“โธ่เว้ย!” คิมหันต์คว้าหมอนฟาดไปตรงหน้า เฉียดใบหน้าเธอไปนิดเดียว เพราะไม่ตั้งใจโยนให้มันโดนเธอ แต่บอกได้เลยว่าหงุดหงิด เธอเห็นเขาเป็นตัวอะไรวะ
“ฉันขอโทษ”
“เรื่อง?”
“ที่ทำให้คุณเป็นแบบนี้ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
“เธอโคตรมักง่ายเลยว่ะ”
คิมหันต์ด่าด้วยใบหน้าบึ้งตึง ไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนเหมือนเธอเลย ทำเหมือนเขาเป็นแค่ที่ระบาย ไม่เคยคิดจะรับผิดชอบ
“เดี๋ยวนะคะ คนที่อยากลองคือคุณไม่ใช่เหรอ คุณแค่อยากรู้ว่าฉันลีลาเด็ดหรือเปล่า คุณก็ได้รู้แล้วไง”
ยี่หวารู้สึกหน้าชาไปทั้งแถบ ไอ้การที่เธอยอมทอดกายให้เขา แต่ไม่เรียกร้องอะไร คือเธอมักง่ายงั้นเหรอ เขาควรดีใจนะ ที่เธอไม่เรียกร้องอะไรแบบนี้
“ฉันพูดเหรอ”
“ก็ไม่”
“อย่าด่วนสรุปเอาเอง ฉันตั้งใจจะจีบเธอด้วยซ้ำ รู้เอาไว้ซะ”
“เหรอคะ ไม่เคยรู้เลย”
ยี่หวาไม่ได้กวนประสาท เธอไม่เคยรู้จริงๆ แต่คำพูดของเธอเหมือนจะกวนประสาทคนตรงหน้าอยู่ในที ร่างสูงจึงขยับเดินเข้ามาใกล้ ในขณะที่เธอเริ่มถอยห่างอีกครั้ง ด้วยความกลัว
“ฉันสนใจเธอ นั่นหมายความว่าฉันรู้สึกอะไรบางอย่างกับเธอ ฉันอาจจะเคยมักง่าย แต่ฉันไม่ได้เป็นแบบนั้นแล้ว”
คิมหันต์คว้ามือเล็กที่ยื่นมาขวาง กดไว้เหนือศรีษะได้รูป ก้มลงไปจูบคนที่นิ่งงันเบาๆ ก่อนจะแทรกลิ้นคว้านหาความหวานข้างใน
จูบครั้งนี้ไม่มีกลิ่นเหล้า แต่กลับมอมเมาเขาได้ดีกว่าเหล้าที่เธอดื่มวันนั้น กลิ่นหอมอ่อนๆที่เขาไม่แน่ใจ ว่าใช่กลิ่นลิปติกหรือเปล่า ทำให้ต้องบดจูบลงไปหนักๆ ลิ้นร้อนกวาดชิมด้านในด้วยความรู้สึกโหยหา จนมั่นใจแล้วว่า ยัยเด็กนี่ไปกินของหวานกับไอ้นั่นมา รสชาติหอมหวานยังติดปากอยู่เลย ไม่บิงชู ก็คงเป็นสักเมนูตามคาเฟ่
“อือ”
เสียงหวานครางรับสัมผัสวาบหวาบและอ่อนหวาน ลิ้นเล็กขยับตามอย่างเงอะงะ ดวงตาคู่หวานมองต่ำอย่างไม่กล้าสบตา มือเล็กถูกปล่อยให้เป็นอิสระ ยี่หวาจึงยกขึ้นโอบรอบลำคอแกร่งไว้ เหมือนเป็นที่พึ่งพิง ไม่ให้ร่างของตัวเองลงไปกองอยู่บนพื้นหินอ่อนลวดลายแปลกตา
“เลิกกับมัน แล้วมาคบกับฉันนะ” คิมหันต์กระซิบเบาๆด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน เขาก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้ชายคนนั้นนะ อาจจะดีกว่าด้วยซ้ำ
“คงทำไม่ได้ค่ะ” ยี่หวาปฏิเสธอีกครั้ง ลืมตามองสบดวงตาเว้าวอนนิ่งๆ เล่นมองกันแบบนี้ เดี๋ยวก็ได้ใจอ่อนอีก
“ทำไม?”
“ฉันจำเป็นต้องมีคุณฉัตร” ยี่หวาบอกได้แค่นั้น มือเล็กผละออกจากลำคอแกร่งเมื่อรู้สึกตัว อยู่กับเขาทีไรเธอว่างตัวไม่ถูก อ่อนระทวยทุกครั้ง เพียงแค่โดนผิวกายร้อนผ่าวของเขาสัมผัส
“โดนมันขู่?” คิมหันต์คว้ามือเล็กลากไปนั่งบนเตียง วันนี้ต้องคุยกันให้เคลียร์
“เป็นเรื่องที่คุณไม่จำเป็นต้องรู้ค่ะ”
“แล้วฉันต้องอยู่แบบนี้เหรอ”
“คุณติดใจเซ็กส์ของฉันเหรอคะ”
ยี่หวาไม่รู้จริงๆว่าเขาพูดจริงพูดเล่น เรื่องที่เขาบอกกับเธอก่อนหน้านั้น เขากับเธอไม่เคยเจอกันเลยนะ เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะรู้สึกกับเธอแบบลึกซึ้ง เธอไม่ต้องการเป็นของเล่นฆ่าเวลาเศรษฐีเมืองเจดีย์อย่างเขา
“แหวะ!”
คิมหันต์แหวะออกไปด้วยความหมั่นไส้ ใบหน้าหวานๆติดจะเย็นชา ช่างกล้าพูดออกมาว่าเขาติดใจเธอ เธอแทบจะทำอะไรไม่เป็นเลยด้วยซ้ำ แต่คำพูดโคตรมั่นหน้า มาหาว่าเขาติดใจเซ็กส์ของเธอเฉยเลย
“งั้นคุยกันเข้าใจแล้วนะคะ”
ยี่หวาลุกขึ้นยืนอีกครั้ง หวังในใจว่าครั้งนี้เขาจะปล่อยเธอไปจริงๆ ร่างสมส่วนเดินออกไปเงียบๆ
เขาไม่รั้งอะไร เธอควรดีใจ แต่ทำไมรู้สึกเสียใจแปลกๆ!
ยี่หวาเดินไปขึ้นลิฟต์เพื่อลงไปเรียกรถโดยสารสาธารณะข้างล่าง ระหว่างทางได้แต่ทบทวนว่าทำไมเขาถึงปล่อยเธอไปง่ายๆ แต่ก็หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ พอๆกับทำไมไม่ตกลงคบกับเขาไปซะก็สิ้นเรื่อง
ร่างสมส่วนหยิบแว่นสีชาในกระเป๋ามาสวม เมื่อต้องเดินผ่านล็อบบี้ของคอนโดหรูที่มีคนอยู่เยอะพอสมควร ก้าวเท้าเร็วๆเพื่อเดินออกไปด้านนอก หวังในใจว่าคงไม่มีใครจำเธอได้หรอกนะ
ยี่หวาใช้ชีวิตตามปกติ ให้เรื่องที่เคยคุยกับคิมหันต์ เป็นเรื่องที่เธอเพ้อฝันเหมือนทุกที หลังจากวันนั้นเขาก็ไม่ตามมาราวีเธออีก คงตั้งใจทำอย่างที่เธอเคยพูดไว้จริงๆสินะ
“น้องหวาเข้าฉากจ๊ะ”
ยี่หวาหันไปมองคนที่ตะโกนเรียกเธออยู่ไกลๆ ที่จริงเดินมาก็ได้นะ เธอก็ไม่ได้ดุขนาดนั้น ไปเรียกอยู่ตรงนั้น ถ้าเธอไม่ได้ยิน ก็คงเอาไปนินทาอีก ว่าเธอไม่สนใจการทำงาน
ยี่หวาได้แค่บ่นในใจ แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรออกไปมากนัก ตอนนี้ภาพลักษณ์เธอดูแย่มาก จนไม่มีใครอยากข้องเกี่ยวด้วย งานก็ทำตามหน้าที่นะ แต่ก็มีบ้างที่มักจะมีปัญหา อย่างเช่นตอนนี้
“พี่ค่ะ ตอนติดต่อมาไม่ได้บอกไว้นี่ค่ะ ว่าต้องถ่ายในน้ำ”
ยี่หวาเดินมาถึงขอบสระ เห็นทุกอย่างชัดเจนว่าพี่ๆทีมงานเตรียมถ่ายในสระเด็ก แม้น้ำมันจะตื้น แต่เธอไม่ได้เตรียมชุดมาเปลี่ยนนี่สิ เพราะเข้าใจว่าไม่มีฉากถ่ายในน้ำ
“ทางแบรนด์เขาขอมาเมื่อกี้นี้ค่ะ”
“หวาคงต้องขอค่าตัวเพิ่มนิดหน่อย”
ยี่หวาไม่ทำงานฟรี และไม่ค่อยยอมโดนเอาเปรียบ งานของเธอที่จริงถ่ายเสร็จแล้ว แต่ที่นั่งรอเพราะพี่เขาขอถ่ายเพิ่ม เธอก็ไม่ว่าอะไรเพราะมีเวลาเหลือนิดหน่อยก่อนจะไปทำงานอื่นต่อ แต่คุยกันไว้ว่าถ่ายธรรมดาริมสระน้ำ ไม่ได้บอกสักนิดว่าต้องลงน้ำด้วย
“แป๊บเดียวเองนะคะน้องหวา ไม่ถึงยี่สิบนาทีก็เสร็จ”
“แล้วชุดหวาสามารถแห้งภายในยี่สิบนาทีไหมละคะ”
ยี่หวายืนนิ่ง ถ้าให้ตามที่เธอขอไม่ได้ เธอก็ไม่ทำ เธอต้องไปทำงานต่อด้วยชุดที่เธอซื้อเอง ทำไมเธอต้องมาเสียกับอะไรแบบนี้ด้วยล่ะ
ทุกคนมองหน้ากันไปมา บางคนก้มหน้าซ่อนความไม่พอใจไว้ ยี่หวาเห็นหมด แต่ไม่อยากพูดอะไร ได้ก็ได้นะ แต่ไม่ได้ก็คือไม่ได้
“ไม่ได้ใช่ไหมคะ งั้นก็ถ่ายริมสระ”
“แต่เขาอยากได้ภาพน้องหวาตอนอยู่ในน้ำ”
“หวามีงานต่อค่ะ หวังว่าพี่ๆจะเข้าใจ หวาลงน้ำไม่ได้ เพราะชุดมันจะเปียก หวาจะเสียงานอื่นด้วย” ยี่หวาอธิบายด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เรื่องนี้เธอไม่ผิดเลยสักนิด งานก็ทำให้แล้ว สำหรับเธอนี่ไม่ใช่งาน แต่เป็นการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
“ถ้ามีชุดเปลี่ยนก็ลงได้ใช่ไหมคะ” จิราเดินมาเจอความวุ่นวายพอดีจึงเสนอทางออก พร้อมกับยื่นชุดใหม่ให้ผู้หญิงตรงหน้า ชุดที่เธอออกแบบเอง และตั้งใจจะให้ยี่หวาใส่ถ่ายแบบให้แบรนด์ของเธอเอง
“ถ้าเสียเวลากับการเปลี่ยนชุด ก็ต้องถ่ายให้เสร็จภายในห้านาทีนะคะ”
“ตามนั้นค่ะ”
จิรายิ้มให้ มองผู้หญิงที่เดินจากไปด้วยรอยยิ้ม ตัวจริงเอาเรื่องแฮะ แต่โชคดีที่เธอได้ตัวยี่หวามาเป็นนางแบบให้
ยี่หวาไม่มีโอกาสไม่พอใจชุดที่ใส่เลย เพราะเธอมีเวลาไม่พอ จึงเดินกึ่งวิ่งออกมาจากห้องน้ำ ทั้งที่ใส่เพียงชุดว่ายน้ำแบบทูพีช ร่างสมส่วนเย้ายวนเดินไปรอริมสระ
ทุกคนรู้หน้าที่ ทันทีที่เธอไปถึง ก็ถูกดึงมือไปนั่งอยู่ริมสระ ห้อยขาลงในน้ำ บ้างก็ต้องไปยืนโพสท่าในน้ำตามที่เจ้าของแบรนด์ต้องการ