ตอนที่18

1361 Words
พ่ายรักเจ้าสาววันไนท์ฯ 18 "มิราไปแล้ว"ณดลเปิดประตูห้องทำงานของประธานกรรมการเข้ามาก็พูดประโยคนี้ขึ้นมาทันที เจตต์ที่กำลังวุ่นอยู่กับหน้าจอแล็ปท็อปบนโต๊ะทำงานถึงกับหยุดกะทันหันเมื่อณดลเข้ามาแจ้งข่าวสาร ข่าวสารที่เขาไม่ค่อยอยากจะสนใจใคร่รู้เท่าไหร่ "ไปไหน?" "เมกา" "ไปวันนี้เหรอ?" นัยน์ตาสีนิลมีประกายความหม่นอยู่วูบหนึ่ง ก่อนจะปรับกลับมาให้ดูว่างเปล่าไม่ยินดียินร้ายเหมือนเดิม ความเงียบกริบของเจตต์แม้แต่ณดลเองก็เดาไม่ออกว่าเจตต์คิดอะไรอยู่ "อืม ฉันก็เพิ่งรู้เมื่อเช้านี้ พนาบอก สรุปนี่นายกับพนายังไม่ได้คุยกันเหรอ?" ณดลเลิกคิ้วถามจนหน้าผากเกิดรอยย่น ถึงกระนั้นก็ยังจ้องหน้าเจตต์อย่างรอคำตอบ "ยัง ไม่มีหน้าจะไปคุยด้วย เอาไว้มันอารมณ์ดีกว่านี้ก่อนค่อยเข้าไปคุย" เจตต์หยิบแฟ้มเอกสารเสนอเซ็นเปิดดูรายละเอียดข้างใน พร้อมกับกดคลิกรีเช็คเมลล์ดูรายละเอียดควบคู่ไปด้วย "รายงานล่าสุดอยู่ไหน?" "ก็แนบไฟล์ส่งให้แล้ว ชื่อไฟล์รายงาน T/F.2ไม่มีเหรอ จะได้Forward mail ให้ใหม่" อยู่ๆ เจตต์ก็เปลี่ยนเป็นมาสนใจเรื่องงานอย่างจริงๆ จังๆ พยายามตัดเรื่องของมิราออกไปจากในสมอง "นายจะปล่อยให้มันจบแบบนี้เหรอ?" วันนี้ณดลไม่เล่นบทลูกน้องที่เชื่อฟังแล้ว ดูท่าจะเจาะจงมาเรื่องของมิราโดยเฉพาะ เขายังคงซักไซ้ไล่เลียงเจตต์อย่างต่อเนื่อง "แล้วนี่นายเป็นอะไร วันนี้ถึงได้ถามแต่เรื่องนี้"เจตต์ตอบอย่างรำคาญ "ฉันสงสารมิรา สิ่งที่นายทำลงไปมันแย่มากๆ" "ก็ฉันมันเลวไง สงสารกันมากทำไมไม่ตามไปส่งด้วย" "เอะ!ไอ้นี้ ต่อมสำนึกผิดชอบชั่วดีนายมันพังแล้วเหรอ ไอ้เวร!" เจตต์เงยหน้าขึ้นไปมองณดลที่ยืนค้ำหัวจ้องเขาอยู่หน้าโต๊ะทำงาน ถ้าดึงคอเสื้อเจตต์ขึ้นมาต่อยได้ณดลทำไปแล้วคนบ้าอะไรเย็นชาสิ้นดี ณดลเดินปึงปังออกไปจากห้อง ไม่เหลือคราบเลขาผู้อ่อนน้อมในที่ทำงานแม้แต่นิด ภาพที่ใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาของมิราเมื่อวานทำเขานอนไม่หลับทั้งคืน ถ้าสถานะเขากับมิราอยู่ระดับเดียวกัน อย่างเจตต์ไม่มีวันที่จะได้เธอไปหรอก เขาคงตัดหน้าจีบเธอไปทั้งแต่วัยรุ่นแล้ว เสี่ยงก็แค่หมัดของพนาเท่านั้น เขามั่นใจว่าถ้าเขาจีบมิราก่อนมิราจะต้องสนใจเขาบ้างแหละ สนามบินสุวรรณภูมิ มิรากวาดสายตาไปรอบๆ สนามบินอีกเป็นครั้งสุดท้ายหลังจากเช็คอินโหลดกระเป๋าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครตามมาหญิงสาวก็เดินมุ่งหน้าเข้าไปรอที่เกทสของสายการบินขาออกต่างประเทศ ไม่รู้เพราะเหตุอะไรถึงยังหวังอะไรที่เป็นไปไม่ได้อยู่ แม้จะเหลือเพียงแค่หนึ่งเปอร์เซ็นต์ที่คนบางคนจะมา ก็อดที่จะปรายตามองหาเขาไม่ได้ "เหลืออีกเกือบชั่วโมง เดี๋ยวพี่ไปซื้อน้ำให้นะ" มิราพยักหน้าให้พนา เธอถือเสื้อโค้ทสีครีมตัวยาวพาดไว้ที่แขนเรียวเตรียมเอาไว้ก่อน เพราะที่อเมริกาช่วงนี้หนาวมากแล้ว ส่วนตัวก็สวมใส่ชุดธรรมดาๆ ให้ดูทะมัดทะแมงที่สุดโดยการสวมเสื้อเชิ้ตเก็บชายเสื้อไว้ในกางเกงยีนส์รองเท้าบูทส้นสูงหุ้มข้อ ไม่ถึงห้านาทีพนาก็เดินกลับมา "อ่ะ น้ำ " "ขอบคุณค่ะ" มิรายิ้มขอบคุณผู้เป็นพี่ชาย ใบหน้างามแม้จะมีร่องรอยความเศร้าที่ยังหลงเหลืออยู่ไม่น้อย แต่มิราเข้มแข็งมากๆ ไปถึงวอชิงตันยังคงต้องตอบคำถามผู้เป็นบุพการีอีกมากมาย แต่มิราไม่หวาดหวั่น เพราะมั่นใจว่าบิดาของเธอคงไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำที่จะบังคับให้ลูกสาวอยู่กับคนที่ไม่ได้รักลูกของตัวเอง ส่วนท่านจะกลัวเพื่อนขุ่นข้องหมองใจก็แล้วแต่ มิราไม่สามารถแบกรับและต้องทนเพียงเพื่อต้องรักษาหน้าตาของวงศ์ตระกูล เพราะมันไม่ยุติธรรมสำหรับชีวิตที่เหลือของเธอ นับแต่นี้มิราจะเลือกตัดสิ่งที่เจ็บปวดและเริ่มต้นใหม่เพื่อชีวิตที่มีความสุข และจะกลับมารักตัวเองอีกครั้ง "จะกลับมาเมืองไทยอีกมั้ย?" "กลับค่ะ แต่ขอเวลาอีกสักหน่อย อาจจะหนึ่งปี สองปี หรืออาจจะนานกว่านั้น" "อย่านานมาก พี่เหงา" "เมื่อไหร่พี่พนาจะมีแฟนล่ะคะ? จะได้ไม่เหงา แต่เอ๊ะ! ทำไมทีกับพี่พนาพ่อกับแม่ถึงไม่เคยวุ่นวายเหมือนของมิรา" คนถูกถามถึงกับหลบสายตา จะรักคนอื่นได้อย่างไรในเมื่อเขาเกิดมาเพียงเพื่ออยู่ดูแลมิราและตอบแทนบุญคุณคนที่ให้ชีวิตใหม่เท่านั้น หรืออาจเพราะบางทีเขาจะยังไม่เจอคนถูกใจ แต่พนาไม่ได้เดือดร้อนอะไรกับเรื่องนี้ ทุกวันนี้เขาก็มีความสุขกับสถานะโสดแล้ว ผู้ชายอินโทรเวิร์ตแบบเขาคงยากที่จะมีแฟน "อยู่เป็นเพื่อนเราไปเรื่อยๆ ดีกว่า แค่น้องสาวคนเดียวก็แบกไม่ไหวแล้ว" "ให้จริงนะคะ" มิรายิ้มหวานปนเศร้าให้พนาก่อนจะอิงลงไปบนไหล่ของพี่ชายและค่อยๆ หลับตาลง พยายามไล่เจ้าก้อนน้ำตาที่ไหลมากองรวมกันอยู่ที่ลำคอรอระบายออกมาเป็นน้ำใสๆ ความใจหายเหว่ว้า ความคิดถึง ความเจ็บปวดโหยหาจากแผลสดยังคงอยู่ไม่ได้หายไปไหน แม้จะพยายามเข้มแข็งสักแค่ไหนก็ตาม 'จบกันสักที ความรักที่เจ็บปวด ลาก่อนนะคะพี่เจตต์' "ง่วงเหรอ? ไปขึ้นเครื่องกันเถอะ ได้เวลาแล้วล่ะ" พนาลุกขึ้นมาก่อน แล้วยื่นมือไปให้คนตัวเล็กใช้เป็นที่ฉุดดึง พนารู้ว่ามิราอ่อนระโหยโรยแรงเต็มที เมื่อคืนก็เห็นเปิดไฟในห้องทั้งคืน ไม่บอกก็รู้ว่าเธอร้องไห้มาทั้งคืน ถึงแม้ว่าแมคอัพจะช่วยไว้ได้เยอะในการกลบเกลื่อนรอยบวมช้ำจากการร้องไห้ แต่ยังไงก็ตามไม่อาจหลบซ่อนไปจากสายตาผู้เป็นพี่ชายที่เห็นเธอมาแต่เล็กแต่น้อยอย่างพนาได้ "โชคดีนะมิรา ลาก่อน" ร่างสูงโปร่งในชุดทำงานสไตล์minimal มือของเขาล้วงอยู่ในกระเป๋ากางเกงขากระบอกทรงกว้างสีเบจ ใบหน้าหล่อสวมใส่แว่นตากันแดดสีดำพรางหน้าตาของตัวเองเอาไว้ ทำให้ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมามองเผินๆ คงคิดว่าเขาคือไอดอลเกาหลีไต้มาเที่ยวเมืองไทย เขายืนแอบอยู่ตรงมุมหนึ่งของสนามบิน เหตุการณ์ก่อนหน้านี้หลังจากที่เลขาเขางอนเดินออกไปจากห้อง เจตต์ก็รีบมุ่งตรงมาที่สนามบินทันที โชคดีที่มาทัน โชคไม่ดีก็คือไม่สามารถเข้าไปร่ำลาเธอต่อหน้าได้เลย แม้ว่าหญิงสาวเดินหายลับขึ้นไปบนตัวเครื่องบินแล้ว แต่เจตต์ก็ยังคงยืนนิ่งตัวแข็งทื่อเป็นท่อนไม้อยู่ตรงนั้น รู้ตัวเองดีว่าสูญเสียเธอไปแล้ว และคงไม่มีวันที่มิราจะอภัยให้เขาอีก เจตต์รู้ว่ามิรารักเขามาก แต่เขาไม่รู้ว่าเขารักเธอเหมือนกันหรือไม่ หรือเป็นเพียงความหลงไหลเพียงชั่วคราว และไม่อยากทำร้ายให้มิราต้องเจ็บปวดเพราะเขา เนื่องจากเจตต์ก็รู้สันดานตัวเองดีว่าเป็นคนขี้เบื่อหน่ายผู้หญิงมากขนาดไหน และไหนจะเรื่องของเอวาที่ยังรอวันสะสาง ค่าาไม่รักก็ปล่อยไปค่ะพี่เจตต์ อย่ามาร้องเป็นหมาโบ้ทีหลังนะค๊ะ!!!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD