"มะ...ไม่เอาแล้ว" แก้วเจ้าจอมส่ายหน้าไปมาบนแผงอกแกร่งของโจนาส
"หึหึ...เด็กน้อย" เขาหัวเราะในลำคอก่อนที่จะคลายมือออกจากเอวบาง จากนั้นจึงขยับมือขึ้นมาวางบนศีรษะทุยของคนตัวเล็ก
"คราวหน้าคราวหลังถ้าอยากลองจูบใครก็ต้องระวังผลของมันด้วย"
"พี่หมอ หยีไม่ได้อยากลองจูบใครไปทุกคนเสียหน่อย พี่หมอรู้มั้ยว่าหยีเสียจูบแรกให้พี่หมอไปแล้วนะ" ใบหน้าจิ้มลิ้มบูดบึ้ง แม้ความจริงแล้วหญิงสาวควรจะเอียงอายทว่าเธอกลับพูดออกมาอย่างไม่อาย
โจนาสไม่ได้ตอบอะไร เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าแก้วเจ้าจอมคือเด็กสาวบริสุทธิ์ วิธีการที่จะรักษาความสัมพันธ์ของเขาและเธอไว้ได้มีเพียงสองวิธี หนึ่งคือการหักห้ามใจ หรือสองคือการหนีไปให้ไกล แต่หากเลือกข้อหลังนั้นก็เท่ากับเขาต้องหนีบ้านเกิดของตนเองไปอีกครั้ง
โจนาสได้แต่ฝืนยิ้มน้อยๆ ก่อนจะดึงมือตนเองออกจากศีรษะทุย เขาตัดใจเดินออกไปบริเวณโต๊ะอาหารโดยปล่อยให้แก้วเจ้าจอมยืนตัวแข็งทื่ออยู่เช่นนั้น
"พี่หมอคะ อย่าเดินหนีหยีแบบนี้นะคะ พี่หมอต้องรับผิดชอบที่พี่หมอจูบหยี" เธอวิ่งตามชายหนุ่มออกไป
"หยีจูบพี่หมอก่อนนี่ครับ"
"แต่พี่หมอเป็นคนบดจูบ แล้วก็...สอดลิ้นเข้ามาในปากหยีด้วย" แม้จะรู้สึกหน้าแดงจนร้อนผ่าว ทว่าเธอก็พูดในสิ่งที่ตนเองคิดออกไป
"โอเคครับ พี่หมอจะรับผิดชอบโดยการป้อนข้าวหยีดีไหม มานั่งสิ" เขาเดินไปถอยเก้าอี้ออกและผายมือเชื้อเชิญหญิงสาวให้ไปนั่ง
บนโต๊ะอาหารถูกจัดสำรับไว้สองที่เรียบร้อยแล้ว กลิ่นหอมของอาหารหน้าตาสวยงามโชยมาเตะจมูกจนเธอปฏิเสธไม่ลง
"ก็ได้ค่ะ หยีหิวหรอกนะถึงยอม"
"ครับ ทานเยอะๆ นะ" โจนาสบอกหญิงสาวในขณะที่สายตาของเขาเหลือบมองออกไปนอกหน้าต่าง ท้องฟ้ากำลังครึ้มและมืดลงถนัดตา ลมพายุพัดโหมเข้ามาจนผ้าม่านปลิวไปมาเพราะกระทบกับแรงลม แก้วเจ้าจอมรู้สึกหนาวขึ้นมาจับใจ
"อยู่ๆ ก็มีลมซะงั้น ท่าทางฝนจะตกหนักด้วย"
"สงสัยเป็นพายุมั้งคะ เพราะว่าช่วงนี้พายุเข้าบ่อยๆ พี่หมอต้องปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิดทุกวันนะคะ เพราะที่นี่เวลาพายุเข้าลมจะแรงมาก"
"ครับ งั้นเดี๋ยวพี่ไปปิดหน้าต่างก่อน หยีทานรอเลยครับ" ร่างสูงเดินตรงไปปิดประตูหน้าต่างตามคำแนะนำของหญิงสาว จากนั้นจึงเดินกลับลงมารับประทานอาหารกับเธอ
"ถ้าวันนี้ฝนไม่หยุดล่ะคะ หยีจะกลับบ้านยังไง?" แก้วเจ้าจอมเอ่ยถามขึ้นหลังทานอาหารเสร็จ เพราะสายฝนกำลังซัดกระหน่ำลงมาหนักหน่วงและไม่มีวี่แววว่าจะบางเบาลงเลย
"ก็ไม่ได้กลับไงครับ เพราะมันทั้งลมทั้งฝนแบบนี้พี่ไม่เสี่ยงขับรถไปส่งหยีหรอก"
"ไม่กลับก็ได้เหรอคะ?"
"แล้วไหนบอกว่าอยากนอนที่นี่ล่ะ?"
"นอนที่นี่...พี่หมออนุญาตเหรอคะ แล้วพี่หมอจะบอกคุณพ่อคุณแม่ว่ายังไงคะ"
"ก็บอกว่าติดฝน เหตุผลตามความเป็นจริงครับ ในกรณีที่ฝนตกไม่หยุดจริงๆ นะครับ" โจนาสย้ำประโยคท้ายเพื่อทำความเข้าใจกับหญิงสาวเพราะไม่อยากให้เธอคิดอะไรไปไกล
"จริงๆ แล้ววันนี้หยีมีนัดทานข้าวเย็นกับธันวานะคะ" คำพูดของแก้วเจ้าจอมทำให้โจนาสลุกพรวดขึ้น เขาแสดงสีหน้าเรียบเฉยและเก็บจานเดินตรงเข้าไปในห้องครัวโดยที่ไม่พูดอะไร หญิงสาวได้แต่มองตามแผ่นหลังของชายหนุ่มด้วยความงุนงง
"เด็กบ้า ไม่สิ ไม่ได้บ้า ทำไมทำให้เราหงุดหงิดได้ขนาดนี้วะ" โจนาสพึมพำกับตนเองในขณะที่มือหนากำลังล้างจานอยู่
ด้านแก้วเจ้าจอมได้แต่ยืนชะเง้อมองชายหนุ่มอยู่ด้านนอกห้องครัวเพราะไม่กล้าเดินเข้าไปหาเขา หญิงสาวเดินวนไปวนมาหลายรอบจึงตัดสินใจเดินกลับไปนั่งรอโจนาสอยู่ในห้องนั่งเล่นเช่นเดิม
หลายนาทีต่อมาจิตแพทย์หนุ่มเดินเข้ามาหาเธอในห้องนั่งเล่น พร้อมกับขนมหวานที่ถูกจัดไว้อย่างสวยงามและยังมีน้ำส้มอีกสองแก้ว
"ขอบคุณนะคะ"
"ครับ..." คำตอบสั้นๆ ของโจนาสทำให้แก้วเจ้าจอมอดที่จะจ้องมองใบหน้าหล่อคมคายของเขาไม่ได้
"หยีขอนอนตักพี่หมอได้หรือเปล่าคะ?"
"ครับ?" คิ้วเข้มขมวดเล็กน้อย ก่อนที่จะคลี่ยิ้มบางๆ ออกมาและพยักหน้าตอบรับ
แก้วเจ้าจอมขยับเข้าไปนั่งใกล้ชายหนุ่มก่อนที่จะทิ้งศีรษะทุยของตนเองลงบนตักแกร่ง ช่วงจังหวะนี้ทำให้โจนาสรับรู้ได้ถึงการเต้นหัวใจที่ผิดปกติของตนเอง มันเต้นแรงและเร็วมากชนิดที่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน ว่าตนจะมีความรู้สึกวาบหวามเช่นนี้กับใครมากถึงเพียงนี้
มือหนาขยับวางบนหน้าผากมนและลูบไล้แผ่วเบาเป็นการกล่อมให้เธอหลับ ทว่าแก้วเจ้าจอมกลับรู้สึกหลงใหลในการกระทำเช่นนี้ของชายหนุ่มเกินกว่าจะหลับลง อาจเพราะไม่เคยได้รับการกระทำเช่นนี้จากใครมาก่อนเลยแม้กระทั่งผู้เป็นบิดาของตนเอง
"พี่หมอจะจูบหยีอีกก็ได้นะคะ หยีไม่ว่า..."
"หึหึ..." คำพูดไร้เดียงสาของแก้วเจ้าจอมทำให้โจนาสแค่นหัวเราะในลำคอ เขาจ้องมองใบหน้าจิ้มลิ้มด้วยอารมณ์เสน่หาทว่าพยายามปกปิดความรู้สึกนั้นไว้
"ถ้าให้พี่หมอทำ...พี่หมออยากทำอย่างอื่นมากกว่าครับ"
"ทำอะไรคะ?" คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย เขาไม่รู้ว่าเธอกำลังแกล้งถามหรือว่าเธอไร้เดียงสาจริงๆ กันแน่
"ทำแบบที่ผู้หญิงกับผู้ชายเขาทำกันน่ะครับ ทำอย่างอื่นที่มากกว่าจูบ..." ชายหนุ่มพยายามที่จะสื่อสารให้เธอเข้าใจ แม้ตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่มีทางทำให้เรื่องราวมันเลยเถิดไปมากกว่านี้ก็ตาม
"หยีไม่เข้าใจว่าอะไรที่ผู้ชายกับผู้หญิงเขาทำกัน พี่หมอจะใจดีลองทำให้หยีเข้าใจได้ไหมคะ?" คำพูดเชิญชวนของเด็กสาวไร้เดียงสา ปลุกอารมณ์ดิบในกายกำยำของเขาที่ห่างหายคำว่าเซ็กซ์มานานหลายเดือน ความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์และร่างกายแสดงออกชัดเจน มือหนาพยายามดันศีรษะทุยให้ขยับลงมาบริเวณต้นขาเพื่อไม่ให้แก้วเจ้าจอมรับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงบางอย่างบริเวณใจกลางความเป็นชาย
"มันไม่ใช่เรื่องที่จะลองได้ พี่ไม่อยากให้หยีต้องเสียใจ..."
"หยีรู้ค่ะ ถ้าพี่หมอจะกล่าวหาว่าหยีนิสัยไม่ดีก็ไม่เป็นไร แต่หยีรู้สึกว่าพี่หมอเป็นคนดีมาก ดีเกินกว่าที่จะยังโสดอยู่แบบนี้"
"หยี...พี่ขอร้องล่ะ พี่ไม่อยากทำแบบนั้น พี่ไม่อยากให้หยีต้องเสียใจ และพี่ก็จะไม่มีทางมองว่าหยีนิสัยไม่ดี" คนตัวเล็กนิ่งไปครู่ใหญ่ โจนาสปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมาราวกับคนไร้หัวใจ
"หยีเข้าใจค่ะ" ร่างบางหยัดกายลุกขึ้นนั่ง เธอเบือนหน้าหนีเมื่อรับรู้ได้ถึงความเย็นชาบนใบหน้าคมคาย
"พี่เห็นหยีเป็นน้องสาว และพี่อยากมองหยีเติบโตและประสบความสำเร็จ อยากเห็นหยีเป็นคนมีคุณภาพ..."
"ขอบคุณค่ะ ต่อไปหยีจะไม่รบกวนพี่หมออีก" ร่างบางหยัดกายขึ้นยืนและเดินออกจากห้องนั่งเล่นไป โจนาสมองตามแผ่นหลังด้วยแววตาสับสนก่อนจะเหลือบไปเห็นหน้าจอโทรศัพท์มือถือของแก้วเจ้าจอมซึ่งมีข้อความปรากฏอยู่
'คิดถึงหยีจังเลยครับ วันนี้ฝนตกหนักคงไม่ได้เข้าไปหา พรุ่งนี้จะรับไปหาแต่เช้านะ แล้วเดี๋ยวไปหาอะไรอร่อยๆ กินกันอีก'
ข้อความที่ถูกส่งมาจากธันวาทำให้โจนาสรับรู้ได้อย่างชัดเจนเด็กหนุ่มคนนี้มีใจให้แก้วเจ้าจอมมากเกินกว่าคำว่าเพื่อน ร่างสูงหยัดกายลุกขึ้นแล้วเดินตามหญิงสาวออกไป...
ตามไปทำให้จบๆ ค่ะพี่หมอ คนไข้จะได้พอใจและหายป่วย 55555 อ่านจบแล้วขอคอมเมนต์เป็นกำลังใจให้ปันหยีด้วยนะคะ ❤️ขอบพระคุณค่า❤️