ตอนที่ 6 ข่าวลือที่ถูกสร้างขึ้น

1934 Words
ตอนที่ 6 ข่าวลือที่ถูกสร้างขึ้น ภามพิงเก้าอี้อย่างหมดแรงใช้นิ้วกดที่ขมับหวังว่าจะช่วยคลายความเครียด ประตูห้องเปิดออกก่อนที่เลขาคนใหม่จะเดินเข้ามา “กาแฟครับ” ภามพยักหน้าก่อนจะรับกาแฟมาดื่มตอนนี้เป็นช่วงเที่ยงอีกสองชั่วโมงภามต้องไปเข้าประชุมต่อการประชุมโครงการใหญ่เต็มไปด้วยความเคร่งเครียดถ้าไม่รอบคอบอาจจะทำให้เสียเงินเกินความจำเป็น “คุณณภัทรต้องการเปิดโทรทัศน์หน่อยไหมครับ” น้ำเพชรเอ่ยถามขึ้นด้วยรอยยิ้มหากคนอื่นเห็นรอยยิ้มน่ารักคงจะตกหลุมรักอย่างง่ายดาย ภามพยักหน้าให้ก่อนจะหลับตาพิงพนักเก้าอี้ น้ำเพชรอมยิ้มไม่อาจปกปิดแววตาเจ้าเล่ห์ไว้ได้ โทรทัศน์เปิดขึ้นถูกเปลี่ยนไปที่ช่องหนึ่งอย่างรวดเร็วเพราะภามหลับตาอยู่เลยมองไม่เห็นการกระทำนั้น “สวัสดีค่ะ วันนี้มาเจอเราอีกแล้ว กับช่วงข่าวซุบซิบ!” พิธีกรสองคนทักทายด้วยความเป็นกันเอง น้ำเพชรเหลือบตามองคนที่หลับตาอยู่ที่โต๊ะทำงานแม้จะหลับตาแต่เขาก็รู้ว่าเจ้านายเขายังไม่หลับ “วันนี้มีข่าวอะไรคะพี่เมย์” “ต้องบอกว่าเด็ดมาก นักธุรกิจหนุ่มนามสกุลเจริญชัยรุ่งเรืองเดินเดทกับหนุ่มน้อยน่ารักในงานดอกไม้” เสียงของพิธีกรสาวฉายแววตื่นเต้นอย่างไม่ปิดบัง “โห่ หวานน้ำตาลหกเลยนะคะ แบบนี้คนอื่นอิจฉาแย่เลย” ภามลืมตาขึ้นประจวบเหมาะกับภาพที่ฉายขึ้นพอดี ร่างสูงใบหน้าหล่อเหลายืนอยู่ด้านหลังกำลังโน้มตัวไปด้านหน้า ร่างบางที่คุ้นเคยกำลังถือดอกไม้มองไปที่กวินด้วยรอยยิ้มเหมือนกำลังพูดอะไรบางอย่าง หากคนภายนอกดูมันก็ไม่ต่างจากคู่รักมาช่วยกันเลือกดอกไม้ ภามขมวดคิ้ว “ไม่คิดว่าทั้งสองจะเป็นเพื่อนกันนะครับนักข่าวคงพูดไปเรื่อยเพื่อสร้างกระแส” แม้ว่าน้ำเพชรจะเอ่ยด้วยท่าทีลนลานใบหน้าจิ้มลิ้มฉายแววกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแต่ความจริงทุกอย่างมันถูกวางเอาไว้แล้วภายในใจของน้ำเพชรกู่ร้องด้วยความพอใจ เขาไม่จำเป็นต้องทำตัวเป็นตัวร้ายเขาจะค่อย ๆ ใช้ความจริงใจทำให้ทั้งคู่แตกออกจากกัน อีกไม่นานเขาจะสมหวังทุกอย่างจะราบรื่นดี ใช่ มันต้องราบรื่นเหมือนในพล็อตนิยายที่เขารู้ “ผมว่าผมเปลี่ยนช่องดีกว่า” น้ำเพชรกดเปลี่ยนช่องเป็นหนังฝรั่ง ภามมองด้วยสายตาเรียบนิ่งก่อนจะเอ่ยขึ้น “ปิดเถอะ ฉันขอพักถึงเวลาประชุมแล้วค่อยเข้ามาเรียก” “ครับ” น้ำเพชรปิดอย่างว่าง่ายมองผู้เป็นนายกำลังหลับตาทำให้มองไม่เห็นว่าตอนนี้ภามกำลังคิดอะไรอยู่ น้ำเพชรเดินออกจากห้องเมื่ออยู่คนเดียวก็กดโทรศัพท์เพื่อดูข่าวอื่น ๆ ถือว่านักข่าวที่กวินจ้างมาไม่ทำงานเสียเปล่านอกจากมีในรายการซุบซิบแล้วในเน็ตเองก็ถูกแชร์ออกไปอย่างรวดเร็ว สาว ๆ ที่ชื่นชอบกวินต่างก็ออกมาโวยวายด้วยท่าทีเสียใจ โดยที่ข้าวตังไม่ได้รู้ตัวเลยสักนิด ภายในงานนิทรรศการดอกไม้มีผู้คนมากมายกลิ่นดอกไม้นานาพันธุ์ผสมกันหากไม่ใช่ผู้ที่ชื่นชอบดอกไม้อาจจะรู้สึกมึนหัวเพราะกลิ่นได้ ดอกไม้มีทั้งไว้สำหรับขายและดอกไม้ตั้งโชว์ส่วนมากดอกไม้ตั้งโชว์จะเป็นดอกไม้หายากและใกล้สูญพันธุ์มันเลยถูกเก็บรักษาถูกดูแลอย่างดี “คุณกวินอยากได้ดอกอะไรครับ” ข้าวตังหันไปถามคนด้านข้างงานนี้มีดอกไม้ทุกชนิดไม่ต้องกลัวว่าจะหาไม่เจอ “ผมอยากได้ดอกกุหลาบสีดำครับ” ข้าวตังแปลกใจเมื่อได้ยินคำตอบทั้งที่ปกติดูเหมือนจะชอบสีขาวแท้ ๆ ดอกกุหลาบสีดำแทนความโศกเศร้าหรือบางครั้งก็ใช้แทนความรักนิรันดร์มันเป็นสีที่หาได้ยากมันจึงมีมูลค่าแพง “ถ้าอย่างนั้นเราไปโซนกุหลาบกันเถอะครับ” ดอกไม้ส่วนมากจะถูกจัดเป็นโซนเพื่อให้หาได้ง่ายแต่ก็มีบางร้านที่มีดอกไม้หลายชนิดรวมกัน ที่นี่มีทั้งดอกไม้และต้นสำหรับคนที่ต้องการซื้อไปปลูกราคาก็ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และความหายากของสีดอกบางต้นราคาหลักสิบบางต้นราคาหลักหมื่น ทั้งคู่เดินมาไม่นานก็เจอกับกุหลาบมากมายหลากหลายสีเห็นแล้วรู้สึกสดชื่น ข้าวตังเดินไปที่สีดำมันมีน้อยกว่าสีอื่น ๆ จนมองเห็นได้ชัดเจน “คุณกวินอยากได้แบบต้นหรือดอกครับ” ข้าวตังหยิบช่อดอกไม้ขึ้นมาดูอย่างเบามือไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่ากวินได้เข้ามาอยู่ใกล้จนใบหน้าแทบติดกัน ความสนใจของข้าวตังอยู่ที่ดอกกุหลาบแม้ว่าเขาจะเปิดร้านดอกไม้แต่ก็เจอดอกกุหลาบสีดำไม่บ่อยที่ร้านเขาไม่ได้สั่งสีนี้มาไว้นอกจากมีลูกค้าที่พรีออเดอร์ต้องการสีนี้โดยเฉพาะเขาถึงจะสั่งมา "แบบดอกครับ"ข้าวตังเงยหน้าหันไปด้านหลังเมื่อเห็นว่าเขาอยู่ใกล้กับกวินมากเกินไปจึงได้ขยับถอยห่างออกมาถึงยังไงเขาก็มีแฟนแล้วการเข้าใกล้ผู้ชายคนอื่นมากเกินไปทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ กวินมองอีกคนที่ขยับออกด้วยท่าทีเสียดายแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรถ้าเขารีบมากเกินไปจะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นเสียเปล่า ๆ กวินมองข้าวตังที่แนะนำช่อดอกไม้ให้สุดท้ายก็ได้ดอกกุหลาบสีดำช่อใหญ่มามันมีทั้งหมด36 ดอก ความหมายของมันคือการจดจำช่วงเวลาดี ๆ ของคนสองคน “เขามีบริการเขียนการ์ดด้วยนะครับคุณกวินอยากเขียนไหมครับ” “ไม่ดีกว่าครับ” เมื่อได้ยินแบบนั้นข้าวตังก็ไม่ได้ว่าอะไร ระหว่างที่เดินแรงสั่นโทรศัพท์ทำให้กวินหยุดเดิน ข้าวตังมองอีกคนทำหน้าเคร่งเครียดก่อนจะเก็บโทรศัพท์ไว้เหมือนเดิม “น่าเสียดายแต่ผมต้องไปแล้วครับ ไว้โอกาสหน้าเรามาด้วยกันใหม่นะครับ” “ครับ” หลังจากนั้นกวินก็เดินหายออกไป ข้าวตังถอนหายใจความจริงแล้วเขาค่อนข้างรู้สึกดีที่กวินติดธุระด่วนเขาไม่อยากเดินเที่ยวงานกับอีกคนทั้งวัน ข้าวตังหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาความจริงเขาอยากมาเที่ยวกับเฮียภามมากกว่า ข้าวตัง/เฮียทำอะไรอยู่ครับ ทานข้าวหรือยัง เมื่อกดส่งเขาก็รอสักพักแต่อีกฝ่ายก็ยังไม่ตอบกลับมาข้าวตังเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าเหมือนเดิมเขาไม่ได้คิดอะไรมากบางทีอีกคนอาจจะอยู่ในห้องประชุม ตลอดช่วงบ่ายข้าวตังเดินไปทั่วงานสั่งต้นไม้ไปส่งที่คอนโดหลายต้นนอกจากนี้ยังได้คุยเรื่องซื้อขายดอกไม้กับร้านอื่นอีกหลายร้าน หลังจากที่กลับมาถึงคอนโดข้าวตังก็เปิดแชทของภามอีกครั้งทั้งที่ตอนนี้เป็นช่วงหัวค่ำแล้วแต่กลับยังไม่มีการตอบกลับมาทำให้เขารู้สึกกังวลแต่ก็ยังไม่กล้าโทรไปกลัวจะรบกวนจนกระทั่งเวลาผ่านมาถึงช่วงสี่ทุ่มข้าวตังตัดสินใจกดโทรออก ตู๊ดดดดด ตู๊ดดดดด ตู๊ดดดดด (ครับ) หลังจากที่รอสายเกือบนาทีปลายทางก็รับข้าวตังขมวดคิ้วเมื่อคนรับไม่ใช่ภามแต่เป็นเสียงหวานของน้ำเพชรเลขาคนใหม่ “พี่ภามไปไหนเหรอครับ ทำไมคุณน้ำเพชรถึงได้รับสายแทน” ข้าวตังถามด้วยน้ำเสียงใจเย็นผิดกับความรู้สึกกังวลภายใน (พอดีว่าคุณณภัทรกินเลี้ยงกับคู่ค้าครับท่านเมาตอนนี้เลยนอนพักอยู่ครับ) ข้าวตังขมวดคิ้วถ้าเขาจำไม่ผิดเหมือนเฮียภามจะคอแข็งมากต่อให้เหล้าแรงมากถ้าไม่กินหลายขวดก็ไม่เมาแต่นี่กินกับคู่ค้าไม่น่าจะเมาง่ายขนาดนี้ “อย่างนั้นเองเหรอครับ แล้วพี่ภามนอนแล้วใช่ไหมครับ” (ครับ ถ้ายังไงเดี๋ยวพรุ่งนี้ผมแจ้งให้คุณณภัทรทราบนะครับว่าคุณข้าวตังโทรมา) “ครับ” หลังจากนั้นข้าวตังก็กดวางสายคิ้วสวยขมวดก่อนจะกดโทรไปที่อีกเบอร์เขารู้สึกไม่สบายใจเหมือนว่าถ้าเขาปล่อยไปทั้งแบบนี้อาจจะเกิดอะไรบางอย่างในอนาคต (สวัสดีครับคุณข้าวตัง) ชาเลขาสนิทของภามรับสายพร้อมเอ่ยขึ้นเขารู้สึกแปลกใจที่คนรักของเจ้านายโทรมาทั้งที่ทั้งคู่ไม่เคยติดต่อกันมาก่อนมีแค่เบอร์ไว้สำหรับติดต่อกันยามฉุกเฉิน “สวัสดีครับพี่ชา ผมรบกวนพี่ไหมครับ” ระหว่างที่คุยข้าวตังก็เดินไปที่โซฟาในห้องนั่งเล่นเหม่อมองออกไปที่กระจกวิวตอนกลางคืนในเมืองหลวงเต็มไปด้วยแสงสีดูสวยงามแต่มันไม่ได้ทำให้ความกังวลใจลดลงเลย (ไม่เลยครับ คุณข้าวตังมีอะไรให้ผมช่วยครับ) “พี่ชากลับมาทำงานวันไหนครับ” (วันมะรืนครับ หลังจากคุณณภัทรกลับจากประชุมพอดีครับ) “ผมรบกวนให้พี่ชาจับตาดูเลขาที่ชื่อน้ำเพชรหน่อยได้ไหมครับ” (ได้ครับ) ชาแปลกใจไม่คิดว่าจะถูกขอร้องเรื่องนี้เลขาคนใหม่ที่ชื่อน้ำเพชรเป็นคนที่เรียบร้อยและว่าง่ายทั้งที่อายุยังน้อยแต่กลับเก่งเรียนรู้ไวคนที่รับน้ำเพชรมาเป็นเลขาอีกคนของณภัทรคือชา เขาได้จดหมายแนะนำตัวจากเพื่อนสนิทที่เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย ชารู้จักกับข้าวตังมาระยะพอ ๆ กับภามเขารู้นิสัยของคนรักเจ้านายดีไม่มีทางที่ข้าวตังจะทำอะไรเสียเปล่า “เรื่องนี้รบกวนอย่าบอกพี่ภามนะครับ” (ไม่ต้องเป็นห่วงครับ) เมื่อได้ยินอีกคนรับปากข้าวตังก็เผยรอยยิ้มแม้ว่าเขาจะไม่สามารถไปจับตาดูทั้งคู่ได้แต่ถ้ามีชาเลขาคนสนิทจะต้องจับผิดสังเกตได้อย่างแน่นอนบางทีเขาอาจจะหาคำตอบของความฝันของเขาก็ได้ “ครับ” หลังจากนั้นเขาก็กดวางสายเดินกลับเข้าไปในห้องนอนการนอนโดยไม่มีอ้อมกอดของภามให้ความรู้สึกไม่ชินปกติทุกคืนเขาจะมีอ้อมกอดนี้อยู่เสมอ วันพรุ่งนี้เขามีพบแพทย์ตอนเช้าเลยต้องรีบนอนหวังว่าคืนนี้เขาจะได้อะไรบางอย่างจากความฝัน ในฝันไม่ต่างจากเดิมภาพที่เลือนรางแต่ครั้งนี้มันเป็นสถานการณ์ที่แปลกออกไปมีสองร่างนอนอยู่บนเตียงทั้งคู่มีผ้าห่มปิดอยู่แม้จะมองไม่เห็นหน้าแต่เขาเห็นร่องรอยตามร่างชัดเจนไม่ต้องบอกก็เดาได้ว่าทั้งคู่เพิ่งผ่านกิจกรรมอะไรมา ในภาพที่เลือนรางมีคนบางคนเดินเข้ามากระชากคนบนเตียงออกก่อนจะต่อยจนเกิดความวุ่นวายเสียงตวาดดังลั่นห้องมันเป็นเสียงเหมือนวิทยุที่ฟังไม่ออก ข้าวตังได้แต่มองภาพนั้นด้วยความเจ็บปวดทำไมกันนะสองคนบนเตียงคือใคร คนที่เข้ามาใหม่คือใคร ทั้งหมดเกี่ยวข้องกับเขายังไง ทำไมเขาถึงได้เจ็บปวดขนาดนี้ ทำไมเขาอยากทำอะไรบางอย่าง บางอย่างที่เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร!! ---------------- น้องเริ่มสงสัยน้ำเพชรแล้วววว จะจบยังไง!? น้องจะเปลี่ยนเส้นทางชีวิตได้ไหม!? 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD