ข้าไม่ใช่นางซินฯ สกุลเตียว

1636 Words
ณ เรือนนอก ของตระกูลเตียว ไม่มีสิ่งใดที่จะทำให้ต้าหยวน ต้องประหลาดใจได้มากกว่านี้ นางจำได้เรื่องราวก่อนหน้าได้อย่างแม่นยำคือ ตนเป็นสตรีวัยเฉียดสามสิบปีซึ่งมีความสุขที่สุด และกำลังจะถูกชายหนุ่มแสนเพอร์เฟค หล่อรวยลูกครึ่งไทย-ไต้หวันคุกเข่าขอแต่งงาน ทว่าทุกอย่างจบลงอย่างรวดเร็ว เมื่อนางฟื้นขึ้นในช่วงยามเช้าที่อากาศเย็นอยู่สักหน่อย และถูกใครบางคนสาดน้ำใส่หน้า อีกฝ่ายทำหน้าตาไม่เป็นมิตร แถมยังเท้าสะเอว พร้อมปั้นหน้าราวกับเป็นตัวประกอบร้ายๆ พวกปลายแถว เฮ้อ นี่มันคงเป็นนิยายห้าบาทสิบบาทสินะ ถึงมีบทบาทเช่นนี้ในเรื่อง บัดซบที่สุด นางควรถูกกระทำเช่นนี้หรือ “ตื่นเสียทีเถิดคุณหนู หากยังนอนเป็นหมู เกรงว่าบ่าวคงต้องจุดไฟเผาฟูกของท่านแล้ว”สตรีใบหน้ายับย่น แถม ปากร้ายเอ่ยจบก็เดินไปเปิดหน้าต่างทุกบานออกแรงๆ หญิงสาวอยากหวีดร้องใส่อีกฝ่าย แต่นางดึงสติกลับได้ทัน และรีบทบทวนทุกอย่างในหัว เมื่อครู่ ราวๆ หนึ่งอึดใจ นางยังไขว่คว้าอากาศหายใจอยู่เลย และรู้สึกถึงความเย็น เย็นจนน่าใจหาย พอลืมตาอีกทีก็ถูกสาดน้ำโครมเต็มหน้า นี่ย่อมหมายความว่า นางกลับมาอยู่ในโลกจีนโบราณของว่าที่แม่ยายตัวแสบ ซึ่งอีกฝ่ายก็คือ ‘เหม่ยหลิน’ ผู้หญิงที่เขียนเรื่องคาวโลกีย์ได้อย่างน่าเบื่อ ให้ดีหน่อยเหม่ยหลิน ก็เก่งในการให้ชายกับหญิงทำเรื่องบัดสีไม่ซ้ำท่า ทั้งบนเตียง ในห้องครัว และนอกสถานที่! หญิงสาวสูดลมหายใจลึก ใช้มือข้างหนึ่งเช็ดหน้าเช็ดตาตน ก่อนเอ่ยด้วยเสียงนุ่มนวล มิได้ส่อกิริยาแบบนางร้ายประจำเรื่องอย่างที่ควรจะเป็น! “โอ้ จะ เจ้าทำสิ่งใดต่อข้า” ต้าหยวน หรือตอนนี้คือเตียวหยวนหยวนเอ่ยจบก็อยากหัวร่อ ภาษาและน้ำเสียงนาง ช่างเข้ากับยุคสมัยได้ดีเหลือเกิน ที่เป็นเช่นนี้ เพราะก่อนจะฟื้นมาในเช้านี้ นางเตรียมการบางสิ่งเอาไว้เพื่อรับมือสาวใช้ที่ชื่อหมี่หลิง อีกฝ่ายอายุยี่สิบเจ็ดปีแล้ว จึงเป็นสาวใช้ซึ่งนับวันเจียนจะถูกส่งขายออกไปนอกเรือน ดังนั้นนางจึงปากมาก เสียงดัง ชอบนินทนา สิ่งสำคัญซึ่งเตียวหยวนหยวนต้องจำเอาไว้ให้ขึ้นใจ หมี่หลิงเคยรับใช้แม่รองมาก่อน แต่ถูกส่งตัวมาเป็นสาวใช้ของเตียวหยวนหยวนแทนถงฉวน ซึ่งเสียชีวิตที่แปลงปลูกผัก ก่อนถูกนำศพไปทิ้งอย่างน่าอนาถในป่าช้า “คุณหนูตื่นเถิดเจ้าค่ะ จำได้หรือไม่วันนี้ต้องไปดูงานพรวนดินเพื่อเตรียมแปลงผัก และรับเงินขายไข่เป็ดไข่ไก่ ยังมีแม่หมูที่ใกล้คลอด อ่อ...รวมถึง บ่อเลี้ยงกบด้วยนะเจ้าคะ ทั้งหมดต้องรีบทำให้เสร็จ ก่อนผู้มาเยือนจะมาถึงหมู่บ้านเรา” หมี่หลิงร่ายยาวถึงสิ่งต่างๆ ให้นางฟัง ราวกับอีกฝ่ายเป็นเจ้านายมากกว่าสาวใช้ ที่เป็นเช่นนั้น เพราะเกือบครึ่งเดือนที่ผ่านมา เตียวหยวนหยวนเหมือนคนสติไม่อยู่กับเนื้อตัว บางคราเหม่อลอย บางคราถามเรื่องต่างๆ ซ้ำไปมา นอกจากนั้นคำพูดคำจาล้วนแปลกประหลาด เมื่อหมี่หลิงไปรายงานเรื่องนี้ต่อไป๋สิงฝู ก็ได้รับคำสั่งจากอีกฝ่ายหาทางทำให้เตียวหยวนหยวนรับภาระที่แบกเอาไว้บนหลังไหล่ไม่ไหว จนนางยอมพ่ายแพ้และยอมมอบกุญแจโรงเรือนต่างๆ ของสกุลเตียวกับความรับผิดชอบในการดูแล งานทั้งหมดให้แก่ไป๋สิงฝู ผู้เป็นฮูหยิน รองสกุลเตียวแต่โดยดี “เอ ทั้งหมดที่เจ้าเอ่ย คือหน้าที่ของข้ารึ” “จริงแท้และแน่นอนเจ้าค่ะ ต้นเดือนก่อน คุณหนูประกาศเสียงดังกับใต้เท้าเตียวกับฮูหยินรอง และยังเขียนหนังสือเอาไว้ด้วย ตัวคุณหนูยังลงชื่อต่อหน้าทุกคน เช่นนี้หากไม่ย้ายก้นไปสะสางงานคงไม่พ้นต้องถูกทำโทษ คราวนี้ไม่ใช่แค่นั่งสำนักผิดในเรือนบรรพชนนะเจ้าคะ บ่าวคงต้องย้ายไปอยู่ในโรงเลี้ยงหมูก็เป็นได้ ซึ่งบ่าวคงมีชะตากรรมเลวร้ายตามคุณหนูด้วย!” หมี่หลิงไม่ได้อยากโวยวาย แต่นางกลัว อีกทั้งเหนื่อยเหลือเกินที่ต้องมาดูแลเตียวหยวนหยวนซึ่งก่อนป่วยไข้นั้น นางเป็นสตรีเจ้าน้ำตา ทว่าร้าย ร้ายลึกจนใครเข้าใกล้ก็ต้องมีอันเป็นไป และตอนนี้ถูกย้ายออกมานอนที่เรือนนอกเสียด้วย “โอ้ ข้าช่างโง่เขลา ถึงได้คิดทำสัญญาทาสต่อหน้านางจิ้งจอก และคนในตระกูลเตียว” ต้าหยวนคิดถึงเจ้าของร่างนี้ ที่เหตุใดถึงได้ซื่อจนเขลา หลงไปทำสัญญาบ้าบออะไรพวกนั้น มันช่างตื้นเขิน คนเขียนนิยายเรื่องนี้ มองโลกแคบ และยัดเหยียดบทนางร้ายที่น่าสงสารให้นาง แต่เตียวหยวนหยวนก็แอบแรงด้วยการกินเรียบทั้งพระเอกและพระรอง อ่อ ยังมีซือหม่าซาน หนุ่มใหญ่ที่เป็นบุรุษคลั่งรักอีกคนด้วย! หมี่หลิงมองต้าหยวนตาโต มองราวกับว่าเห็นผีกลางวันแสกๆ “คุณหนูยังไม่หายจากไข้ลมหนาวหรือเจ้าคะ เหตุใดถึงได้พูดถึงเรื่องปีศาจจิ้งจอกอีก” หญิงสาวยิ้มแหย นางจะเผยสิ่งต่างๆ ออกมาในตอนนี้ไม่ได้ การใช้ชีวิตในมิติคู่ขนาน มิใช่เรื่องง่าย นางต้องแกล้งเซ่อบ้าง และต้องเป็นคนดีอย่างที่สุด ทั้งนี้ก็เพื่อรักษาบุคลิกของตัวละคนที่ชื่อเตียวหยวนหยวนเอาไว้ กระทั่งคุณหนูสามนางนี้ ได้ก่อเรื่องบัดสีครั้งใหญ่ ด้วยบทบาทของนางคือแย่งชิง ‘ผู้มาเยือน’ หมู่บ้านหลัวโปจากนางเอก ซึ่งก็คือคุณหนูห้าสกุลเตียว ดรุณีผู้งามราวกับเทพธิดา ฝ่ายนั้นเก่งเรื่องเย็บปักถักร้อย แม้แต่ดนตรีนางก็เล่นได้ทั้งเครื่องเป่า เครื่องสาย กิริยามารยาท เรียกได้ว่าถอดแบบมาจากฮูหยินใหญ่ผู้นอนเป็นผักมิผิดเพี้ยน ผิดแต่สันดาน เอ๊ย...นิสัยได้รับการอบรมจากฮูหยินรอง ไป๋สิงฝู และนางเอกของเรื่องมีนามว่า ‘เตียวเยว่ซือ’ ผู้ที่จะได้พบรักกับอ๋องเจิ้ง หรือผู้มาเยือนหมู่บ้านหลัวโป เตียวหยวนหยวนขยับตัวและลุกขึ้นยืน แต่เป็นตอนนั้น ที่นางคิดถึงเหตุการณ์ครั้งแรกที่ลืมตาตื่นขึ้นในโลกจีนโบราณ ซึ่งมันไม่ใช่ความฝัน นางจำได้อย่างแน่ชัดว่า ตนยืนอยู่ที่ระเบียงด้านนอกห้องพัก ด้านล่างมีสระว่ายน้ำ ยามนั้นนางแต่งชุดพลิ้วบางแนบเนื้อ ด้วยเป็นคืนที่ตั้งใจขอให้เลียม แฟนหนุ่มมาง้อ ทว่าคนขณะที่นางจัดท่าทางสวยๆ พร้อมบีบน้ำตาอยู่นั้น ใครบางคนที่โผล่มาจากด้านหลังได้ผลักนางอย่างแรง แรงมากจนร่างบอบบางผลัดตกจากระเบียง ล่วงลงสู่สระว่ายน้ำ ยามนั้น สิ่งเดียวที่เตียวหยวนหยวนคิดคือ นางไม่อยากตาย และความเย็นโอบคลุมไปทั่วร่าง เมื่อนางลืมตาตื่น จึงพบว่าถูกหมอตำแยที่มีใบหน้าเหี่ยวย่น พยายามป้อนน้ำแกงขมปี๋ให้ดื่ม นั่นคือภาพแรกที่นางลืมตาตื่นในโลกจีนโบราณ และนางเชื่อเหลือเกินว่าตนไม่ได้ฝันไป การตื่นครั้งนั้น ทำให้นางรีบทบทวนหลายสิ่ง ก่อนจะได้ยินใครบางคนเรียกชื่อนาง “กินสิเจ้าคะคุณหนูหยวน มิเช่นนั้นจะต้องถูกต้มในน้ำเดือดๆ เพื่อขับไล่วิญญาณร้ายนะเจ้าคะ” หมอตำแยบอกเตียวหยวนหยวน พลางมองไปยังนักพรตของหมู่บ้าน ซึ่งเขายืนยันว่าวิธีรักษานางได้คือการขับไล่วิญญาณชั่วร้าย แน่นอนอีกฝ่ายได้รับคำสั่งชั่วมาจากไป๋สิงฝู และนี้ก็เป็นสาเหตุให้นางต้องมาอยู่เรือนนอกของสกุลเตียวเป็นการชั่วคราว “คุณหนูกินยาของข้าเถิด ไม่เช่นนั้น จะต้องถูกต้มในกะทะใบใหญ่นะเจ้าคะ” เมื่ออีกฝ่ายเตือนเตียวหยวนหยวนอีกหน นางจึงพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ ก่อนกลั้นใจกลืนน้ำแกงถ้วยนั้นอย่างเสียไม่ได้ และหลังจากโผล่เข้าได้มาอยู่ในโลกนิยายจีน เตียวหยวนหยวนก็เข้าใจแล้วว่านางจะต้องใช้ชีวิตอย่างที่ตนต้องการด้วยการพลิกบทนางร้ายของเรื่องให้คนทั้งใต้หล้าต้องจดจำ หมี่หลิงมองคนเป็นนายของตน มองแล้วจึงเอ่ยถาม “คุณหนูหายจริงๆ แล้วใช่ไหมเจ้าคะ บ่าวไม่อยากเห็นใครถูกต้มในกระทะ แบบนั้นคงไม่ต่างจากจับเป็ด จับไก่ถอนขน!” “ถ้ายังไม่หยุดพูดถึงเรื่องนั้นอีก ข้านี่แหละจะจับเจ้ามัด และโยนลงใส่กองไฟร้อนๆ ด้วยมือข้าเอง” เอ่ยจบเตียวหยวนหยวนพลันเซแซดๆ เสียหลัก “โอ้ ผะ แผ่นดินไหว!”นางร้องและหาที่หลบภัยทันที หัวใจเตียวหยวนหยวนหล่นหายไปไหนก็ไม่รู้ ให้ตายเถิด เหตุใดชีวิตในโลกโบราณ ถึงได้มีเรื่องราวชวนให้น่าหวาดกลัวเหลือเกิน หมี่หลิงก็ตกใจและขวัญหายพอกัน ทว่านางกลับตั้งสติได้เร็วกว่า เมื่อชะเง้อชะแง้ มองออกไปด้านนอก จึงได้ยินเสียงคนงานเคาะไม้ และร้องบอกต่อๆ กันดังไม่ขาดสาย “มาแล้ว ผู้มาเยือนมาแล้ว!” “นรกช่างกลั่นแกล้งนางได้รวดเร็วถึงเพียงนี้ ด้วยนางยังไม่ทันได้ตั้งหลัก พระเอกของเรื่องผู้มีนามว่า กัวเจิ้งอี้ ก็เดินทางมาถึงหมู่บ้านหลัวโปเสียแล้ว!!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD