ใจลวงรัก : 2

1279 Words
"ส่วนฉันจะกินเค้กนี้ให้เอง พวกหล่อนจะได้ไม่อ้วน ถือว่าเป็นของขวัญสุดล้ำค่า เนอะ!" ฟิลลิ่งพูดทั้ง ๆ ที่ยังตักเค้กเข้าปาก ทำเอาพวกเราสามคนหัวเราะอย่างเอือม ๆ ในความเนียนนี้ของเธอ "กรี๊ดดด!! สุดหล่อกล้ามบึกของน้องรันมาแล้ว" จู่ ๆ รันรันก็เขย่าไหล่ฉันพร้อมกรี๊ดออกมา "องค์สัตว์มี 'นอ' เข้าสิงอีกแล้วล่ะสิ" ฟิลลิ่งแขวะเข้าให้ พวกเราสามคนมองตามสายตาปิ๊ง ๆ ที่รันรันกำลังโฟกัสจึงเจอเข้ากับสามชายหนึ่งหญิง หนึ่งในนั้นคือคนที่รันรันคลั่งเป็นพิเศษ ไม่รู้ว่าเขาชื่ออะไร รู้แค่ว่าเป็นผู้ชายร่างสูงราวร้อยแปดสิบ ผมสีดำขลับตัดกับสีผิวที่ขาวสะอาดตา ใบหน้าคมเข้ม ท่าทางมาดนิ่ง ดูสุขุมที่สุดในกลุ่ม เพื่อนอีกคนที่อยู่ในกลุ่มรูปร่างสูงโปร่งไม่แพ้กัน ต่างกันตรงที่คนนี้ดูก็รู้ว่าต้องเจ้าชู้ตัวพ่อเพราะท่าทางตาเล็กตาน้อยเวลามองสาวสวยมันฟ้องชัดเจน ส่วนผู้ชายคนสุดท้ายเป็นคนที่ฉันเห็นหน้าคาดตาทุกวัน รูปร่างสูงโปร่งร้อยแปดสิบสองเซนติเมตร ผมสีเทาเข้มจนเกือบดำ ใบหน้าคม คิ้วโก่งดกดำ สันจมูกโด่งรั้นรับใบหน้า ท่าทางนิ่งขรึม ไม่สนโลก ผู้ชายที่ฉันเคยบอกว่าแอบมองที่หน้าต่างทุกวัน และผู้หญิงคนเดียวในกลุ่ม เธอทั้งสวย หุ่นดี ดีกรีนางแบบภาพเซ็กซี่ชื่อดังที่ใคร ๆ ต่างคุ้นหน้าคาดตา ฉันปลื้มพี่เขามากแถมยังเป็นเอฟซีอีกต่างหาก "นี่ ๆ เก็บอาการหน่อย โต๊ะอื่นมองเขม่นแล้ว" ตรีญ่าเรียกสติพวกเราให้กลับมาสนใจรอบข้าง "ใครจะมองก็มองไปสิ ถ้าอยากมีเรื่องก็แค่ลุกมา" รันรันใจห้าวเกินไปแล้ว ฉันล่ะกลัวผู้หญิงโต๊ะนั้นลุกมาหาเรื่องจริง ๆ "ชะนีไหวเหรอ เจ็ดสี่นะคะ" ฟิลลิ่งถาม "แกคนเดียวกลิ้งทับก็ตายหมู่แล้ว" เพียะ!! "โอ้ย!!" "ปากเสีย แบบนี้น่ายุให้พวกนั้นดักตบ" ฟิลลิ่งตีต้นแขนรันรันทันทีที่เธอพูดจาสบประมาท แบบนี้ทุกทีสองคนนี้ "เออตรี ไหนบอกว่าวันนี้ไม่ว่างไง" ฉันเลิกสนใจคู่กัดตรงหน้า หันมาถามตรีญ่าที่นั่งข้าง ๆ ฉันแทน "แผนของรันน่ะสิ แต่จริง ๆ วันนี้ตรีก็ต้องบินเป็นเพื่อนคุณแม่นั่นแหละ แต่พอท่านจำได้ว่าวันนี้วันเกิดหนูอัยญ์ แม่เลยบินไปคนเดียว" ฉันพยักหน้าเข้าใจ "เหมือนอัยญ์สร้างปัญหาเลยอะ" ฉันเป็นคนชอบคิดเล็กคิดน้อยแบบนี้แหละ "บ้า! ไม่มีใครคิดแบบนั้นหรอก พอ ๆ เลิกคิดมาก มาดื่มฉลองกันดีกว่า" ตรีญ่ายื่นแก้วค็อกเทลสีฟ้าสดใสมาให้ ฉันรับมันก่อนที่รันรันและฟิลลิ่งจะชูแก้วขึ้นตาม "สุขสันต์วันเกิดหนูอัยญ์อีกครั้ง ใครไม่หมดแก้ว หมาค่ะ" ฟิลลิ่งเป็นคนนำทีมพูด ก่อนที่พวกเราสี่คนจะกระดกน้ำสีอำพันนั้นลงคอจนหมดแก้ว ไม่รู้ตอนนี้เวลาเดินไปนานแค่ไหน รู้แค่ว่าตอนนี้ฉันหนักหัวมาก เหมือนจะมองอะไรก็โคลงเคลงไปหมด "ขอตัวไปเข้าห้องน้ำแป๊บนะ" พยายามพูดให้เป็นประโยคมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ "เคๆ ไปด้วยป้ะ!?" รันรันถาม สภาพเธอน่าจะหนักกว่าฉันอีกนะ ตาแทบจะลืมไม่ขึ้น หน้านี่แดงปลั่งเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ "ไม่เป็นไร อัยญ์ไหว" ฉันทำท่าโอเคก่อนจะค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนนิ่ง ๆ ประมาณสิบวินาทีค่อยก้าวขาเดิน หมับ.. "ไหวแน่นะอัยญ์" ตรีญ่าที่ไม่ค่อยดื่มเท่าไหร่จับมือฉันไว้พร้อมถาม "ไหว ๆ ตรีดูสองคนนั้นเถอะ" ฉันพยักหน้าให้เพื่อนรักตั้งแต่สมัยมัธยมก่อนจะแกะมือเธอออกแล้วเดินตรงไปยังห้องน้ำ "อ้วก~" โชคดีที่ฉันถึงห้องน้ำทันเวลา ของที่กินเข้าไปเลยถูกปลดปล่อยออกถูกที่ถูกทาง ซ่า...เปิดน้ำตรงก๊อกล้างหน้าก่อนจะวักน้ำเข้าหน้าเรียกความสดชื่นและสติที่เกือบจะล่องลอยกลับมา "ห้าทุ่มสี่สิบ" เพ่งมองนาฬิกาตรงข้อมือตั้งนานกว่าจะมองชัดว่าตอนนี้เป็นเวลากี่โมงกี่ยาม "น่าจะถึงเวลากลับได้แล้วล่ะ ป่านนี้แม่นินคงเป็นห่วงแย่" บอกกับตัวเองก่อนจะตบหน้าเพื่อเรียกสติอีกครั้ง มองซ้ายแลขวาสำรวจสภาพที่กึ่งเมาเห็นว่าเรียบร้อยดีจึงเดินออกจากห้องน้ำเพื่อกลับไปยังโต๊ะที่เพื่อน ๆ รออยู่ ผลัก!! "โอ๊ย! ขอโทษค่ะ" แม้ฉันจะเป็นฝ่ายถูกชนแต่กลับหลุดคำขอโทษออกไปแทน "ซุ่มซ่าม" เสียงทุ้มว่าให้ฉัน แต่เดี๋ยวก่อนนะ! คนที่ควรจะถูกด่าประโยคนี้น่าจะเป็นเขามากกว่าไหม เมื่อกี้ฉันเดินออกมาจากห้องน้ำดี ๆ เขาก็เดินมาชนฉันจากด้านหลังจนหัวเกือบทิ่ม "ใครกันแน่ที่... เฮียลัคกี้!" ครั้นจะเอ่ยปากด่ากลับก็ต้องหยุดเสียงลงเมื่อมองเห็นหน้าตาคนที่เป็นต้นเหตุของเรื่องนี้ชัด ๆ "เธอ?" เขาเอียงคอมองหน้าฉันหน่อย ๆ ก่อนจะถามคำถามที่ทำเอาฉันเจ็บหัวใจ "เป็นใคร?" นี่เขาไม่รู้จักฉันจริง ๆ หรือเพราะตอนนี้กำลังเมา? บ้านเราใช้รั้วกั้นร่วมกัน เห็นกันทุกวัน ญาติผู้ใหญ่เราต่างไปมาหาสู่กันแทบจะเจ็ดวันต่อสัปดาห์เขายังถามว่าฉันเป็นใครอีกงั้นเหรอ "เฮียลัคกี้จำหนูอัยญ์ไม่ได้เหรอคะ" ฉันถามเสียงแผ่ว รู้สึกถึงใบหน้าที่ชา "หนูอัยญ์?" คล้ายกับเขากำลังนึกคิด "ถ้าไม่เคยขึ้นเตียง ฉันไม่ค่อยจำ" อ่า... นี่แสดงว่าเขาจะจดจำแค่ผู้หญิงในสต็อกงั้นสิ "เอ่อ อัยญ์ที่อยู่.." "หลีก! เสียเวลา" เสียงฉันถูกกลืนหายเข้าไปในลำคอตามเดิมเมื่อร่างสูงโปร่งผลักไหล่ฉันเบา ๆ เพื่อให้หลบทาง ก่อนจะเดินสวนออกไปอย่างไม่ใยดี อึก.. รู้สึกถึงความเจ็บหน่วง ๆ ที่อกด้านซ้าย แม้ฉันจะไม่ได้สำคัญกับเขาแต่อย่างน้อยในฐานะเพื่อนบ้านกันก็ควรจดจำชื่อกันหน่อยไม่ได้หรือไง "ทำไมให้รอนานนักคะ หญิงคิดถึงลีลาบนเตียงจะแย่อยู่แล้ว" ครั้นเดินออกมาทางที่ต้องกลับไปหาพวกตรีญ่า เสียงแหลมเล็กก็ดังขึ้นพร้อมผู้ชายที่เพิ่งทำเฉยชากับฉันเมื่อกี้ยืนกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่ "เจอพวกขวางโลก สงสัยอยากจับฉันมั้งเลยยืนให้ท่า" กึก... ฉันกัดริมฝีปากแน่นเมื่อได้ยินคำกล่าวหาที่ไม่เป็นจริง "ก็ลัคออกจะฮอตขนาดนี้ ไม่ให้พวกนั้นอ่อยคงยาก" เสียงแหลมของผู้หญิงปากแดงแต่งตัวแรงๆ เอ่ยขึ้น "ก็คงจริง แต่ฉันไม่สนพวกจืดชืด ทำตัวหน่อมแน้ม" นี่เหรอผู้ชายที่ฉันแอบปลื้มมานาน เขานินทาผู้หญิงลับหลังแบบนี้ได้ยังไง "คิก ๆ ต้องแซ่บ ลีลาเด็ดเหมือนหญิงใช้มั้ยลัคถึงชอบ" แล้วฉากเร่าร้อนที่ไม่ควรกระทำต่อที่สาธารณชนก็เกิดขึ้น ฉันได้แต่หลับตาลงช้า ๆ ก่อนจะหันหลังเดินเลี่ยงมาอีกทาง คงไม่สมหวังแล้วล่ะพรข้อสุดท้ายของวันเกิดปีนี้ ถ้าหากเขาจะเสือผู้หญิงกินไม่เลือกขนาดนั้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD