2

1276 Words
ภาพสุนัขสายพันธุ์เยอรมันเชฟเฟิร์ดเป็นพรีเซนเตอร์อยู่ที่หน้าถุง แม้ว่าเธอจะขยี้ตาแรงๆ มองแล้ว ถ่างตาดูอีกก็ตาม ‘ทำไมเมื่อคืนเห็นเป็นหน้าแมววะ’ ‘หรือเมื่อคืนจะเมาจริง’ ยังคิดไม่ตกว่าเมื่อคืนหยิบผิดหรือว่าฤทธิ์แอลกอฮอล์กลั่นแกล้งจนทำให้มารดาของขึ้นแต่เช้า เพราะนังลูกสาวคนโปรดคงกินไม่ได้ ไม่ทันขาดคำ มันก็เดินสี่ขาเข้ามาออดอ้อนคุณนายแม่จนหญิงสาวหมั่นไส้ แอบเบะปากใส่ไปทีหนึ่ง “เรื่องเยอะนะเรา กินไปเถอะ ใครจะไปรู้ อาหารหมาอาจอร่อยกว่าอาหารแมวก็ได้” ยังไม่ทันพูดจบก็ต้องร้อง “โอ๊ย” มือบางรีบยกมือลูบป้อยๆ ที่หน้าผากเพราะถูกมารดายื่นมือมาดีดหน้าผาก “ถ้าอร่อย แกก็กินให้น้องถ้วยฟูดูก่อนสิ” ก่อนที่แม่ใจร้ายเห็นแมวดีกว่าลูกสาวแท้ๆ จะหันไปโอบอุ้มคุณหนูถ้วยฟูขึ้นมาแล้วลูบหัวมันเบาๆ “เดี๋ยวแม่ไล่นางทาสมันออกไปซื้อมาให้ใหม่ รอหน่อยนะลูก” “เหมียว เหมียว” นาราจิ้มนิ้วเข้าหาตัว “หนูเป็นนางทาส” แล้วมองนังเหมียวตัวขาวฟูที่มารดาอุ้มอย่างหวงแหนราวกับทารกแรกเกิดที่ทำหน้าบ้องแบ๊วใส่มารดา แต่หันมาเหลือบมองเธอด้วยสีหน้าที่เห็นได้ชัดว่า นังเหมียวที่มารดาเรียกติดปากว่า ‘น้องถ้วยฟู’ มันกำลังเชิดใส่เธอ “หนอย นี่จะมากไปแล้วนะนัง...” “อย่าเรียกน้องว่านัง...” เสียงคุณนายทองอยู่เอ็ดใส่ทันควัน ถูกมารดาต่อว่าจนนาราต้องครวญในอก ลูกรักของมารดายังเอียงคอมองเธอ ถ้ามันพูดภาษามนุษย์ได้คงพูดออกมาแล้วว่า ‘มองอะไรเหรอนุด มีปัญหาเหรอ’ “หนอย ทำมามองหน้า แล้วยังเชิดใส่ นี่ถ้าเป็นคนได้ ‘ไฟต์’ กันแล้ว” “แกนั่นแหละ มัวแต่ยืนจ้องมองหน้าหาเรื่องน้องอยู่ได้ รีบไปเลย รีบไปซื้อมาใหม่ น้องหิวจะแย่แล้ว” คำพูดของมารดาทำให้นาราถอนใจ สรุปว่ามนุษย์แม่ลำเอียงเข้าข้างแมวตัวโปรดอีกแล้ว นาราได้แต่หันไปส่งสายตาคาดโทษลูกสาวคนโปรดของมารดาเอาไว้ ‘ฝากไว้ก่อน’ ‘แม่เผลอเดี๋ยวเจอกัน’ เหมือนคุณนายทองอยู่จะเห็นแววตานั้น แล้วจะจับกระแสความไม่พอใจของลูกมนุษยฺได้ รีบขู่ขึ้น “ถ้าน้องหายออกจากบ้านนี้ ฉันจะสงสัยแกเป็นผู้ร้ายเอาน้องไปทิ้งคนแรกเลย” ทำเอาลูกสาวอันดับสองโอดครวญประท้วง มองมารดาด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ “โธ่ แม่!” ปกติแล้ว คุณนายทองอยู่ให้ร้านขายอาหารสัตว์นำอาหารแมวมาส่งเป็นแบบกระสอบ แต่อาหารแมวเกิดหมดพอดีโดยที่มารดาบังเกิดเกล้าไม่รู้ว่าเฮียเจ้าของร้านอาหารสัตว์ปิดร้านไปงานศพญาติผู้ใหญ่หลายวัน “เมี้ยว เมี้ยว” เสียงของมันดูน่ารักเหมือนทารกน้อยๆ กำลังอ้อนแม่ ใช่ แม่ของเธอ เอ๊ะ หรือแม่ของมัน สายตาของมันกำลังอ้อนคุณนายทองอยู่ราวกับทารกกำลังหิวนม “เหมียว เหมียว” คุณนายทองอยู่ก้มมองเจ้าเหมียวน้อยด้วยแววตาเอ็นดู “น้องหิวแล้วเหรอลูก รอเดี๋ยวนะลูกสาวแม่” แล้วหันมาเอ็ดลูกมนุษย์ ที่ยังไม่ยอมขยับตัว “รีบไปสิ จะยืนมองอะไรน้องหิวแล้วเข้าใจไหม อ้อ ไหนๆ ก็จะออกไปข้างนอกแล้ว ช่วยเอาข้าวต้มมัดที่แม่ทำเอาใส่ถุงไว้ในครัวไปให้เพื่อนบ้านที่ย้ายมาอยู่ใหม่ติดกับบ้านเราด้วยนะ เพื่อนบ้านกัน รู้จักกันเอาไว้ มีอะไรจะได้ช่วยเหลือกัน” นารารู้ว่าภรรยาเศรษฐีชาวเยอรมันที่มารดาเอ่ยถึงย้ายตามสามีไปต่างประเทศได้หลายเดือนแล้ว และประกาศขายบ้านหลังสวยซึ่งติดกับบ้านของเธอ แต่ไม่รู้ว่ามีคนซื้อและย้ายเข้ามาอยู่ใหม่เรียบร้อยแล้วด้วยนี่สิ “แม่ก็เอาไปให้เขาเองสิ ข้าวต้มมัดของแม่ ให้นาราเอาไปให้ทำไม” “เอ๊ะ! ลูกคนนี้ใช้ยากใช้เย็น หรือจะให้ขุดเรื่องที่แกกลับดึกเมื่อคืนขึ้นมาจัดการ หัดว่าง่ายๆ ทำตัวน่ารักเหมือนน้องถ้วยฟูบ้างสิ” “โห แม่เปรียบนารากับแมวนี่นะ” หญิงสาวโอดประท้วง “ไม่เปรียบกับหมาก็ดีเท่าไหร่แล้ว ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังหัวเน่า” “โธ่! แม่ก็...” คนสวยชักสีหน้าน้อยอกน้อยใจ กระเง้ากระงอด แต่คุณนายทองอยู่หันไปอุ้มเอาใจเจ้าเหมียวแทน “เหมียว เหมียว” แมวน้อยหน้าบ้องแบ๊ว ตัวขาวฟูยังส่งเสียงทำคะแนนกับคุณนายแม่อยู่ไม่หยุด จนนาราได้แต่ชำเลืองมองมันด้วยความหมั่นไส้เบาๆ ‘วันไหนแม่ไม่อยู่ละ...’ ‘แมวแดดเดียว...น่าลอง’ หญิงสาวเดินห่างออกมาได้หน่อยแต่ก็ยังพอได้ยินเสียงร้องเหมียว เหมียว กำลังเข้าไปออดอ้อนมารดาดังตามมาเบาๆ นารากำลังจะกลับเข้าบ้านเพื่อไปจัดการธุระส่วนตัวก่อนจะออกไปซื้ออาหารให้คุณหนูประจำบ้านตามคำสั่ง เสียงคุณนายทองอยู่ก็ตะโกนย้ำมาอีก “นารา อย่าลืมเอาข้าวต้มมัดไปฝากเพื่อนบ้านนะ เดี๋ยวเขาจะออกไปข้างนอกเสียก่อน” ก่อนจะไปปลุกลูกสาวนางยังเห็นเพื่อนบ้านที่ “จ้า...แม่ ไม่ลืมๆ แม่นี่ก็ย้ำคิดย้ำทำนะ” “ก็ลองไม่ย้ำ แกจะทำไหม” ‘ไม่ทำ’ นาราตอบในใจ ไม่กล้าออกเสียง เธอเถียงใครชนะบ้าง แพ้บ้าง แต่เถียงคุณนายทองอยู่คงไม่มีวันชนะ ช่วงนี้ต้องพึ่งพาเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำจากบุพการีอยู่จึงเลือกที่จะเงียบอย่างรู้งาน แต่จะให้เธอเอาของไปให้คนแปลกหน้า ถึงจะเป็นเพื่อนบ้านใหม่ก็เถอะนะ คนมนุษยสัมพันธ์ดีระดับปานกลางก็รู้สึกเขิน ‘เอาฝากไว้ในท้องนาราก็หมดเรื่อง’ นารานึกแล้วผุดยิ้มแผนการร้ายที่คุณนายทองอยู่คงไม่รู้ ถึงภาพลักษณ์ภายนอกของมารดาบังเกิดเกล้าดูจะเป็นเศรษฐีนีขี้งก แต่ลูกสาวอย่างเธอการันตีได้คุณนายทองอยู่เป็นคนมีน้ำใจ ขี้สงสาร แต่เหตุไฉน เวลาเธอยืมเงินต้องโดนดอกเบี้ยร้อยละห้าบาทก็ไม่รู้ นาราเดินเดินเข้าไปในครัว เห็นว่าเชฟประจำบ้านทำแกงพะแนงเนื้อของโปรดเอาไว้ กลิ่นจึงหอมฟุ้งจนเตะจมูกจนต้องเดินไปเปิดตู้ที่เก็บภาชนะอยากจะตักข้าวกิน ทว่าเสียงร้อง “เหมียว เหมียว” ที่ตามหลังเข้าครัวมาทำให้ทาสแมวจำเป็นที่ได้รับคำสั่งให้รีบออกไปซื้ออาหารแมว ทำหน้าบอกบุญไม่ได้ แล้วหันกลับมาจ้องหน้าลูกสาวคนสวยของคุณนายทองอยู่...คุณหนูถ้วยฟู “นางทาสเข้าใจแล้วค่ะ จะรีบไปซื้ออาหารแมวให้คุณหนูเดี๋ยวนี้แหละเจ้าค่ะ” นาราผู้ที่ไม่ได้รังเกียจแมว แต่ก็ไม่เคยมีความคิดจะเดินเข้าสู่วงการทาสแมวเลยถอนหายใจ มองแมวขนฟูของคุณนายทองอยู่ที่เคยบอกว่าน้องเป็นแมวสายพันธุ์บริติช ที่ดูผ่านๆ จะคล้ายกับแมวเปอร์เซีย แต่สายพันธุ์บริติชนั้นมีต้นกำเนิดจากทางยุโรปประเทศอังกฤษ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นราชินีแมวก็ว่าได้ น้องเลยน่ารัก ขนฟู และน้องมีค่าตัวที่สูง แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเหตุใดเจ้าของเก่าถึงปล่อยให้น้องอดโซแล้วใส่ลังเอามาทิ้งไว้ที่สวนสาธารณะหน้าบ้าน จนคุณนายทองอยู่ซึ่งไปออกกำลังกายในตอนเช้าพบเข้าแล้วพากลับมาดูแล
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD