ตอนที่ 7

984 Words
ซิ่นหนิงเยว่นั่งคุดคู้ ตัวสั่นเทาอยู่มุมหนึ่งของห้อง น้ำตานองหน้า พร่ำบอกตัวเองว่าร้องไห้ให้พอ พอเมื่อไหร่ก็จงหยุด...หยุดกับความทุกข์ที่สวรรค์เคยกลั่นแกล้งนาง นางจะมิยอมเป็นสตรีที่ขลาดกลัวแต่แสร้งเข้มแข็งอีกต่อไป นางจะเป็นสตรีที่เข้มแข็งทั้งกายและใจ ในเมื่อสวรรค์ได้ส่งนางไปยังโลกหนึ่งเพื่อเรียนรู้ชีวิต ครั้งนี้นางได้ชีวิตนางกลับคืน นางขอใช้ให้คุ้มก็พอ "คุณหนู คุณหนูเป็นอะไรหรือไม่เจ้าคะ?" หยวนเพ่ยตะโกนเข้าไปภายในเรือน เมื่อได้ยินเสียงสะอื้นไห้ของผู้เป็นนายสาวของตน แต่ก็ยังไม่ได้ยินเสียงตอบรับจากผู้เป็นนายแต่อย่างไร "คุณหนู…" หยวนเพ่ยเอ่ยเบาๆ กับตัวเองด้วยสงสารคุณหนูของตนยิ่งนัก ชีวิตแต่นี้ต่อไปซิ่นหนิงเยว่จะต้องเจออะไรอีก นางไม่อยากจะคิดเลย หยวนเพ่ยหลับตายกมือพนมด้วยใบหน้ามุ่งมั่น ในใจไม่มีใครได้ยินว่านางอธิษฐานต่อสิ่งใด เพียงไม่นานนักเสียงประตูจากด้านในก็ดังออกมา เพื่อให้คนภายนอกได้ยิน หยวนเพ่ยลืมตาจากการระลึกถึงบางสิ่ง เห็นว่าประตูห้องค่อยๆ แง้มออกมาพร้อมกับสตรีร่างอ้อนแอ้นอรชนที่ดวงตายังแดงก่ำที่ยังชื้นคราบน้ำตา "คุณหนู" สาวใช้เห็นคุณหนูของตนหลั่งน้ำตาหลังจากที่ไม่เคยเห็นมานาน ครั้งสุดท้ายก็ตอนที่นางได้รับหนังสือหย่าจากท่านแม่ทัพ ในความรู้สึกของหยวนเพ่ยเกิดความคิดเพ้อเจ้อไปว่าคุณหนูหาได้มีใจต่อท่านแม่ทัพ หรือแท้ที่จริงแล้วคุณหนูของตนชอบท่านแม่ทัพกันแน่ พลันอยู่ๆ นางก็ก็หลุดจากความคิดของตนกลับมาสนใจซิ่นหนิงเยว่ เพราะเมื่อได้ยินน้ำเสียงที่สั่นเครือของอีกฝ่าย "หยวนเพ่ย ข้าไม่อยากทนต่อไปอีกแล้ว วันนี้...เป็นวันที่ข้าได้พูดไปแล้ว ข้าพูดแล้วจริงๆ" หยวนเพ่ยไม่รู้แน่ชัดว่าผู้เป็นนายกล่าวสิ่งใด แต่พอจะจับต้นชนปลายได้ว่าซิ่นหยิงเยว่ต้องกล่าวบางสิ่งกับท่านแม่ทัพ โดยมีหรงอี๋เหนียงเป็นชนวนสำคัญอยู่บ้าง ไม่เช่นนั้นซิ่นหนิงเยว่จะให้นางจับตามองหรงอี๋เหนียงไปเพื่ออันใด นางผู้นั้นตั้งแต่ฟื้นจากการพลัดตกน้ำนิสัยก็เปลี่ยนไป แม้จะไม่มีพิษสงแต่บ่าวอย่างนางจะไม่เชื่อใจเด็ดขาด มิเช่นนั้นหนังสือหย่าของฮูหยินแห่งจวนแม่ทัพบูรพาจะมาถึงมือผู้เป็นนายได้อย่างไร "คุณหนู! คุณหนูยังมีบ่าวนะเจ้าคะ" หยวนเพ่ยลูบที่แขนนางอย่างแผ่วเบา ปลอบประโลมราวปลอบเด็กน้อย คงจริง...เมื่อครู่นางแค่เพ้อเจ้อไปเท่านั้น คุณหนูของนางจะรักท่านแม่ทัพได้อย่างไร ต่อให้ใบหน้าหล่อเหลาเหมือนใต้เท้าซิ่นแต่ด้วยการแสดงออกของท่านแม่ทัพ นางรู้ดีว่าคุณหนูไม่มีทางชอบเป็นแน่.... ซิ่นหนิงเยว่สะอึกสะอื้นอยู่เป็นนาน จนน้ำตาของนางเริ่มหยุด แต่ทว่าดวงตายังแดงก่ำ นางใช้มือข้างหนึ่งปาดน้ำตาให้ตนเองที่ข้างแก้มอย่างลวกๆ และยิ้มออกมาน้อยๆ ด้วยแววตาเจือความเศร้า "คนดีของบ่าว เลิกร้องได้แล้วนะเจ้าคะ ดูสิ! หมดสวยแล้วนะเจ้าคะ คุณหนูของบ่าวต้องเข้มแข็งเอาไว้ หากซิ่นฮูหยินรู้ท่านจะเสียใจนะเจ้าคะ" หยวนเพ่ยเอ่ยปลอบด้วยรอยยิ้ม ราวกับนางเป็นพี่สาวที่กำลังกอดปลอบน้องเมื่อโดนผู้อื่นรังแกจนร้องไห้ ซิ่นหนิงเยว่หาได้ตอบรับปากด้วยวาจา หากแต่พยักหน้ารับ "แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว...พอแล้วเจ้าค่ะคุณหนู" นางปลอบอีกครั้ง ดวงตาเริ่มมีน้ำตาคลอ แต่เจ้าของดวงตากลับสามารถเรียกมันกลับคืนไปได้ "หยวนเพ่ย ข้าอยากออกไปเดินเล่นนอกจวน" คำแรกหลังจากน้ำตาได้เหือดหายไป นางก็กล่าวขอร้องสาวใช้ของตน แต่ก็พอจะทำให้นางหยวนเพ่ยถามสวนกลับมาทันที "คุณหนูจะไปทำไมเจ้าคะ?” "ข้าอยากหาจวนหลังใหม่" นางตอบหยวนเพ่ยด้วยแววตาไร้ซึ่งความอาลัยอาวรณ์ ถึงแม้นว่ากระบอกตาของนางยังคงแดงอยู่ แค่เพียงคำตอบก็ทำให้ผู้เป็นสาวใช้ถึงกับตะลึงงัน "หาจวนใหม่!? คุณหนูจะย้ายออกหรือเจ้าคะ?" "ใช่! ข้ายื่นหนังสือหย่าให้กับท่านแม่ทัพแล้ว รอเพียงเขาลงนาม ทั้งข้าและเขาก็สิ้นสุดกันเสียที แล้วข้าก็มิจำเป็นต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไป ข้าเกลียดสายตาของเขาที่มองข้าด้วยความรู้สึกเหยียดหยามเช่นนั้นเหลือเกิน หยวนเพ่ย" "ตะ…แต่" ซิ่นหนิงเยว่ไม่รอให้หยวนเพ่ยเอ่ยปฏิเสธ อย่างไรนางก็ไม่อยากจะอยู่ที่นี่อีกต่อไป ในเมื่อนางกล้าที่จะเอ่ยอย่างที่ใจต้องการแล้ว เหตุใดนางถึงจะไม่ทำให้จบสิ้นไปเสียทีเล่า "ข้าอดทนมาสองปีแล้วนะ ข้าเป็นได้แค่กาฝากของจวนนี้...เจ้าก็รู้ กาในฝูงหงส์ย่อมผิดแผกไม่ใช่หรือ?" "แต่ว่านายท่าน!" "อย่าได้เอ่ยถึงเขา ผู้ชายที่ไม่เคยเห็นคุณค่าของภรรยาและบุตร มาช่วยข้าแต่งตัว ข้าจะออกไปนอกจวน" "เอ่อ..." นางจ้องหน้าผู้เป็นนายสาว ดูท่าครั้งนี้นายสาวจะจริงจัง เพราะยากนักที่บ่าวอย่างนางจะทักท้วงในเวลานี้ รอให้ซิ่นหนิงเยว่ใจเย็นลงก่อน ค่อยพูดก็ยังไม่สาย "เร็วสิ" เสียงตวาดทำให้หยวนเพ่ยตกใจ เมื่อเห็นคุณหนูของตนกลับมาเข้มแข็งเหมือนเดิม นางก็รีบสาวเท้าเดินเข้ามาช่วยผู้เป็นนายแต่งตัว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD