EPISODE 1
ตึก FONE ชั้นที่ 18
“อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่แฟงค์”
“งานที่ใช้ให้ทำถึงไหนแล้ว ขอข้อมูลที่ผมให้คุณไปหาแบบด่วนที่สุด” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นสลับกับเสียงรองเท้าหนังอย่างดีที่กระทบกับพื้นกระเบื้องตามจังหวะของการเดิน
“มาถึงก็พูดเรื่องงานเลยนะคะ ขอเวลานอกสักครึ่งชั่วโมงได้ไหมคะ ถ้าพี่แฟรงค์กลัวเสียเปรียบ เดี๋ยวเย็นนี้พลูทำงานชดเชยเวลาให้ก็ได้ค่ะ” ใบพลู สดใสทั้งน้ำเสียงและใบหน้า หญิงสาววัยยี่สิบปีอยู่ในชุดนักศึกษาพอดีตัวเป๊ะ เสื้อสีขาวรีดจนเรียบกริบรัดเปรี๊ยะ ขณะที่กระโปรงทรงเอสั้นเพียงต้นขา อวดความเรียวสวยที่ลงตัวรับกับรองเท้าส้นสูงแบรนด์ดัง บ่งบอกถึงฐานะของคนตัวเล็กได้เป็นอย่างดี
“เช้านี้พี่แฟรงค์รับเป็นอะไรดีคะ ชา แกแฟ หรือจะรับใบพลูแทนมื้อเช้าดีคะ” ขายาวภายใต้กางเกงสแลคอย่างดีหยุดชะงัก ตาคมกริบตวัดกลับไปจ้องมองใบหน้าจิ้มลิ้มของนักศึกษาฝึกงานที่ริอ่านอยากลองเล่นกับไฟ
“อยู่ที่นี่มาหนึ่งเดือนเต็ม คุณจำไม่ได้ว่าผมทานอะไร?”
“เปล่าค่ะ”
“แล้ว?”
“ถามก่อน เผื่อพี่แฟรงค์อยากเปลี่ยนใจกินพลูแทนไง” ว่าไปพลางขยิบตา หวังจะเพิ่มความน่ารักให้กับตัวเอง แต่ทว่า
“แก่แดด!”
“อายุยี่สิบแล้วนะคะ แก่แดดไว้ใช้กับเด็กค่ะพี่แฟรงค์” ใบพลูเล่นหูเล่นตาเก่งที่สุด
เจ็ดโมงห้าสิบนาที พนักงานที่นี่ยังไม่มา แปลว่าเธอหยอกกับคนที่ชอบได้ ทำได้ แม้ว่าเขาจะไม่เคยสนใจเธอเลยก็ตาม
“ถ้ายังแบมือขอเงินที่บ้าน แปลว่ายังเด็ก”
“ไม่ให้แบมือขอเงินที่บ้าน งั้นขอจากว่าที่สามีได้ไหมล่ะคะ” ใบพลูยิ้มอ่อนพลางเอียงคอมอง
ทั้งที่รู้อยู่เต็มอก น่ารักแค่ไหนก็ไม่เข้าตา อ่อยให้ตายก็ไร้ค่า สุดท้ายใบพลูก็เป็นได้แค่เด็กนักศึกษาที่เข้ามาฝึกงาน
ทำได้แค่อ่อยไปวันๆ หยอกไปก็ไม่เคยหวั่นไหวเลยสักครั้ง อย่าให้คนอย่างใบพลูได้งัดไม้เด็ดออกมาใช้ก็แล้วกัน!
“ผมต้องการกาแฟพร้อมงานที่สั่งคุณไว้ตั้งแต่เมื่อวาน”
“ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ” ใบพลูหมุนตัวกลับเมื่อสบสายตากับนัยน์ตาคมที่เริ่มจริงจัง อย่าหวังว่าคนอย่างเธอจะยอมแพ้ให้กับอะไรทั้งนั้น ยังไงซะ คนนี้ก็คือว่าที่สามี!
ครืด~ ครืด~
โทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋าสูทสีดำสั่นสะเทือนขัดจังหวะนัยน์ตาคมที่เผลอมองตามหลังคนที่เพิ่งจะก้าวขาออกไปจากห้องทำงานได้เพียงไม่กี่ก้าว
หนุ่มหล่อเจ้าของนัยน์ตาสีน้ำตาลหันกลับมาสนใจโทรศัพท์ของตัวเองทันที
“ตื่นแต่เช้าหรือมึงยังไม่นอน” แฟรงค์ทักทายคนในสายคล้อยหลังที่กดรับเมื่อเห็นรายชื่อของเพื่อนสนิทอย่างเบลล์โชว์เด่น
(แล้วที่มึงรับสายเร็วนี่คือไร อย่าบอกนะว่ามึงอยู่ที่บริษัท?)
“คนอย่างกูไม่เคยทิ้งงาน”
(เออ แต่ทิ้งเพื่อนทิ้งฝูง ทิ้งกูไว้คนเดียวเนี่ย)
“ก็เห็นว่ามึงอยากหาวิธีปล่อยน้ำไม่ใช่เหรอวะ สรุปน้องมึงตั้งยัง?”
(ไอ้เวรนี่ ทิ้งกูไม่พอนี่กล้าเยาะเย้ยเพื่อนอีกเหรอวะ) แฟรงค์แสยะยิ้มมุมปาก นึกขำคนที่โวยวายเพราะถูกทิ้งไว้ที่ผับของคาร์เตอร์ซึ่งเป็นเพื่อนอีกคนในกลุ่ม
แต่ที่ขำมันไม่ใช่เพราะการถูกทิ้ง แต่มันเป็นเพราะเสือที่ขย้ำเหยื่อไม่เคยเว้นวันอย่างมัน ที่มีผู้หญิงฟาดฟันกันทุกวันเพื่อยื้อแย่ง สุดท้ายลูกรักไม่ยอมแข็ง ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเป็นเพราะอะไร
(คุยกับมึงแล้วหงุดหงิดฉิบหาย) เบลล์เอ่ยมาตามสาย เป็นจังหวะเดียวกับที่ประตูห้องผู้บริหารถูกผลักเข้ามา
หนุ่มหล่อที่วางแขนพาดบนเก้าอี้ขณะที่ขายาวตวัดไขว้ห้างหยุดมองที่นักศึกษาฝึกงานทันที
เด็กฝึกงานคนนี้นี่ก็ไม่รู้จะขยันยิ้มไปไหน อย่างตอนนี้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา เธอยืนตัวตรงยิ้มหวาน ทำอย่างกับเป็นพีเซนเตอร์กาแฟที่อยู่ในมือซะอย่างนั้น
(แค่นี้แหละ แค่เห็นมึงบอกว่าอยู่ที่ทำงานแล้วกูก็สบายใจ อยู่ดีๆ ก็หายไป กูกับไอ้คาร์เตอร์ก็นึกว่าจะมีผู้หญิงลากมึงไปกิน)
“ไร้สาระ”
(อย่ามาโชว์หล่อเถอะน่า จะบอกว่ามึงเป็นฝ่ายเลือกและลากผู้หญิงไปเชือดที่คอนโดด้วยตัวเองหรือไง ไอ้เวร หล่อฉิบหาย!)
เป็นเวลาเจ็ดโมงห้าสิบห้านาทีที่เงียบมาก มากจนคาดว่าคนที่ถือแก้วกาแฟอยู่ได้ยินสิ่งที่คนในสายพูดอย่างชัดเจน
รอยยิ้มบนใบหน้าจิ้มลิ้มเลือนหาย สุดท้ายเด็กนักศึกษาที่เข้ามาฝึกงานก็แสดงท่าทางหึงหวงออกมาเหมือนอย่างทุกครั้ง
หึงทั้งที่ไม่ได้เป็นอะไรกัน หวงทั้งที่เขาไม่เคยให้ความหวังอะไรเธอเลย!
“แค่นี้แหละ รำคาญ!” แฟรงค์กระแทกเสียงตอบพร้อมกับวางสายทันที
“ทำดีไม่ได้ดี” คนฟังดันปลายลิ้นเข้ากับมุมปาก ดวงตาคมกริบจ้องมองคนตรงหน้านิ่ง
“อะไร”
“พลูไง ทำดีให้ตายก็ไม่เคยอยู่ในสายตา”
“เอากาแฟมา”
“ผู้หญิงคนนั้นชงกาแฟถูกปากพี่แฟรงค์เหมือนพลูไหมคะ”
“…”
“ผู้หญิงคนนั้นอ่ะ คนที่พี่แฟรงค์ลากไปเชือดที่คอนโด”
“วางกาแฟลงแล้วเข้ามารายงานสิ่งที่ผมให้คุณไปทำ รู้ใช่ไหมว่าถ้าข้อมูลที่คุณได้มามันไม่มีประโยชน์สำหรับผม ผมจะสั่งคุณให้ไปอยู่ที่ห้องเก็บเอกสาร”
“ถ้าทำแบบนั้นมันก็จะเกิดระยะห่างระหว่างเรา” คิ้วดกเข้มขมวดเข้าหากันทันที
“ถ้าพี่ไล่พลูไปอยู่ห้องเก็บเอกสาร คนที่ชงกาแฟให้พี่ก็จะไม่ใช่พลู พี่ก็จะไม่เห็นหน้าพลูทั้งวันเหมือนอย่างที่ผ่านๆ มา” สรุปเธออยากเจอเขา หรือเขาเป็นฝ่ายอยากเจอเธอกันแน่วะ
“สรุปจะทำไหมงาน”
“ทำค่ะ ต้องทำงานเก่งแค่ไหนเหรอคะถึงจะมีค่าในสายตาพี่ขึ้นมา”
“อย่าเอาเรื่องงานไปปนกับเรื่องส่วนตัว”
“ก็คนที่ทำงานสำคัญกับพลูมาก พลูรักเขา อยากให้เขาสนใจพลูเหมือนที่พลูสนใจเขาบ้าง”
“ผมต้องการกาแฟที่อยู่ในมือของคุณและต้องการข้อมูลของลูกค้าที่เราต้องดีลงานกับเขาวันนี้ เดี๋ยวนี้คุณพุธิตา!” ใบพลูหลุดความดื้อผ่านแววตาออกมาอย่างชัดเจน
เสียงส้นรองเท้ากระแทกกับพื้นกระเบื้องเป็นจังหวะ ร่างบอบบางย้ายตัวเองมายืนตรงหน้าของเขาใกล้ขึ้น ยื่นแก้วกาแฟมาวางไว้ตรงหน้า ความใกล้ชิดส่งผลให้ได้กลิ่นน้ำหอมแบรนด์นอกนั้นอย่างชัดเจน
ใบพลู พุธิตา นักศึกษาฝึกงานที่โปรยเสน่ห์ใส่เขาตั้งแต่วันแรกที่พบกัน เธอไม่ธรรมดาหรอก แฟรงค์ไม่ได้อยากสืบด้วยซ้ำว่าเธอเป็นใครมาจากไหน ที่โปรยเสน่ห์ใส่เขาทุกครั้งที่พบหน้าเป็นเพราะทอดสะพานเพราะชอบเขาเหมือนที่ผู้หญิงหลายๆ คนชอบทำ หรือเพราะก้นบึ้งจริงๆ มันเพราะเหตุผลอะไรนั้น เขาไม่อยากคาดเดา
เขาอายุสามสิบปี มีลูกที่ต้องดูแล แค่หิ้วกลับมากินเวลาที่หิว ไม่เคยคิดจะรั้งใครไว้กับตัวเป็นตัวเป็นตน
เขาสามสิบย่างสามสิบเอ็ด ในขณะที่นักศึกษาอย่างใบพลูอายุแค่ยี่สิบ ห่างกันสิบปี ถ้ากินเล่นๆ ก็คงจะอร่อยดี แต่เรื่องแบบนั้นจะไม่มีวันเกิดขึ้นในที่ทำงาน!
เธอไม่มีวันได้มาครางใต้ร่างเขาเด็ดขาด ไม่มีวัน!