ฟองครีมสะบัดตัวออกจากการกอดของเขา หล่อนหันไปมองเขาอย่างทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะโกหกเขาอีกเสียงสั่น แม้จะรู้ว่าไม่เนียนเลย แต่หล่อนก็ต้องทำ!
“พี่อย่าคิดอะไรไปเองเลย หนูทิ้งพี่ไป จำไม่ได้เหรอ!”
แปะ! แปะ!
ทั้งที่พยายามจะหักหาญน้ำใจเขา แต่น้ำตาของความเศร้ากลับหยดลงพื้นไม่ยอมหยุด สาวน้อยยกมือขึ้นปาดน้ำตาออก พยายามจะเข้มแข็ง ยืนจังก้าสู้เขาเหมือนนกน้อยที่กางปีกต่อสู้กับงูตัวใหญ่
ในสายตาของนันทิศ หล่อนอ่อนแอเหลือเกิน
ชายหนุ่มรู้สึกแย่กับตัวเองเมื่อเห็นหล่อนพยายามขนาดนี้เพื่อโกหกให้เขาจากไป เขาไม่มีทางรู้เลยว่าเมื่อสามปีก่อน ฟองครีมต้องเผชิญกับอะไรบ้าง สีหน้าเหยียดหยาม การกระทำที่ใจร้าย มันไม่เหมือนหล่อนเลย
นกน้อยเปียกฝนในตอนนี้สิ... คือหล่อน
สาวน้อยที่อ่อนโยน อ่อนแอ บอบบาง เมื่อสามปีก่อนเขาควรจะสืบหาความจริง ปกป้องหล่อน ไม่ใช่โกรธเกลียดหล่อนมาตลอดแบบนี้
เขามันโง่! โคตรโง่!
“ครีม...”
ชายหนุ่มเดินเข้าไปหา สาวน้อยก็ก้าวถอยหนี แต่ยังไม่ทันที่เขาจะถึงตัวหล่อน
ปัง!
เสียงประตูเปิดก็ทำให้สองหนุ่มสาวหันไปมองด้วยความตกใจ!
ด้วยความที่เริ่มจะค่ำ จึงทำให้ทั้งสองคนมองไม่เห็นว่าใครที่กำลังใช้ไฟฉายจากโทรศัพท์มือถือส่องมาที่พวกเขาด้วยมือสั่นเทา
“ครีม!!!”
เสียงตวาดนั้นทำให้ฟองครีมตัวชาไปหมด ตายแล้ว! หล่อนต้องตายแน่ ๆ
“พ่อ...”
ประณพเดินกึ่งวิ่งเข้ามาในอาคารเก่า ในมือของเขานอกจากโทรศัพท์มือถือแล้ว ก็ถือที่ห้อยกุญแจลายไอศกรีมของลูกสาวไว้ด้วย เขาเจอมันตรงหน้าทางเข้าโรงสีข้าวเก่าที่ถูกเปิดออก หลังจากกระหน่ำโทรหาฟองครีมตั้งแต่ตอนเย็นเพราะเป็นห่วงที่หล่อนยังไม่ถึงบ้าน
ชายวัยกลางคนเดินเข้ามาเพราะคิดว่าจะเจอลูกสาวกำลังหลบฝนอยู่คนเดียว ใครจะคิดว่าเขาจะได้เจอสองหนุ่มสาว ในสภาพผมเผ้ายุ่ง ๆ เสื้อผ้าไม่เรียบร้อย แบบที่ดูก็รู้ว่าเพิ่งจะทำอะไรกัน ‘เสร็จ’ ไป!!!
เพี๊ยะ!
ฟองครีมหน้าหันตามแรงตบสุดแรงของพ่อ หล่อนรู้สึกเหมือนข้างในปากมันแตก! เจ็บไปหมดทั้งแก้มและโพรงปาก มือน้อยยกขึ้นแตะแก้มข้างนั้นด้วยดวงตาเบิกกว้าง หล่อนไม่คิดว่าพ่อจะตบหล่อน
“นังลูกไม่รักดี! แกเอากับมันมากี่ครั้งแล้ว หา! ถ้าคุณสินรู้ เขาต้องเอาแกตายแน่ อีครีม!!!”
เสียงของพ่อแหบสั่นไปหมด เพราะติดเหล้าด้วย และเพราะความกลัวสินธรด้วย มันไม่ใช่แค่สินธรที่น่ากลัว อิทธิพลของตระกูลนี้ก็น่าเกรงขาม ถ้าขืนสินธรโกรธขึ้นมาแล้วเล่นงานเขา หรือถึงขั้น ‘อุ้มฆ่า’ ฟองครีมขึ้นมา แล้วประณพจะอยู่ต่อยังไง อยู่กับใคร
ฟองครีมเป็นคนเดียวคนสุดท้ายในชีวิตเขาแล้ว จะว่าเขาเห็นแก่ตัวก็ได้ เขาไม่อยากเสียลูกคนนี้ไป
เพราะเขากลัวว่าเขาต้องอยู่คนเดียว!!!
“หนะ หนู... หนู...”
ฟองครีมตัวสั่น เสียงสั่น หล่อนมองพ่อไม่ค่อยเห็นหรอก เพราะพ่อเอาโทรศัพท์ฉายไฟมาใส่หล่อน สาวน้อยไม่รู้ว่าจะแก้ตัวยังไงด้วย ในเมื่อสิ่งที่พ่อคิด มันเป็นความจริง
“คุณอา อย่าทำครีมเลยครับ”
นันทิศเพิ่งจะตั้งสติได้เหมือนกัน เขาก้าวมายืนบังฟองครีมเอาไว้ ชายหนุ่มตัวสูงกว่าประณพ และไม่ถูกแสงไฟสาดหน้า เขาจึงก้มลงมองเห็นความกลัวในแววตาของชายสูงวัยอย่างชัดเจน จนนันทิศยิ่งสงสัย
สองพ่อลูกทำไมต้องกลัวสินธรขนาดนี้
นี่พวกเขาถูกสินธรขู่กรรโชกหรือยังไง!
“อย่ามาเสือก ไอ้สัตว์!”
กลิ่นเหล้าเก่า ๆ ที่คลุ้งออกมาจากปากชายสูงวัย ทำให้นันทิศรู้ว่าประณพกินเหล้ามาด้วย ดังนั้นเขาจะปล่อยให้ฟองครีมกลับไปกับพ่อที่กำลังเมาและขาดสติไม่ได้เด็ดขาด
ชายหนุ่มหันไปจับแขนหล่อน
“ไปกับพี่นะครีม”
แต่แทนที่ฟองครีมจะยึดเขาไว้เป็นที่กำบังภัย หล่อนกลับสะบัดมือออกจากมือเขา ดวงตาหวาดกลัวเหลือบมองชายหนุ่มด้วยความเศร้า ก่อนที่ร่างเล็กบอบบางจะวิ่งชนไหล่เขาออกไปจากที่นี่
“อีครีม! มึงจะไปไหน!”
ประณพวิ่งตามลูกสาวไปได้ไม่กี่ก้าวก็ล้มหน้าทิ่ม ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นมาแล้ววิ่งต่อไปอีก ปล่อยให้นันทิศยืนอยู่ท่ามกลางความมืดสลัวด้วยสีหน้างุนงง และไม่เข้าใจเลยว่าฟองครีมคิดอะไรอยู่
เขารู้แค่ว่า ฟองครีมต้องการความช่วยเหลือ แต่กลับผลักเขาออกจากการเป็น ‘ผู้ช่วยเหลือ’ คนแรกเลย
หล่อนต้องการเขา
แต่แสร้งว่าไม่ต้องการ
ชายหนุ่มยืนมองไปตามทางที่สองพ่อลูกวิ่งตามกันไป ดูจากทรงของประณพแล้ว นันทิศรู้เลยว่าวิ่งตามลูกสาวไม่ทันหรอก แค่วิ่งให้ตรงทาง ไม่เซเหมือนปู ก็เก่งสุดยอดแล้ว
เขาจะต้องรู้ให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับฟองครีม ในช่วงสามปีที่เขาไม่มีโอกาสได้อยู่ข้างหล่อน
และต่อให้หล่อนจะผลักเขาออกเท่าไร คราวนี้เขาตั้งใจกับตัวเองไว้ ว่าจะแทรกตัวเข้าไปใกล้ชิด ดูแลหล่อน ทำทุกอย่างให้กลับมาเหมือนเดิมให้ได้!
เขาไม่กลัวอิทธิพลของสินธรหรอก
ยิ่งได้กระแทกหอยหวานแสนลึกลับของหล่อนเข้าไปแล้วแบบนี้ นันทิศบอกตามตรงเลยว่า ‘ติดใจ’
เขาจะหาทางกระแทกให้หล่อนดิ้นด้วยความสยิวอีกครั้ง และอีกครั้ง! อีกครั้ง! ให้ได้เลย!!!
จิ๊บ ๆ ๆ ๆ
เสียงนกร้องปลุกให้ประณพตื่นงัวเงีย
เขาลืมตางง ๆ แล้วพบว่าตัวเองนอนอยู่หน้าบ้านตรงชานพักที่มีรองเท้าของลูกสาววางไว้อย่างเป็นระเบียบ ส่วนรองเท้าของเขาหลุดอยู่คนละทิศละทาง และมีลิ้นเปียกน้ำลายกำลังเลียหน้าเขาอยู่ด้วย
“โฮ่ง! โฮ่ง ๆ”
“โธ่ ไอ้ตูบ!”
ตูบกระดิกหางดีใจที่เจ้านายตื่นซะที มันเป็นสุนัขพันธุ์ไทยตัวผู้สีดำสนิททั้งตัว หูตูบ ขนฟูชี้โด่ชี้เด่ เห็นมันทีไรประณพก็หงุดหงิด เพราะเขาไม่ได้อยากเลี้ยงหมา แต่ลูกสาวเขาเก็บมา และฟองครีมก็ยื่นคำขาดกับเขาว่าหล่อนจะเลี้ยงมัน