“ป้าดามีอะไรหรือเปล่า”
ณลินเอ่ยทักทายผู้สูงวัยอย่างสุดาที่กำลังเดินเข้ามาภายในบ้านพักหลังเล็กของเธอด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวานและเป็นมิตร
เพราะสุดาเป็นคนที่เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่เธอยังแบเบาะ ทำให้เธอรักและเชื่อใจสุดามากกว่าใครๆในบริเวณรั้วบ้านใหญ่นี้
“คุณหญิงให้มาเชิญคุณหนูไปทานข้าวเย็นค่ะ”
สุดาเดินเข้ามานั่งตรงริมระเบียงบ้านเพื่อพักเหนื่อยที่ต้องเดินมาไกลๆ
พร้อมกับเอ่ยบอกสาเหตุที่ทำให้เธอต้องลากสังขารที่กำลังร่วงโรยมาถึงที่นี้ให้เจ้าของบ้านหลังน้อยอย่างณลินได้ฟัง
“คุณยายท่านมีแขกมาทานข้าวด้วยแล้วจะเชิญณิไปทำไม”
ร่างบางในชุดคลุมตัวยาวเพื่อเตรียมตัวจะไปอาบน้ำเดินมาหย่อนก้นนั่งลงตรงข้ามกับแม่นมของเธอ
สายตาหวานที่ยังมีเครื่องสำอางแต่งแต้มอยู่อย่างหนาแน่นเพราะเพิ่งจะเลิกงานมามองไปยังสุดาแม่นมของเธอด้วยความสงสัย
คุณหญิงยายของเธอจะมาเชิญเธอไปทำให้ท่านขายหน้าต่อแขกทำไมกัน
“ป้าก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ”
สุดาส่ายหน้าเบาๆอย่างคนไม่รู้ เธอมาที่นี้ก็เพราะคำสั่งของเจ้านาย ไม่ได้กล้าถามอะไรมากมายนัก นอกจากขานรับคำสั่งแล้วรีบทำตามเท่านั้น
“ณิไม่ไปดีกว่าค่ะ วันนี้ทำงานมาเหนื่อยมากพอแล้ว อยากจะพักผ่อน”
ร่างบางลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวโปรดที่มักจะออกมานั่งรับลมในตอนเช้าตรงนี้บ่อยๆ
แล้วเดินออกไปจากตรงนั้นเพื่อเตรียมตัวจะเข้าบ้านไปอาบน้ำพักผ่อนให้หายเหนื่อย
วันนี้เธอมีถ่ายแบบตั้งแต่เช้าและตามด้วยงานเดินแบบอีกงาน ทำเอาเธอไม่อยากคิดจะทำอะไรนอกจากอยากนอนพัก
ทั้งที่ถ้าในเวลาปกติถ้าคุณหญิงยายของเธอมาเชิญเธอแบบนี้ เธอไปลุยถึงบ้านท่านอย่างไม่รีรอแน่นอน
“คุณหนู”
สุดาเรียกหญิงสาวเบาๆเพื่อเป็นการขอร้องให้หญิงสาวคิดดูเสียใหม่
เพราะการขัดคำสั่งของคุณหญิงไขศรีไม่ใช่เรื่องดีอะไรนัก มีแต่จะพาลให้ผู้ใหญ่ไม่พอใจ
“บอกคุณยายท่านว่าวันนี้ณิไม่พร้อมสู้รบปรบมือด้วยนะคะ ขอเป็นวันอื่น”
ณลินโบกมือบ๊ายบายป้าสุดาของเธอแล้วก็เดินกลับเข้าบ้านไป ไม่ได้หันมาสนใจอะไรอีกเพราะวันนี้เธอเหนื่อยจริง
สุดาเดินกลับไปบ้านหลังใหญ่เพียงลำพัง เธอไม่สามารถพาหญิงสาวกลับไปด้วยได้
และเธอก็ไม่กล้าที่จะไปบังคับให้หญิงสาวยอมมากับเธอได้ เพราะตั้งแต่หญิงสาวโตพอที่จะดูแลตัวเองได้ก็ไม่เคยเชื่อฟังคำพูดของคนแก่อย่างเธออีกเลย
“ไปตามมาให้ได้”
คุณหญิงไขศรีหันไปตวาดสุดาแม่บ้านคนเก่าคนแก่ของเธอเบาๆต่อหน้าแขกที่นั่งร่วมโต๊ะอาหารอยู่กับเธอ
พร้อมส่งสายตาพิฆาตมองออกไปเพราะเธอต้องการตัวผู้เป็นหลานสาวเดี๋ยวนี้ ไม่ใช่คำพูดบอกปฏิเสธว่าไม่อยากมา
“เดี๋ยวอิ้งไปตามให้นะคะ”
วาสิตาที่คอยนั่งดูแลคุณยายอยู่ใกล้ๆขานอาสาเบาๆเพื่อจะไปตามพี่สาวผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องด้วยตัวเอง
เพราะให้คนแก่เดินไปเดินมาอีกเธอเกรงว่าก่อนที่จะตามตัวพี่สาวของเธอได้ คงมีคนเป็นลมก่อนแน่ๆ
“ยายฝากด้วยนะ”
พอหลานสาวขันอาสาไขศรีก็พอยิ้มออกมารับแขกได้บ้าง เพราะเริ่มเห็นเค้าลางเห็นความสำเร็จ
ด้วยวาสิตาหลานคนนี้ของเธอเป็นเด็กดีมีความเพียรพยายามทำอะไรก็สำเร็จทุกครั้งไป
ต่างจากสุดาที่ตามใจเข้าข้างหลานสาวเหลือขอของเธอทุกเรื่อง จนแค่ให้ไปตามตัวมายังทำไม่ได้
“เดี๋ยวผมไปตามเอง”
พายัพที่ได้ฟังเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นขันอาสาขึ้นเพื่อตัดรำคาญเพราะเขาอยากจะให้เรื่องทุกอย่างมันเสร็จสิ้นสักที เขาจะได้กลับออกไปจากบ้านที่แสนน่าอึดอัดนี้
อาทิตย์กับศจีที่นั่งอยู่ตรงข้ามผู้เป็นลูกชายส่ายหน้าห้ามปราบเบาๆ เพราะไม่อยากให้ลูกชายเข้าไปยุ่งเรื่องของยายหลานเขา
เพราะแค่มาคุยตามนัดก็ถือว่าดีมากพอแล้ว ดีเสียอีกที่เด็กคนนั้นไม่มาเรื่องทุกอย่างจะได้เป็นโมฆะ
“พี่หมอนั่งรอตรงนี้ดีกว่าค่ะ”
วาสิตาพยายามห้ามปราบชายหนุ่มที่เป็นแขกของบ้านเอาไว้ เพราะคงไม่เหมาะถ้าจะให้แขกไปตามคนในบ้านมาพบ
“ไม่เป็นไรครับ”
พายัพรีบเดินออกมาจากโต๊ะอาหารทันทีแล้วตรงไปตามทางที่แม่บ้านของบ้านหลังนี้เดินกลับมา
ใบหน้าของเขาดูค่อนข้างหงุดหงิดพอสมควรเพราะไม่เคยต้องมารอพบใครนานขนาดนี้มาก่อน
ทุกคนที่นั่งอยู่ที่ตรงอาหารเงียบกริบกันหมด ไม่มีแม้แต่จะขยับตัวเพราะต่างฝ่ายก็ต่างไม่พอใจคนของตัวเอง
คุณหญิงไขศรีกำลังโมโหหลานสาวของตัวเองที่เล่นตัวราวกับรู้เรื่องว่าจะเกิดอะไรขึ้นจนไม่ยอมมา
อาทิตย์กับศจีก็กำลังไม่พอใจที่ลูกเลี้ยงอย่างพายัพไปให้ความสนใจกับหลานสาวของคุณหญิงไขศรีจนออกนอกหน้าแบบนั้น
เพราะตามที่ตกลงกันจนพากันมาถึงที่นี้คือจะแค่มาดูลาดเลากันก่อนว่าจะเอาอย่างไรต่อไปดีกับคนอย่างคุณหญิงไขศรีที่ดูมีพิษสงรอบตัว
“รอแป๊บนะคะ”
เสียงหวานของณลินตะโกนออกมาจากภายในบ้านพักเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น
คงเป็นป้าสุดากลับมาตามเธออีกรอบแน่ๆเพราะคุณหญิงยายของเธอคงไม่ยอมแพ้ง่ายๆ
“เร็วหน่อยก็ดี”
เสียงของชายหนุ่มที่ไม่ชอบการรอคอยตะโกนตอบกลับเข้าไปภายในบ้าน
พร้อมกับถอยหายใจยาวออกมาอย่างดังเพราะไม่พอใจที่นอกจากจะต้องเดินมาตามเองแล้วยังจะต้องมารออีก
“คุณเป็นใคร”
ณลินรีบหยิบชุดคลุมอาบน้ำที่ถอดออกไปแล้วขึ้นมาใส่อีกครั้งแล้วรีบออกมาเปิดประตูเพื่อมาดูว่าใครมาหาเธอถึงหน้าบ้าน
เพราะน้ำเสียงที่ตอบโต้เข้าไปนั้นไม่คุ้นหูมาก่อนเลย และไม่เคยได้ยินที่ไหนมาด้วย
“ว่าที่สามีของเธอในอนาคต”
คำทักทายแรกหลุดออกจากปากของชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงที่มีแต่ความไม่พอใจจนเกือบจะกลายเป็นตะคอกใส่หน้าหญิงสาว
“เป็นผีน่ะเหรอ”
เสียงหวานตอบกลับทันควัน เพราะคนอย่างเธอไม่เคยคิดจะมีสามีอยู่แล้ว
ด้วยต้องการจะอยู่ที่นี้ให้นานที่สุด เธอไม่คิดจะไปไหน ไม่คิดจะมีครอบครัวอะไรทั้งนั้น เพื่อให้คนในบ้านนี้อกแตกตายไปตามๆกัน
“เธอ”
พายัพถึงกับโมโหจนฟิวส์ขาดตะคอกกลับหญิงสาวที่เพิ่งเคยเจอหน้ากันครั้งแรกอย่างดัง
ไม่เคยมีใครหน้าไหนมาเรียกเขาแบบนี้มาก่อน ถึงแม้เขาจะเป็นหมอเจอผู้คนมามากมายแต่ก็ไม่เคยเจอคนไร้มารยาทอย่างเธอ
“ออกไปจากบ้านฉันได้แล้ว”
หญิงสาวยื่นมือไปดึงประตูบ้านเพื่อหวังจะปิดบ้านหนีคนเสียงดัง ที่เจอหน้ากันครั้งแรกก็ตะคอกเธอไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว
ด้วยเธอคงแรงสู้ผู้ชายหน้าฝรั่งที่หล่อแต่ดุอย่างกับหมาคนนี้ไม่ไหวแน่ๆ
“เชิญ”
มือหนายื่นเข้าไปกระชากแขนเล็กของหญิงสาวจนตัวเธอปลิ้วออกมาจากภายในบ้าน
แล้วเขาก็ฉุดกระชากลากถูกเธอให้เดินกลับไปที่บ้านหลังใหญ่พร้อมกับเขา
“นี่ปล่อยฉันนะ คุณเป็นใครเนี้ยมาจับตัวฉันทำไม”
หญิงสาวโวยวายเสียงดังที่ถูกจับตัวออกมาจากในบ้านพักของตัวเอง
เธอทั้งดิ้นทั้งร้องมาตลอดทางอย่างไม่กลัวว่าชุดที่ใส่อยู่จะหลุดออก
“ยายณิเงียบ”
ไขศรีส่งเสียงดุหลานสาวของเธอดังพอสมควรเมื่อได้เห็นทั้งเสียงและท่าทางเกินงามของหลานสาวที่ถูกชายหนุ่มลากตัวมา
พร้อมกับหยิบยาดมขึ้นมาดมฟืดใหญ่เพื่อดักอาการจะเป็นลมที่ตีตื้นขึ้นมาอยู่บริเวณอกแล้ว
“นี่ถึงขั้นจ้างให้คนไปจับตัวหลานสุดที่รักให้มาหาเลยเหรอคะ”
ณลินสะบัดแขนของเธออย่างแรงจนหลุดออกจากการจับกุมของชายหนุ่มได้
เธอก็รีบเข้าไปต่อว่าผู้เป็นยายที่วันนี้เล่นใหญ่กับเธอมากราวกับเธอเป็นผู้ร้ายต้องจับตัวมาส่งตำรวจเลยก็ว่าได้
“นั่งลง”
ไขศรีพยายามห้ามปราบหลานสาวไม่ให้ออกฤทธิ์ออกเดชมากนักต่อหน้าแขก
“เชิญหรือว่าไล่กันคะ”
ณลินไม่ได้สนใจคนอื่นที่นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร เธอหันไปตอบกลับผู้เป็นยายอย่างไม่มียอมแพ้
“นั่งลง แล้วนี่แต่งตัวบ้าอะไรของแก”
ไขศรีพยุงร่างกายที่ค่อนข้างแก่ชรามากแล้วลุกขึ้นยืนแล้วเข้าไปจับตัวหลานสาวกดให้นั่งลงกับเก้าอี้
พร้อมกับต่อว่าอย่างเหลืออดที่หลานสาวแทบจะแก้ผ้ามารับแขกแบบนั้น
“ก็ชุดอยู่บ้านแบบสบายๆไงคะ”
หญิงสาวไม่พูดเปล่า ทำท่ายกไม้ยกมือขึ้นไปมัดชุดให้แน่นหน้าเสียใหม่ต่อหน้าผู้เป็นยายอีกด้วย
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ อย่ามาทำอะไรอุบาทในบ้านฉัน”
คุณหญิงผู้ดีเก่าแก่อย่างไขศรีถึงกับลืมตัวตวาดหลานสาวลั่นบ้านเมื่อทนไม่ได้กับพฤติกรรมต่ำๆของหลานสาวตัวดี
“ชู่ว์อย่าเสียงดังสิคะบ้านเรากำลังมีแขกนะคะ”
ณลินยกนิ้วขึ้นปิดปากบางของเธอที่ทาด้วยลิปสติกสีแดงสดเอาไว้ เป็นท่าทางบอกให้ผู้เป็นยายเงียบเสียงลง