“ปั้นหยา เกิดอะไรขึ้นครับ ไปตกน้ำได้ยังไงใครทำ”
“มีเรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อยค่ะก็เลยตกน้ำแต่เคลียร์แล้วค่ะ ไม่มีอะไรแล้ว”
“ใครเคลียร์กับเธอ!” ฉิบหาย! อีหยานึกว่าไปผุดไปเกิดอยู่ใต้หนองน้ำของคฤหาสน์ใหญ่แล้วซะอีก แม่งเอ๊ย! ตามมาหลอนขนาดนี้ติดใจความสวยของปั้นหยาเหรอไอ้พี่กราฟ!
“มึงเป็นคนทำน้องเขาตกน้ำเหรอ” พี่กันต์หันไปถามด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตรกับไอ้พี่กราฟทันทีที่เห็นหน้า
“เออ กูผลักยัยนี่ตกลงน้ำเองโทษฐานที่กล้าเสนอหน้าไปใกล้ปาร์ตี้ของกู” น้ำเสียงพี่กันต์ว่าไม่เป็นมิตรแล้วน้ำเสียงไอ้พี่กราฟโคตรไม่เป็นมิตรยิ่งกว่าค่ะ แค่ได้ยินสองประโยคก็รู้แล้วว่าสองคนนี้ไม่ได้กินเส้นกัน
“ไอ้เหี้ยกราฟมึงมีสิทธิ์อะไรวะ!”
“สิทธิ์ที่กูเป็นเจ้าของบ้านไง มีมดเหลือบไรเข้ามาในบ้านของกูกูจะจัดการยังไงก็ได้” โคตรจุก! ว่ากูเป็นมดเป็นเหลือบเป็นไรเหรอ? โถ~ ไอ้เห็บหมา! ได้แค่ด่าในใจถึงแม้จะคันปากยิบ ๆ แต่ก็ต้องให้เกียรติพี่กันต์ซึ่งฉันเองก็เพิ่งรู้จักได้ไม่ถึงชั่วโมง
“มากไปแล้วนะไอ้กราฟ นี่ผู้หญิงนะ!” พี่กันต์ตรงดิ่งเข้าไปยืนเผชิญหน้ากับไอ้พี่กราฟ ฉันเห็นพี่เขากำหมัดจนเห็นเส้นเลือดแถมยังสั่น คงกำลังพยายามควบคุมอารมณ์
“แล้วไงวะ ไม่ใช่แม่กูนี่ แก่ ๆ อย่างแม่มึงกูยังไม่เกรงใจเลย” ไอ้... เขาพูดด้วยน้ำเสียงยียวนกวนประสาทสุดๆ ใส่หน้าพี่กันต์จนพี่กันต์ง้างหมัดขึ้นมา เอาเลยต่อยมันเลย!
“กราฟคะ ไปเถอะเดี๋ยวจะถึงเวลาเป่าเค้กแล้วนะ” จังหวะที่พี่กันต์กำลังจะซัดปากถ่อย ๆ ของไอ้พี่กราฟก็มีเสียงหวานใสเหมือนแก้วที่เจียระไนอย่างดีดังขึ้น มันทำให้พี่กันต์หยุดชะงักไปเหมือนกัน
พวกเราหันไปตามต้นเสียงแล้วก็ทำให้เห็นผู้หญิงคนหนึ่ง รูปร่างสูงโปร่ง หุ่นเหมือนนางแบบ ผิวขาวอมชมพู แต่งตัวโคตรแพง แถมหน้าก็โคตรสวยแบบหาที่ติไม่ได้ ฉันมองตาค้างเพราะว่าฉันรู้จักผู้หญิงคนนี้ ฉันรู้จักเธอ
...ริต้า ฉันรู้จักเธอดี กรี๊ด~ ผู้หญิงคนนี้คือนางแบบชื่อดังที่กำลังดังเป็นพลุแตก ฉันกรี๊ดกับจังหวะการสับขาที่เปรียบดั่งนาโอมิ แคมเบลล์ หูตาเวลาเดินของชีช่างอื้อหือ~ บรรยายไม่ถูกเลยล่ะค่ะ เป็นผู้หญิงที่หยิบชุดไหนมาใส่ก็สวยไปหมด เหมือนวันนี้ไง
“...ริต้า~”
“หึ ๆๆ ครับริต้า ไปเป่าเค้กกันดีกว่าที่รัก” ไอ้พี่กราฟหัวเราะเหมือนจะเยาะเย้ยพี่กันต์ที่เพิ่งเรียกนางแบบชื่อดังคนนั้นด้วยน้ำเสียงแปลก ๆ แล้วก็เดินไปหาริต้า อย่าบอกนะว่านางแบบที่ฉันกำลังกรี๊ดให้เรียวขาของนางทุกรันเวย์เป็นแฟนกับไอ้พี่กราฟอะไรนี่?
“...” พี่กันต์มองตามหลังสองคนนั้นด้วยแววตาที่เหมือนจะโกรธแค้นปนความเสียใจ
“เอ่อ...พี่กันต์คะ หยีว่าหยีขอพาปั้นหยากลับก่อนดีกว่า เปียกไปทั้งตัวเลยเดี๋ยวจะไม่สบายเอา” ยาหยีหันมาบอกพี่กันต์หลังจากที่พี่เขาเริ่มมีสีหน้าดีขึ้น
“พี่ขอโทษด้วยนะครับที่มางานพี่แล้วต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้ เพิ่งรู้จักกันแท้ ๆ แต่ดันต้องมาเจออะไรแย่ ๆ” พี่กันต์พูดด้วยสีหน้าที่โคตรรู้สึกแย่ แต่ก็ไม่สมควรขอโทษหรอกค่ะพี่กันต์ทำผิดคิดชั่วเป็นตัวต้นเหตุให้อีหยาตกน้ำที่ไหนกันล่ะ ไอ้คนสร้างเรื่องคือไอ้พี่กราฟนั่นต่างหาก คนละคนกันฉันไม่ได้รู้สึกแย่กับพี่กันต์สักนิด
“ไม่เป็นไรค่ะพี่กันต์ หยาก็จัดหนักอีตานั่นไปแล้วเหมือนกัน ไม่เห็นเหรอคะเขาเละเป็นลูกหมา เอ๊ย! ตัวเปียกน่ะค่ะ เขาก็ตัวเปียกเหมือนกัน แฮ่ ๆ” อีหยามึงนี่ก็ปากหมาปากไวเขาเป็นญาติฝ่ายไหนกันก็ไม่รู้ ถึงจะทะเลาะกันเมื่อครู่แต่เลือดก็ข้นกว่าน้ำอยู่ดี ปากมึงนี่นะหาเรื่องพาซวยจริง ๆ
“พี่ว่ายาหยีพาปั้นหยาไปอาบน้ำล้างตัวก่อนดีกว่าครับ เดี๋ยวพี่ให้แม่บ้านหาชุดให้เปลี่ยน กลับทั้งแบบนี้เดี๋ยวจะไม่สบายเอา”
“เอาแบบนั้นก็ได้ค่ะพี่กันต์ รบกวนด้วยนะคะ” จบการสนทนาพร้อมกับการพาทัวร์ชั้นสองของบ้านโดยคุณแม่บ้านผู้ชำนาญการและยังจัดหาเสื้อผ้าพร้อมเครื่องสำอางมาให้อีกด้วย พอได้อาบน้ำและได้รับการดูแลอย่างดีจากพี่กันต์พวกเราสองคนก็เลยตกลงกันว่าอยู่ต่อเลยได้ไหม~ ฮ่า ๆๆ อยู่ต่อดีกว่าค่ะปั้นหยาในเวอร์ชั่นกัปปะหายไปแล้วเดี๋ยวพี่กันต์เขาจะไม่สบายใจ และหลังจากนั้นก็บันเทิงเลยค่ะ เหล้าเข้าปากหยาก็ผูกมิตรไปทั่ว~ ^0^
-หนึ่งเดือนต่อมา-
“ช่วงนี้ผู้ชายทักทายบ่อยนะคะมายเฟรน”
“อะไรล่ะหยี ก็คุยกันแบบพี่น้องหยาไม่ได้คิดอะไร” ฉันหันไปตอบคำพูดกึ่งแซวของยาหยีด้วยความรู้สึกที่ไม่มีความเขินอายใด ๆ
“พี่เขาจะคิดแค่พี่น้องไหมล่ะคะคุณปั้นหยา”
“ไม่หรอกมั้ง หรือถ้าพี่เขาคิดแต่หยาไม่คิดก็ไม่มีอะไรเกินเลยหรอก หยาก็รักษาระยะห่างอยู่” ที่ยาหยีกำลังพูดถึงคือพี่กันต์ค่ะ ตั้งแต่ไปงานวันเกิดพี่เขาวันนั้นพี่กันต์ก็เข้ามาทำความรู้จักทักทายฉันบ่อย ๆ นี่ก็ไม่ได้สมองช้าจนไม่รู้ว่าพี่เขามาจีบนะคะเพราะปั้นหยาเองก็สวยเอาเรื่องอยู่ ฮ่า ๆๆ แต่ฉันไม่ได้ชอบพี่กันต์ไงก็เลยพยายามทำตัวเป็นแค่รุ่นน้องให้มากที่สุด
“อื้อ แล้วคนนั้นล่ะไม่เห็นพูดถึงเลย” ยาหยีพยักหน้ารับแล้วก็เอาไหล่มากระแซะฉันเบา ๆ เจอคำถามนี้ก็เลยเบ้ปากมองบนใส่ยาหยีซะเลย
“ปล่อยออกไปจากใจให้ไหลลงสู่ธุลีดินแล้วจ้ะ” ตอบไปก็แค้นไป คนอะไรวะทำไมมันสันดานส้นตีนได้ขนาดนั้น นี่อีหยาเป็นผู้หญิงนะเฮ้ย ผู้หญิงสวยด้วย! กล้าทำกิริยาแย่ ๆ ใส่ผู้หญิงแบบนี้มันโตมาด้วยการอบรมเลี้ยงดูแบบไหน
“วันนั้นพี่เขาอาจจะแค่เมาก็ได้เลยทำหรือพูดอะไรแย่ ๆ”
“เมาแล้วหางโผล่สันดานเผยมากกว่านะหยี นิสัยแย่มาก หยาตัดออกไปจากความคิดแล้ว เสียแรงที่แอบเพ้อมาตั้ง 3 ปี” ฉันส่ายหน้าด้วยความเอือม
“ถ้างั้นก็เปิดใจให้คนใหม่ที่นิสัยดีซะ มาโน่นแล้ว” ยาหยีพยักพเยิดหน้าไปด้านหน้าคณะ โอ้โห~ ขาววิ้งออร่าพุ่งมาแต่ไกล ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกค่ะพี่กันต์นั่นเอง ช่วงนี้แวะเวียนมาขายขนมจีบให้ฉันอยู่บ่อย ๆ แต่ไม่บ่อยจนโอเวอร์นะ แค่เล็กน้อยถึงปานกลางตามประสาผู้ชายหล่อมีเพาเวอร์ตามจีบผู้หญิง
“สวัสดีครับสาว ๆ ทำอะไรกันอยู่ครับ” พี่กันต์เดินยิ้มหล่อเข้ามาทักทำให้เราสองคนต้องหยุดบทสนทนาลงไป
“นั่งเล่นค่ะพี่กันต์ เพิ่งเรียนเสร็จ” ฉันยิ้มตอบ ส่วนยาหยีก็ยิ้มทักทายพี่กันต์เหมือนปกติ
“แล้วทานข้าวกันรึยังครับ ไปทานข้าวกันไหม”
“ไปค่ะ ไปเลยค่ะปั้นหยามันยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลยหยีห่วงมากกลัวจะเป็นโรคกระเพาะ” ยาหยี! ยัยเพื่อนแสนรู้! พี่กันต์พูดจบไม่ถึง 1 วินาทียาหยีก็แทรกขึ้นเหมือนเตรียมบทเอาไว้ พอหันไปมองหน้าก็ทำหน้าสวยใส่ฉันอีก
“ยังไม่ได้ทานข้าวเช้าเหรอครับ ถ้างั้นไปเลยดีกว่าไหมเดี๋ยวปวดท้องนะพี่มีร้านอร่อยแถวนี้จะแนะนำ” พี่กันต์พูดพร้อมสีหน้าเป็นห่วง เห็นแบบนี้ใครจะปฏิเสธได้ล่ะคะ เอาวะไปก็ไป ^_^!
“ค่ะ ขอบคุณนะคะพี่กันต์” ฉันตอบรับด้วยความเกรงใจ
“พี่ยินดีครับ”
“อ้าว ไม่ลุกสักทีล่ะหยี เร็วสิหิวไม่ใช่รึไง” ฉันเห็นไปเรียกยาหยีที่นั่งเงียบมองฉันกับพี่กันต์โดยที่ไม่ได้รีบลุกสักที
“อ้อ! โอเค”
หลังจากนั้นเราก็เดินทางโดยรถของพี่กันต์กันค่ะ ขับมาแป๊บเดียวเอง มันเป็นซอยข้างมหาลัยนี่แหละแต่ฉันกับยาหยีไม่ค่อยได้มาเพราะมันอยู่คนละฝั่งกับคณะเลยไม่ค่อยคุ้นตาหรือรู้จักร้านอร่อย พอเข้ามาในร้านอาหารอิตาเลี่ยนบรรยากาศไฮโซแต่ก็ดูสบาย ๆ กลิ่นอาหารก็ลอยมายั่วน้ำย่อยในกระเพาะ พี่กันต์เองก็ดูเต็มใจเลี้ยงและปั้นหยากับยาหยีก็กำลังหิวโซ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ จัดมันหนัก ๆ เลยแล้วกัน
กริ๊ง~
“สวัสดีค่ะ กี่ที่คะคุณลูกค้า”
“2 ที่ค่ะ” เสียงหวานที่ฉันคุ้นหูดังขึ้นเรียกสายตาฉันจากการจับจ้องเบคอนในจานสปาเก็ตตี้ข้าเมา เอ๊ย! ขี้เมา ฮ่า ๆๆ นั่นล่ะค่ะเสียงนั้นทำให้ฉันเงยหน้าขึ้นและหันไปมองเจ้าของเสียง
...ริต้า
ริต้า นางแบบที่ฉันโคตรชอบคนนั้นเดินเข้ามาในร้านด้วยท่วงท่าการเดินโคตรซุป’ตาร์ รู้สึกดีขึ้นมาที่มีโอกาสได้ทานข้าวในร้านเดียวกันกับนางแบบชื่อดัง แต่คงจะดีกว่านี้ถ้าคนที่เดินตามหลังมาติด ๆ ไม่ใช่....ไอ้พี่กราฟ!