บทที่ 6:การต่อสู้และการตัดสินใจ
ในซอกหินแหลมระเกะระกะซึ่งมืดมิดและคับแคบจนอึดอัด มีนาจับตามองการต่อสู้ระหว่างอาร์นกับคาเลน ที่กำลังห้ำหั่นกันอย่างเอาเป็นเอาตาย หล่อนไม่เคยเห็นการต่อสู้อะไรที่มันเหี้ยมเกรียมอย่างนี้มาก่อน
จิตใจของเธอจึงร้อนระอุไปด้วยเปลวเพลิงของความหวาดกลัวและความกังวลเหลือคณา
อาร์นต่อสู้ด้วยความมุ่งมั่นและด้วยความรักที่มีให้เธอล้นปรี แต่ทว่า,เหตุใด การต่อสู้กลับเต็มไปด้วยความโหดร้าย ทั้งเสียงการปะทะ เสียงหายใจหนัก และเสียงเหล็กฟาดฟันกันที่ดังกราวๆไปทั่ว
โถงถ้ำ
“อาร์น!”
มีนาตะโกนเรียกเขา น้ำเสียงของเธอสั่นเครือ แต่เขาไม่สามารถได้ยินเธอท่ามกลางเสียงที่ดังกระหึ่ม และเมื่อเธอเห็นคาเลนได้เปรียบพยายามที่จะใช้ปลายหอกเข้าทำร้ายอาร์น ใจของเธอรู้สึกเหมือนถูกบีบอัดนั้นได้ปะทุออกมา
“ไม่! หยุดเดี๋ยวนี้!” เธอตะโกนสุดเสียง “ความรักไม่สมควรทำให้ต้องฆ่าแกงกัน” แม้ว่าเธอจะรู้ว่าความรู้สึกของคาเลนเป็นอย่างไร แต่เธอจะไม่ยอมให้สิ่งเลวร้ายนี้เกิดขึ้นเด็ดขาด
อาร์นต่อสู้ด้วยความแข็งแกร่ง เอาตัวรอดจากคมหอกมาได้ฉิวเฉียดหลายครา แต่คาเลนก็มีทักษะการต่อสู้ที่เหนือชั้น ทั้งสองฟาดฟันกันด้วยความโกรธแค้นที่สะสมไว้อย่างบ้าคลั่ง
ในที่สุด อาร์นรู้สึกถึงพลังที่พุ่งขึ้นจากฝ่ามือของเขา ลายสีแดงที่นูนขึ้นเปล่งประกายเหมือนกับเรียกร้องให้เขาใช้มันเต็มที่
“ข้าจะไม่ยอมแพ้!” อาร์นตะโกนออกมา พร้อมกับพุ่งเข้าใส่คาเลนอย่างดุดัน จนทำให้ศัตรูต้องถอยหลัง แต่ความโกรธของคาเลนก็ยิ่งทำให้เขาเป็นอันตราย
มีนาเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความตระหนก เธอรู้ว่าหากทั้งสองฝ่ายยังคงสู้กันแบบนี้ จะมีผู้ต้องจบชีวิตลง แต่เธอไม่สามารถยืนดูเฉยๆ ได้อีกต่อไป ในขณะที่มีโอกาสที่ทั้งสองกระเด็นจากการปะทะอย่างรุนแรงถึงกับกระเด็นหันหลังให้กัน เธอใช้ความกล้าหาญก้าวออกไป
“พอเถอะ!” มีนาตะโกนเสียงดัง
“หยุดทำบ้าๆนั้นเสียที! ข้าขอร้อง!”
อาร์นและคาเลนหยุดชะงัก ร่างกายของพวกเขาเต็มไปด้วยเหงื่อและเลือด ขณะหันไปมองมีนาที่ยืนอยู่กลางถ้ำ เธอรู้ว่าทั้งคู่กำลังต่อสู้เพื่อเธอ แต่เธอกลับไม่ต้องการให้ใครต้องจบชีวิตลง
“มีนา…” อาร์นพูดด้วยเสียงที่อ่อนแรง แต่ยังคงมีความหวัง
“ไม่! ข้าไม่ต้องการให้มีการฆ่ากัน!” เธอกล่าว “ความรักไม่ควรจบลงด้วยการนำศพของใครไปทิ้งลงเหว และข้าก็ไม่ต้องการให้พวกเจ้าทำร้ายกันอีกต่อไป”
คาเลนมองมีนาด้วยสายตาที่เจ็บปวด “เจ้าคือเหตุผลที่ข้าต้องต่อสู้ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะความรักที่ข้ามีต่อเจ้า”
“ความรักไม่ใช่การครอบงำหรือทำประทุษร้ายต่อกัน” มีนาตอบ “หากพวกเจ้าทั้งสองยังคงดื้อดึงต่อสู้กันไม่หยุด จะไม่มีใครได้อะไรทั้งสิ้นจากข้า”
ความเงียบปกคลุมไปทั่ว ชั่วขณะหนึ่งทุกอย่างดูเหมือนจะหยุดนิ่ง ทั้งอาร์นและคาเลนรู้สึกถึงคำพูดของมีนาได้เกิดแรงกระทบใจพวกเขาอย่างรุนแรง ทุกคนต่างตระหนักถึงความโหดร้ายที่จะเกิดขึ้น
“อาร์น ข้าไม่ต้องการให้เจ้าต้องฆ่าเขา” มีนาพูดเสียงสั่น “และคาเลน ข้าไม่ต้องการให้เจ้าไปทำร้ายเขา”
ในที่สุด คาเลนปล่อยมือจากอาวุธและถอยหลัง เขายอมแพ้กับความรู้สึกที่ไม่อาจควบคุมได้ “ข้าไม่เคยคิดทำร้ายเขา ข้าเพียงแต่ต้องการเจ้า”
อาร์นก็วางอาวุธลงเช่นกัน เขาหันไปหามีนา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรักและความเจ็บปวด “ข้าไม่สามารถสูญเสียเจ้าได้”
“ข้าขอให้พวกเจ้าหยุดการต่อสู้และกลับใจ” มีนาพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “เราควรอยู่ร่วมกันอย่างสงบและหาวิธีที่จะเป็นอิสระจากความเกลียดชัง”
“ข้าขอให้เจ้ากลับมา” คาเลนพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง “แต่ข้ารู้ว่าข้าไม่สามารถเป็นคนที่ควรคู่กับเจ้าได้”
มีนาเดินเข้าไปใกล้ทั้งสองและกล่าว “ถ้าเรายังรักกัน เราจะต้องหาวิธีที่จะอยู่ร่วมกันโดยไม่ต้องฆ่ากัน”
ทั้งอาร์นและคาเลนยอมรับคำพูดของมีนา ในใจของพวกเขาเริ่มเปิดรับความรักและการให้อภัย
แม้ว่าความรักจะซับซ้อน แต่พวกเขาก็รู้ว่าความรักที่แท้จริงคือการเคารพซึ่งกันและกัน
“ข้าจะไม่ขอให้เจ้ารักข้า” คาเลนพูด “แต่ข้าจะขอให้เจ้ามีความสุข”
“และข้าจะไม่ให้ความรักของเราต้องกลายเป็นความเกลียดชัง” อาร์นเสริม “เราจะต้องสร้างอนาคตที่ดีไปด้วยกัน”
ในที่สุด
ทั้งสามชีวิตนี้ได้เปลี่ยนความโกรธเป็นความรัก และมีนาได้โอกาสให้ทั้งสองชายเข้าใจถึงความรักที่มีค่ากว่าอำนาจและความโหดร้าย
“เราไม่สามารถอยู่ร่วมกันในความเกลียดชัง” มีนาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เราต้องทำให้ความรักของเราเป็นพลังในการสร้างสรรค์ ไม่ใช่ทำลาย”
เมื่อทั้งสามคนหันไปหาทางออกของถ้ำ มีนาจับมืออาร์นไว้แน่น ขณะที่สายตาของเธอมองไปที่คาเลน เธอรู้ว่าตอนนี้ทั้งสองได้เรียนรู้ถึงความรักที่แท้จริง
“ไปกันเถอะ” อาร์นกล่าว พร้อมกับนำทางออกจากถ้ำ ด้วยความหวังว่าอนาคตที่สดใสจะรออยู่ข้างหน้า
โดยที่พวกเขาจะไม่ทำให้ความรักต้องกลายเป็นความเกลียดชังอีกต่อไป
****