ชั่วโมงต่อมา
บรรยากาศอึดอัดตอนอยู่ในร้านอาหารญี่ปุ่น ดูผ่อนคลายขึ้นมากตอนที่ฉันกับเขาคนนั้นออกมาจากร้าน คนตัวโตไม่พูดอะไร แต่ท่าทางสบายๆและรอยยิ้มมุมปาก ทำให้ฉันรู้ว่าเขาอารมณ์ดีขึ้นกว่าเดิม ส่วนฉันนะเหรอ หงุดหงิดกว่าเดิมนะสิ
ตอนที่กินข้าวกับเขาอยู่ หมอแจ้งผ่านทางข้อความเข้ามา ว่าฉันต้องรีบหาเงินทั้งหมด ไปจ่ายค่ารักษาของยายภายในสองวัน
“จะเอาอะไรเข้าไปกินข้างในไหม?”
“ไม่ค่ะ อะ! ไม่”
“งั้นเข้าไปเลยนะ”
หมับ!
“เดี๋ยวสิคะ”
“?”
ดวงตาสีดำลึกลับเหลือบมองมือที่ดึงรั้งชายเสื้อของตัวเอง ก่อนจะคลี่รอยยิ้มที่ทำให้ฉันรู้สึกขนลุก ราวกับว่าเขารอเวลานี้อยู่ตลอด ดวงตาสีดำคู่นั้น บอกให้ฉันคิดแบบนั้นจริงๆ
“หนึ่งแสน”
“ทั้งคืน?”
“ทั้งคืนเลยเหรอ?”
“จ่ายแพงขนาดนั้น ก็ต้องทั้งคืนอยู่แล้ว”
“อ่า ค่ะ”
“งั้น…ไม่ดูหนังแล้วนะ”
“ค่ะ”
มือใหญ่คว้าข้อมือฉันไปจับ เขาแทบไม่ต้องออกแรงเลย ขาของฉันก็ก้าวตามไปง่ายๆ ในขณะที่สมองฉันคิดหาเหตุผลมาหักล้างความคิดก่อนหน้า แต่ไม่ว่าจะคิดยังไง ฉันก็ยังคงเลือกทางเลือกเดิม
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
รถยนต์แบบสปอร์ตคาร์สมรรถนะเยี่ยม ขับมาถึงโรงแรมซึ่งอยู่ไม่ไกลจากห้าง ฉันมองคนข้างๆ ก่อนจะเบือนหน้าหลบสายตาคู่คม เสียงลมหายใจถูกเขาพ่นออกมาแรงๆ เขากระชากแขนฉันดึงเข้าไปใกล้ ดวงตาสีดำลึกล้ำ จ้องเข้ามาราวกับจะมองให้มันทะลุถึงข้างใน
“ทำไมทำหน้าแบบนั้น?”
“ก็ เปล่านี่คะ”
“ฉันจ่ายเงินนะไม่ได้เอาฟรี ทำหน้าให้มันดีๆหน่อยสิ แบบนี้ใครมันจะมีอารมณ์”
“ขะ ขอโทษ”
“เห้อ! ไม่เป็นมืออาชีพเลยว่ะ ยกเลิกเลยไหม!”
“ยะ อย่านะ!”
ฉันคว้าเสื้อเขาไว้แน่น มองด้วยสายตาอ้อนวอนไม่ให้เขาเปลี่ยนใจ รู้สึกว่าผิดมหันต์ที่ทำแบบนั้นลงไป เพราะรอยยิ้มมุมปากที่ดูแสนเจ้าเล่ห์ของเขา
“ถ้าอยากได้เงิน ก็ทำตัวให้มันน่ารักๆหน่อย ฉันยิ่งหงุดหงิดง่ายอยู่ เข้าใจไหม?”
หงุดหงิดง่ายแล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันเล่า!
ฉันอยากตะโกนใส่หน้าหล่อเหลาแสนเจ้าเล่ห์แบบนั้น แต่สิ่งที่ฉันทำกลับเป็นสิ่งที่ตรงกันข้าม อย่างเช่นการเผยรอยยิ้มที่ใครหลายคนบอกว่ามีเสน่ห์ที่สุด เขาคนนั้นชะงักไปเกือบสิบวิ แต่ไม่นานก็ทำหน้าตึงใส่
“เข้าไปก่อน บอกพนักงานว่าขอห้องสวีท”
“ทำไมคุณไม่ไปจัดการเองล่ะ?”
“ฉันมีหน้าที่แค่จ่ายเงิน”
“ชิ! ค่าห้องฉันไม่จ่ายนะคะ เอาเงินมา”
เขาค้นหาเงินในรถออกมายื่นให้จำนวนหนึ่ง ซึ่งมันน่าจะมีมากกว่าหนึ่งหมื่นแน่ๆ ฉันจึงรีบคว้าเงินก้อนนั้นไว้ แล้วเปิดประตูรถเขาลงไป ไอ้อาการประหม่ายังไม่หายไป ฉันยังรู้สึกไม่ดีที่ต้องเลือกทางนี้ให้ตัวเอง
แต่… ฉันเลือกทางอื่นได้ด้วยเหรอ มีวิธีไหนที่ฉันจะหาเงินจำนวนนั้นได้ภายในสี่วันกัน
“สวัสดีค่ะ ติดต่อเรื่องอะไรหรือต้องการห้องพักแบบไหนคะ?”
“เอ่อ… ขอห้องสวีทค่ะ”
“สักครู่นะคะ”
พนักงานสาวสวยทำอะไรบางอย่างกับจอคอมพิวเตอร์ของเธอ ไม่นานก็เงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ฉัน
“ค้างคืนหรือเปล่าคะ?”
“ค่ะ”
“รับอาหารเย็นไหมคะ?”
“อ่า ก็ได้ค่ะ”
“ค่ะ คุณลูกค้า เมนูอยู่ตรงนี้นะคะ รับเป็นอะไรดีคะ?”
ฉันรู้สึกว่าตัวเองเสียเวลาอยู่ตรงนี้นานเกินไป ฉันไม่เคยเข้าโรงแรมหรูขนาดนี้ และไม่เคยต้องมาทำอะไรแบบนี้ให้ใคร ฉันกำลังโกรธคนที่ปล่อยให้ฉันต้องมาเสียเวลาตอบคำถาม ส่วนเขาที่ต้องการทำอะไรกับฉัน ได้รออยู่ในรถแบบสบายๆ
ไลน์
FR : อีกนานไหม
K : ทำไมคุณไม่มาจัดการเองล่ะ พนักงานถามอะไรก็ไม่รู้
FR- : ทำอย่างกับไม่เคย
“เออ! ก็ไม่เคยนะสิ!” ฉันร้องเสียงหลง ถ้าเคยฉันก็รู้เรื่องมากกว่านี้แล้วสิ
“คะ? มีอะไรเหรอคะ?”
“ปะ เปล่าค่ะ ฉันพูดคนเดียว อาหารน่าจะไม่ต้องแล้วค่ะ เพราะเรากินมาแล้ว ขอแค่กุญแจห้องก็พอค่ะ เท่าไหร่คะ?”
“อ่า ค่ะ 11,200 ค่ะ”
“นี่ค่ะ ไม่ต้องทอนค่ะ”
ฉันนับเงินยื่นไปให้เธอมากกว่าค่าห้อง บอกเสร็จก็รับเอาคีการ์ดมากำไว้ พนักงานอีกคนซึ่งอยู่ไม่ไกล เดินมานำทางฉันไปขึ้นลิฟต์ เมื่อมาอยู่ในลิฟต์เขาก็จัดการกดหมายเลขชั้นให้ด้วย
ฉันจัดการพิมพ์ข้อความบอกคนที่มาด้วยกัน ว่าชั้นที่กำลังขึ้นไปคือชั้นไหน แล้วหมายเลขห้องคืออะไร การที่ฉันกับเขาเข้าไปคนละเวลามันดีต่อตัวฉันมาก ฉันไม่อยากให้ใครรู้หรอก ว่าฉันมาที่นี่เพื่อทำอะไร และมากับใคร
แก๊ก!
เพียงแค่แตะคีย์การ์ดเข้ากับเครื่องแสกนที่ติดอยู่ข้างๆ ประตูก็ถูกปลดล็อกทันที หัวใจฉันเต้นแรงราวกับจะระเบิดออกมา ยิ่งตอนที่ก้าวขาผ่านธรณีประตูเข้าไปข้างใน ยิ่งรู้สึกว่าร่างกายเหมือนจะหมดแรงลงไปดื้อๆ
“ช้า!”
“อะ! มาเร็วจัง อะ!”
ตกใจการมาของเขาได้ไม่นาน ก็ต้องตกใจเพราะการกระทำของเขา ไม่รู้ว่าเขาเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน ถึงได้ยกฉันขึ้นวางบนเคาน์เตอร์ที่อยู่ใกล้ๆทางเข้า ด้วยแขนเพียงข้างเดียว
“ก่อนจะมาฉันอาบน้ำแล้ว เธอล่ะ?”
“ฉันก็อาบแล้วเหมือนกันค่ะ”
ฉันก้มหน้าลงมองแผ่นอก ที่โผล่พ้นออกมาจากเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวสะอาดตา ละสายตาออกจากตรงนั้นแทบไม่ทัน เมื่อเห็นความกำยำของร่างกาย เขาดูสูงโปร่งแท้ๆ ไม่คิดเลยว่าจะซ่อนมัดกล้ามไว้ด้านในเยอะขนาดนั้น
“… เธอจะช้าเพื่อ?”
“ฉัน… ฉันต้องได้เงินก่อนนะ”
คำตอบของฉันทำให้เขาหัวเราะหึๆในลำคอ ร่างสูงผละออกห่างเล็กน้อย จากนั้นก็ล้วงเอาโทรศัพท์ออกมา วุ่นวายอยู่กับมันไม่นาน เขาก็เลิกคิ้วใส่ฉัน
“เลขบัญชี?”
“พร้อมเพย์ 088xxx xxxx”
“เท่าไหร่นะ?”
“แสนหนึ่ง!”
ติ๊ง!
ฉันล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋าออกมาเปิดดู เมื่อเห็นยอดเงินเข้าตามที่ตกลงกัน ก็เผลอยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ แต่โล่งใจได้แค่ไม่นานเท่านั้น คนตัวโตตรงหน้าก็ดึงฉันกลับมาสู่โลกแห่งความจริง
“หวังว่าเธอจะทำให้ฉันรู้สึกคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปนะ!”
ฉันต้องเป็นฝ่ายทำเหรอ! ให้ตาย! แล้วแบบนี้เขาจะเรียกเงินคืนไหมอะ ในเมื่อฉันไม่มีประสบการณ์เลยสักอย่าง อย่าว่าแต่เซ็กส์เลย แค่จูบฉันยังไม่เคยอะ แต่จะให้เขารู้ว่าฉันเป็นแค่ไก่อ่อนไม่ได้ ถ้าหากเขาไม่พอใจ เขาอาจจะบังคับเอาเงินคืนจากฉันก็ได้
“เรื่องนั้น เอาไว้ทำเสร็จก็จะรู้เองนั่นแหละ”
ฉันแสร้งเล่นละครให้มันดูกร้านโลก ด้วยการยกมือขึ้นโอบรอบลำคอเขา จากนั้นก็ดึงเข้ามาใกล้ กระซิบข้างใบหูด้วยการทำเสียงให้พร่าลง ผละออกนิดๆ เมื่อเขาช้อนสายตาขึ้นมอง
“งั้นเหรอ”
หมับ!
“อ๊ะ! เบาๆหน่อยสิ”
ฝ่ามือใหญ่ขย้ำหน้าอกฉันอย่างแรง ทั้งที่บอกให้เบามือ แต่เขาเหมือนไม่คิดที่จะฟังฉันเลย แรงขย้ำมีมากขึ้น ซ้ำยังคลึงหนักๆทั้งสองข้างพร้อมกันอีก จากที่ครางห้าม ตอนนี้เริ่มมีความรู้สึกใหม่ๆเข้ามาแทนที่
“อึก อือ เจ็บ!”