เตียวหยวนหยวนสูดลมหายใจเข้าปอด นางไม่ใช่คนเจ้าน้ำตา หรือพ่ายแพ้ต่ออุปสรรคใดง่ายๆ สำหรับเรื่องอาหาร นางไม่ใช่คนเก่งกาจหรือเป็นเชฟระดับมิชลินสตาร์เหมือนบิดา และมารดาในโลกที่จากมา แต่เตียวหยวนหยวนคือนักกิน นักชิมที่แข่งมาแล้วหลายรายการ และยังเป็นอินฟลูเอนเซอร์ ทางด้านอาหารถึงสองปีซ้อน แบรนด์ดังๆ เกี่ยวกับอาหารต่างดึงตัวนางเพื่อให้ไปเป็นที่ปรึกษาพร้อมเม็ดเงินแปดหลัก “ฮูหยินสามจากไปดีแล้ว และที่คุณหนูจุดธูป จุดเทียน และท่องอะไรประหลาดๆ จนน่าขนลุก คงไม่ใช่ว่าจะปลุกเอ่อวิญญาณฮูหยินสามลุกขึ้นมาช่วยทำอาหารมื้อค่ำใช่ไหมเจ้าคะ” คราแรกเตียวหยวนหยวน ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ ที่นางทำอย่างที่หมี่หลิงกล่าว นั่นเป็นเพราะอยากได้บรรยากาศในการทำอาหาร อย่างที่จินตนาการถึงช่วงเทศกาลโคมไฟ อากาศเย็นสบาย มีกลิ่นธูป แสงเทียน และดมกลิ่นปิ้งย่าง ที่รสหอมหวานมีความเผ็ดพอไม่ให้เลี่ยน พร้อมดื่มชาเย็น ผสมน้ำผึ้งและมีมะน