พ่ายรักเจ้าสาววันไนท์ฯ
13
22:00 น.
"อ่ะ นมอุ่นๆ กินซะหน่อย อากาศก็เริ่มหนาวแล้วมานั่งตรงนี้สิ ใกล้ๆกองไฟจะได้อุ่นๆ"
มิราเดินเข้าไปหาตามเสียงเรียกของเจตต์ เจตต์เอาผ้าคลุมไหล่ที่เขาเตรียมมาห่มให้มิราอย่างอ่อนโยน
"จะได้ไม่หนาว"
มิรารับนมจากเขามาดื่มพร้อมกับหย่อนก้นนั่งลงบนเก้าอี้สนามใกล้ๆกองไฟ
บรรยากาศตอนนี้เริ่มมีลมหนาวพัดเข้ามาปะทะกับผิวหนังเป็นระลอกๆ แต่ได้ผ้าคลุมไหล่ผืนนี้มาห่มไว้ก็พอได้คลายหนาวแถมยังอุ่นซ่านเข้าไปถึงหัวใจ
"บรรยากาศแบบนี้นึกถึงตอนออกค่ายสมัยเรียนเลยนะคะ"
"ไม่เหมือนอ่ะ ตอนออกค่ายสาวๆเยอะกว่านี้อีก"
"ขิงเหรอคะ "
มิราแอบเบะปากใส่เจตต์อย่างหมั่นไส้
"ก็คนมันหล่อ"
"หล่อระวังจะมาพร้อมโรคนะคะ"
"พูดซะน่ากลัวพี่น่ะป้องกันอยู่หรอก พร้อมโรคไม่น่าจะใช่ แต่พร้อมลูกอ่ะใช่แน่นอน"
มิราเบนสายหลบไปทางอื่นไม่สบตาด้วยเมื่อเขาส่งสายตาเจ้าชู้มีนัยนะใส่เธอ
"หลังแต่งงานเราจะอยู่กันแบบไหนคะ?"
ถามในขณะที่สายตาจับจ้องอยู่กับกองไฟ
"มิราอยากจะอยู่แบบไหนล่ะ แบบพี่ แบบเพื่อน แบบพ่อแม่ของลูก หรือ...แบบไหน?"
มิรานิ่งคิดไปชั่วขณะ เพราะตัวเลือกที่เขาให้มาไม่ได้มีแบบที่เธอต้องการสักข้อ
"เอาที่พี่เจตต์ต้องการเลยค่ะ"
"พี่แค่อยากให้ลูกของเรามีพ่อแม่พร้อมหน้า ถ้ามิราอยากให้พี่อยู่แบบครอบครัวพี่ก็จะอยู่"
"แต่ถ้าเป็นแบบนั้น พี่ก็ต้องเลือกระหว่างผู้หญิงของพี่กับครอบครัวของเรา มิราไม่อยากใช้ผู้ชายร่วมกับใคร"
"แล้วพี่เคยบอกเหรอว่าจะให้มิราใช้ผู้ชายร่วมกับคนอื่น มิราคิดเองทั้งนั้น พี่ไม่ได้เลี้ยงเมียเก็บอะไรไว้สักคน"
คำอธิบายที่ธรรมดาแต่ทำให้อีกคนถึงกับแอบยิ้มอย่างพอใจ
"พี่เลิกไปหมดแล้วล่ะ ต่อไปนี้ตั้งใจว่าจะดูแลเมียกับลูกให้ดีที่สุด ตอนนี้เราอาจจะยังไม่ได้รักกัน แต่..ให้เวลาพี่หน่อยได้มั้ย พี่จะพยายามรักมิราให้ได้"
เจตต์เอียงหน้ามาหามิราขณะที่พูดประโยคนี้ ใจของเขาไหวสั่นเอนอีกครั้งเมื่อปะกับดวงตากลมโตที่ไร้จริตเจ้าเล่ห์มารยายั่วยวนคู่นั้น
มิราเป็นผู้หญิงคนแรกที่ไม่เคยส่งสายตายั่วยวนเชิญชวนเขา ซึ่งเจตต์อยากรู้นักว่าสาเหตุอะไร หรือเป็นเพราะเขาไม่ใช่คนที่เธอสนใจ หรือไม่ใช่สเปคไม่หล่อพอ ยิ่งมิราเป็นแบบนี้เขาก็ยิ่งอยากเข้าใกล้เพื่อค้นหาคำตอบ
"อย่าใช้คำว่าพยายามเลยค่ะ ความรักมันไม่ต้องใช้คำว่าพยายาม หากว่าหลังจากที่คลอดลูกแล้ว พี่ยังไม่รู้สึกรักมิรา มิรายินดีที่จะคืนอิสระให้พี่อย่างไม่โกรธเคืองใดๆ และเราก็จะกลับมาเป็นพ่อแม่ของลูกกันดีมั้ยคะ?"
พูดออกไปด้วยความเจ็บปวดอยู่ลึกๆ เจตต์คงยังไม่รู้ว่ามิรานั้นรักเขาอยู่แล้วเต็มหัวใจ
"ได้ อีกเจ็ดแปดเดือนถ้าพี่ไม่ได้รู้สึกยินดีกับชีวิตคู่ของเรา พี่ก็จะปล่อยมิราไป"
"แล้วตอนนี้พี่รู้สึกอย่างไรกับความสัมพันธ์ของเราคะ?"
เจตต์ยิ้มและมองมาที่ท้องของมิรา
"พี่รู้สึกรักลูกของเราที่อยู่ในท้องมิรา อยากทำให้มิรามีความสุขเพื่อลูกของเรา"
ถึงแม้ว่าจะเป็นคำตอบที่ไม่ถููกใจนัก แต่มิราก็ยิ้มตอบกลับไป อย่างน้อยคนอย่างเจตต์ก็รักลูกมาก ถึงแม้ว่าไม่ได้รักเธอเลยก็ตาม ทั้งหมดที่เขาทำให้ในวันนี้ คงจะเพราะเจ้าตัวเล็กที่อยู่ในท้อง
แต่ก็ช่างเถอะ อย่างน้อยความรักที่เขามีต่อลูกก็ยังเผื่อแผ่มาถึงเธอบ้าง
"พี่ขอกอดได้มั้ย?"
"เอ่อ..ค่ะ"
เจตต์สอดแขนเข้าไปโอบกอดมิราเอาไว้หลวมๆเนื่องจากลมเย็นที่พัดกระหน่ำเข้าไม่หยุด เจตต์เกรงว่าเธอจะหนาว
"ดูดาวสิ เต็มท้องฟ้าเลยสวยมั้ย?"
"สวยค่ะ นานๆถึงจะได้เห็นดาวเยอะแบบนี้"
"ในกรุงเทพมีแสงสว่างเยอะ ทำให้เรามองไม่ค่อยเห็นดาว แต่ที่นี่สวยจริงๆอย่างที่เพื่อนพี่บอก"
มิราพิงไปบนไหล่กว้างจ้องมองขึ้นไปบนท้องนภา รอยยิ้มกว้างปรากฏออกมาพร้อมกับประกายตาที่แพรวพราวระยิบระยับไม่ต่างจากดวงดาวบนท้องฟ้า เจตต์แอบปรายตามองอย่างตาค้าง
ยามยิ้มเธอสวยเหมือนนางฟ้า ทั้งสวยและบริสุทธิ์ผุดผ่องทั้งข้างในและข้างนอก ลมหายใจของเขาเริ่มถี่ขึ้นเนื่องจากภาวะการเต้นของหัวใจที่แรงกว่าปกติ
'มิราทำให้เราหัวใจเต้นแรง '
ถึงแม้จะรู้สึกแต่เจตต์ก็ไม่ได้บอกอะไรหญิงสาว กลัวว่าผ่านไปสักระยะความรู้สึกนี้จะหายไปถึงแม้ว่าจะรู้สึกกับเธอเป็นคนแรกก็ตาม
"น้ำค้างเริ่มมาแล้ว เข้าไปนอนข้างในกันเถอะ พี่จัดที่นอนไว้ให้แล้ว"
"ค่ะ"
มิราเดินเข้าไปในเต็นท์อย่างว่าง่าย
"แล้วพี่เจตต์ล่ะคะ "
"พี่นอนข้างนอกได้"
"ตรงไหนล่ะคะ ไม่มีที่ตรงไหนที่พี่จะนอนได้เลย"
มิรากวาดสายตาไปรอบๆที่มีเพียงลานกว้างๆเท่านั้น
"มานอนด้วยกันเถอะค่ะ มิราไม่ปล้ำหรอก"
"แต่ถ้ามิราจะปล้ำก็ได้นะ พี่ถามหมอมาแล้ว มีอะไรกันได้"
มิราถึงกับคราง 'เห๊อะ!' ออกมา ที่เขาไปปรึกษาได้แม้กระทั่งเรื่องบนเตียง
"ถามเรื่องอะไรแบบนั้นคะ?"
เจตต์ยิ้มพรางตามมิราเข้ามาในเต้นท์ จัดที่จัดทางให้มิรานอนเรียบร้อยแล้วเขาก็ตามลงไปนอนข้างๆ
"เผื่อว่า มันห้ามใจตัวเองไม่ได้ ก็ต้องถามเผื่อๆไว้ก่อน "
"แต่มิราห้ามใจได้ค่ะ"
มิราตอบเจตต์เบาๆดับฝันเจตต์ในทันที เจตต์มองมิราด้วยสายตาละห้อย เพราะไม่เคยมีครั้งไหนที่นอนกับผู้หญิงแล้วไม่เคยมีอะไรด้วย
สองมือของเธอสอดอยู่ใต้แก้มในท่านอนตะแคงเข้าหาเจตต์ เธอไม่ได้รู้สึกเก้อเขิน เนื่องจากในเต้นท์บรรยากาศมืดสนิทมองไม่เห็นสีหน้าค่าตาของกันและกัน
รุ่งอรุณของวันใหม่
"มีอะไรด่วนมั้ยณดล เรื่องเอวาเหรอ เดี๋ยวกลับไปฉันจะไปเคลียร์เอง บอกเอวาให้รอและอยู่เฉยๆ อย่าพยายามติดต่อมา ฉันกำลังอยู่กับมิรา หมอบอกว่ามิรามีภาวะเครียดมันจะไม่ดีกับลูกในท้อง ไม่อย่างนั้นฉันก็คงไม่มาเสียเวลาทำอะไรไร้สาระแบบนี้หรอก งานฉันเยอะแยะ แค่นี้ก่อนนะ"
มิราถึงกับเย็นวาบไปถึงก้นบึ้งของหัวใจมือไม้สั่นไปหมด เมื่อได้รู้ว่าเหตุผลที่เจตต์ทำทั้งหมด ทำไปเพื่ออะไร
'ความสุขของคนเรามันสั้นจริงๆ'
มิรากระพริบตาถี่ๆพยายามกลืนก้อนแข็งๆที่มันจุกอยู่ที่คอลงไป ตื่นมาในเช้าวันนี้นอกจากแสงสว่างแล้วตาของเธอก็สว่างจ้าพอๆกัน เมื่อได้ยินที่เขาคุยโทรศัพท์เต็มๆสองหู
'เรื่องของเมื่อวานที่เขาทำให้เรา ถือซะว่าฝันไปก็แล้วกัน'
มิรานั่งกอดเข่าอยู่ในเต็นท์ไม่อยากรีบออกไป เกรงว่าเจตต์จะรู้ว่าเธอตื่นแล้ว และได้ยินบทสนทนาของเขาทุกคำ