ไร้เดียงสาก็มารยาเป็น

1323 Words
"ผมต้องโทรแจ้งคุณพ่อของหยี ว่าหยีแอบหนีมาที่นี่" โจนาสพูดพลันล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง "ยะ! อย่านะคะ คือ...คุณพ่อต้องมารับหยีกลับไปแน่ๆ คุณหมออย่าเพิ่งบอกคุณพ่อนะคะ" ร่างบางเดินตรงเข้ามาหยุดตรงหน้า และแย่งเครื่องมือสื่อสารออกจากมือของเขา ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับมีสายเรียกเข้าพอดี แก้วเจ้าจอมไม่ได้ตั้งใจจะมองดูภาพผู้หญิงที่ปรากฏบนหน้าจอสมาร์ตโฟน ทว่าตอนนี้เธอกลับจำหน้าหล่อนได้ขึ้นใจแล้ว 'นอร่า...หรือว่าจะเป็นแฟนคุณหมอ' เธอคิดในใจ พร้อมกับยื่นมือถือคืนให้โจนาส "ฮัลโหล" เขารับสายและพูดเป็นภาษาอังกฤษ "โจนาส ทำอะไรอยู่คะ" เสียงของหญิงสาวปลายสายทำให้ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ "ตอนนี้ผมยุ่งอยู่ คุณมีธุระอะไรหรือเปล่าครับ?" "นอร่าจะโทรมาขออนุญาตคุณเข้าไปเอาของที่บ้านที่ประกาศขายค่ะ พอดีลืมของไว้ที่นั่น" "ตามสบายเลยครับ แต่ผมไม่รู้ว่ามันจะเหลืออยู่หรือเปล่า เพราะผมคิดว่าผมเก็บทุกอย่างที่นั่นทิ้งจนไม่น่าจะเหลืออะไรแล้วนะ" โจนาสหมายถึงเยื่อใยที่เขาไม่มีเหลือให้เธอเช่นเดียวกัน แก้วเจ้าจอมยืนฟังอยู่ด้านหลังก็พอจะเดาออกว่านายแพทย์ไม่ค่อยอยากคุยกับคนปลายสายมากนัก หญิงสาวจึงแกล้งยื่นปลายเท้าไปเตะขาโต๊ะเข้าอย่างแรง "โอ๊ย! คุณหมอ เจ็บจังเลยค่ะ" โจนาสได้ยินเสียงของแก้วเจ้าจอมจึงรีบวิ่งเข้าไปหา ร่างบางกำลังทรุดตัวนั่งลงกับพื้น สีหน้าเหยเกราวกับเจ็บปวดเป็นอย่างมาก "หยี หยีเป็นอะไรหรือเปล่า?" เขารีบวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะเพราะความเป็นห่วงเด็กสาว ในขณะที่แฟนเก่ายังคงอยู่ในสาย "เสียงใครคะ โจนาส นั่นเสียงผู้หญิงที่ไหนคะ" นอร่าถือสายรออยู่ครู่ใหญ่ทว่าไม่มีเสียงตอบกลับ จากนั้นหล่อนจึงตัดสายไปด้วยความหงุดหงิด "โอ๊ย! เบาๆ" แก้วเจ้าจอมจ้องมองโจนาสด้วยแววตาเป็นประกาย ไม่คิดว่าเขาจะเป็นห่วงตนถึงขนาดนี้ ในขณะที่สายตาแหลมคมกำลังสำรวจข้อเท้าเรียวเล็กว่ามีรอยช้ำตรงไหนหรือเปล่า "ข้อเท้าไม่ได้พลิก แค่เดินซุ่มซ่ามชนขาโต๊ะ" ร่างสูงกำยำหยัดกายยืนขึ้น และประคองร่างเล็กกะทัดรัดให้ลุกยืนเช่นเดียวกัน "ขอบคุณค่ะ แต่ว่าอย่าเพิ่งบอกคุณพ่อนะคะว่าหยีอยู่ที่นี่" แก้วเจ้าจอมส่งสายตาอ้อนวอน โจนาสจึงได้แต่พยักหน้ารับแม้จะไม่ต้องทำเช่นที่เธอขอก็ได้ "นั่งรอตรงนี้แหละ ถ้าเจ็บหรือปวดตรงไหนให้บอกนะ" เขาประคองร่างเล็กไปนั่งลงบนโซฟาในห้องรับแขก จากนั้นร่างสูงจึงเดินเข้าไปในห้องครัว หนึ่งชั่วโมงผ่านไป "หอมจัง..." เเก้วเจ้าจอมสูดกลิ่นอาหารที่ลอยมาเตะจมูกด้วยสีหน้าเคลิบเคลิ้ม เธอมองออกไปนอกห้องรับแขกก็เห็นว่าโจนาสกำลังจัดโต๊ะอาหารอยู่ จึงตัดสินใจลุกขึ้นเดินออกไปหาเจ้าของบ้าน "ชอบทานสเต๊กหรือเปล่า?" ชายหนุ่มถามพลางส่งยิ้มมาให้ ในขณะร่างเล็กเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า "ชอบสิคะ แต่ว่าเวลาทานต้องไปทานที่ร้านบ่อยๆ ไม่ได้ทำทานเองที่บ้านแบบนี้หรอกค่ะ" "ผมไม่ค่อยชอบไปทานอาหารที่ร้าน ส่วนมากจะชอบทำเองมากกว่า" เขาพูดพลางขยับเก้าอี้ออกให้เธอ แก้วเจ้าจอมจึงทิ้งตัวนั่งลงพร้อมกับจ้องมองอาหารตรงหน้าด้วยความรู้สึกหิว โจนาสเดินอ้อมไปนั่งลงเก้าอี้ของตนเอง "ทานสิ เดี๋ยวจะเย็นหมด" "มื้อนี้เป็นอาหารมื้อเที่ยงหรือมื้อเย็นคะ นี่เพิ่งจะบ่ายสี่โมงเอง" เธอถามเขาและเริ่มลงมือทานสเต๊กหน้าตาน่าเอร็ดอร่อย "ไม่รู้สิ แต่มื้อนี้เป็นมื้อแรกของวันเลยนะ แต่จริงๆ แล้วการทานอาหารให้ตรงเวลาเป็นเรื่องสำคัญมากนะครับ" แม้จะบอกคนอื่นในฐานะที่เป็นหมอเช่นนั้น แต่ตนกลับทำไม่ค่อยได้ "ค่า คุณหมอ แล้วทำไมวันนี้ยังไม่ได้ทานอะไรเลยล่ะคะ?" "ขี้สงสัยจริงเชียว" ถึงจะว่าอย่างนั้นแต่ก็ไม่ได้รู้สึกรำคาญที่เธอถามหลายคำถาม "ขอโทษค่ะ" หญิงสาวทำหน้ามุ่ย "เเต่ผมชอบเด็กขี้สงสัยนะ เขาว่าเป็นเด็กฉลาด" คำพูดของโจนาสทำให้ใบหน้าจิ้มลิ้มผุดยิ้มขึ้นมาอีกครั้ง "จริงๆ ผมมาจากอังกฤษ เพิ่งถึงกรุงเทพฯ เมื่อเช้าแล้วก็นั่งเครื่องบินมาที่เชียงใหม่เลย" "อังกฤษ? แล้วทำไมถึงมีของสดทำอาหารคะ?" คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน "ช่างสงสัยจริงๆ ด้วย ฮ่าๆๆ" นายแพทย์หนุ่มหัวเราะชอบใจ "หยีแค่แปลกใจนี่คะ" "บ้านหลังนี้ลูกพี่ลูกน้องของผมเป็นคนอยู่ เขาเตรียมทุกอย่างไว้ให้เพราะรู้ว่าผมจะกลับบ้าน จริงๆ แล้วบ้านหลังนี้เป็นบ้านคุณแม่ของผม แต่ว่าท่านเสียไปเมื่อสิบหกปีที่แล้ว และตอนนี้คุณพ่อของผมก็เพิ่งเสียไป ผมก็เลยอยากย้ายกลับมาอยู่ที่นี่" โจนาสเล่าให้ฟัง ทำให้แก้วเจ้าจอมถึงกับหน้าเสียเพราะรู้สึกสงสารเขาจับใจ "เสียใจเรื่องคุณแม่กับคุณพ่อคุณหมอด้วยนะคะ" "ครับ" "แล้ว...คุณหมอไปคุยกับคุณพ่อเรื่องที่จะมารักษาหยีตอนไหนคะ?" เด็กสาวช่างสงสัยยังคงตั้งคำถามต่อ "เดือนที่แล้วผมกลับมาเยี่ยมที่นี่ แล้วก็มีโอกาสได้ฟังเรื่องของหยีจากคุณพ่อของหยีครับ ตอนนั้นไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้ผมตัดสินใจรับงานนี้ จากนั้นผมก็กลับไปเคลียร์งานอีกหนึ่งเดือนก่อนที่จะย้ายกลับมาอยู่ที่นี่" โจนาสยิ้มออกมา คิดไม่ถึงว่างานที่เขารับมาจะเป็นเช่นนี้ "คุณคงผิดหวังสินะคะที่ไม่ได้รักษาคนบ้า แต่ว่าหยีแกล้งบ้าให้คุณหมอต่อได้นะคะ" คำพูดของแก้วเจ้าจอมทำให้โจนาสหัวเราะร่าออกมา เขาไม่ถือสาคำพูดของเธอ สองหนุ่มสาวนั่งทานอาหารและพูดคุยกันจนเวลาล่วงเลยมาถึงห้าโมงเย็น "ให้ไม่เกินหกโมงเย็นนะครับ เดี๋ยวจะไปส่งที่บ้าน" โจนาสถือแก้วน้ำส้มเดินเข้ามาหาแก้วเจ้าจอมในห้องรับแขกในขณะที่หญิงสาวกำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ "แต่ยังไม่อยากกลับเลย..." เธอทำหน้ามุ่ย "ไม่ได้ครับ ถ้าเกิดว่าคุณพ่อคุณแม่ของหยีกำลังตามหาอยู่ ป่านนี้ท่านคงเป็นห่วงแย่แล้ว เดี๋ยวผมจะช่วยพูดให้หยีไม่ต้องโดนดุนะครับ" เขาพูดในขณะที่ทิ้งตัวนั่งลงข้างกายคนตัวเล็ก "ก็ได้ค่ะ แต่ว่าขอถามอีกคำถามได้ไหมคะ?" "ไหนๆ ก็ถามมาทั้งวันแล้ว ถามอีกคำถามคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง" โจนาสวางมือของตนลงบนศีรษะทุย ก่อนที่จะขยี้ผมหญิงสาวเบาๆ ด้วยความเอ็นดู "คุณหมอ...มีแฟนหรือยังคะ?" คำถามของเด็กสาวทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าหล่อคมคายค่อยๆ จางหายไป ชายหนุ่มพอจะมองสายตาของแก้วเจ้าจอมออกว่าเธอกำลังหมายถึงอะไร ทว่าตอนนี้เขากลับไม่ต้องการให้เด็กสาวคิดอะไรกับตนมากเกินกว่าคุณหมอกับคนไข้ โจนาสครุ่นคิดอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนที่จะตัดสินใจอะไรบางอย่างในใจ และจ้องมองใบหน้าจิ้มลิ้มด้วยแววตาสุดยากจะคาดเดา อ่านจบแล้วขอคอมเมนต์มาเป็นกำลังใจให้ปันหยีด้วยนะคะ ขอบพระคุณค่ะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD