“ตกลงคุณเป็นใคร”
ภาคภาคินถามด้วยน้ำเสียงสงสัยใคร่รู้ คนที่จะรับโทรศัพท์ของคนอื่นได้ ต้องมีความสนิทสนมกันในระดับหนึ่ง เท่าที่เขารู้มาเธอยังไม่มีแฟน แล้วทำไมถึงมีผู้ชายมารับโทรศัพท์แทนได้ล่ะ
“ผมเป็นใครไม่สำคัญ เอาเป็นว่าถ้าเธอตื่นแล้วผมจะบอกให้ว่าคุณโทรมา” วิคเตอร์ตอบกลับเสียงเรียบ ไม่คิดจะตอบคำถามของคนต้นสาย นั่นยิ่งทำให้ภาคภาคินเริ่มกังวล กลัวว่าลออสิริกำลังตกอยู่ในอันตราย
“คุณทำอะไรน้องสิรึเปล่า ผมแจ้งความแน่” เขาขู่เสียงเข้ม
“ผมจะทำอะไรยัยนี่ได้ คุณไม่ต้องห่วงหรอก ผมไม่ใช่คนร้ายแน่นอน ผมชื่อวิคเตอร์ พนัสพาณิชย์ รองประธานบริษัทพนัสพาณิชย์และ... เป็นผู้ชายที่ลออสิริตามจีบอยู่”
พูดจบเขาก็กดตัดสายทันที ทำให้คนโทรหาลออสิริหน้าเหวอไปเล็กน้อย จากนั้นก็รีบค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต ว่ารองประธานบริษัทพนัสพาณิชย์คือใคร ครั้นพอพิมพ์ชื่อลงไปปุ๊บก็เจอปั๊บ ล่าสุดมีข่าวซุบซิบกับนางเอกช่องหนึ่งด้วย
ภาคภาคินเป็นรุ่นพี่ของลออสิริ รู้จักกันตั้งแต่เธอเข้าเรียนมหาวิทยาลัยชั้นปีที่หนึ่ง จนทุกวันนี้ก็ยังติดต่อกันเรื่อยมา เขาอ่านประวัติของวิคเตอร์ด้วยความสนใจ ก่อนจะขมวดคิ้วเหมือนจำได้รางๆ ว่ารุ่นน้องสาวที่ตัวเองแอบชอบเคยพูดถึงผู้ชายคนนี้
ตอนแรกเขาคิดว่าเธอพูดเล่น ไม่คิดว่าจะทำจริง เห็นทีพรุ่งนี้เขาต้องไปหาหญิงสาวด้วยตัวเอง
ไม่รู้เป็นเพราะวิคเตอร์ขับรถนิ่ม หรือเธอเหนื่อยเกินไปกันแน่จึงไม่รู้สึกตัว ถึงได้หลับมาตลอดทางกระทั่งรถจอดลงตรงหน้าคอนโด
ลออสิริตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงีย มองซ้ายมองขวาด้วยอาการเบลอเล็กน้อย งงว่าตัวเองหลับไปตั้งแต่ตอนไหน
“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง” หญิงสาวมารยาทงามไม่ลืมจะยกมือขึ้นมาไหว้อย่างเช่นทุกครั้ง วิคเตอร์พยักหน้ารับก่อนจะเอ่ยเรื่องสำคัญ
“ตอนคุณหลับมีโทรศัพท์เข้า ผมกดรับให้”
“ค่ะ แล้วใครโทรมา เขาบอกไหม”
“เห็นเรียกตัวเองว่าภาค”
“ภาคเหรอ อ๋อพี่ภาคค่ะ รุ่นพี่สิเอง”
“อืม เขาดูเป็นห่วงคุณมาก”
“ปกติค่ะ พี่ภาคนิสัยดี เป็นผู้ชายอบอุ่น ชอบเป็นห่วงคนรอบข้าง หน้าตาก็หล่อ บ้านก็รวย เรียกว่าสมบูรณ์แบบ”
“เขาดีขนาดนี้ทำไมคุณไม่ไปชอบล่ะ”
“เรื่องหัวใจบังคับกันได้ที่ไหน ก็เหมือนที่สิบังคับพี่วิคไม่ได้”
“จะเลิกจีบผมแล้วเหรอ”
“ยาก บอกเลยสิเป็นคนอดทนเก่ง จีบต่อค่ะ สิไปแล้วนะคะ”
ชายหนุ่มพยักหน้ารับ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจขึ้นไปส่งหญิงสาวบนห้องเพราะดูสภาพแล้ว เธอไม่น่าจะเดินไปถึง
ลออสิริดีใจมากที่วิคเตอร์ช่วยถือข้าวของเดินมาส่งถึงห้อง ทันทีที่เจอโซฟาตัวใหญ่เธอก็ทิ้งตัวลงด้วยความเหนื่อยล้า แม้แต่แรงจะลืมตาก็ยังไม่ค่อยมี
“ผมกลับก่อนนะคุณ พักผ่อนนะห้ามทำงาน”
ชายหนุ่มวางข้าวของที่ถือมาบนโต๊ะเสร็จก็ตัดสินใจกลับทันที เห็นหญิงสาวนอนหมดสภาพแล้วรู้สึกสงสารไม่น้อย อยากจะอ้าปากถามว่าเธอไปทำงานหรือไปรบ ขณะที่ลออสิริปรือตาขึ้นมองเล็กน้อยก่อนตอบ
“ค่ะ สิไม่ไปส่งนะคะ หมดแรงเดิน” ไม่ไหวแล้วแบตของร่างกายกำลังจะหมด ถ้าเปรียบกับแบตโทรศัพท์เธอคิดว่าน่าจะเหลือราวๆ สิบเปอร์เซ็นต์
“คุณอยู่คนเดียวได้ไหม” เขาถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย ถึงจะไม่ค่อยชอบที่เธอคอยมาวนเวียนใกล้ๆ แต่เห็นสภาพของเธอแล้วก็อดเป็นห่วงไม่ได้ อย่างไรลออสิริก็ถือว่าเป็นหลานรักนอกไส้ของคุณตาคุณยาย หากเธอเป็นอะไรไปท่านทั้งสองต้องไม่สบายใจแน่
“ถ้าไม่ได้ พี่วิคจะอยู่เป็นเพื่อนสิเหรอ”
“เปล่า ก็แค่ถามไปงั้นแหละ”
“จริงอะ บอกตรงๆ ก็ได้ว่าห่วงสิ”
“ไม่ได้ห่วง ผมถามตามมารยาท”
“อยู่ได้ค่ะ เรื่องแค่นี้สบายมาก ดูค่ะสิยังแข็งแรงอยู่”
เพื่อแสดงความแข็งแกร่งให้ชายหนุ่มดู หญิงสาวรีบลุกขึ้นมายืนด้วยความรวดเร็วทำให้เกิดอาการเซ เพราะร่างกายปรับตัวไม่ทัน แต่โชคยังดีที่วิคเตอร์อยู่ไม่ห่างจึงเข้าไปคว้าเอวเธอไว้ได้ทันเวลา แต่ทว่ากลับทำให้ทั้งสองเสียหลักล้มทับกันบนโซฟา
ดวงตาของชายหนุ่มเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อปากของตัวเองไปสัมผัสกับปากของหญิงสาว แม้แต่ลออสิริเองก็ยังอึ้งทำอะไรไม่ถูก ไม่คิดว่าอุบัติเหตุจะทำให้เธอกับเขาจูบกัน
หลังจากได้สติวิคเตอร์ก็รีบลุกขึ้นมาแล้วเดินออกจากห้องด้วยความรวดเร็ว ปล่อยให้เจ้าของห้องนอนงงกับเรื่องเมื่อสักครู่อยู่เพียงลำพัง ลออสิริกะพริบตาปริบๆ ก่อนจะพึมพำออกมา
“เมื่อกี้เรากับพี่วิคจูบกัน กรี๊ดดด...” อาการเหนื่อยล้าหายเป็นปลิดทิ้งหลังจากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับปากของตน
ลออสิริดีใจจนเก็บอาการไม่อยู่ คว้าโทรศัพท์ขึ้นมาได้ก็รีบส่งข้อความไปหาวิคเตอร์ ขอบคุณที่เขาช่วยรับตัวเธอเอาไว้ไม่ให้ไปจูบกับพื้น พร้อมกับส่งสติกเกอร์รูปผู้หญิงส่งจูบ
คนที่ได้รับข้อความถึงกับเบ้หน้า หันซ้ายหันขวามองหาทิชชูในรถเพื่อเอามาเช็ดปาก แต่มือกลับชะงักอย่างไม่ทราบสาเหตุ ก่อนจะบอกตัวเองว่าไม่ต้องเช็ดหรอก เปลืองกระดาษทิชชูเปล่าๆ กลับไปแปรงฟันเลยดีกว่า หลังกลับมาถึงคอนโดเขาก็รีบเข้าห้องน้ำแล้วบีบยาสีฟันใส่แปรง จากนั้นก็ถ่ายรูปส่งไปให้ลออสิริดู
หญิงสาวไม่ได้ตอบข้อความในทันทีเพราะกำลังบิดตัวไปมาด้วยความขวยเขิน สัมผัสละมุนเมื่อสักครู่ยังติดอยู่ที่ริมฝีปาก กระทั่งได้ยินเสียงแจ้งเตือนอีกครั้งจึงคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาดู แอบงงกับรูปที่ชายหนุ่มส่งมา แปรงสีฟันมียาสีฟันคืออะไร แล้วรูปที่เขาถ่ายหน้ากระจกในขณะยืนแปรงฟันจะถ่ายส่งมาทำไม
L.Siri : คืออะไรคะ?
Victor : ขจัดความซวย
L.Siri : อุ๊บ ว่าที่สามีบอกรัก
Victor : ตรงไหน คุณตกภาษาไทยเหรอ
L.Siri : พี่วิคแหละที่ตกภาษาไทย ชอบก็บอกมาเถอะค่ะ
Victor : (ส่งสติกเกอร์วิญญาณออกจากร่าง)
L.Siri : สิรู้สิเห็น
Victor : ชอบบ้าอะไร ไม่เห็นเหรอผมแปรงฟันจนปากเจ็บไปหมดแล้ว สยองจริงๆ
L.Siri : แต่สิฟินมากค่ะ รอบนี้ปากแตะปาก ส่วนรอบหน้า...
Victor : ???
L.Siri : จะทำมากกว่าจูบ
Victor : ฝันไปเถอะยัยอ้วน
L.Siri : ฝันดีค่ะสุดหล่อของยัยอ้วน
บทสนทนาจบลงเพียงเท่านี้เพราะโทรศัพท์ของหญิงสาวมีสายเรียกเข้า เป็นสายจากภาคภาคินที่ยังไม่ไว้วางใจและเป็นห่วงลออสิริ พร้อมกับบอกว่าพรุ่งนี้เขาจะเข้าไปหาเธอที่บริษัทก่อนเที่ยง