เรือนไทยหลังใหญ่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำมีลมพัดโชยมาเอื่อย ๆ เย็นสบาย รอบบริเวณบ้านมีทั้งไม้ดอกและไม้ผลมากมาย ยิ่งส่งให้บ้านเรือนไทยยิ่งน่าอยู่ขึ้นเป็นกอง แว่วเสียงคุยกันเบา ๆ และเสียงหัวเราะมาตามสายลม
“ นึกถึงตอนนั้นแล้วก็ขำเนาะ ฉันทำไปได้ยังไง ขโมยปิ่นโตข้าวครูมากิน ”
“ ก็แกมันเซี้ยว ”
ตามมาด้วยเสียงหัวเราะร่วนของหญิงวัยหกสิบห้าปีสองคน คนหนึ่งนั้นสวมผ้าถุงและเสื้อผ้าฝ้าย มวยผมสีดอกเลาขึ้นไปบนศีรษะ ส่วนอีกคนนั้นสวมกางเกงและเสื้อเชิ้ต ผมถูกตัดเซ็ทและย้อมดำ ทั้งสองต่างกันโดยสิ้นเชิง อีกคนมีความเนิบนาบนุ่มนิ่มสมวัย อีกคนยังดูอ่อนกว่าวัยและคล่องแคล่วมาก ทั้งสองกำลังคุยกันเรื่องความหลังตั้งแต่วัยเด็กอย่างออกรส
จันทา คือหญิงสูงวัยผู้สวมผ้าถุงเจ้าของบ้านเรือนไทยหลังใหญ่ริมแม่น้ำแห่งหนึ่งในเมืองสุโขทัย ส่วนอีกคนคือลลนา เพื่อนของเธอผู้มาเยือนจากกรุงเทพฯ ซึ่งเดิมทีนั้นเธอก็เกิดที่นี่ แต่เมื่อเข้าสู่วัยสาวได้มีโอกาสเข้าสู่เมืองกรุงแล้วโชคดีได้สามีเป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ร่ำรวยเป็นอันดับต้น ๆ ของเมืองไทยซึ่งเขาเสียชีวิตไปเมื่อสามปีก่อน ลลนาจึงกลายเป็นแม่หม้ายทรงเครื่องผู้ร่ำรวยมหาศาล แต่เธอไม่เคยลืมตัวแต่อย่างใด ยังคงกลับมาเยี่ยมบ้านเกิดและเพื่อนรักตั้งแต่สมัยเรียนประถมอย่างจันทาอยู่เสมอ
ลลนานั้นมีบุตรชายเพียงคนเดียวคือทิศารัช เมื่อถึงวัยเรียนมหาวิทยาลัยก็ส่งเสียกันไปเรียนที่อังกฤษตามแบบฉบับของผู้ดีมีเงิน แล้วเขาก็ไปคว้าสาวสเปนคนงามมาเป็นภรรยามีบุตรชายด้วยกันหนึ่งคนชื่อ เทรเวอร์ หรือชื่อไทยว่าทศทิศ ซึ่งลลนาผู้มีศักดิ์เป็นย่าเป็นผู้ตั้งให้ เคราะห์ร้ายตอนหลานชายอายุได้เพียงแปดปี พ่อแม่ของเขาประสบอุบัติเหตุทางรถเสียชีวิตคาที่ทั้งคู่ คุณย่าลลนาจึงไปรับตัวหลานมาจากอังกฤษเพื่อมาเลี้ยงดู
ด้วยความรักและสงสารหลานชายเหลือเกินที่ต้องเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่ยังเด็ก ประกอบกับทรัพย์สินที่มีล้นหลามใช้ไปอีกสามชาติก็ไม่หมด เธอจึงประเคนทุกสิ่งอย่างให้กับทศทิศดั่งเขาเป็นเทวดา ตามใจทุกอย่าง เด็กชายทศทิศกลายเป็นคนเอาแต่ใจ ไม่ตั้งใจเรียน กว่าจะเข็นกันให้จบมัธยมปลายก็ยากเย็นแสนเข็ญ คุณย่าส่งเสียให้เรียนระดับมหาวิทยาลัยซึ่งก็เป็นเอกชนอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย เขาก็ไม่ตั้งใจเรียน ย้ายคณะย้ายมหาวิทยาลัยเป็นว่าเล่น จนตอนนี้อายุย่างยี่สิบห้าปีแล้ว ย้ายที่เรียนมาห้าที่ ตอนนี้ก็ยังอยู่ที่ปีหนึ่งมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งไม่ไปหน้ามาหลัง การที่ทศทิศยอมไปมหาวิทยาลัยนั้นมีจุดประสงค์อยู่อย่างเดียวคือไปหาผู้หญิงสวย ๆ มาเป็นคู่ควงและคู่นอนก็เพียงเท่านั้น ด้วยความที่เขาเป็นลูกครึ่งไทยสเปนจึงทำให้ทศทิศหล่อเข้มเหลือร้าย ยิ่งบ้านรวย มีรถหรูขับ สาว ๆ ยิ่งวิ่งเข้าใส่ ทศทิศจึงเป็น เพลย์บอยตัวพ่อ เปลี่ยนคู่นอนเป็นว่าเล่น
ส่วนจันทา ผู้เป็นเพื่อนสนิทของลลนานั้นมีชีวิตเงียบสงบ สิ่งที่ทั้งคู่คล้ายคลึงกันก็คือการตกเป็นพุ่มหม้าย ลลนาแต่งงานกับชายชาวสวนอันเป็นที่รักที่เป็นคนสุโขทัยด้วยกันแล้วเขาก็มาด่วนจากไปตั้งแต่สิบปีที่แล้ว สามีเธอถึงแม้จะเป็นชาวสวนแต่เขาเป็นผู้มีอันจะกินเลยทีเดียว ทั้งที่ทางมากมายที่มี ให้เช่าทั้งในเมืองและเรือกสวนไร่นา เพียงเก็บค่าเช่าก็อยู่ได้สบาย ยิ่งจันทานั้นอยู่อย่างพอเพียงก็ยิ่งไม่ลำบากอะไร นอกจากนั้นเธอยังจ้างแม่บ้านมาช่วยดูแลบ้านคนหนึ่งชื่อศรีอีกด้วย
เธอมีลูกสาวคนเดียว คือ รจนา เมื่อถึงวัยอันสมควรก็ออกเรือนไปกับผู้ชายที่เธอรักและมีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคนคือ สีดา แต่เมื่อสีดาอายุสามขวบ พ่อของเธอกลับพบว่าเป็นมะเร็งในเม็ดเลือดแล้วจากไปด้วยเวลาอันรวดเร็ว เคราะห์ซ้ำกรรมซัด รจนาคงจะตรอมใจมาก เธอกินไม่ได้นอนไม่หลับจนร่างกายผ่ายผอม สุดท้ายร่างกายผิดปกติแล้วจากไปด้วยติดเชื้อในกระแสเลือด ทิ้งเด็กหญิงสีดาให้ผู้เป็นคุณยายได้เลี้ยงดู
คุณยายจันทานั้นก็รักและเป็นห่วงสีดาไม่แพ้ที่ลลนาเป็นห่วงหลานชายเลย เพียงแต่ความรักของเธอถูกแสดงออกมาต่างกัน เธออบรมหลานให้เป็นเด็กดี มีมารยาท มีกิริยามารยาทเรียบร้อยสมเป็นกุลสตรีไทยทุกกระเบียดนิ้ว รู้จักประหยัดอดออม
สีดาไม่ทำให้คุณยายผิดหวังเลยเพราะเธอเรียบร้อย น่ารัก เรียนเก่ง จวบจนจบชั้นมัธยมปลายเธอสอบชิงทุนไปเรียนที่ประเทศอังกฤษได้ เป็นทุนพิเศษที่ออกให้ทั้งค่าเล่าเรียน ค่าที่พัก ค่าอาหาร เธอจึงไม่ได้รบกวนเงินคุณยายแม้แต่บาทเดียว นอกจากนั้นเธอยังทำงานพิเศษที่ร้านอาหารไทยอีกด้วย ซึ่งตอนนี้หญิงสาวอายุสิบเก้าผู้นี้ปิดเทอมแล้วกลับมาเยี่ยมบ้าน อีกทั้งมีความคิดว่าจะมาเรียนสูตรอาหารไทยเพิ่มเติมเพราะเธอพอมีฝีมือในการทำอาหารจนเจ้าของร้านอาหารที่อังกฤษให้โอกาสเธอได้ทำให้ลูกค้าบ่อย ๆ จนติดใจ ถ้าหากเธอทำอาหารไทยได้หลากหลายขึ้นก็จะทำให้ได้ค่าจ้างมากขึ้นและอาจขยับขยายต่อไปได้ในอนาคต
ขณะการสนทนากำลังออกรถ หญิงสาวร่างบางผิวขาว ตากลมโตที่สวมแว่นทับ หน้าใส ไร้การแต่งแต้มใด ๆ เธอนุ่งผ้าถุงเช่นเดียวกับคุณยายของเธอ สวมเสื้อแขนกุดสีขาว ยกถาดของหวานมาวางต่อหน้าหญิงกลางคนทั้งสอง
“ นี่ค่ะคุณยาย คุยกันนาน ๆ เดี๋ยวเสียงหาย หนูทำกระท้อนลอยแก้ว มาให้ เติมน้ำเชื่อมลอยดอกมะลิกับน้ำแข็งป่นลงไปอีกนิด อร่อยชุ่มคอดีมากเลยค่ะ อันนี้กล้วยเล็บมือนางกับมังคุดในสวนค่ะ คุณยายนาลองทานดูนะคะ หอมหวานมากเลย ” สีดาโฆษณาอาหารหวานตรงหน้าพลางวางลงแล้วตักแบ่งใส่ถ้วยส่งให้ ลลนาหรือคุณยายนาของเธอยิ้ม
“ ทำไมยายไม่มีหลานสาวน่ารักแบบนี้บ้างน้า อิจฉาแกจริง ๆ ว่ะจัน ไอ้ที่มีอยู่ก็เหลือเกิ๊น ทำตัวเป็นพ่อพวงมาลัยลอยไปลอยมา ไม่เป็นหลักเป็นฐาน ”
“ ไม่ต้องไปโทษหลานหรอก แกเองคงจะตามใจกันจนเคยตัวล่ะสิ ”
“ เออนั่นแหละ ฉันมันขี้ใจอ่อน พอจะดุมันทีไรเจอมันอ้อนนะ ใจอ่อนทุกที ก็เลยเป็นอยู่อย่างนี้ไง จะเบญจเพสอยู่แล้วยังเรียนปีหนึ่งวนไปวนมาอยู่อย่างนั้นแหละ วนไม่รู้กี่มหาวิทยาลัยแล้ว ”
“ เอ้า เผลอแป๊บเดียวจะยี่สิบห้าแล้วเหรอ ตอนนั้นที่แกเคยพามายังตัวเล็ก ๆ อยู่เลยนะ แต่ว่ามีแววหล่อมาแต่เด็กเลย ตอนนี้เป็นไง ท่าทางจะหล่อเข้มเชียวสิ แม่เค้าเป็นสาวสเปนเสียด้วย ”
“ ก็เพราะหล่อนี่แหละ ถึงไม่ไปหน้ามาหลัง วัน ๆ มีแต่เรื่องผู้หญิง มีแต่สาว ๆ มาล้อมหน้าล้อมหลัง ไอ้เราก็ไม่รู้จะทำยังไง นี่แกรู้ไหม ฉันกลัวมันจะติดโรคตายเลยต้องซื้อถุงยางอนามัยใส่ตู้ไว้ให้มันทีเยอะ ๆ เลยนะ ”