เรื่องสั้น จบในตอน

2448 Words
สัญญาณสวาท S H A S H A ตอนที่ฉันกำลังเดินลัดเลาะภายในสวน กำลังจะกลับเข้าบ้านอยู่นั่นเอง เงาสูงใหญ่ของอะไรสักอย่างก็ทาบเป็นแนวยาวมาที่ด้านหลังของฉัน พร้อมเสียงทักถามดังขึ้น “ทำไมออกมาเดินค่ำ ๆ มืด ๆ แบบนี้” ฉันหันไปปลายตามองที่เสียงนั่น ก็พบว่าเป็นเจ้าของร่างกายบึกบึน ที่ฉันเคยแอบมองเขาอยู่เสมอ รูปร่างของเขาสูงใหญ่ คงเป็นเชื้อสายต่างชาติ ไม่ใช่ไทยแท้อย่างที่ฉันเคยได้ยินมาว่าฉันเป็น หรือเคยเห็นจากพวกอื่น ๆ ฉันไม่ได้ตอบอะไรเขาไปหรอก มองด้วยหางตาอย่างระแวดระวัง แล้วออกเดินกลับไปยังบ้านอย่างเดิมอย่างที่ตั้งใจไว้ในคราแรก “เดี๋ยวเดินไปส่ง” เสียงเขาบอก แล้วเดินเข้ามาเสียใกล้จนฉันใจสั่นนิด ๆ เดินต่อแทบไม่ไหว รู้สึกว่าร่างกายของฉันมันแปลก ๆ เมื่อได้ใกล้ชิดกับเขา เขาเอาตัวมาเบียดฉัน จนจมูกของเขาเฉียดใบหน้าของฉันไปนิดเดียว ฉันหยุดเดิน เอียงหน้าหนีเขา ใจสั่น ขาของฉันก็สั่นตามไปด้วย เมื่อรู้สึกได้ว่าเขาแอบสูดดมไปตามพวงแก้มและลำคอของฉัน แล้วตอนนั้นเอง ที่ฉันต้องผงะออกห่าง ขนบนเรือนกายตั้งชันทั้งตัว พร้อมกับที่หูแว่วเสียงเรียกดังมาจากในบ้าน อาการวูบวาบในร่างกายของฉันยังคงอยู่ ตาอดมองไปยังไฟที่ส่องมาจากในบ้านที่อยู่เบื้องหน้านี่ไม่ได้ เสียงเรียกนั่นดังมากขึ้น แล้วก็ใกล้กว่าเดิม ฉันฟังเสียงนั่นแล้วก็จำได้มั่น ว่านั่นคือเสียงของพี่ฉันเอง “ต้องไปแล้ว” ฉันบอกเขา ด้วยอาการตัดใจ ตัดอารมณ์ ตัดความรู้สึกอย่างหนึ่งที่แล่นพุ่งพล่านในตัวทิ้งไป เดินให้ห่างจากเขา หนีความรู้สึกแปลก ๆ เหล่านั้น แต่เขาก็ไวมาก เข้ามาขวางหน้า คำรามในลำคอบอกว่าคืนพรุ่งนี้จะรอฉัน รอที่ตรงนี้อีก รอฉันอย่างนั้นหรือ ฉันไม่มีทางออกมาพบเขาดึก ๆ ดื่น ๆ อีกเป็นแน่ “กว่าจะกลับมาได้ ออกไปไหนมาอีกแล้วเนี่ย” เสียงกล่าวกระแหนะกระแหนของพี่สาวดังดักอยู่ที่ทางเข้าบ้าน ฉันยิ้มไม่ตอบอะไร ก่อนจะเดินเลี่ยงไปยังอีกทาง เพื่อจะกลับเข้าห้องของตัวเอง แต่พี่สาวของฉันกลัยเดินตรงเข้ามาลากฉันเข้าไปในอีกห้อง ฉันอยากขัดขืน แต่แล้วก็สู้แรงของพี่ไม่ไหว เมื่อทางนั้นลงทุนอุ้มฉันแล้วจับเข้าไปในห้องจนเป็นอันสำเร็จ พี่ขังฉันเอาไว้ในห้องได้แล้ว ก็ปิดล็อกห้องทันที แล้วออกไปคุยกับแม่ที่ด้านนอก ทั้งคู่ส่งเสียงบ่นเรื่องที่ฉันมักจะออกไปไหนมาไหนตอนดึก ๆ อยู่เรื่อย ฉันถอนใจเบา ๆ นอนลงอย่างหมดอาลัยตายยาก ตอนนั้นเองที่ความรู้สึกของช่องท้องของฉันมันปั่นป่วนขึ้น ฉันนึกถึงความใกล้ชิดที่มีให้ระหว่างกันกับเขา ฉันกำลังถูกจับแก้ผ้า พวกเขาขัดเนื้อตัวของฉันจนได้กลิ่นหอมสะอาดไปทั้งจมูก ตอนนั้นเองที่สายตาของฉันเหลือบไปเห็นเขาคนนั้นที่ไกล ๆ เขาแอบมองฉันอาบน้ำอยู่ ทั้งอาย “ฉันหนาวนะพี่ ฉันอยากเข้าบ้านแล้วด้วย” ฉันหันไปบอกคนที่กำลังพยายามขัดถูหลังให้ฉันอยู่ แต่แล้วกลับถูกดุกลับมาว่า “อยู่นิ่ง ๆ สิ จะได้เสร็จไว ๆ ดิ้นแบบนี้แล้วเมื่อไรจะเสร็จสักที” ต้องข่มอายแล้วเบือนหน้าหนีสายตาคมที่ลอบมองมาจากด้านนอก กว่าจะเสร็จฉันก็ตัวหนาวสั่น หลังจากถูกขัดสีฉวีวรรณแล้ว ฉันก็พาตัวเองออกไปเดินเล่นที่ด้านนอก แล้วก็อดมองหาเขาคนนั้นไม่ได้ ตอนที่เดินหายเข้าไปในพุ่มไม้รก ๆ ตรงหน้านั่นเอง ฉันก็ตกใจอย่างหนัก เมื่อเห็นว่าเขาคนนั้นยืนอยู่ที่ตรงหน้านี่เอง “กลิ่นของเธอมันฟุ้งกระจายไปทั่วเลยรู้ไหม” “กลิ่นหรือ” ฉันไม่เห็นรู้เลยว่าตัวเองมีกลิ่น “นี่ไง” ใบหน้าของเขาคลอเคลียอยู่กับใบหน้าของฉัน แล้วไล้ไปตามลำตัว ทำเอาฉันร้อนซู่ซ่าไปหมด บังเกิดอาการบางอย่างขึ้น “หอม จนอดใจแทบไม่ไหว” เขาบอกพร้อมกับดันฉันเข้าไปในพงหญ้าที่รก ๆ นั่น พร้อมกับดันฉันลงกับพื้น ขึ้นคร่อมฉันจากด้านหลัง แม้ฉันจะไม่เคย แต่ก็รู้สึกอย่างขยับตัวหลบหลักหนีเขา แต่ยิ่งหลบ เขาก็ยิ่งส่งเสียงคำรามใส่ ฉันหมดเรี่ยวแรงจะหนีไปจากเขา เพราะในกายของฉันก็ร่ำร้องอยากให้เขาทำอะไรกับฉันสักอย่างเพื่อลดอาการร้อนวูบวาบในเรือนร่างของฉันหลายวันมานี้ ร่างกายของฉันไม่ได้เป็นของฉันอีกต่อไปแล้ว เมื่อถูกเขากดลงที่พุ่มไม้ข้างบ้าน แล้วสอดเจ้าสิ่งที่ฉันมองไม่เห็นเข้ามาที่ในเรือนกายของฉัน “เจ็บ ฉันเจ็บ” ฉันร้องเสียงลั่น โหยหวยจนเขากดแรงลงมาที่หลังของฉันอีก น้ำหนักของเขาไม่เบาเลย ร่างสูงใหญ่กว่าฉันเป็นเท่าตัวทั้งหนักทั้งสั่นไปทั้งร่าง เขาปล่อยให้ส่วนที่สัมผัสกันนิ่งไว้แบบนั้น “กูด้วยนะโว้ย” เสียงแหบพร่าน่าเกลียดนั่นดังมาจากไหน ฉันพลิกกายหาในความมืด แต่แล้วก็บิดตัวไม่พ้นจากเขา ได้ยินแต่เสียงของเขาที่คำรามไล่เงาของพวกที่รุกเข้ามา “ไม่นะ ปล่อยฉัน” ตอนนั้นเองที่ต่างก็ชุลมุนกันไปหมด วุ่นวาย อึกทึก และเขาก็ถูกพวกมาใหม่รุมทำร้าย หลังจากนั้นฉันก็ถูกล่วงล้ำ ซ้ำ ๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีก ไม่ใช่จากเขาคนนั้นอีกแล้ว แต่เป็นพวกอื่น ๆ ที่ดาหน้า ถาโถมเข้าหาฉัน ฉันเจ็บร้าวระทมไปหมดทั้งร่างกายที่พวกนั้นกรพทำกับฉัน ไม่รู้ว่านานแค่ไหน ที่ฉันสามารถตัวเองกลับมาที่บ้านได้อย่างเดิม ทั้งบ้านเงียบงัน ในนั้นเปิดไฟไว้เพียงบางดวงให้พอมีแสงรำไรอยู่บ้าง ฉันหมดเรี่ยวแรงจะเดินเข้าไป ขาของฉันอ่อนเปลี้ยและหมดเรี่ยวหมดแรง พาตัวเองลงนอนที่ตรงหน้าประตูอยู่นั่นเอง ฉันไม่เห็นเขาอีกเลย ตั้งแต่คืนนั้นเป็นมา และฉันก็รับรู้ได้ถึง บางอย่างที่เปลี่ยนแปลง ร่างกายของฉันมันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ฉันรู้สึกอ่อนเพลีย อยากหลับตลอดทั้งวัน และเจ็บตึงที่ตรงหน้าอก “ท้องแล้วล่ะสิ” เสียงถามแดกดันดังมาจากไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าคนถามกำลังต้องการพูดกระแหนะกระแหนกับฉัน ร่างอ้วนใหญ่ของคนถาม เดินเอาจานใส่ของโปรดมาวางลงที่ตรงหน้าฉัน ถึงจะดุว่า แต่ก็ไม่เคยขาดแคลนเรื่องการเอาใจใส่ อาหารการกินพี่สาวของฉันดูแลตลอด “มันจะคลอดได้ไหมแม่” “ทำไมแกพูดแบบนั้น” “แม่ดูมันสิ อายุเท่านี้ก็ท้องแล้วเนี่ย เผลอ ๆ ลูกในท้องจะตัวใหญ่กว่ามันอีกนะ” สายตาของคนที่ถูกเรียกว่าแม่มองฉัน ทำให้ฉันรู้สึกอับอาย หน้าชาจนร้อนไปหมด หญิงชราคนนั้นพึมพำเบา ๆ ตอนที่จ้องตาฉัน “ท้องหรือ” นี่ฉันท้องหรือ ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนั้นนัก นอกจากเรื่องกิน เรื่องออกไปวิ่งเล่นแล้ว ฉันก็แทบไม่รู้อะไรเลย พี่สาวกับแม่เท่านั้นที่เป็นเหมือนคนที่ปลอดภัยที่สุดที่ฉันจะกล้าเข้าใกล้ ตั้งแต่จำความได้ ฉันก็อยู่ภายใต้แม่กับพี่สาวในบ้านหลังนี้แล้วฉันไม่เคยมีเพื่อน มีก็เพียงแต่ฝั่งตรงข้าม แวะเข้ามาหาแล้วก็จากไป ไม่เคยได้พูดคุยกันได้ทุกเรื่องอย่างที่ใจฉันต้องการ ตอนนี้ฉันอยากรู้ว่าท้องคืออะไร หลายวันจากนั้น ฉันรู้สึกว่าจะขยับเคลื่อนไหวตัวได้เชื่องช้าลงเรื่อย ๆ และท้องของฉันก็โตขึ้น ฉันรู้สึกเสียใจเวลาที่คนในบ้านมองมาที่ฉัน แววตาที่ทั้งดูหมิ่น และสังเวชทำให้ฉันระอายใจ และอีกหลายวันหลังจากนั้น ในเช้าวันหนึ่ง ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายตัวเอาเสียเลย ในท้องของฉันมันถ่วงต่ำลงมาก ฉันกระวนกระวายใจจนนั่งไม่ติด แม้จะลุกลำบากแต่การได้เคลื่อนไหวตัวทำให้ฉันหายจากอาการไม่สบายเหล่านั้น ไม่มีใครอยู่บ้านเลยสักคน พวกเขาจะกลับมาตอนไหน ตอนนั้นเองที่สายตาของฉันมองเห็นเขาที่หน้าบ้าน เขามา เขามาฉันแล้ว ฉันมองเขาจากในบ้าน หวังใจอยากให้เขาเข้ามาฉัน ช่วยปลอบโยนฉัน แต่เปล่าเลย เขาเดินจากไป โดยไม่สนใจใยดีฉันสักนิด ฉันรู้สึกถึงความเสียใจที่ก่อตัวขึ้นอย่างเงียบ ๆ ในหัวใจของฉัน แต่ตอนนี้มันไม่เจ็บเท่ากับร่างกายอีกต่อไปแล้ว “ช่วยด้วย” ฉันส่งเสียงร้องเรียกให้ใครก็ตามเข้ามาช่วยฉัน อาการแปลก ๆ พวกนี้มีนกำลังทำให้เจ็บปวด ปวดอย่างที่ไม่เคยปวดมาก่อน มันคืออะไรกัน “ช่วยหนูด้วย หนูเจ็บ” ฉันร้องอีกครั้ง และอีกครั้ง อยู่เป็นนานจนเริ่มรู้สึกถึงความเปียกชื้นที่ท่อนล่าง มีน้ำไหลออกมาจากส่วนนั้นของฉันแล้ว “ได้โปรดเถอะ ใครก็ได้ช่วยฉันด้วย” ฉันได้ยินเสียงรถของพี่แล้ว “ช่วยด้วย หนูเจ็บ พี่จ๋าช่วยหนูด้วย” ฉันกลั้นใจร้องอีกครั้ง ไม่นานก็ได้ยินเสียงเปิดประตูเข้าบ้านมา พร้อมกับเสียงร้องโวยวายของพี่ “จะคลอดแล้วหรือ” เสียงถามกระวนกระวายใจ พร้อมกับเสียงของพี่ตะโกนดังลั่นบ้านขึ้นว่า “แม่! มันจะคลอดแล้ว” ฉันปิดตาลงเพราะหมดเรี่ยวแรงแม้แต่จะลืมตาขึ้นมองดู ได้ยินเพียงฝีเท้าเบา ๆ พร้อมกับเสียงถามทอแววอ่อนโยนดังมาว่า “ท้องสาว ไม่ออกง่าย ๆ หรอก” ฉันฝืนเปลือกตาลืมขึ้นเพื่อที่จะมองไปยังพวกเขาด้วยแววตาขอความเห็นใจ แทบไม่ต้องร้องขออะไรอีก ฉันถูกย้ายออกไปนอนที่นอกบ้าน ในห้องเก็บของที่เป็นส่วนตัว ในนั้นมืด เงียบมาก และถูกจัดวางของใหม่ให้สะอาดและปลอดภัย “ทนหน่อยนะ” เสียงจากพี่ทำให้ฉันรู้สึกปลอดภัย ฉันมองตอบพี่นิ่ง ๆ อย่างหมดเรี่ยวแรง “หิวไหม กินไหวไหว” ฉันมองพี่สาวที่เอาแต่ถามไม่หยุดด้วยน้ำตาที่คลอเต็มสองเบ้า ก่อนที่ระลอกความเจ็บปวดจะรุกคืบเข้ามาทรมานฉัน ฉันร้องโหยหวนอีกครั้งเมื่อในท้องเจ็บหน่วงขึ้น เจ็บมากขึ้น มากขึ้น และมากจนฉันกรีดเสียงร้องออกจนสุด “แม่!” เสียงพี่สาวตะโกนเรียกหาแม่ ไม่นานท่านก็ตามเข้ามาในห้อง พร้อมกับลงนั่งใกล้ ๆ ลูบหัวฉันเบา ๆ “สู้นะนวล แม่เอาใจช่วยตรงนี้ล่ะ” “พามันไปหาหมอไหมแม่ กลัวมันคลอดไม่ไหว” “รอดูก่อน ต้องไหวสิ นวลมันเก่งออกสู้นะลูก แม่จะอยู่ช่วยใกล้ ๆ ตรงนี้แหละ” ฉันมองพวกเขาด้วยสายตาสับสนเมื่อท้องของฉันปวดขึ้นอีกครั้ง ปวดขึ้นมาอีกครั้งแล้ว ฉันร้องหวยโหนลั่นพร้อมกับอาการเจ็บแสบปวดร้าวที่ส่วนนั้น “ออกแล้ว ออกมาแล้วนวล เบ่งลูกเบ่ง เบ่งอีกลูก ยังมีอีก” ที่เหลือฉันแทบควบคุมอะไรต่อไปอีกไม่ได้แล้ว เมื่อมวลในท้องพากันบีบตัวและไหลตาม ๆ กันออกไป ฉันได้แต่นอนหายใจระรวยบนเศษผ้าที่พี่สาวปูรองเอาไว้ให้ “สิบเอ็ดตัวตัวเลยนะแม่ จะเลี้ยงกันไหวไหมเนี่ย” ฉันนอนถอนหายใจมองพวกเขา ก่อนจะหลับตาลงพร้อมกับความรู้สึกเหนื่อยล้าไปทั้งกาย เจ้าตัวที่อยู่ในท้องของฉันร้องหงิง ๆ ใกล้ ๆ นี่เอง แต่ฉันไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะลืมตามองดู ลูก พวกนั้นคือลูกของฉันเอง ไม่นานแม่จับฉันพาส่งที่คลินิกเพื่อทำหมัน ฉันไม่ได้เจอเขาอีกแล้ว ไม่มีสายตาที่คอยลอบมอง ไม่มีเสียงเรียกร้องให้ออกไปหาอีกต่อไป พร้อมกับร่างกายที่อ้วนฉุบวมใหญ่ของฉันที่นับวันจะมากขึ้น กลิ่นที่เขาเคยบอกว่ามันขจรขจายไปหาเขา ไม่มีอีกแล้วละมั้ง เขาไม่มามองฉันอีกแล้ว ฉันเห็นว่าสมาชิกใหม่ฝั่งตรงข้ามกำลังเป็นจุดสนใจของพวกนั้น แทนที่ฉันแล้ว “ตอนแล้วอ้วนเลยเนอะแม่ รู้งี้จับไปตอนแต่แรกก็จะได้ไม่ต้องเจ็บตัวแล้วนวล” “หมอบอกว่าตอนมันติดสัด มันจะมีกลิ่นให้ตัวผู้อยากมาทับมันไงแม่ บอกอีกว่าอย่าฉีดเลยยาคุม ให้เอาไปทำหมันดีกว่าถ้าไม่อยากเลี้ยงลูกมันน่ะ นี่ทำแล้วก็คงสบายแล้วล่ะ ไม่ต้องคอยไล่ไอ้พวกนั้น” พี่สาวบอกจบส่งชิ้นไก่ทอดที่แกะแล้วยื่นให้ที่ตรงหน้าฉัน อ้าปากแล้วงับเบา ๆ เคี้ยว แล้วมองไปที่แม่กับพี่สาวไม่ได้ “ดีแล้วที่รอดมาได้ กลัวจะเหมือนรอบก่อน ๆ ที่ตายในท้องจำได้ไหม” พี่สาวตอบรับกับแม่ แล้วมองมาที่ฉัน “ทีแรกก็กลัวแบบนั้นแหละแม่ ดีแล้วที่รอด แก่ตายไปด้วยกันนะ อย่าชิงตายไปก่อนล่ะ” ฉันเดินกระดิกหางไปหาแม่และพี่สาว เดินตามความอบอุ่นของฉัน แล้วก้มลงกินข้าวคลุกเนื้อหมูคั่วที่ทั้งหอมและอร่อยถูกปากที่สุด “ชอบล่ะสิ” เสียงถามพร้อมกับมือที่ลูบลงบนหัวของฉัน เสียงนี้ให้ความมั่นคงและปลอดภัยเสมอ ฉันก้มลงกินอาหารในชามของฉัน พร้อมกับกระดิกหางและส่งยิ้มให้กับพวกเขาที่ยืน

Great novels start here

Download by scanning the QR code to get countless free stories and daily updated books

Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD