"ส่วนฉันจะกินเค้กนี้ให้เอง พวกหล่อนจะได้ไม่อ้วน ถือว่าเป็นของขวัญสุดล้ำค่า เนอะ!" ฟิลลิ่งพูดทั้ง ๆ ที่ยังตักเค้กเข้าปาก ทำเอาพวกเราสามคนหัวเราะอย่างเอือม ๆ ในความเนียนนี้ของเธอ
"กรี๊ดดด!! สุดหล่อกล้ามบึกของน้องรันมาแล้ว" จู่ ๆ รันรันก็เขย่าไหล่ฉันพร้อมกรี๊ดออกมา "องค์สัตว์มี 'นอ' เข้าสิงอีกแล้วล่ะสิ" ฟิลลิ่งแขวะเข้าให้
พวกเราสามคนมองตามสายตาปิ๊ง ๆ ที่รันรันกำลังโฟกัสจึงเจอเข้ากับสามชายหนึ่งหญิง หนึ่งในนั้นคือคนที่รันรันคลั่งเป็นพิเศษ ไม่รู้ว่าเขาชื่ออะไร รู้แค่ว่าเป็นผู้ชายร่างสูงราวร้อยแปดสิบ ผมสีดำขลับตัดกับสีผิวที่ขาวสะอาดตา ใบหน้าคมเข้ม ท่าทางมาดนิ่ง ดูสุขุมที่สุดในกลุ่ม
เพื่อนอีกคนที่อยู่ในกลุ่มรูปร่างสูงโปร่งไม่แพ้กัน ต่างกันตรงที่คนนี้ดูก็รู้ว่าต้องเจ้าชู้ตัวพ่อเพราะท่าทางตาเล็กตาน้อยเวลามองสาวสวยมันฟ้องชัดเจน ส่วนผู้ชายคนสุดท้ายเป็นคนที่ฉันเห็นหน้าคาดตาทุกวัน รูปร่างสูงโปร่งร้อยแปดสิบสองเซนติเมตร ผมสีเทาเข้มจนเกือบดำ ใบหน้าคม คิ้วโก่งดกดำ สันจมูกโด่งรั้นรับใบหน้า ท่าทางนิ่งขรึม ไม่สนโลก ผู้ชายที่ฉันเคยบอกว่าแอบมองที่หน้าต่างทุกวัน
และผู้หญิงคนเดียวในกลุ่ม เธอทั้งสวย หุ่นดี ดีกรีนางแบบภาพเซ็กซี่ชื่อดังที่ใคร ๆ ต่างคุ้นหน้าคาดตา ฉันปลื้มพี่เขามากแถมยังเป็นเอฟซีอีกต่างหาก
"นี่ ๆ เก็บอาการหน่อย โต๊ะอื่นมองเขม่นแล้ว" ตรีญ่าเรียกสติพวกเราให้กลับมาสนใจรอบข้าง
"ใครจะมองก็มองไปสิ ถ้าอยากมีเรื่องก็แค่ลุกมา" รันรันใจห้าวเกินไปแล้ว ฉันล่ะกลัวผู้หญิงโต๊ะนั้นลุกมาหาเรื่องจริง ๆ "ชะนีไหวเหรอ เจ็ดสี่นะคะ" ฟิลลิ่งถาม
"แกคนเดียวกลิ้งทับก็ตายหมู่แล้ว"
เพียะ!!
"โอ้ย!!"
"ปากเสีย แบบนี้น่ายุให้พวกนั้นดักตบ" ฟิลลิ่งตีต้นแขนรันรันทันทีที่เธอพูดจาสบประมาท แบบนี้ทุกทีสองคนนี้
"เออตรี ไหนบอกว่าวันนี้ไม่ว่างไง" ฉันเลิกสนใจคู่กัดตรงหน้า หันมาถามตรีญ่าที่นั่งข้าง ๆ ฉันแทน
"แผนของรันน่ะสิ แต่จริง ๆ วันนี้ตรีก็ต้องบินเป็นเพื่อนคุณแม่นั่นแหละ แต่พอท่านจำได้ว่าวันนี้วันเกิดหนูอัยญ์ แม่เลยบินไปคนเดียว"
ฉันพยักหน้าเข้าใจ "เหมือนอัยญ์สร้างปัญหาเลยอะ" ฉันเป็นคนชอบคิดเล็กคิดน้อยแบบนี้แหละ
"บ้า! ไม่มีใครคิดแบบนั้นหรอก พอ ๆ เลิกคิดมาก มาดื่มฉลองกันดีกว่า" ตรีญ่ายื่นแก้วค็อกเทลสีฟ้าสดใสมาให้ ฉันรับมันก่อนที่รันรันและฟิลลิ่งจะชูแก้วขึ้นตาม
"สุขสันต์วันเกิดหนูอัยญ์อีกครั้ง ใครไม่หมดแก้ว หมาค่ะ" ฟิลลิ่งเป็นคนนำทีมพูด ก่อนที่พวกเราสี่คนจะกระดกน้ำสีอำพันนั้นลงคอจนหมดแก้ว
ไม่รู้ตอนนี้เวลาเดินไปนานแค่ไหน รู้แค่ว่าตอนนี้ฉันหนักหัวมาก เหมือนจะมองอะไรก็โคลงเคลงไปหมด
"ขอตัวไปเข้าห้องน้ำแป๊บนะ" พยายามพูดให้เป็นประโยคมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ "เคๆ ไปด้วยป้ะ!?" รันรันถาม สภาพเธอน่าจะหนักกว่าฉันอีกนะ ตาแทบจะลืมไม่ขึ้น หน้านี่แดงปลั่งเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์
"ไม่เป็นไร อัยญ์ไหว" ฉันทำท่าโอเคก่อนจะค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนนิ่ง ๆ ประมาณสิบวินาทีค่อยก้าวขาเดิน หมับ..
"ไหวแน่นะอัยญ์" ตรีญ่าที่ไม่ค่อยดื่มเท่าไหร่จับมือฉันไว้พร้อมถาม
"ไหว ๆ ตรีดูสองคนนั้นเถอะ" ฉันพยักหน้าให้เพื่อนรักตั้งแต่สมัยมัธยมก่อนจะแกะมือเธอออกแล้วเดินตรงไปยังห้องน้ำ
"อ้วก~"
โชคดีที่ฉันถึงห้องน้ำทันเวลา ของที่กินเข้าไปเลยถูกปลดปล่อยออกถูกที่ถูกทาง
ซ่า...เปิดน้ำตรงก๊อกล้างหน้าก่อนจะวักน้ำเข้าหน้าเรียกความสดชื่นและสติที่เกือบจะล่องลอยกลับมา
"ห้าทุ่มสี่สิบ" เพ่งมองนาฬิกาตรงข้อมือตั้งนานกว่าจะมองชัดว่าตอนนี้เป็นเวลากี่โมงกี่ยาม "น่าจะถึงเวลากลับได้แล้วล่ะ ป่านนี้แม่นินคงเป็นห่วงแย่"
บอกกับตัวเองก่อนจะตบหน้าเพื่อเรียกสติอีกครั้ง มองซ้ายแลขวาสำรวจสภาพที่กึ่งเมาเห็นว่าเรียบร้อยดีจึงเดินออกจากห้องน้ำเพื่อกลับไปยังโต๊ะที่เพื่อน ๆ รออยู่
ผลัก!!
"โอ๊ย! ขอโทษค่ะ" แม้ฉันจะเป็นฝ่ายถูกชนแต่กลับหลุดคำขอโทษออกไปแทน
"ซุ่มซ่าม" เสียงทุ้มว่าให้ฉัน
แต่เดี๋ยวก่อนนะ! คนที่ควรจะถูกด่าประโยคนี้น่าจะเป็นเขามากกว่าไหม เมื่อกี้ฉันเดินออกมาจากห้องน้ำดี ๆ เขาก็เดินมาชนฉันจากด้านหลังจนหัวเกือบทิ่ม
"ใครกันแน่ที่... เฮียลัคกี้!" ครั้นจะเอ่ยปากด่ากลับก็ต้องหยุดเสียงลงเมื่อมองเห็นหน้าตาคนที่เป็นต้นเหตุของเรื่องนี้ชัด ๆ
"เธอ?" เขาเอียงคอมองหน้าฉันหน่อย ๆ ก่อนจะถามคำถามที่ทำเอาฉันเจ็บหัวใจ "เป็นใคร?"
นี่เขาไม่รู้จักฉันจริง ๆ หรือเพราะตอนนี้กำลังเมา? บ้านเราใช้รั้วกั้นร่วมกัน เห็นกันทุกวัน ญาติผู้ใหญ่เราต่างไปมาหาสู่กันแทบจะเจ็ดวันต่อสัปดาห์เขายังถามว่าฉันเป็นใครอีกงั้นเหรอ
"เฮียลัคกี้จำหนูอัยญ์ไม่ได้เหรอคะ" ฉันถามเสียงแผ่ว รู้สึกถึงใบหน้าที่ชา
"หนูอัยญ์?" คล้ายกับเขากำลังนึกคิด "ถ้าไม่เคยขึ้นเตียง ฉันไม่ค่อยจำ"
อ่า... นี่แสดงว่าเขาจะจดจำแค่ผู้หญิงในสต็อกงั้นสิ "เอ่อ อัยญ์ที่อยู่.."
"หลีก! เสียเวลา" เสียงฉันถูกกลืนหายเข้าไปในลำคอตามเดิมเมื่อร่างสูงโปร่งผลักไหล่ฉันเบา ๆ เพื่อให้หลบทาง ก่อนจะเดินสวนออกไปอย่างไม่ใยดี
อึก.. รู้สึกถึงความเจ็บหน่วง ๆ ที่อกด้านซ้าย
แม้ฉันจะไม่ได้สำคัญกับเขาแต่อย่างน้อยในฐานะเพื่อนบ้านกันก็ควรจดจำชื่อกันหน่อยไม่ได้หรือไง "ทำไมให้รอนานนักคะ หญิงคิดถึงลีลาบนเตียงจะแย่อยู่แล้ว"
ครั้นเดินออกมาทางที่ต้องกลับไปหาพวกตรีญ่า เสียงแหลมเล็กก็ดังขึ้นพร้อมผู้ชายที่เพิ่งทำเฉยชากับฉันเมื่อกี้ยืนกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่
"เจอพวกขวางโลก สงสัยอยากจับฉันมั้งเลยยืนให้ท่า"
กึก... ฉันกัดริมฝีปากแน่นเมื่อได้ยินคำกล่าวหาที่ไม่เป็นจริง
"ก็ลัคออกจะฮอตขนาดนี้ ไม่ให้พวกนั้นอ่อยคงยาก" เสียงแหลมของผู้หญิงปากแดงแต่งตัวแรงๆ เอ่ยขึ้น "ก็คงจริง แต่ฉันไม่สนพวกจืดชืด ทำตัวหน่อมแน้ม"
นี่เหรอผู้ชายที่ฉันแอบปลื้มมานาน เขานินทาผู้หญิงลับหลังแบบนี้ได้ยังไง
"คิก ๆ ต้องแซ่บ ลีลาเด็ดเหมือนหญิงใช้มั้ยลัคถึงชอบ"
แล้วฉากเร่าร้อนที่ไม่ควรกระทำต่อที่สาธารณชนก็เกิดขึ้น ฉันได้แต่หลับตาลงช้า ๆ ก่อนจะหันหลังเดินเลี่ยงมาอีกทาง
คงไม่สมหวังแล้วล่ะพรข้อสุดท้ายของวันเกิดปีนี้ ถ้าหากเขาจะเสือผู้หญิงกินไม่เลือกขนาดนั้น