บทที่ 4

2034 Words
"อุ้ย ขอโทษค่ะ" "ไม่เป็นไรจ้า หนูเป็นยังไงบ้าง" ราชสีห์รีบพยุงผู้หญิงที่เพิ่งจะเดินชนเขาให้ยืนขึ้นมา "มายซุ่มซ่ามเอง คุณอาเป็นยังไงบ้างคะเลอะหมดเลย" มือเรียวยื่นไปปัดแป้งที่เลอะเสื้อสูทของราชสีห์ออก "ไม่เป็นไรจ้า หนูชื่อมายเหรอ คงจะรุ่นราวคราวเดียวกับลูกชายของอาแน่เลย" "ค่ะ..เออ..คะ!" ลืมตัวว่าต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้จักกับไต้ฝุ่น เพราะเธอรู้ดีว่าผู้ชายคนนี้คือพ่อของเขาจึงแกล้งเดินเข้ามาชน "อามีลูกชายคนหนึ่งอยู่ในงานนี้แหละไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหนของงาน" ใบหน้าหล่อคมถึงแม้กาลเวลาจะผ่านไป แต่ก็ทำร้ายเขาไม่ได้ มองไปเห็นลูกชายกำลังเดินเข้ามาหา "มานั่นพอดีเลย.. ตาฝุ่นมาทางนี้หน่อยลูก" ราชสีห์กวักมือเรียกลูกชาย "ครับพ่อ" เขาหาโอกาสเข้ามาคุยกับเธออยู่แล้ว พอเห็นว่าสบโอกาสก็เลยรีบปลีกตัวออกจากสุชาดาแล้วตรงเข้ามา "ตกลงหนูเป็นลูกเต้าเหล่าใครเหรอ" ก่อนที่จะแนะนำให้ลูกชายรู้จักราชสีห์หันไปถามมายมิ้นท์ดูก่อน "เป็นลูกสาวของคุณพ่ออิทธิ คุณพ่อทำกิจการเกี่ยวกับโรงแรมค่ะ" มันคือความต้องการของมายมิ้นท์ตั้งแต่แรกอยู่แล้วอยากจะเอ่ยชื่อพ่อของเธอให้ตระกูลนี้ได้รู้จักบ้าง "อ๋อ..ทำเกี่ยวกับโรงแรมเหรอ สงสัยเป็นโรงแรมในเครือของคุณอาทศกัณฐ์แน่เลยใช่ไหม" "ใช่แล้วค่ะ ตอนนี้คุณพ่อกำลังคุยอยู่กับคุณอาทศกัณฐ์ค่ะ" "ฝุ่นมารู้จักกับน้องไว้สิลูก นี่คือลูกสาวของเพื่อนคุณอาทศกัณฐ์เอง หนูชื่ออะไรนะ" "ชื่อมายมิ้นท์ค่ะ เรียกว่ามายเฉยๆ ก็ได้" พอมายมิ้นท์พูดกับราชสีห์จบ เธอก็ชายตามองมาที่ไต้ฝุ่น แบบมีจริต "สวัสดีค่ะพี่ไต้ฝุ่นจำมายได้ไหมคะ มายเรียนอยู่ที่เดียวกับรุ่นพี่ค่ะ" "พี่จำไม่ได้..มายเรียนคณะเดียวกับพี่เหรอ" ผู้หญิงคนที่เขาเก็บผ้าเช็ดหน้าให้ไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาเลย ก็เลยไม่ได้จำ "เปล่าค่ะ มายเรียนคณะการโรงแรม" "เรียนที่เดียวกันนี่เองแถมเรียนการโรงแรมเหมือนตาขุนด้วย" ราชสีห์พูดแทรกขึ้นมานิดหนึ่ง ก่อนที่จะขอแยกตัวออกมาปล่อยให้วัยรุ่นได้คุยกันไป "ระวังคะ" มายมิ้นท์รีบดึงแขนของไต้ฝุ่นให้หลบออกจากเด็กเสิร์ฟที่กำลังจะทำถาดน้ำในมือตกหล่น เพราะว่าเดินชนกับแขกอีกคน เพล้ง!! "ขอโทษครับพวกคุณเป็นอะไรไหม" เด็กเสิร์ฟคนนั้นรีบขอโทษไต้ฝุ่นและมายมิ้นท์ เพราะตอนนี้ทั้งสองคนล้มลงไป กองอยู่กับพื้น วันนี้มายมิ้นท์ใส่ชุดเดรสซึ่งมันก็สั้นมาก พอล้มลงไปกระโปรงของเธอก็ได้เปิดขึ้นจนเห็นกางเกงชั้นใน ไต้ฝุ่นรีบถอดเสื้อสูทคลุมส่วนล่างของเธอไว้ "ขอบคุณค่ะ" หญิงสาวอายมาก เพราะเธอไม่คิดว่าจะโชว์ขนาดนี้ แค่จะโชว์ขาอ่อนนิดๆ หน่อยๆ แต่นี่มันเปิดขึ้นมาถึงกางเกงชั้นใน โชคดีที่ทุกคนในงานยังไม่ให้ความสนใจเท่าไร จะเห็นก็แต่ไต้ฝุ่นคนเดียว "มาย!!" เจ้าขุนรีบเดินมากระชากคอเสื้อของไต้ฝุ่นให้ออกห่างจากมายมิ้นท์ "เมื่อกี้มึงทำอะไร!?" เจ้าขุนง้างหมัดกำลังจะชกเข้าที่ใบหน้าของไต้ฝุ่น "หยุดนะ!!" สุชาดารีบเดินเข้ามาห้ามไว้ ไต้ฝุ่นคว้าข้อมือเจ้าขุนแล้วหมุนลงอย่างแรง เพื่อที่จะล็อคมือของอีกฝ่ายไว้ "พอได้แล้วค่ะ" ก่อนที่เรื่องจะบานปลายไปมากกว่านี้ มายมิ้นท์รีบเข้าไปช่วยเจ้าขุนไว้ เพราะดูท่าทางไต้ฝุ่นใช้แรงล็อคตัวเขาเยอะมาก "มึงยังทำเป็นเก่งเหมือนเดิมนะไอ้เจ้าขุน" "กูเก่งตลอดเวลาอยู่แล้ว มึงพร้อมจะเจอกูเมื่อไร... ว่ามาเลย" สายตาของทั้งสองที่มองกัน ถ้ามีประกายไฟคงจะเผาไหม้อีกฝ่ายไปแล้ว "พอแล้วพี่ขุน" มายมิ้นท์พยายามดึงมือของไต้ฝุ่นออกจากการเหนี่ยวรั้งร่างเจ้าขุน ..แต่ถูกไต้ฝุ่นสะบัดอย่างแรงจนร่างบางกระเด็นไปชนเข้ากับขอบโต๊ะที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ "โอ้ย!!" ร่างของเธอล้มลงไปทันทีที่ถูกกระแทก "มาย!!" ตุ๊บ!! ก่อนที่เจ้าขุนจะไปช่วยมายมิ้นท์เขาได้เหวี่ยงหมัดกระแทกเข้าใบหน้าของไต้ฝุ่นอย่างแรง "มึง!!" ไต้ฝุ่นไม่ยอมถูกต่อยอยู่ฝ่ายเดียว พอเจ้าขุนหันหลังให้เพื่อที่จะไปช่วยมายมิ้นท์ ไต้ฝุ่นกระชากคอเสื้อของเจ้าขุนให้หันกลับมาแล้วก็.. ตุ๊บ!! "กรี๊ดดดด" เสียงผู้หญิงในงานหลายคนต่างก็กรี๊ดเพราะความตกใจ จนตอนนี้พวกผู้ใหญ่ได้รีบมาแยกทั้งสองคนออกจากกัน "ทะเลาะกันมาตั้งแต่เด็ก ไม่รู้จักโตกันสักที!!" ราชสีห์ตำหนิลูกชายของตัวเอง ส่วนทศกัณฐ์ก็ไปพยุงตัวลูกชายของเขาให้ลุกขึ้น "ไม่รู้ว่าพวกแกสองคนไปเอานิสัยอันธพาลมาจากไหน!! พ่อก็ไม่เคยสอน" ทั้งสองคนไม่ลงรอยกันตั้งแต่เด็ก ผู้ใหญ่ก็ไม่รู้ว่ามันเพราะเรื่องอะไรกันแน่ มายมิ้นท์แอบหลบออกจากงานตั้งแต่ตอนที่ชุลมุนกันอยู่นั่นแล้ว เพราะรู้สึกเจ็บสะโพกตรงที่กระแทกขอบโต๊ะมาก และไม่อยากให้ไต้ฝุ่นเห็นสภาพของเธอในตอนนี้ แต่เขาเห็นเธอตั้งแต่ตอนที่เดินออกจากงานมาแล้ว ลานจอดรถของโรงแรม.. "ขยับไป.. เดี๋ยวจะขับรถให้" จังหวะที่มายมิ้นท์กำลังจะขึ้นประจำที่คนขับ ก็ได้มีเสียงทุ้มดังมาจากทางด้านหลัง "ฉันไปเองได้ค่ะ" "ดูสภาพของเธอตอนนี้สิ จะขึ้นรถยังไม่ไหวเลย" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับแย่งเอากุญแจรถในมือออกมา "ขอบคุณค่ะ" เธอคิดว่าก็ดีเหมือนกัน จะได้สานสัมพันธ์กับเขาไว้เลย แล้วหญิงสาวก็ค่อยๆ เดินอ้อมมาอีกฝั่งหนึ่งของรถ "เจ็บมากไหม" ขับรถมาได้สักพัก ไต้ฝุ่นก็ทำลายความเงียบในรถโดยการถามอาการของเธอ "เจ็บค่ะ" "ขอโทษ" เขาพูดขอโทษออกมาเบาๆ ทั้งๆ ที่ไม่ได้มองมาดูหน้าคนที่ขอโทษเลย "คะ?.." คิดว่าตัวเองหูแว่วก็เลยถามกลับ "ฉันไม่ได้ตั้งใจทำเธอแรงขนาดนั้น.. ขอโทษแล้วกัน เดี๋ยวจะพาไปหาหมอ" สิ่งที่ทั้งสองคนกำลังทำอยู่ไม่ได้มีความจริงใจให้อีกฝ่ายเลย เพราะต่างคนก็ต่างหวังผลประโยชน์ [โรงพยาบาล] ทีแรกเขาว่าจะพาเธอไปที่คลีนิค แต่มันดึกมากแล้ว ก็เลยพามาที่โรงพยาบาลเพื่อความชัวร์ดีกว่า "ตรงไหนคะ" พอแพทย์หญิงได้ฟังอาการจากคนไข้แล้วก็เลยถามว่าตรงไหนที่เธอโดนกระแทกมา "ตรงสะโพกค่ะ" "ขอหมอดูแผลหน่อยนะคะ พาแฟนของคุณขึ้นไปนอนบนเตียงเลยค่ะ" แล้วแพทย์หญิงคนนั้นก็หันไปพูดกับไต้ฝุ่น "ฟะ.. แฟน?" ถึงไต้ฝุ่นจะงงกับคำที่หมอพูดมา แต่ก็พยุงให้คนตัวเล็กขึ้นไปบนเตียง "เปิดกระโปรงขึ้นด้วยค่ะ" แพทย์หญิงพูดพร้อมกับจับถุงมือแพทย์ขึ้นมาสวมใส่ เพื่อที่จะดูอาการว่าควรจะเอกซเรย์ไหม "เปิดกระโปรงเหรอครับ" ทั้งสองหันมองหน้ากันแบบไม่ได้นัดหมาย แต่ก็ไม่ได้มีคำพูดใดๆ ออกมา มือหนายื่นไปเลื่อนผ้าห่มผืนบางขึ้นมาปกคลุมร่างระหงไว้ก่อนที่จะเปิดกระโปรงของเธอขึ้นให้ ..จังหวะที่เขากำลังเลื่อนกระโปรงขึ้นมาอยู่นั้น มือก็ได้ไปสัมผัสถูกเนื้อเนียนของเธอเข้า แต่หญิงสาวก็ไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไร เพราะมันคือความต้องการของเธออยู่แล้ว พอแพทย์หญิงเตรียมเครื่องมือเสร็จก็เดินมาแล้วจับผ้าคลุมผืนนั้นขยับลงมา แล้วก็รั้งกางเกงชั้นในลงมานิดหนึ่งเพื่อที่จะดูรอยแผล แว๊บหนึ่งไต้ฝุ่นแอบมองไปดู พอเห็นรอยฟกช้ำเขาก็ตกใจ เพราะเธอได้รอยนั้นมาด้วยฝีมือของเขา "เจ็บไหมคะ" แพทย์หญิงกดลงตรงรอยช้ำเพื่อเช็คดูอาการ "โอ้ย.. เจ็บค่ะ" ใบหน้างามบิดเบี้ยวไปสื่อให้รู้ว่าเธอเจ็บมาก "คงต้องเอกซเรย์ดูแล้วล่ะค่ะ" "เอกซเรย์เลยเหรอครับ" "กลัวว่ากระดูกจะร้าวค่ะ" แล้วแพทย์หญิงก็เรียกรถเข็นเพื่อที่จะมารับ ให้มายมิ้นท์ไปที่ห้องเอกซเรย์ พอรถเข็นมาถึงหญิงสาวก็พยายามที่จะลงจากเตียงเอง ไต้ฝุ่นเห็นเธอลุกลำบากก็เลยเข้ามาอุ้มวางลงที่รถเข็น "ขอบคุณค่ะ" หญิงสาวกล่าวคำขอบคุณ เมื่อเขาปล่อยมือออกแล้ว พอไปถึงห้องเอกซเรย์ไต้ฝุ่นก็อุ้มคนตัวเล็กขึ้นเตียงอีกครั้ง และก็ช่วยเธอแบบนั้นทุกอย่าง ..ห้องตรวจ.. "ผลเอกซเรย์ออกมาแล้วนะคะ โชคดีที่ไม่มีส่วนไหนร้าวส่วนไหนหักสงสัยจะกระแทกแรงไป หมอจะให้ยาทาและก็ยาทานไปนะคะ" "ขอบคุณค่ะ" "ช่วงนี้ก็ระวังหน่อยนะคะ อย่าเพิ่งให้ไปกระแทกอะไรอีกล่ะ ดูจากเอกซเรย์แล้ว คนไข้อาจจะเดินไม่ค่อยถนัดอยู่ประมาณอาทิตย์หนึ่งนะ" "อาทิตย์หนึ่งเลยเหรอคะ" พอดีในช่วงอาทิตย์นี้ทางมหาวิทยาลัยมีการแข่งขันกีฬา ถ้าเธอยังไม่หายดีแล้วจะไปดูเขาแข่งได้ยังไง หญิงสาวยังมีแผนอยู่ในหัวอีกมากมาย เสร็จจากโรงพยาบาล ไต้ฝุ่นก็ขับรถพากลับมาส่งที่บ้าน "แล้วรุ่นพี่จะกลับยังไงคะ" หญิงสาวถามขึ้นเมื่อเห็นเขาส่งกุญแจคืนมาให้ "เดี๋ยวพี่นั่งแท็กซี่กลับเองได้" "ถ้างั้นรุ่นพี่เอารถของมายไป พรุ่งนี้ค่อยมารับมายไปที่มหาวิทยาลัยก็ได้ค่ะ" "เอาแบบนั้นก็ได้ ถ้างั้นเดี๋ยวพี่จะมารับแต่เช้านะ" "ได้ค่ะ" หญิงสาวมองตามหลังรถของตัวเองที่กำลังวิ่งออกจากบ้าน โดยมีผู้ชายที่เธอหมายตาไว้เป็นคนขับ "เธอต้องทำได้สิมายมิ้นท์" เช้าวันต่อมา.. "แม่ว่าหนูไม่ต้องไปดีกว่ามั้งลูก ลาสักวันคงไม่เป็นอะไรหรอก" เพราะนางเห็นสภาพลูกสาวแล้วคงไม่ไหวแน่ "วันนี้ต้องไปให้ได้ค่ะแม่ ไม่ไหวก็ต้องไหว" หญิงสาวค่อยๆ ก้าวลงมาจากชั้นบน โดยมีผู้เป็นแม่พยุงไม่ยอมห่าง "เขามาตั้งแต่เมื่อไรคะป้า" ลงมาถึงข้างล่างก็เจอรถคันที่ให้เขาขับไปเมื่อคืนนี้จอดอยู่ "เพิ่งจะมาถึงไม่นานค่ะ" "สวัสดีครับ" ชายหนุ่มรีบลงจากรถแล้วเดินเข้ามาสวัสดีหญิงวัยกลางคนที่คาดว่าคงจะเป็นแม่ของเธอ "สวัสดีจ้า" พิมลพอจะได้ยินที่ลูกสาวพูดให้ฟังบ้างแล้ว ว่าให้รุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยมาส่งและให้รุ่นพี่ยืมรถกลับบ้านไปก่อน [มหาวิทยาลัย] รถคันงามวิ่งมาจอดที่หน้าคณะการโรงแรม ..ไต้ฝุ่นก็ลงจากรถแล้วรีบเดินอ้อมไปเปิดประตูให้ "ค่อยๆ ลงนะครับ" ชายหนุ่มยื่นมือเข้าไปพยุงร่างหญิงสาว จังหวะนั้นเพื่อนๆ ที่นั่งอยู่ตรงม้าหินอ่อนด้านหน้าคณะต่างก็มองมา "ขอบคุณค่ะ..รุ่นพี่ช่วยอะไรมายอีกสักเรื่องได้ไหมคะ" "ช่วยอะไรครับ" "ช่วยพามายขึ้นไปบนห้องเรียนหน่อย มายคงจะขึ้นไม่ไหวแน่" เพราะห้องเรียนของเธออยู่ชั้นสอง หญิงสาวพยายามดึงมารยาหญิงที่มีอยู่ออกมาใช้ให้มากที่สุด ทั้งๆ ที่เธอไม่เคยใช้มันกับใคร "นั่นน้องมายของมึงมากับใครวะ" เสียงของรุ่นพี่คณะการโรงแรมมองลงไปเห็นพอดี ซึ่งรุ่นพี่คนนี้ก็พูดกับเจ้าขุนที่ยืนอยู่ด้านข้าง .. ทั้งสองเรียนอยู่ที่ตึกเดียวกันแต่คนละชั้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD