สายวันต่อมา ครืน ครืน ครืน ได้ยินเหมือนเสียงอะไรสั่นสักอย่าง แต่ตอนนี้ร่างกายฉันร้าวระบมไปหมดจนไม่สามารถที่จะกระดิกไปไหนได้ ครืน ครืน ครืน รอบแรกเสียงสั่นดับไปแล้ว แต่ต่อมาไม่นานก็เกิดการสั่นขึ้นอีก ฉันจึงตัดสินใจกัดฟันรวบรวมแรงที่มี คว้าเอามือถือที่วางไว้บนหัวเตียงมากดรับสาย [ยังไม่ตื่นอีกเหรอลูก] ทันทีที่กดรับสายยังไม่ทันจะได้กรอกเสียงใด ๆ ลงไป แม่นินที่เป็นฝ่ายโทรมาก็ถามไถ่ขึ้นเสียก่อน "กำลังตื่นค่ะ" เสียงงัวเงีย ๆ ตาก็พยายามจะลืมแต่ก็ทำไม่ได้ หัวเริ่มปวดตุบ ๆ พร้อม ๆ กับความรู้สึกร้าวไปถึงกระดูกดำ นี่เมื่อคืนฉันไปผ่านมรสุมอะไรมาเนี่ย ทำไมตื่นเช้ามาถึงได้แฮงค์หนักไร้เรี่ยวแรงแบบนี้ [เดี๋ยวแม่แวะซื้อผ้าเย็นขึ้นไปให้นะลูก ถ้ายังลุกไม่ไหวก็นอนต่อเลยนะ] แม่นินพูดแบบนี้หมายความว่าท่านอยู่กรุงเทพฯ แล้วงั้นสิ "แม่นินกลับมาแล้วเหรอคะ" กรอกเสียงถามลงไป พร้อมกับยกมือกุมขมับตัวเองเมื่อร