เมื่อเห็นว่าฉันไม่พูดอะไรริเรียจึงพูดขึ้นมาอีกรอบพร้อมกับเดิกอดอกเดินเข้ามาใกล้ฉันมากขึ้น ฉันกลัวเธอแล้วนะริเรีย TT
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอมิทราบ นิวเยียร์ของเธอเหรอ? เป็นได้แค่แอดมินเพจตามติดชีวิตพวกนั้นเป็นเห็บหมัดยังจะมาแสดงความเป็นเจ้าของอีกเหรอเจ้าตัวพวกนั้นรู้ตัวหรือยังเนี่ยว่าเป็นของเธอ”
ฮันนี่เดินมาประจันหน้ากับริเรียแล้วพูดขึ้น ทั้งสองคนยืนจ้องหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมแพ้ใครเลย หวังว่าทั้งคู่จะไม่มีเรื่องกันเพราะฉันเหรอกนะ T^T
“ฮ..ฮันนี่พอเถอะ เพื่อนในห้องมองกันใหญ่แล้ว”
ฉันเอิ้อมมือไปจับชายเสื้อของฮันนี่แล้วเลยหน้าบอก ฮันนี่หันมายิ้มให้ฉันเล็กน้อยก่อนจะหันหน้าไปจ้องริเรียเหมือนเดิม ส่วนริเรียเองก็หันมาจ้องหน้าฉันแว๊บนึงก่อนจะหันกลับไปจ้องหน้าฮันนี่เหมือนเดิมเช่นกัน
“ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับนิวยียร์ของเธอเหรอนะริเรีย ฉันแค่ยืนรอรถแล้วเขาก็แค่เข้ามาทักเฉยๆ นั่นเป็นครั้งแรกที่ฉันได้คุยกับนิวเยียร์ มันไม่มีอะไรเลยจริงๆ นะ” ฉันกลัวทั้งคู่จะมีเรื่องกันจริงๆ เลยรวบรวมความกล้ายืนขึ้นสบตากับริเรีย
“บราวนี่พูดเรื่องจริงริเรีย เธอก็เห็นว่าตั้งแต่บราวนี่ย้ายมายัยนี่แทบไม่คุยกับใครเลยนอกจากพวกฉัน เพราะงั้นกลับไปนั่งโต๊ะเธอเถอะอาจารย์จะมาแล้ว” คริสตัลที่ยืนมองสถานการณ์อยู่เดินมาพูดกับริเรีย
“ได้ครั้งนี้ฉันจะเชื่อเธอ แต่อย่าให้ฉันเห็นอีกนะว่าเธอใกล้ชิดกับพวกเขาอีกน่ะ ฉันไม่ปล่อยเธอไว้แน่ เพราะคนแบบเธอมันไม่คู่ควร จำไว้” ริเรียมองฉันอย่างคาดโทษก่อนที่จะเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะของตัวเอง เห้อออ นึกว่าจะมีเรื่องกันใหญ่โตซะแล้ว ใจหายแว๊บเลยT^T
“เมื่อกี้เธอสุดยอดมากบราวนี่น้อยของฉัน ในที่สุดเธอก็เติบโตขึ้นอีกก้าวแล้วสินะ” ฮันนี่เดินมากอดคอฉันพร้อมกับลูบหัวฉันเบาๆ
“เมื่อกี้เธอเก่งมากนะบราวน์ เธอกล้าพูดตอบโต้คนที่เขาจะเข้ามารังแกเธอได้แล้ว”
คริสตัลที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ ก็หันมาพูดและส่งยิ้มให้ฉัน ทั้งสองคนไม่รู้เหรอกว่าใจฉันตุ๊มๆ ต่อมๆ แค่ไหน ดีนะที่ริเรียยอมกลับไปโต๊ะแต่โดยดีอ่ะ ไม่งั้นอาจจะได้เป็นเรื่องใหญ่กว่านี้แน่ๆ
“ใจฉันหล่นลงไปตาตุ่มแล้วตอนที่พูดออกมาอ่ะ นึกว่าจะโดนตบซะแล้ว T^T”
ฉันพูดขึ้นเบาๆ พร้อมกับทำหน้าหงอยๆ ใส่เพื่อนรักทั้งสอง ฉันไม่กล้าหันไปหาริเรียที่อยู่ข้างหลังเลยกลัวสายตาของริเรียมาก แต่ถึงอย่างนั้นสายตาที่ฉันกลัวที่สุดก็ยังคงเป็นสายตาของเลโอเหมือนเดิมนั่นแหละ สายตาที่มองมาที่ฉันทีไรหัวใจฉันแทบจะหยุดเต้น ร่างกายแทบจะกลายเป็นหิน T T
End Braownie’ s part-
“เห้ย เลโอมึงเห็นข่าวที่อยู่ในเพจของพวกเราหรือยังวะ เมื่อเช้าเป็นทอร์คออฟเดอะทาวน์สุดๆ”
มาร์ตินเดินมากอดคอผมที่นั่งมองรุ่นน้องเล่นบาสอยู่ที่สนามก่อนที่พวกเราจะเลิกเรียนกัน พวกผมจะนัดกันมาเล่นบาสเป็นประจำแต่วันนี้ผมมาก่อนเวลาเพราะคนอื่นๆ ไปเข้าห้องน้ำกับเปลี่ยนชุดกันอยู่ ผมเลยต้องมานั่งรอต่อคิวจากน้องๆ ที่ยังเล่นไม่เสร็จ
“ข่าวน่าเบื่อน่ารำคาญแบบนั้นไม่ต้องมาบอกกูนะ ไม่อยากรู้” -_-
ผมเอี้ยวตัวหลบแขนของมันที่กำลังจะมาคล้องคอผมแต่ไม่ทัน แม้แต่กับเพื่อนยังมือติดหนึบขนาดนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ากับผู้หญิงมันจะขนาดไหน
“ไอ้นิวเยียร์ถึงขั้นไปเต๊าะสาวเลยนะเว้ย ไม่สนใจหน่อยเหรอวะเพื่อน”
มาร์ตินหย่อนก้นนั่งลงข้างๆ ผมแต่แขนมันก็ยังกอดคอผมไว้เหมือนเดิมจนผมต้องจับแขนมันออกไปเพราะรำคาญ
“แล้วกูจำเป็นต้องรู้มั้ย?”
ผมกรอกตาพูดอย่างเบื่อๆ เมื่อไหร่พวกที่เหลือจะมาวะ จะได้เอาลูกบาสอุดปากไอ้มาร์ตินสักที พูดมากชิบ
“สาวคนนั้นน่ารักมากเลยนะเว้ยกูเห็นหน้าจริงวันนั้น ชื่อบราวนี่อะไรนี่แหละคนที่เพิ่งย้ายมาตอนต้นเทอมอ่ะเป็นเพื่อนของฮันนี่กับคริสตัลด้วยนะเว้ย”
คำพูดของมาร์ตินทำให้ผมหันหน้าไปมองมันทันทีหน้าจอมือถือที่มาร์ตินชูอยู่พอดี ภาพยัยนั่นยืนให้ไอ้นิวเยียร์ลูบหัวโชว์หราอยู่กลางจอมือถือ ยัยบ้านั่น!! หึ่ย!!
“นั่นไง กูบอกแล้วว่าน่าสนใจ” มาร์ตินฉีกยิ้มหวานให้ผมไปหนึ่งที ก่อนจะหันไปดูพวกน้องๆ ในสนาม
“แล้วสองคนนั้นคบกัน?” ผมเอ่ยถามมาร์ตินเบาๆ ผมไม่เคยรู้เลยว่ายัยนั่นจะรู้จักกันกับเพื่อนในกลุ่มผมด้วย
“ไม่รู้ว่ะ กูยังไม่ได้ถามไอ้นิวเยียร์มันเหมือนกัน แต่รูปที่เพจนั่นโพสต์ก็น่าตกใจอยู่นะเว้ย ไอ้นิวเยียร์ยืนลูบหัวสาวหน้าโรงเรียนเลยดูดิ”
มาร์ตินพูดพร้อมกับเอามือเกาคางใช้ความคิด ส่วนมืออีกข้างก็ส่งมือถือที่เข้าไปดูโพสต์ของเพจนั้นให้ผมดูหน้าจอที่พาดหัวข่าวกลางภาพ
‘สาวๆ ต้องหลังน้ำตาเมื่อนิวยียร์ยืนลูบหัวสาวคนนึงหน้าโรงเรียนหรือนี่จะเป็นการเปิดตัวสาวคนรู้ใจฉบับหนุ่มหล่อแบบนิวเยียร์?’ ผมอ่านสเตตัสที่เพจนั่นโพสต์พร้อมกับรูปที่นิวเยียร์ยืนลูบหัวยัยนั่นอยู่ถึงจะเบลอหน้าแต่ผมก็ยังดูออก ถ้าพวกนั้นจะคบกันมันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผมเหรอกแต่มันน่าโมโหที่คนอย่างยัยนั่นเนี่ยนะที่จะมาคบกับคนอย่างนิวเยียร์ได้ คนแบบยัยนั่นเอานิวเยียร์ไม่อยู่เหรอกคบไปเดี๋ยวนิวเยียร์มันก็เบื่อ -_-* แต่ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมผมถึงรู้สึกไม่พอใจกับข่าวนี้เอาเสียเลย
“ถ้ามากันแล้วก็เล่นไปกันก่อนเลยนะ กูมีธุระ”
ผมบอกมาร์ตินไว้แค่นั้นก่อนจะลุกเดินออกจากขอบสนามไป โดยไม่สนใจเสียงของมาร์ตินที่ตะโกนตามหลังผมมา ผมเดินออกมาสวนกับพวกไอ้นิวเยียร์พอดีและแน่นอนครับ ผมโดนไอ้น้ำนิ่งลากคอกลับมาที่สนามเหมือนเดิม -_-”
“อ้าว ไหนว่ามีธุระไงวะน้องโอเล่”
ไอ้มาร์ตินมองหน้าผมแบบขำๆ ครับผมไม่สามารถขัดลูกตื้อของไอ้นิ่งได้เพราะมันจะตื้อจนกว่ามันจะได้ในสิ่งที่มันต้องการ ไม่ใช่แค่ผมเหรอกครับทุกคนในกลุ่มเลยล่ะที่ไม่ขัดลูกตื้อลูกอ้อนของมันเพราะเคยขัดแล้วแต่ไม่มีใครทำสำเร็จสักคน พวกผมเอือมระอามันกันหมดเลยเลือกที่จะไม่ขัดมันดีที่สุด เห้อ -_-”
“พี่เลโอจะไปไหนเหรอคะ เห็นพี่นิวบอกว่าวันนี้พวกพี่นัดกันเล่นบาสที่นี่กันนี่นา”
นิต้า น้องสาวของนิวยียยร์ถามผมขึ้นมา นิต้าเป็นน้องสาวคนละแม่กับนิวเยียร์แต่ทั้งคู่ก็เป็นพี่น้องที่รักกันดี เพราะหลังจากแม่นิวเยียร์เสียไปตอน 2 ขวบกว่า พ่อของนิวเยียร์ก็แต่งงานใหม่กับเพื่อนสมัยเด็กของตัวเองตามที่ครอบครัวของทั้งคู่เคยหมั้นหมายไว้ตั้งแต่รุ่นคุณปู่ พอนิวเยียร์อายุได้ 4 ขวบ นิต้าก็เกิด ยังดีที่ครอบครัวของนิวเยียร์รักใคร่กันดีจนภายนอกคนดูไม่ออกเลยว่าทั้งคู่มีแม่คนละคนกัน นิต้าไปไหนมาไหนกับพวกเราเพราะนิวเยียร์มันลากน้องมันไปด้วย มันให้เหตุผลว่ามันเป็นห่วงนิต้าเพราะนิต้าเองก็เป็นดาวเด่นของโรงเรียนทางฝั่งม.ต้น เช่นกัน นิวเยียร์มันเลยกลัวน้องมันอึดอัดแบบที่มันเคยเป็นมันเลยลากน้องมันไปไหนมาไหนด้วยตลอดเวลาว่างที่อยู่ที่โรงเรียน แล้วมันไม่คิดว่าน้องมันจะรำคาญมันบ้างหรือไงก็ไม่รู้ -_-
“พี่มีธุระนิดหน่อยน่ะ แต่คงไม่ได้ไปแล้วล่ะ” ผมหันไปตอบนิต้า พร้อมกับส่งสายตาอำมหิตให้น้ำนิ่งที่ทำหน้าไม่รู้เรื่องอยู่ตรงนั้น -_-+
“โหยอะไรวะ น้องโอเล่ต้องมาเล่นบาสกับพี่นิ่งสิค้าบบบบ” ^O^ น้ำนิ่งทำหน้าไม่รู้สึกรู้สาอะไรแถมยังมาทำเสียงกวนประสาทผมอีก -_-’
“โอเล่ พ่.....อุ๊บ” ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบไอ้สิงโตก็เอามือมาอุดปากผมไว้ซะก่อน มันไม่ได้อุดปากธรรมดานะครับมันเอามือมากำปากผมไว้แน่นเลย
“ต่อหน้านิต้า ห้ามพูดคำหยาบ” ไอ้สิงโตพูดขึ้นมาเสียงเรียบ แต่ช่วยปล่อยมือได้แล้วเว้ยกูเจ็บ!
“อ่อยอือออกอากอากอูนะไอ้เอี้ย” ผมพยายามพูดออกมาเป็นคำแต่มันออกมาได้แค่เสียงอู้ๆ ในลำคอ
“นิต้ายังเด็ก...” -_-+ ไอ้สิงโตพูดแล้วจ้องมาที่ผมหน้านิ่งๆ ก่อนจะปล่อยมือออกจากปากผม
“นิอายุ 14 แล้วนะคะ อยู่ม.3 แล้ว” นิต้าพูดขึ้นแล้วมองค้อนใส่ไอ้สิงโต
“นั่นแหละเด็ก...” ไอ้สิงโตพูดเสียงเรียบก่อนจะปล่อยมือออกจากปากผม
“=^=*” นิต้าทำหน้างอใส่ไอ้สิงโตทันที แต่มันก็ไม่ได้สนใจกับการกระทำของนิต้าสักนิด
“มึงนี่มันน่ารำคาญเป็นบ้าเลยว่ะ” -_-* หลังจากที่มันปล่อยปากผมให้เป็นอิสระผมก็ว่ามันทันที แล้วเดินไปนั่งที่สแตนด์เชียร์
“โอ๊ยคู่ผัวเมียหน้าตายนี่ทะเลาะกันอีกแล้วค้าบผม ต่อยเลยๆ น้ำนิ่งคนนี้จะเป็นกรรมการให้เองค้าบบบ ^O^” เมื่อสถานการณ์เริ่มเงียบขึ้นไอ้น้ำนิ่งเลยรีบพูดขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี ไอ้นี่มึงช่วยนิ่งแบบชื่อมึงหน่อยได้มั้ยวะ ปัญญาอ่อนขึ้นทุกวัน
“-_-+” ผม
“-_-++” ไอ้สิงโต
“ชะอุ๊ย! ทำไมมองหน้าเพื่อนอย่างงั้นล่ะคร้าบ แบบนี้กูก็เขินแย่เลยสิ ^O^” ไอ้นิ่งไม่ได้สนใจสายตาของพวกผมที่มองมันเลยสักนิด มันยังคงทำหน้าไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับเหตุการณ์ตรงหน้าเลย
“หยุดเล่นได้แล้วนิ่ง เดี๋ยวก็ไม่มีใครคบเหรอก” น้ำเชี่ยวแฝดพี่ของน้ำนิ่งพูดขึ้นหลังจากที่ยืนมองน้องชายตัวเองมาพักหนึ่ง
“โหยไรวะเชี่ยว เซ็งเลย” น้ำนิ่งทำหน้าหงอยๆ ก่อนจะเดินมั่งนั่งข้างๆ ผมและยกแขนขึ้นมากอดคอผม พวกนี้มันเป็นอะไรกับคอผมนักหนาวะเนี่ย
“มาๆ พี่สิงห์มานั่งข้างๆ น้องนิ่งนี่มา” น้ำนิ่งหันไปกวักมือเรียกไอ้สิงโตที่ยืนจ้องมันอยู่แล้วตบที่นั่งเบาๆ เพื่อให้ไอ้สิงโตมานั่งข้างๆ มันโดยที่ไอ้สิงโตก็เดินมานั่งตามที่มันบอกอย่างว่าง่าย
“เออไอ้นิว เรื่องในเพจนั่นว่าไงวะมึงชอบผู้หญิงคนนั้นเหรอ?”