เพิร์ธระบายยิ้มมุมปาก จ้องใบหน้าหวานที่รอฟังคำตอบเพียงแค่ชั่วครู่ จากนั้นก็หันไปขับรถต่อโดยไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
“ว่ายังไงคะ ถ้าหนูขอพี่จะให้ไหม” นิวเยียร์เอ่ยออกไปอีกครั้ง และรอฟังคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ
เธอบอกใบ้ไปตั้งหลายครั้งแล้วว่าคนที่กำลังจีบคือเขา แต่ทำไมถึงได้ซึนและความรู้สึกช้าขนาดนี้
‘นี่เขาแกล้งไม่เข้าใจ หรือเข้าใจแล้วแต่ไม่สนใจเธอกันแน่’
แต่แล้วความเงียบที่ได้รับกลับมาก็ทำให้เธอถอนหายใจ เบือนหน้ามองวิวข้างทางแทน และข้าวมื้อเที่ยงก็กินได้แค่ไม่กี่คำ จากตอนแรกที่คิดว่าโมโหจนหิวข้าวมาก อยากจะกินให้หายหงุดหงิด แต่พอเขาเงียบ เธอก็หมดอารมณ์กินข้าวไปโดยปริยาย
ระหว่างทำงานในช่วงบ่าย นิวเยียร์ก็นั่งทำหน้าบึ้งตึงและไม่คุยเล่นกับเขาเหมือนเช่นเคย นอกจากจะถามเรื่องงาน และหลังจากทำงานเสร็จก็ถึงเวลากลับเสียที
ขณะที่ต่างฝ่ายกำลังจะแยกย้ายเข้าห้องตัวเอง แต่แล้วชายหนุ่มก็ขานชื่อเธอขึ้น
“น้องนิวเยียร์ครับ”
“คะ” เธอหันกลับไปมองด้วยใบหน้าเหนื่อยล้าราวกับคนหมดแรง แค่เขาไม่ให้เบอร์ เธอก็เหมือนคนหมดอาลัยตายอยากและซึมเป็นส้วม
“พี่ขอโทรศัพท์หน่อยสิครับ”
“เอาไปทำไมคะ” เธอไม่ทันได้คิดก็รีบตอบกลับไป “หรือว่า…”
แต่แล้วก็ต้องทำตาโตพร้อมกับระบายรอยยิ้มที่หายไปครึ่งวันออกมา พร้อมกับรีบหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าสะพายยื่นให้กับเขา
เพิร์ธกดเบอร์ของเขาลงไปในมือถือของหญิงสาว เสร็จแล้วก็ยื่นให้กับเจ้าของที่ดูอารมณ์ดีขึ้นราวกับคนละคนกับเมื่อครู่
“นึกว่าจะไม่ให้”
เธอรับโทรศัพท์เอามาไว้ในมือ พร้อมกับรีบกดเข้าไปดูว่าเขาได้ให้เบอร์กับเธอจริงหรือเปล่า แต่แล้วรอยยิ้มที่ระบายออกมาเมื่อครู่ก็สดใสมากกว่าเดิม เมื่อเขายอมให้เบอร์กับเธอจริง ๆ แต่เป็นการกดเบอร์โทรออกแล้วกดวางสาย แต่ไม่เป็นไร เธอไปบันทึกชื่อเองก็ได้
“พี่ไม่ได้บอกว่าจะไม่ให้นี่ครับ”
“ก็พี่เงียบ” ถ้าให้ตั้งแต่ตอนเที่ยง เธอก็คงไม่ต้องมานอยด์เขาให้เสียเวลาหรอก
“พี่เข้าห้องก่อนนะ”
“เดี๋ยวค่ะ” นิวเยียร์รีบท้วงขึ้นมาทันที พร้อมกับกดโทรออกไปหาคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า
เพิร์ธหยิบโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงสแล็กส์สีดำที่ส่งเสียงเรียกเข้าขึ้นมาดู ก่อนจะเงยใบหน้าส่งสายตาคู่คมมองไปที่หญิงสาว
“แลกเบอร์กันนะคะ” นิวเยียร์เอ่ยพลางหันโทรศัพท์มาทางเขา แล้วโยกไปมาคล้ายกับโบกมือ
“ครับ งั้นพี่เข้าห้องก่อนนะ”
“ค่ะ”
ทั้งสองแยกย้ายกันตรงหน้าห้อง นิวเยียร์ก็เข้าไปล้มตัวลงบนที่นอนหนานุ่มในห้องตัวเอง ก่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกชื่อของเขาเป็น ว่าที่สามี แล้ววางโทรศัพท์เครื่องหรูแนบอก บิดตัวเขินไปมาบนที่นอนอย่างคนอารมณ์ดีที่สุด
ยอมรับว่าทุกวันนี้เขาคือส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอยิ้มได้ และมีความสุขทุกครั้งที่ได้เจอหน้าและพูดคุยกัน
เพิร์ธเข้าห้องได้ไม่นานก็มีเสียงแจ้งเตือนข้อความดังขึ้น ขณะที่กำลังจะเตรียมทำมื้อเย็น และเมื่อหยิบมือถือขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นสาวสวยที่อยู่ห้องตรงข้ามส่งสติ๊กเกอร์ทักทายมาทางไลน์
เขาจึงพิมพ์ตอบกลับไปสั้น ๆ
**********
Pirat : ครับ
**********
ข้อความถูกส่งไปไม่ถึงสิบวินาที ก็มีข้อความจากนิวเยียร์ส่งกลับมา ราวกับว่าเธอกำลังจ้องโทรศัพท์รอให้เขาตอบแชท แล้วก็รีบตอบกลับมาเช่นกันเพื่อไม่ให้เขาละมือถือไปทำอย่างอื่นเสียก่อน
**********
Newyear : บันทึกเบอร์แล้วไลน์พี่เด้ง หนูเลยแวะมาทักทาย
Pirat : ครับ
Newyear : ตัวจริงกับคุยกันทางแชทนี่ไม่ต่างกันเลยนะคะ (สติกเกอร์ยิ้มเหงื่อตก)
Pirat : ยังไงเหรอครับ
Newyear : ก็แบบเย็นชา พูดน้อย แถมยังไม่ค่อยคุยกับหนู
Pirat : พี่ดูเป็นคนเย็นชาขนาดนั้นเลยเหรอครับ
Newyear : ไม่ใช่แบบนั้นนะคะ ไม่เย็นชาก็ได้ พี่แค่พูดน้อยแค่นั้นเอง ขอโทษนะคะ ไม่ได้ตั้งใจจะว่าพี่นะ
Pirat : ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ พี่ก็ถามไปอย่างนั้นเอง พี่เป็นคนพูดไม่เก่ง แต่ถ้ามีคนชวนคุยก็ถามมาตอบไปได้อยู่
Newyear : ถ้าพี่ไม่ติดอะไร หนูขอคุยแบบนี้ทุกวันเลยได้ไหมคะ
Pirat : ครับ
Newyear : คิดว่าจะปฏิเสธ
Pirat : พี่จะปฏิเสธทำไมล่ะ
Newyear : หนูคิดว่าพี่ไม่อยากให้หนูรบกวนซะอีก
Pirat : พี่ไม่ได้คิดว่าน้องนิวเยียร์รบกวนเลยนะครับ
Newyear : ขอบคุณนะคะ งั้นหนูไม่กวนพี่ละ ฝันดีล่วงหน้านะคะ
Pirat : ครับ
**********
นิวเยียร์กดออกจากแชทพร้อมกับใบหน้าหวานที่เผยรอยยิ้มกว้าง นี่เขากำลังจะบอกเธอทางอ้อมว่าแอบรู้สึกดีขึ้นมาบ้างแล้วใช่ไหม
ถ้าไม่อย่างนั้นเขาจะให้เบอร์ แถมยังอนุญาตให้เธอทักไปคุยแบบนี้ทำไม
‘เบอร์มีแล้ว ไลน์ก็มีแล้ว เขาจะเล่นเฟซไหมนะ’
คิดได้ดังนั้นก็เอาชื่อ นามสกุลไปลองค้นหาในเฟซบุ๊ก แล้วก็เจอจริง ๆ เขามีชื่อผู้ใช้ว่า ‘เพิร์ธ พิรัชย์ อชิระโภคิน’
ตัวจริงกับในรูปหล่อ มีเสน่ห์น่าหลงไหลไม่ต่างกันเลย ยิ่งมองก็ยิ่งหลง
แล้วเธอก็เพิ่งได้รู้ว่าเขาก็มีชื่อเล่นด้วย แอบคิดมาตั้งนานว่าคนอะไร ชื่อเล่นกับชื่อจริง ชื่อเดียวกัน
ใบหน้าของเขาก็หล่อเหลาเอาการ ชื่อก็ยังน่ารัก แถมนิสัยก็ดี โดยรวมหนุ่มเลขาดีไปหมดทุกอย่าง เหมาะกับการจะมาเป็นสามีในอนาคตของเธอมาก
เธอกำลังมีความสุขกับการจ้องหน้าจอของโทรศัพท์เลื่อนดูโปรไฟล์ของหนุ่มหล่อที่ทำให้เธอตกหลุมรักได้อย่างไม่ต้องสงสัย
เช้าวันต่อมา
ทั้งสองยังคงกินข้าวด้วยกันเหมือนเดิม แต่วันนี้เปลี่ยนสถานที่ไปกินข้างนอกแทน เพราะเมื่อคืนนิวเยียร์นอนเลื่อนดูร้านอาหารที่เปิดในช่วงเช้า เพื่อที่จะได้เปลี่ยนบรรยากาศของการกินข้าวร่วมกัน
“พี่เพิร์ธอยากกินอะไรคะ มื้อนี้หนูเลี้ยงเอง” หญิงสาวเอ่ยพลางส่งยิ้มหวาน พร้อมกับยื่นเมนูให้ชายหนุ่มเป็นคนเลือกก่อน
“น้องนิวเยียร์”
“จะถามว่าหนูรู้ชื่อเล่นของพี่ได้ยังไงใช่ไหมคะ” เธอรู้หรอกว่าเขาจะถามอะไร
“ครับ”
“พี่ไม่ได้เข้าเฟซบุ๊กเลยเหรอคะ”
“ยังครับ พี่ไม่ค่อยได้เล่น”
เขามีแอปพลิเคชันนี้ก็จริง แต่ไม่ค่อยมีเวลาได้เข้าไปดูเท่าไร บางครั้งอาทิตย์หนึ่งจะเข้าใช้งานแค่ครั้งสองครั้ง เพราะส่วนมากเขาจะติดต่องานกับลูกค้าทางไลน์และอีเมลเป็นส่วนใหญ่
“อย่างนี้นี่เอง ถึงว่าไม่ค่อยโพสต์อะไรเลย” นิวเยียร์เอ่ยพึมพำเสียงเบา แต่ก็ดังพอให้คนที่นั่งตรงข้ามได้ยิน
“พอดีหนูแอดเฟรนด์พี่ไป ถึงว่าไม่รับสักที”
“งั้นพี่กดรับให้เดี๋ยวนี้เลยครับ” เขาทำท่าจะหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ากางเกง แต่ก็ต้องชะงักเมื่ออีกฝ่ายเอ่ยขึ้น
“ไม่เป็นไรค่ะพี่เพิร์ธ ไว้มีเวลาพี่ค่อยรับก็ได้ค่ะ”
ดูแล้วเฟซบุ๊กของเขาไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหวอะไร จะกดรับตอนนี้หรือตอนไหนก็เหมือนกัน ถึงจะไม่รับเธอก็เข้าไปส่องได้อยู่ดี เพราะเขาเปิดเป็นโปรไฟล์สาธารณะ แต่ก็ไม่ได้คิดจะส่องจริง ๆ หรอก เพราะเธอมั่นใจว่าเพิร์ธยังไม่มีใครอย่างแน่นอน
แต่คนน่ารักแบบเขาก็ไม่ปล่อยให้เธอได้รอนาน ขณะที่ทั้งสองกำลังนั่งรออาหารที่สั่งไปก่อนหน้า เขาก็กดเข้าไปตอบรับการเป็นเพื่อนให้ ทำตัวแบบนี้จะไม่ให้มองว่าเขาน่ารักได้อย่างไร
“ขอบคุณนะคะที่รับแอด”