันทั้งบ้านสินะเนี่ย ดีจังงงง เห็นแบบนี้แล้วฉันก็อยากมพี่ชายบ้างแล้วสิ น่าจะดีไม่น้อยเลย >
“ขึ้นรถ...” -_-**
“เอ่อ...ง...งั้นฉันไปก่อนนะ บ๊ายบายค่ะน้องนิต้า”
“ครับ^^ เลโอขับรถดีๆ ล่...”
เสียงนิ่งๆ ของเลโอแทรกขึ้นมาทำให้บรรยากาศที่เริ่มจะดีขึ้นกลับมาอึมครึมอีกครั้ง ฉันเลยตัดบทด้วยการบอกลานิต้ากับนิวเยียร์แล้วขึ้นไปนั่งซ้อนท้ายเลโอ นิวเยียร์พนักหน้าและยิ้มรับส่วนนิต้าก็โบกมือบ๊ายบายฉัน แต่ยังไม่ทันที่นิวเยียร์พูดจบ เลโอก็บิดรถออกไปจากตรงนั้นทันทีทำให้ฉันต้องรีบเอามือเกาะไหล่เขาไว้แน่นที่สุดเพราะกลัวตก ฮืออออ นายขับช้ากลัวนี้ไม่ได้รึไงกันนะเลโอ ฉันกลัวนะT_T
เลโอไม่ได้ขับรถพาฉันมาที่ร้านของแม่เขาแต่อย่างใดแต่ขับพาฉันมาส่งถึงที่บ้านเลย เขาจอดรถตรงหน้าบ้านฉันทำเอาฉันได้แต่แอบสงสัยอยู่คนเดียว ฉันถอดหมวกคืนเขาแล้วยังคงจ้องหน้าเขาแบบงงๆ สมองกำลังประมวลผลว่ามันเกิดอะไรขึ้นไหนเขาบอกว่าแม่ฉันให้ไปรอที่ร้านแม่เขาไง?
เลโอเองก็ถอดหมวกแล้วหันมาจ้องหน้าฉันเหมือนกัน เราทั้งคู่ต่างไม่พูดอะไร จนบรรยากาศโดยรอบเงียบมาก หรือเขาไบโพล่าร์กำเริบเหรอ TT
“ฉันโกหก...” หลังจากที่เราจ้องหน้ากันสักพักเลโอก็พูดขึ้นทำลายความเงียบ ฉันพยักหน้าเข้าใจและกำลังจะหันหลังเดินเข้าบ้าน เลโอก็จับไหล่ฉันให้หันมาทางเขาอีกรอบ ฉันมองเขาด้วยความสงสัยในพฤติกรรมที่เขาทำนี้มาก ช่วงนี้เขาดูแปลกไปจริงๆ หรือว่าเขาจะเป็นไบโพล่าร์อย่างที่ฉันคิดจริงๆ O_o
“อย่าเข้าใกล้มัน...”
“หือ? ค...ใครเหรอ?” จู่ๆ เลโอก็บอกฉันแบบนั้นฉันได้แต่ทำหน้างงแล้วถามเขากลับทันที เขาหันหน้าไปทางอื่นแล้วเงียบไปนั่งยิ่งทำให้ฉันใจไม่ดีเกี่ยวกับสิ่งที่เขาเป็นในตอนนี้ ฉันกลัวจริงๆ ฉันไม่รู้เลยว่าตอนนี้เขาคิดอะไรอยู่กันแน่ ฉันไม่รู้ว่าควรจะทำตัวแบบไหนเมื่ออยู่ต่อหน้าเขาเวลานี้ เดี๋ยวก็น่ากลัว เดี๋ยวก็เงียบไม่พูด เขาคิดว่าฉันมีวิชาอ่านใจเขาได้รึไงกัน ตาบ้าเอ๊ย...
“ไอ้นิวเยียร์...เธอห้ามเข้าใกล้มันมากกว่านี้มันเป็นเพื่อนฉัน” เลโอพูดและจ้องมาที่ฉัน
อ๋อ..ที่แท้เขาก็หวงเพื่อนเขานี่เอง มันมีแว๊บนึงนะที่ฉันเผลอแอบคิดว่าเขาคงจะห่วงฉันไม่อยากให้ฉันวุ่นวายถ้านิวเยียร์เข้ามาใกล้ฉันมากขึ้น กลัวว่าฉันจะโดนสาวๆ ที่คลั่งไคล้นิวเยียร์มากลั่นแกล้ง แต่ดูจากสิ่งที่เขาพูดแล้ว เขาคงแค่หวงเพื่อนเขาเท่านั้นแหละ เขาคงไม่อยากให้ฉันเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับเพื่อนของเขา..
“อื้อ..ฉันเข้าใจแล้วล่ะ” ฉันพยักหน้าเข้าใจและยิ้มให้เขาก่อนที่จะหันหลังเดินเข้าบ้านไป มันมีความรู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นมาในใจเพราะแอบหวังว่าเขาอาจจะเป็นห่วงฉันบ้างในฐานะที่เราเป็นเพื่อนกันสมัยเด็ก แต่ดูท่าแล้วเขาคงไม่ได้อยากให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับใครในชีวิตเขาเลยด้วยซ้ำล่ะมั้ง..
หลังจากที่ทานข้าวอาบน้ำเสร็จฉันก็มานั่งทำการบ้านและอ่านหนังสือเพื่อเตรียมสอบมิดเทอมที่กำลังจะถึงนี้ แต่ฉันไม่มีสมาธิเลยในหัวมันยังคงมีแต่คำพูดและสายตาของเลโอเมื่อตอนเย็นอยู่ พอคิดว่าเขาคงเกลียดฉันไปแล้วแน่ๆ มันก็ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกแย่ ฉันอยากให้เขาเป็นเหมือนเดิมมาก เหมือนตอนที่เราเคยเล่นด้วยกันตอนเด็กๆ ที่เขาเป็นคนอ่อนโยน จิตใจดี และเอาใจใส่คนรอบตัวเสมอ แต่มันก็คงเป็นแบบนั้นไม่ได้แล้วล่ะ....
ตอนเช้า..
วันนี้ฉันเลือกที่จะนั่งรถเมล์มาโรงเรียนเอง ฉันออกมาเช้ากว่าปกติมากเพราะเมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับเท่าไหร่ ฉันบอกแม่ไว้แล้วว่าต่อไปนี้ฉันจะมาโรงเรียนเอง จะได้ไม่เป็นการรบกวนเลโอด้วย ตอนแรกแม่ก็คัดค้านแต่ฉันยืนยันหนักแน่นว่าจะมาเองแม่เลยยอมและโทรไปบอกเลโอให้
ฉันเดินเข้าประตูโรงเรียนมาเงียบๆ โดยไม่สนใจสิ่งรอบข้างว่าจะโดนจับกลุ่มนินทาหรือโดนมองแค่ไหน ฉันไม่อยากรับรู้อะไรแล้วเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้แล้ว รู้สึกว่ามันเหนื่อยเกินไปใครจะนินทาอะไรก็ทำไปเถอะ ฉันไม่อยากสนใจอะไรแล้ว เห้ออ!!
“นี่เธอ!”
“ว๊ายยยย!”
แรงกระชากแขนจากข้างหลังทำให้ตัวฉันเซไปตามแรงนั้น พอหันหน้าไปฉันก็เจอกับนักเรียนหญิงกลุ่มนึงที่ตอนนี้เข้ามายืนล้อมตัวฉันเอาไว้ ฉันมองพวกเขาแบบกล้าๆ กลัวๆ แล้วลอบกลืนน้ำลายเอื๊อกใหญ่ใจเต้นรัวเป็นกลองชุด ฉันหวั่นใจมากกับสายตาที่พวกเธอแต่ละคนมองมาที่ฉันเรียกได้ว่าแทบจะฉีกกระชากฉันเป็นชิ้นๆ ได้เลย พวกเธอยืนล้อมฉันสักพักก่อนจะลากฉันไปที่ข้างตึกเรียนที่ค่อนข้างลับตาคนเล็กน้อย ก่อนที่ฉันจะโดนเหวี่ยงไปจนเกือบล้มหน้าทิ่มพื้นงจนฉันล้มลงเข่ากระแทกพื้นอย่างจัง เจ็บ...
“เธออีกแล้วนะ! คราวก่อนก็นิวเยียร์ เมื่อวานก็ซ้อนท้ายเลโอออกไป เธอคิดจะควบสองเลยรึไงห้ะ!!”
“แค่นิวเยียร์คนเดียวฉันก็ไม่ยอมแล้วนะ”
“ใช่ๆ นี่ยังจะมายุ่งกับเลโอของฉันอีก!!”
“อยากโดนตบนักรึไงห้ะ!!” บลาๆๆๆ
พวกเธอชี้หน้าและต่อว่าฉันต่อไปเรื่อยๆ แต่ฉันไม่อยากจะสนใจอะไร ฉันแค่นั่งเงียบให้พวกเธอต่อว่าอยู่แบบนั้นโดยไม่คิดจะตอบโต้อะไรเลย ใจนึงฉันก็กลัวพวกเธอและไม่อยากเจ็บตัว แต่อีกใจนึงฉันรู้สึกว่าฉันเหนื่อย ฉันอยากอยู่แบบสงบๆ ใครก็ได้เถอะมาช่วยฉันออกไปจากตรงนี้ที!!
“ที่ฉันพูดเธอได้ยินมั้ย!! ห้ามยุ่งกับพวกเขาเด็ดขาดไม่งั้นเธอไม่ได้โดนแค่นี้แน่ จำไว้!!” หนึ่งในกลุ่มนั้นนั่งลงมาตรงหน้าฉันพร้อมกับกระชากผมฉันไปด้านหลังอย่างแรง
“โอ๊ย...” ฉันร้องออกมาเบาๆ ด้วยความเจ็บ แค่นั้นยังไม่พอนักเรียนหญิงคนนั้นยังผลักหัวฉันอย่างแรงจนฉันหงายหลังเอาข้อศอกยันพื้นไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองล้มไปมากกว่านี้
“ไปกันเถอะพวกเรา เดี๋ยวใครมาเห็นคนเริ่มมาเรียนกันเยอะแล้ว” หนึ่งในกลุ่มนั้นพูดขึ้นพร้อมกับชวนกันเดินออกไปจากข้างตึกตรงนี้ ทิ้งให้ฉันนั่งก้มหน้ามองพื้นอยู่แบบนั้น..
ฉันคิดทบทวนกับตัวเองว่าควรจะทำยังไงดีฉันคงไม่เข้มแข็งมากพอเหมือนฮันนี่ที่จะลุกขึ้นมาต่อสู้กับคนเหล่านี้ได้และฉันก็คงจะไม่สามารถปล่อยให้เรื่องแบบนี้ปล่อยผ่านไปโดยไม่คิดอะไรได้ ตั้งแต่ย้ายเข้ามาเรียนนี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันโดนคุกคามถึงเนื้อถึงตัวขนาดนี้ บอกตามตรงว่าฉันกลัว...
“ฉันเตือนเธอแล้วใช่มั้ยบราวนี่” เสียงหนึ่งดังขึ้นมาหลังจากที่พวกนั้นไปได้สักพัก
ฉันเงยหน้าขึ้นมองตามเสียงพูดก็เจอกับริเรียที่ยืนกอดอกมองฉันด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดาได้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ ริเรียค่อยๆ เดินมานั่งลงตรงหน้าฉันก่อนละลูบผมฉันที่โดนกระชากจนเสียทรงให้กลับมาเป็นทรงเหมือนเดิม สายตาที่ดูอ่อนโยนกว่าปกติและสิ่งที่ริเรียทำตอนนี้มันทำให้น้ำตาฉันค่อยๆ ไหลออกมาอย่างช้าๆ
“ร้องไห้ทำไม? ฉันเตือนเธอแล้วไงว่าอย่าไปยุ่งกับพวกนิวเยียร์ พวกลูกเพจที่บ้าคลั่งพวกนั้นพร้อมจะทำทุกอย่างนั่นแหละเพื่อให้คนในฝันของเขายังคงเป็นคนในฝันต่อไปไม่ให้ใครมาเข้าใกล้”
“ขอบคุณนะ...ริเรีย”
“ถึงฉันจะไม่ได้ชอบเธอแต่ฉันก็ไม่ได้เกลียดเธอเหรอกนะ อย่างน้อยเธอก็เป็นเพื่อนร่วมห้องกับฉันอ่ะนะ”
ริเรียเช็ดน้ำตาให้ฉันพร้อมกับช่วยพยุงฉันลุกขึ้นจากตรงนั้น ริเรียค่อยๆ พยุงพาฉันเดินออกมาจากมุมตึกและพาฉันเดินขึ้นห้องเรียนไป ฉันได้เห็นอีกมุมนึงของเธอที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน เพราะปกติริเรียจะชอบมองมาที่พวกเราแบบเย็นชาและสายตาไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่ ที่สำคัญเธอไม่ค่อยถูกโฉลกกันกับฮันนี่ที่เจอหน้ากันทีไรก็ต้องมีบ้างที่ปะทะฝีปากกัน
“นี่เธอทำอะไรเพื่อนฉันน่ะ ถอยไปนะ!” ฮันนี่
“เกิดอะไรขึ้นบราวนี่ทำไมเป็นแบบนี้” คริสตัล