เรนโบว์
“แค่วันแรกก็สายแล้ว จะทันเข้าห้องไหมเนี่ย!” ฉันเดินไปบ่นไปด้วยความรีบร้อน เพราะว่าวันนี้เป็นวันแรกที่ได้พบอาจารย์ประจำวิชา ซึ่งฉันก็ยังจะตื่นสายจนตอนนี้มันเลยเวลาเข้าเรียนมาแล้ว แต่ว่าฉันยังคงเดินไม่ถึงตึกคณะเลยด้วยซ้ำ
“โทรศัพท์อยู่ไหนอีกเนี่ย!” ฉันโวยวายไปค้นหาโทรศัพท์ในกระเป๋าไปด้วย เพราะจะได้โทรหาเพื่อนตัวเองว่าอาจารย์เข้าห้องหรือยัง
ปัก ตุบ!
“อ๊ะ!” วันซวยอะไรของฉันเนี่ย คนยิ่งรีบๆอยู่ยังจะมาชนกับใครก็ไม่รู้จนต้องล้มก้นกระแทกพื้นอีก
“เดินประสาอะไร” แล้วเสียงเข้มตรงหน้าก็เอ่ยขึ้น ทำให้ฉันต้องเงยหน้าไปมอง ก่อนจะเห็นผู้ชายร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงหน้าสามคนและมีแต่คนที่หล่อมากเหมาะกับการเอามาทำพ่อของลูก แต่...
“ชนคนอื่นแล้วไม่คิดจะขอโทษ ยังเป็นผู้ชายหรือเปล่าห๊ะ!” ฉันว่าให้คนตรงกลางไปอย่างไม่ยอมแพ้ ถึงแม้ว่าจะหล่อวัวตายความล้ม แต่นิสัยแบบนี้ฉันก็ไม่เอาทำพันธุ์หรอก
“คนที่เดินไม่ดูคือเธอมากกว่านะ” แล้วผู้ชายคนตรงกลางก็พูดขึ้นด้วยสีหน้าที่ไม่ได้รู้สึกผิดเลยแม้แต่นิดเดียว
“นายนั่นแหละผิด ฉันเดินทางของฉันดีๆ แล้วนายก็มาชนฉันเนี่ย!” ฉันลุกขึ้นยืนแล้วยังคงเถียงกลับไปเหมือนเดิม ก็ปกติของคนเราก็ต้องเดินฝั่งทางซ้ายมือตัวเองอยู่แล้วไหม จะได้สวนกันอย่างไม่มีปัญหา และฉันก็เดินในเลนของฉันด้วย
“บ้านเธอมาซื้อทางนี้ไว้หรือไง ถึงกล้าพูดว่าทางของตัวเอง เดินไม่ดูทางเองก็อย่าพูดมาก” ผู้ชายคนนั้นยังคงพูดขึ้นด้วยหน้าตามึนๆไม่รู้สึกผิดเหมือนเดิม และนั่นมันก็ยิ่งทำให้ฉันโมโหกับมันมากกว่าเดิม
“ถ้ามาเรียนแล้วยังโง่แบบนี้ก็กลับบ้านไปซื้อควายมาเลี้ยงซะ! โอ๊ะไม่สิ คนอย่างนายน่าจะซื้อควายมาให้เลี้ยงนายมากกว่า เพราะควายน่าจะยังฉลาดกว่านาย” ฉันพูดขึ้นด้วยความหมั่นไส้และเหลืออด คนอะไรผิดแล้วยังไม่รู้จักขอโทษ ช่วยสักนิดก็ไม่มี ความเป็นสุภาพบุรุษไม่มีเลยสักนิด
“อยากตายหรือไงยัยเตี้ย!” ไอ้ผู้ชายตัวสูงตรงหน้าก้าวเข้ามาบีบแขนฉันอย่างแรงแล้วพูดด้วยสีหน้าโกรธจัด
“โอ้ย!” ฉันร้องขึ้นด้วยความเจ็บทันที
“เห้ยๆ พอแล้วหน่า ยังไงน้องมันก็เป็นผู้หญิง” แล้วผู้ชายด้านซ้ายก็เข้ามาดึงผู้ชายคนนี้ออกแล้วพูดขึ้นด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง
“เออมึงก็ปล่อยน้องมันไปเถอะ ถือว่าปล่อยนกปล่อยปลา” แล้วผู้ชายด้านขวาก็พูดขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มๆที่แสนจะกวนเบื้องล่าง ผู้ชายกลุ่มนี้มันจะหาดีสักคนไม่ได้เลยหรือไงวะ ดีที่ยังพอคุยกันได้ก็คงจะเป็นพี่ด้านซ้ายนั่นแหละ
“หึ ครั้งนี้ถือซะว่าฉันโปรดสัตว์ก็แล้วกัน เตรียมตัวไว้เลยนะ ยัยเตี้ย” แล้วผู้ชายตรงหน้าก็พูดพร้อมกระตุกยิ้มอย่างไม่หน้าไว้ใจก่อนจะปล่อยฉันแล้วเดินผ่านออกไปทั้งสามคนทันที
“คิดว่าฉันกลัวหรือไงไอ้เถื่อน ไอ้โย่ง ไอ้ต้นมะพร้าว ไอ้เสาไฟฟ้า ไอ้... หึ๋ย!” ฉันสบทออกมาหลังจากคิดคำด่าไม่ออก แล้วไอ้ที่ฉันด่ามันไปไม่ต้องตกใจหรอก ก็มันเล่นสูงมาก ขนาดฉันที่สูงเกือบร้อยหกสิบห้า ยังสูงแค่อกมันเอง ไม่แปลกใช่ไหมล่ะที่มันเรียกฉันว่ายัยเตี้ย(ทั้งที่ฉันก็ได้มาตรฐานหญิงไทย) แล้วไหนจะรอยสักของมันที่โผล่ออกมาให้เห็นอีก
ฉันปัดกระโปรงตัวเองก่อนจะเดินมุ่งหน้าไปยังตึกคณะตัวเอง ตอนนี้คงเข้าวิชาแรกไม่ทันแล้วแหละ แต่ช่างเถอะไม่ทันก็ไม่ทันสิ
เรนโบว์หรือเรน อายุ 19 ปี เรียนปีหนึ่งบริหาร นิสัยเป็นคนปากจัด ไม่ยอมคน ดื้อรั้น และที่สำคัญปากแข็งมาก
เป็นลูกสาวคนเดียวของบ้าน ฐานะทางบ้านก็พอมีพอกิน อยู่กับแม่สองคน ไม่รู้ว่าพ่อเป็นใครเพราะว่าแม่ไม่เคยบอก แค่ถามก็ไม่ได้ เลยไม่อยากรู้แล้ว แค่อยู่กับแม่ตอนนี้ก็มีความสุขดี ไม่ได้รู้สึกขาดอะไร (ถึงแม้อยากจะเรียกพ่อเหมือนคนอื่นก็ตาม)
มีเพื่อนสนิทสองคนตั้งแต่สมัยเรียนประถมด้วยกัน สถานะโสด ยังหาคนที่ดีไม่ได้
นี้แค่น้ำจิ้ม เริ่มมาก็ฉะกันซะเเล้ว