กว่าจะกลับถึงบ้านก็ค่ำพอดี เชอร์รีนแอบเอาเงินไว้ให้ชาลีน้องชายของเธอเพื่อให้เอาไว้ใช้ดูแลแม่ เพราะไม่ได้ให้แม่ไว้เยอะเพราะรู้ว่าเดี๋ยวพ่อเล่นการพนันเสียแล้วจะมาขู่เอาที่แม่ไปหมด ชาลีจึงเป็นคนที่ทำหน้าที่แอบเก็บเงินและเอาออกมาใช้เมื่อยามจำเป็นเท่านั้น
พวกเขาเดินเข้ามาในบ้านกันอย่างอารมณ์ดีเชอร์รีนได้รับความอบอุ่นจากวาคิน จนเกือบลืมไปว่าพวกเขาอยู่ในฐานะอะไรกัน ท่าทีที่พวกเขาแสดงออกมาตอนเดินเข้าบ้านมันหวานเยิ้มเสียจนเป็นที่ผิดสังเกตจากผู้เป็นน้องชาย
ใบหน้าหล่อเหลากลับบูดบึ้งเมื่อรู้สึกเหมือนถูกแย่งความรักไป ทั้งๆ ที่เขาพึ่งจะเปิดใจให้เชอร์รีนแต่เธอกลับไปทำหน้าระรื่นมีความสุขกับพี่ชายเขาจนลืมเขาไปชั่วขณะ ยิ่งคิดก็ยิ่งน้อยใจ
“กลับค่ำกันเชียว คงจะสนุกกันมากสินะ” น้ำเสียงค่อนขอดและประชดประชันกับท่าทีหงุดหงิดของวายุทำให้พวกเขาทั้งคู่หุบยิ้มแทบไม่ทัน
“เอ่อ…คุณวายุ คุณมานั่งทำอะไรตรงนี้คะ” เธอถามมาได้ไงว่ะ ก็มานั่งรอเธอนั่นแหละเขาคิดในใจแต่ไม่ได้พูดออกมาเพียงแต่ทำหน้าบึ้งตึงแทน
“หิวข้าว ไปหาอะไรมาให้กินหน่อยสิ” เขาไม่รู้จะใช้มุกไหนเพื่อให้เชอร์รีนสนใจเขา เขาคิดได้แค่นี้จริงๆ
“เฮ้ยไอ้วายุ หิวก็ไปสั่งแม่บ้านดิ จะมาใช้เชอร์ทำไม” ผู้เป็นพี่ชายเริ่มหัวเสียกับอาการของคนเป็นน้องอย่างเห็นได้ชัด
“ทำไมล่ะ พี่ยุ่งอะไรด้วย ผมอยากให้แม่เลี้ยงทำให้กิน” เขาไหวไหล่ใส่ผู้เป็นพี่ชายและไม่สนน้ำเสียงดุดันกับแววตาจริงจังนั่นสักนิด
“ให้มันน้อยๆ หน่อยไอ้วายุ” พี่ชายกำลังจะขึ้นเสียงใหญ่โต เชอร์รีนเห็นท่าไม่ดีต้องรีบห้ามปรามก่อน
“ไม่เป็นไรค่ะ เชอร์ไปทำเอง คุณวายุอยากทานอะไรคะ” เชอร์รีนรีบสงบศึกก่อนจะบานปลายไปมากกว่านี้
“สปาเกตตีครับ” เขายิ้มอย่างน่ารักใส่เชอร์รีนแล้วน้ำเสียงออดอ้อนจนทำให้เธอแอบใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
“ได้ค่ะ เดี๋ยวเชอร์เข้าครัวให้ คุณวายุรอตรงนี้นะค” ะ เธอยิ้มให้เขาอย่างเอียงอาย ดาเมจรอยยิ้มล้นหลามจนทำให้ใจชายหนุ่มเต้นตึกตักไม่เป็นจังหวะเช่นเดียวกัน เกิดอะไรขึ้นกับเขาตัวเขาเองก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ
“งั้นผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะครับ” ผู้เป็นพี่ชายบอกเชอร์รีนอย่างอ่อนโยนและขอตัวขึ้นห้องไป
เชอร์รีนเข้าไปที่ครัวเพื่อทำอาหารให้ลูกเลี้ยงจอมเจ้าเล่ห์และขี้อ้อน
“นี่ ไปไหนมาทั้งวันเลยรู้มั้ยว่าฉันคิดถึง” วายุเข้ามาโอบกอดจากด้านหลังจนทำให้เชอร์รีนสะดุ้ง
“คุณวายุ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้านะคะ” เชอร์รีนบอกอย่างเอียงอายใบหน้านวลขาวแดงก่ำกับการถูกกอดแบบไม่ให้ตั้งตัว
“ก็คิดถึงอ่ะ เธอเล่นแอบหนีไปเที่ยว” เขาไม่กอดเปล่ารอบนี้เขาซุกจมูกมาหอมแก้มเชอร์รีนอย่างเอาแต่ใจ
“อุ๊ย คุณวายุ อื้อ อย่าทำแบบนี้ค่ะ” เขากอดรัดแน่นขึ้นปานไม่ได้เจอเธอเป็นเดือนความหอมของเชอร์รีนยังปลุกเร้าเขาเสมอแม้จะเย็นขนาดนี้
“หอมที่สุด” เขาซุกจมูกมาที่แก้มอีกข้างแล้วเลียมาที่ใบหูเบาๆ เล่นเอาสาวจ้าววาบหวามหนักหน่วง ทำไมเขาขี้อ้อนขนาดนี้นะ นี่คือตัวตนที่แท้จริงของเขางั้นหรอ น่ารักจังเธอยิ้มให้เขา
“ปล่อยก่อนค่ะ เชอร์จะทำกับข้าวให้คุณนะคะ” เธอเอียงอายและหลบสายตาสีดำคมกริบของเขา
“มันก็แค่ข้ออ้างแหละเชอร์ เธอนี่ไร้เดียงสาขนาดที่คิดว่าฉันพูดจริงงั้นหรอ” เขายิ้มแป้นบอกความจริงอย่างเจ้าเล่ห์
“กะ ก็…งั้นคุณวายุปล่อยเชอร์ก่อนค่ะ” เธอเริ่มต่อรองเขาเพราะมือใหญ่ยุ่งหนุบหนับพันลวันและซุกซนกับอกอิ่มของเธอจนมันจะเกินพอดี
“ทำยังไงก่อน” เขาป่องแก้มขึ้นมาข้างหนึ่งเพื่อบ่งบอกว่าต้องการให้เธอหอมลงไปเขาถึงจะปล่อย
ฟอด เชอร์รีนประกบปากปางลงไปที่แก้มของคนตัวใหญ่ที่ออดอ้อนเธอสุดกำลัง แล้วเธอก็เขินตัวบิดอยู่ตรงนั้น
“น่ารักที่สุด” เขาพูดแล้วจุ๊บมาที่ปากเธอและปล่อยเธอเป็นอิสระ เชอร์รีนยังหน้าแดงไม่หายไม่คิดว่าคนหยาบกระด้างอย่างวายุจะเป็นคนขี้อ้อนได้ขนาดนี้ เธอมองเขาด้วยแววตาแห่งความรักคับใจแล้วก้มลงทำอาหารต่อ
“คุณวายุราดซอสอะไรคะ” เธอถามขึ้นมาขณะที่เขากำลังนั่นรอเธออย่างใจจดใจจ่อบนเก้าอี้ที่มีโต๊ะหินอ่อนตัวใหญ่รองรับ
“ไวท์ครีมครับ” พระเจ้าหมอนี่พูดครับด้วยงันหรอ เชอร์รีนหน้าร้อนผ่าวกับคำพูดคำจาและท่าทีอ่อนอ้อนปานลูกแล้วก็ไม่ปานของเขา
เธอก้มลงทำอาหารต่อจนเสร็จแล้วเสิร์ฟให้เขาอย่างเขินอาย
เธอนั่งเฝ้าเขาทานจนหมด แล้วยิ้มอย่างพอใจเมื่อเขาชมว่าอร่อย
แย่ละสิ ไม่ใช่แค่พวกเขาหรอกที่รู้สึกว่าเชอร์รีนมีอิทธิพลกับชีวิตเขา
เชอร์รีนเองก็รู้สึกว่าพวกเขามีอิทธิพลกับชีวิตของเธอมากเช่นกัน
.
.
เช้าวันต่อมา วายุกับเชอร์รีนไปเรียนด้วยกันเหมือนเคย จนพวกเพื่อนๆ ของวายุและเชอร์รีนแอบสงสัยในความสัมพันธ์ไม่ได้ เพื่อนของวายุไม่เท่าไหร่ เพราะพวกเขาก็พอเข้าใจกิตติศัพท์ของวายุลูกเจ้าพ่อ ว่าเขาใช้ผู้หญิงเปลืองเป็นว่าเล่น แต่ไอ้การพามาด้วยทุกวันแบบนี้ไม่เคยมีตั้งแต่เรียน ปี 1 มา
ส่วนเพื่อนของเชอร์รีนก็อยากถามใจจะขาดแต่ก็ไม่มีโอกาสได้ถามดีๆ สักครั้งเพราะเชอร์รีนมักบอกปัด และช่วงนี้เธอก็ยุ่งกับการปั่นงานส่งอาจารย์ด้วย
เมษา เพื่อที่คบกับเชอร์รีนมาตั้งแต่ ปี1 เป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยถามเซ้าซี้
จีน่า เพื่อนคนนี้ก็คบกันมาตั้งแต่ ปี1 จีน่ากินผู้ชายแทนข้าวเลยก็ว่าได้แต่ถ้าไม่ติดบ้าผู้ชายก็ถือว่าเป็นเพื่อนที่ดีคนหนึ่ง
คนสุดท้าย บอลลี่ จริงๆ ชื่อบอล แต่เรียกบอลเฉยๆ นางจะโกรธมาก ต้องเติมลี่ให้ทุกครั้ง คนนี้เป็นเพื่อนสาว กินผู้ชายพอๆ กับจีน่าเลย แต่เป็นเพื่อนที่พึ่งพาได้สุด และคบกันมาตั้งแต่มัธยม ละแวกบ้านอยู่ใกล้ๆ กันด้วย ถึงเขาจะพอรู้เรื่องเชอร์รีนแต่เขาก็ไม่ปริปากออกมา ด้วยกลัวเพื่อนจะเสียหาย
นั่นแหละค่ะ รายชื่อเพื่อนสนิทของเชอร์รีน
แต่เชอร์รีนก็ยังคงเป็นเชอร์รีน ถ้าไม่ถึงที่สุดเธอก็ไม่เล่าเรื่องส่วนตัวออกมาให้ใครรับรู้
เพื่อนๆ เลยได้แต่นอนเก็บความสงสัยไว้ในใจพลางโบกมือให้เธอที่กำลังเดินเข้ามาหาพวกเขา
.
.