จอมมารตกบ่วงรัก บทที่3...

1536 Words
วงการแฟชั่นเติบโตมากขึ้นทุกๆ วัน คนรุ่นใหม่นี่แหละคือตัวแปรสำคัญ เพราะความคิดในสมองอันแยบยลนั้น ค่อยๆ ถูกกลั่นออกมาเป็นผลงานชิ้นเอก ซาลูมีแนวคิดสนับสนุนความคิด ความกล้า เปิดโอกาสให้คนทั่วไปได้มส่วนร่วม ใต้การชี้นำของซาลู “วันนี้อาจจะได้พบคุณเควินนะ” เสียงร้องวี๊ดแทบจะพร้อมเพรียงกัน เจ้ปลาต้องรีบถลึงตาใส่ เนื่องจากคนทั้งโถงลอบบี้หันมามองเป็นตาเดียว “เบาๆ สิยะ อย่าสะเหล่อนักสิ ฉันล่ะอายชาวบ้านชาวช่องนัก” มันไม่แปลกหรอกที่ทุกคนจะพากันร้องกรี๊ด จุดประสงค์หลักในการเข้าร่วมโครงการก็เพื่อได้มีโอกาสเข้ามาใกล้ชิดเควินตัวเป็นๆ เขาเป็นผู้ชายที่เข้าถึงยากที่สุด แต่ทุกครั้งที่เขาปรากฏตัวก็สร้างความเกรียวกราวได้ไม่น้อย เควินงานยุ่ง แต่เขาก็ยังเจียดเวลาที่มีน้อยนิดสำหรับการหาความสุขใส่ตัว ผู้หญิงที่เข้าถึงเขา สวยไม่มีที่ติ หลายคนพยายามสุดตัวที่จะมัดใจเขา ผ่านมาสิบปียังไม่มีผู้หญิงคนไหนโชคดีจับเควินอยู่มือสักราย “แค่อาจจะ...อย่างที่รู้ คุณเควินเขางานแน่น อย่างน้อยก็อยู่ใต้หลังคาเดียวกันแหละ” เจ้ปลาพูดปลอบ แววตาสลดลง ตัวเจ้ปลาเองก็เป็นแฟนคลับอย่างเหนียวแน่น กับผู้ชายมีเสน่ห์คนนั้น เมื่อถึงเวลานัด ทีมงานเดินมาต้อนกลุ่มเด็กฝึกงานที่อยู่ในโครงการสานฝันครั้งนี้เข้าไปรวมกลุ่มในห้องประชุมขนาดใหญ่ มีภาพความสำเร็จของซาลูหลายรุ่นติดอยู่บนผนัง ดีไซเนอร์แต่ละคนยิ้มแย้มกับความสำเร็จของเขา ใต้ผู้นำคนเดียวกัน ลอออรกับเพื่อนๆ ได้นั่งช่วงกลางของห้องโถงใหญ่ หญิงสาวพยายามสนใจสิ่งที่พิธีกรบนเวทีพยายามสื่อสาร คงเป็นความโชคดีของเธอ เมื่อถึงช่วงที่พิธีกรสื่อสารด้วยภาษาประจำชาติ ลอออรเลยได้รู้ก่อนคนอื่น เธอเกือบร้องกรี๊ด ดีทว่าปานแขสะกิด เลยยั้งสติไว้ทัน “อร...คุณคนนั้นเขาพูดอะไร ทำไมท่าทางแต่ละคนดีใจกันนักหนา” หญิงสาวยิ้มกว้าง กระซิบบอกปานแขเสียงแผ่วๆ “เขาบอกว่าอีกสิบนาทีคุณเควินจะมาพบพวกเรา” ปานแขร้องกรี๊ดเสียงแหลม ก่อนจะรีบยกมืออุดปากเมื่อเจ้ปลาที่อยู่ด้านหลังชี้มือใส่และถลึงตาใส่จนลูกตาแทบหลุดออกมาจากเบ้า ดวงตาทุกคู่จดจ่ออยู่ที่ประตูใหญ่ทางเข้าทางเดียวที่แต่ละคนเดินผ่าน จนทิโมธีกล่าวกระแหนะกระแหน ไม่มีใครสักคนในห้องโถงนี้สนใจสิ่งที่เขาพูด เมื่อความสนใจของคนเหล่านี้จดจ่อกับการมาของเควิน “สนใจผมหน่อยครับ เพราะหากคุณพลาดความรู้นี้ อนาคตคุณอาจไม่ได้อะไรกลับไปเลย” ลอออรอมยิ้ม เธอก้มลงมองโบชัวร์ ทิโมธีเป็นอีกหนึ่งแกนหลักของซาลู พอๆ กับเวโรนิก้า หญิงสาวเลยดึงสติมาฟังการบรรยายของชายหน้าเข้มท่าทางตุ้งติ้งตรงหน้าแทน ปานแขยังคงชำเลืองมองไปด้านหลังบ่อยๆ เหมือนกับสาวๆ คนอื่นๆ แต่แล้วบรรยากาศเอื่อยๆ ก็ตึงเครียดขึ้น กับการปรากฏตัวของเวโรนิก้า มาดนางพญาของหล่อนทำให้ผู้หญิงสาวหลายคนร้อนๆ หนาวๆ แววตาจิกกัด กวาดมองเหมือนต้องการประกาศความมีอำนาจ หล่อนคลี่ยิ้มมุมปาก รอยเหยียดๆ ผุดขึ้นที่มุมปาก หลังมองไปรอบบริเวณงานเพื่อประเมิน เด็กสาวกับความกระตือรือร้นในหน่วยตา ไม่มีอะไรน่าหวาดกลัวเท่ากับนางแบบหรือเซเลปที่มีโอกาสเข้าถึงเควิน คนตรงหน้าเธอเหมือนแมลงเม่าที่โผเข้าหาเปลวไฟ ไม่มีคนไหนมีอิทธิพลทำให้เควินสนใจได้ เวโรนิก้าจึงผ่อนลมหายใจ ลดความกดดันลง เธอรีบกลับมาเพราะต้องการควานหาผู้หญิงในคลิปคนนั้น จนป่านนี้ก็ยังคงคว้าน้ำเหลว แต่ที่พอเบาใจได้ คือคืนนั้น เควินกับหญิงผู้นั้นไม่ได้เจอกัน เควินออกจากซาลูหลังจากวิ่งตามแม่สาวปริศนาไป ในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ไม่มีผู้หญิงเดินขนาบข้าง เขาตรงกลับบ้านทันที ที่แปลกใจคือ ไม่มีภาพผู้หญิงคนนั้นในกล้องวงจรปิด หล่อนหายไปแบบลึกลับ ควานหาไม่ถูก “เวโรนิก้านี่สวยคงเส้นคงวาดีจังเลยนะอร” ปานแขเอียงคอมากระซิบแผ่วๆ ความสวยของเวโรนิก้าคือตำนาน เมื่อสิบปีก่อนหล่อนสวยยังไง ความสวยนั่นก็ยังคงอยู่ ที่เพิ่มพูนขึ้นมาคือความสง่างาม “คงหมดเงินไปไม่น้อยแหละ กับการรั้งความงามให้อยู่คงที่เหมือนเมื่อสิบปีก่อน” เสียงคนด้านหลังเปรยลอยๆ ลอออรถอนใจแรงๆ เธอไม่เห็นด้วยกับคำวิจารณ์พวกนี้นัก การที่ผู้หญิงคนหนึ่งอยากให้ความสวยของตัวเองอยู่คงทนมันเป็นสิทธิของเขา เวโรนิก้าก็แค่มนุษย์คนหนึ่งที่มีความโลภ โกรธ หลง ในสันดาน เพียงแต่เพราะว่าเธอยืนอยู่ในจุดที่เหนือใครหลายคน แถมยังอยู่ใกล้ผู้ชายที่สาวกระหายอยากครอบครอง ต่อให้ทำตัวดี ก็ไม่อาจห้ามคนอื่นแขวะได้ และที่สำคัญเวโรนิก้าไม่ใช่คนที่ยอมคน หล่อนหยิ่งเพราะหยิ่งได้ ผยองเพราะต่อให้มีเสียงก่นด่ามากกว่านี้ก็ไม่ทำให้เธอระคายผิว เมื่อเธอยังคงอยู่ตรงจุดที่ไม่มีผู้หญิงคนไหนเข้าถึง “เวโรนิก้านี่เขาอายุเท่าไหร่แล้วนะอร?” เสียวงปานแขพึมพำถาม ลอออรเลยหลุดออกมาจากความคิดส่วนตัว เธอมองเลยไปที่เวที จุดที่เวโรนิก้ายืนอยู่ “น่าจะพอๆ กับคุณเควินน่ะแข” “โห...อายุระดับนั่น ยังสวยไม่มีที่ติเลยนะ” ปานแขชื่นชม หากไม่นับเรื่องความปากเสียของเวโรนิก้า หล่อนเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่สตรองเต็มตัว น่าเอาเป็นเยี่ยงอย่าง “ถ้าลดความเป็นแม่จงอางหวงไข่ออกไปได้ หล่อนก็ไม่มีที่ติแล้วแหละ” เพื่อนอีกคนยื่นหน้ามาออกความเห็น ใครๆ ก็รู้ เวโรนิก้าหวงเควินยิ่งกว่าแม่งู แต่แปลก...ทำไมเควินไม่เคยระแคะระคาย เขายังคงทำตัวเป็นเจ้านาย และเพื่อนร่วมงานที่ดี หรือบางที ผู้ชายเจ้าเล่ห์นั่น อาจจะแสร้งทำเป็นไม่รู้ก็ได้ เพราะเวโรนิก้ายังมีประโยชน์สำหรับเขา “อย่าเผลอไปพูดให้หล่อนได้ยินเชียวนะ” มีเสียงกระซิบเตือนดังขึ้นมาเบาๆ ปานแขยกมือปิดปาก “ใครจะกล้า ดูตาหล่อนสิ จิกทีตาแทบบอด” “ความจริงเฝ้าคุณเควินมาเป็นสิบปีแล้วไม่คืบหน้านี่ น่าจะยอมถอยได้แล้วไหม คุ้มเหรอ กับการรอผู้ชายสักคนนานขนาดนี้” “คุ้มสิ...นั่นคุณเควินเชียวนะ” มีคนเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย ลอออรได้แต่ทอดถอนใจ เธอเองก็อยากรู้ หากตนเองตกอยู่ในสถานะเดียวกันกับเวโรนิก้า เธอจะมีความอดทนในการรอนานแค่ไหน? เสียงซุบซิบดังกระหึ่ม โดยที่คนในหัวข้อสนทนานั่งเชิดหน้า เวโรนิก้ารู้ดี มีคนเกลียดเธอเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ไม่ว่าเพศหญิงหรือชาย แต่การขึ้นไปยืนอยู่บนหลังเสือ มันยากที่จะก้าวลง เพราะต่อให้เควินปฏิเสธเธอตรงๆ เขาก็ไม่มีทางกำจัดเธอออกไปจากจุดนี้ได้ และมันไม่มีวันเกิดขึ้นแน่... เนื้อหาของการบรรยายวันนี้ไม่มีอะไรมากนัก ทิโมธีแค่อยากทำให้เป็นทางการ และเป็นการโปรโมตแบรนด์ซาลูในฤดูกาลหน้า โดยไม่ต้องทุ่มเมล็ดเงินลงไป มันเป็นการออกสื่อทางอ้อมที่ไม่ต้องจ้างวาน แถมยังเพิ่มความสนใจในกลุ่มคนที่ไม่เคยรู้จักซาลูมาก่อนด้วย ผลประโยชน์ตรงๆ แบบไม่ต้องอ้อมไปอ้อมมา แค่เปิดโอกาสให้คนที่มีความอยากเป็น เดินเข้ามาในซาลู เผลอๆ อาจจะควานหาเพชรชั้นดีท่ามกลางพลอยสำเร็จรูปด้วยก็ได้ ความพากเพียรกับพรสวรรค์ มันไม่ได้หากันง่ายๆ เควินไม่ได้มีความรู้เรื่องแฟชั่น แต่เขาเป็นนักธุรกิจที่เก็งกำไรเก่ง ชิ้นงานที่ผ่านตาชายผู้นั้น ไม่เคยพลาดสักชิ้น ต่อให้ดีไซเนอร์ฝีมือดี แต่ขาดคนผลักดันก็ไม่มีทางดังได้ ประตูถูกดันให้เปิดออก การ์ดหน้าเข้มวิ่งเข้ามากันทางเดิน นับร้อยชีวิตที่นั่งอยู่ในห้องประชุมหันไปมองเป็นตาเดียว ยิ่งเวโรนิก้าที่นั่งหน้าเชิดอยู่ถึงกับถลาวิ่งเหยาะๆ ลงมา ไม่ต้องเดาก็พอรู้ คนที่กำลังจะปรากฏตัวเป็นใครไม่ได้เลย บทที่4.แรกพบสบตา... ดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ ลอออรไม่เคยคิดว่าเธอจะตื่นเต้นได้มากขนาดนี้ เพียงแค่สบตาสีมรกตคู่นั้น แค่สายตาคู่คมตวัดผ่าน เธอกลับรู้สึกเหมือนหัวใจจะหยุดเต้น สรรพสิ่งรอบกายเหมือนทำงานช้าลง เวลาของเธอเคลื่อนที่อย่างอืดอาด เธออยากชักสายตากลับ แต่ทำได้อยากเหลือเกิน ลอออรถอนใจอย่างเหนื่อยล้า...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD