"น้องบอกว่าหลังเรียนจบก็มาทำงานที่นี่เป็นที่แรกค่ะ ก็รู้จักกันมา 15 ปี เห็นจะได้น่ะค่ะ" กรองแก้วตอบตามความสัตย์จริง
"แล้วก่อนที่จะมาทำงานที่นี่เธอตกงานอยู่กี่ปีล่ะ แล้วเธอเรียนตามเกณฑ์หรือเปล่า หรือว่าเรียนจบช้ากกว่าเกณฑ์ หมายถึง อรัญญาน่ะ พอจะทราบมั๊ย?"
"เท่าที่น้องบอกมา เรียนจบปุ๊บก็ได้งานปั๊บเลยนะคะ ตกงานไม่กี่เดือนหรอกค่ะ แล้วน้องก็บอกว่าที่นี่เป็นที่แรกที่น้องเริ่มทำงานอย่างจริงจังส่วนเรื่องเรียนจบตามเกณฑ์หรือไม่นั้นน้องไม่เคยบอกค่ะ ดิฉันเองก็ไม่กล้าถามเหมือนกันค่ะ"
"ทำงานอย่างจริงจังงั้นเหรอ" ชายวัยกลางคนคิดในใจ
"คุณกรองแก้ว เอาเป็นว่าผมจะจ้างคุณติดตามดูพฤติกรรมของอรัญญาและคอยส่งข้อมูลให้ผมให้มากที่สุด ต้องเค้นให้ได้ว่าเคยฝึกงานที่ไหน แล้วเคยแต่งงานหรือเปล่า พ่อของลูกอย่างงี้เป็นต้น"
"เอ่อ มันจะดีหรือคะท่าน ดิฉันขอทราบเหตุผลของท่านค่ะ ถ้ามันจะเป็นเรื่องที่ทำให้น้องเสียหายหรือรุกรานสิทธิของน้องจนเกินไปดิฉันก็ไม่ทำค่ะ ถ้าท่านจะไล่ดิฉันออกด้วยเหตุผลนี้ดิฉันยอมกลับไปเป็นแม่ค้าออนไลน์จะดีกว่าค่ะ" กรองแก้วออกตัวไว้ก่อน
..แปะ แปะ แปะ แปะ (เสียงปรบมือจากคู่สนทสนา) “ผมชื่นชมน้ำใจคุณ และดีใจแทนหลานสะใภ้ของผมจริง ๆ ที่มีเพื่อนร่วมงานดีและซื่อสัตย์กับเขาขนาดนี้”
"อ่ะ ห๊ะ!!! ท่านว่าอะไรนะคะ หละหลานสะใภ้ อะ..อะ.. อรัญญา เป็นหลานสะใภ้ของท่านหรือคะ ละ แล้วทำไม"
"ทำไมเจ้าตัวไม่ยอมบอกอย่างนั้นน่ะเหรอ" ชายวัยกลางคนพูดแทรกอย่างเดาใจคู่สนทนา
"ใช่ค่ะ"
"ก็เพราะเขางอนสามีแล้วก็พ่อของสามีของเค้าอยู่นะซี"
"หา...งอนมา 15 ปีนี่น่ะนะ" กรองแก้วเผลออุทานออกมา
"ก็ถ้าไม่รักจะงอนทำไมล่ะ ถ้าไม่รักก็คงมีใหม่ไปแล้วไม่ใช่รึไง หรือคุณกรองแก้วจะเถียง"
"ใช่ค่ะ กรองเองก็เคยแนะนำน้องชายของสามีให้น้องได้รู้จัก แต่น้องก็ไม่สนใจบอกว่าไม่ขอรักใครอีกแล้ว เข็ด กลัวครอบครัวใหม่ไม่ยอมรับอะไรประมาณนี้แหละค่ะ ซึ่งจริง ๆ แล้ว ทางน้องชายสามีของกรองก็ยอมรับได้ทุกอย่าง เพราะทางนั้นก็เลิกกับภรรยาเหมือนกันต่างที่ไม่มีลูกด้วยกันเท่านั้น" กรองแก้วอธิบายต่อ
"งั้นเป็นอันตกลง คุณจะเป็นแนวร่วมในการทวงคืนครอบครัวที่อบอุ่นของน้องสาวและหลานของคุณใช่มั๊ยล่ะ"
"เอ่อ หนูเชื่อท่านได้ใช่มั๊ยคะ ท่านจะไม่หลอกหนูเพื่อหวังผลประโยชน์อย่างอื่นจากอรัญญาใช่มั๊ยคะ"
"คุณมองตาผมซิ คุณคิดว่าคนอย่างผมจะได้อะไรจากพนักงานตัวเล็ก ๆ อย่างพวกคุณกับเรื่องพวกนี้บ้าง" กรองแก้วเมื่อได้ยินเช่นนั้นจึงเงยหน้าขึ้นสบตากับคู่สนทนาอยู่พักหนึ่งและเธอไม่พบอะไรในนั้น
"หนูจะตกลงค่ะ ถ้ามันจะทำให้ชีวิตครอบครัวของน้องและหลานสมบูรณ์ขึ้นหนูจะช่วยเป็นแนวร่วมให้ท่านอีกแรง แต่ไม่ได้หวังในสินจ้างรางวัลนะคะ หนูจะทำเพื่ออรัญญากับลูกค่ะ น้องเป็นคนดี ซื่อสัตย์ มีน้ำใจ ควรได้รับสิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิตสักที แต่ก่อนที่หนูจะตกลงอยากขอถามอะไรสักอย่างว่าสามีของน้องไม่พยายามตามหาน้องบ้างเลยหรือคะ ตั้ง 15 ปี เลยนะคะ ทำไม่เพิ่งจะมาตามหาเอาตอนนี้" กรองแก้วถามสิ่งที่สงสัยออกกมาเพื่อการตัดสินใจ
"เพราะเค้าป่วยเป็นหลอดเลือดสมองแตก นอนติดเตียงตั้งแต่ภรรยาหอบลูกในท้องหนีไปไง และที่สำคัญตัวเขาเองไม่ทราบว่าตัวเองกำลังจะเป็นพ่อคน ได้แต่กินเหล้าจนเมามายจนหมดสติ แล้วก็ป่วยอย่างที่บอกไปแล้วเบื้องต้น แล้วทางปู่ของหลานก็รู้สึกผิดกับเรื่องนี้ พร้อมจะขอโทษสำหรับเรื่องราวทุกอย่าง และอยากจะเลี้ยงดูส่งเสียหลาน และรับขวัญลูกสะใภ้ ทุกวันนี้เค้าคือคนแก่ที่น่าสงสารนะ คุณกรองแก้วอยากให้โอกาสคนแก่ที่เป็นไม้ใกล้ฝั่งได้ชดใช้ความผิดที่เค้าเคยก่อไว้บ้างมั๊ยล่ะ?" กรองแก้วนิ่งเงียบเหมือนกำลังชั่งใจ
"ตกลงค่ะ เพื่ออนาคตที่ดีของน้องและหลานดิฉันจะยอมลดทิฐิค่ะ แต่ดิฉันไม่รับรองนะคะว่าคนที่เจ็บมาเกือบครึ่งชีวิตเค้าจะยอมง่าย ๆ หรือเปล่า"
"อันนั้นให้เป็นหน้าที่ของทางโน้นเถอะ เราเป็นแนวร่วมก็ถือว่าทำบุญ"
"ค่ะดิฉันก็จะคิดแบบนั้นเหมือนกัน" กรองแก้วตอบอย่างปลง ๆ
"ขอบคุณมาก กลับไปทำงานของคุณต่อเถอะ ขอบคุณมากที่ทำให้ผมรู้ว่าเงินซื้อไม่ได้ทุกอย่าง"
"ค่ะ ดิฉันก็ขอขอบพระคุณท่านเช่นกันที่กรุณาตอบคำถามของดิฉันทุกเรื่อง งั้นดิฉันขออนุญาตไปทำงานเลยนะคะ สวัสดีค่ะ" กรองแก้วยกมือกระพุ่มไหว้ผู้บริหารที่ใคร ๆ มักจะเรียกกันว่า (นายใหญ่) ผู้น่าเกรงขามแล้วหันหลังเดินออกมาอย่างสำรวม
..หึหึ ตอบได้ใจดีจริง บริษัทเรามีเพ็ชรที่เจียระไนแล้วนะเนี่ย "กรองแก้ว" เขาได้แต่จำชื่อนี้ไว้แล้วท่องมันจนขึ้นใจ
อีกด้าน--อรัญญาหลังจากเพื่อนร่วมงานรุ่นพี่ที่รักเหมือนพี่สาวเปิดประตูออกมาจึงรีบปรี่เข้าไปถามด้วยความห่วงใย
"พี่กรองเป็นยังไงบ้างคะ ถูกตำหนิหรือเปล่า หน้าเครียดเชียว"
"ก็นิดหน่อยน่ะ ไม่มีอะไรหรอก แค่กำชับให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตาเรื่องรูโหว่ของการทุจริตอะไรประมาณนี้น่ะ" กรองแก้วโกหกคำโต
"เหรอ แสดงว่าเกิดการทุจริตขึ้นในแผนกเราเหรอคะพี่ ตายล๊ะ ต่อไปนี้หนูต้องดูเอกสารให้ละเอียดรอบคอบกว่าเดิมแล้วซิ" อรัญญาเอ่ยอย่างกังวลจนเห็นได้ชัด
"อือ..ก็ดีแล้ว แต่อย่าเครียดจนเกินไป พี่จะช่วยตรวจทานอีกแรง"
"ค่ะพี่ เค้าอยู่ได้ เราก็อยู่ได้เน๊าะ"
"อืม ใช่ ๆ" กรองแก้วอือออพร้อมกับลูบผมเพื่อนรุ่นน้องเบา ๆ อย่างเอ็นดู ซึ่งทุกการกระทำและคำพูดอยู่ในสายตาของคนในห้องนั้นแล้วทั้งหมด