คราแรกปนัดดาตั้งใจมารับอรัญญาเพียงคนเดียว นางเกลียดชังณศรินทร์ ลูกสาวคนที่ทำให้พรทิพย์เจ็บช้ำน้ำใจ ทว่าอรัญญาขอร้องไว้ ให้เหตุผลว่า ณศรินทร์ไม่มีใครเหมือนตน ปล่อยให้ณศรินทร์อยู่กับพรพิมลหรือปล่อยไปตามยถากรรม คงไม่ดีแน่ หล่อนเป็นห่วงณศรินทร์ เพราะถึงอย่างไร ณศรินทร์คือพี่สาวของตน คำพูดไร้เดียงสายิ่งทำให้ปนัดดารักอรัญญามากขึ้น ยอมทำตามที่อีกฝ่ายร้องขอ
“เธออยากได้เงินจ่ายค่ารักษาตัวยายแอ๋วไม่ใช่เหรอ ฉันให้ได้นะ แต่มีข้อแม้ว่า เธอต้องไปอยู่กับฉันที่ไร่ชวนชม ไปเป็นขี้ข้าส่วนตัวของฉัน จนกว่าฉันจะพอใจ” อรัญญาไม่ใช่นางฟ้านางสวรรค์ เป็นน้องสาวที่รักพี่สาวตามที่แสดงให้ใครต่อใครเห็น เบื้องหลังอรัญญาร้ายมาก เพราะถูกพรทิพย์กรอกหูมาตลอดว่า ณศรินทร์แย่งความรักจากวิวัฒน์ไป คนที่บิดาไม่ค่อยรัก ถูกฝังความเกลียดชัง จึงคิดแก้แค้นพี่สาว ด้วยการให้เป็นทาสรับใช้ “เธอคิดดูสิเอย ฉันมีเงิน ส่วนเธอไม่มี เธอจะเอาเงินที่ไหนจ่ายค่ารักษาตัวยายแอ๋ว หรือว่าเธอจะออกจากโรงเรียน แล้วไปทำงานหาเงินมาจ่ายล่ะ เงินมันเยอะนะ เดือนนึงหลายหมื่น เธอไหวเหรอ พานให้ยายแอ๋วลำบากเปล่าๆ ไปอยู่กับฉันแหละดีแล้ว นอกจากยายแอ๋วได้รักษาตัวต่อ เธอเองก็มีที่อยู่ที่กิน ได้เรียนหนังสือด้วย”
ใครจะคิดว่า หญิงสาวอายุสิบสี่ปี จะมีวาจาและความคิดเช่นนี้ ช่างร้ายกาจมาก ร้ายกาจเหลือเกิน คนไม่มีทางเลือกอย่างณศรินทร์จึงจำยอม ผ่านมาเก้าปีแล้ว ทุกอย่างยังคงเดิม ยายแอ๋วรักษาตัวอยู่ในบ้านพักคนชราของเอกชน ที่มีทั้งแพทย์และพยาบาล รวมถึงเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิด อาการป่วยยายแอ๋วคงเดิม ไม่ดีขึ้นและไม่แย่ลง คงต้องรักษาตัวเช่นนี้ไปตลอดชีวิต
แม้ผ่านมาหลายปี แล้วตอนนี้ณศรินทร์อายุยี่สิบสี่ปี เรียนจบปริญญาตรี โตมากพอจะทำงานหาเงินได้ด้วยเอง ไม่จำเป็นต้องอดทนเช่นนี้ ณศรินทร์เคยคิด แต่เมื่อครองถี่ถ้วน การอยู่ไร่ชวนชม เป็นคนรับใช้ส่วนตัวอรัญญาคือทางออกที่ดีกว่า เงินเดือนจบปริญญาตรีไม่ได้สูงมาก ไหนจะค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำค่าไฟ ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ก็คงครึ่งหนึ่งของเงินเดือน ที่เหลือเป็นค่ากิน คงไม่เหลือพอจ่ายค่ารักษาพยาบาลยายแอ๋ว
อีกทางหนึ่งที่คิดคือ รับยายแอ๋วมาดูแลเอง มันเป็นเรื่องที่ยากเช่นกัน ด้วยอาการป่วยของยายแอ๋ว จำเป็นต้องมีคนดูแลอย่างใกล้ชิด หากไปอยู่ด้วยกัน ณศรินทร์ก็ต้องทำงาน คงไม่มีเวลาดูแลยายแอ๋ว ครั้นจ้างคนดูแลก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ซึ่งน่าจะสูงพอสมควร ไหนจะเรื่องอาหารการกิน อยู่สถานพยาบาลมีอาหารดีๆ ครบทุกมื้อ รวมถึงของว่างอีกสองมื้อ มาอยู่กับตน คงไม่ได้กินดีทุกมื้อแน่
เมื่อทางออกที่คิดไว้ แย่กว่าให้ยายแอ๋วอยู่ที่เดิม สาวผู้น่าสงสารจึงทนอยู่ไร่ชวนชม ไร่อันแสนสวยงาม ที่แวดล้อมด้วยคนที่เกลียดชังตน เพื่อคนที่หล่อนรัก
แต่ไม่ใช่ว่า ณศรินทร์จะไม่สนใจไปเยี่ยมยายแอ๋ว หล่อนไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่เพียงคนเดียวบ้าง แม้ว่าไม่บ่อย เนื่องจากยายแอ๋วพักอยู่จังหวัดชลบุรี ส่วนตนอยู่เชียงใหม่ ด้วยระยะทางและเงินที่ต้องใช้ในการเดินทาง ทำให้ณศรินทร์ไปเยี่ยมยายแอ๋วสามถึงสี่เดือน ห่างหน่อยก็หกเดือน หล่อนจึงใช้การโทรศัพท์ถามอาการยายแอ๋ว จากเจ้าหน้าที่แทน และนี่คือเหตุผลของการอดทน ไม่ใช่แค่อยู่ใกล้ชายอันเป็นที่รัก ยังทำให้ยายแอ๋วมีชีวิตที่ดีกว่า มาอยู่กับตน
“เอยเป็นอะไรหรือเปล่า ดูเครียดๆ นะ เที่ยวกับพี่ไม่สนุกเหรอครับ” พงศ์พัฒนาสังเกตเห็นตั้งแต่ไปรับณศรินทร์ที่ไร่ชวนชม ตลอดทางหล่อนนิ่งเงียบ ถามคำตอบคำ ไม่ยิ้ม แววตามีความเศร้าอย่างเห็นได้ชัด “มีอะไรหรือเปล่า บอกหรือเล่าให้พี่ฟังก็ได้นะ พี่น่ะนอกจากหล่อ รวยแล้ว ยังเป็นผู้ฟัง เป็นที่ปรึกษาที่ดีมากๆ เลยนะ”
เขาพูดติดตลก เพื่อให้สาวข้างกายยิ้ม
“ไม่ได้เป็นอะไรคะ เอยคิดถึงยายน่ะค่ะ ไม่ได้ไปเยี่ยมหลายเดือนแล้ว ใจก็เลยเศร้าๆ” มีความจริงเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น
“อยากไปตอนไหนล่ะ พี่ไปเป็นเพื่อนเอาไหม เดี๋ยวพี่ขับรถให้เอง” พงศ์พัฒนาขันอาสา
“มันไกลค่ะ เอยเกรงใจ เอยกะว่าจะเก็บเงินอีกสักเดือน ค่อยไปหายายค่ะ”
“ไปวันไหน บอกพี่นะ พี่จะไปเป็นเพื่อน” เขายังยืนกรานความตั้งใจเดิม ณศรินทร์หันมายิ้มอ่อนให้พงศ์พัฒนา อดคิดไม่ได้ว่า หากกรชวิลดีกับตนได้เสี้ยวหนึ่งของชายคนนี้ก็คงดีไม่น้อย ขอแค่เพียงนิดเดียว หล่อเลี้ยงหัวใจช้ำๆ ให้ชุ่มฉ่ำบ้าง
“พี่เอ็มคะ เอยขอถามอะไรสักข้อสองข้อได้ไหมคะ”
“ถามมาเลยครับ”
“ถ้าคำถามของเอย ทำให้พี่เอ็มไม่สบายใจเอยขอโทษด้วยนะคะ แล้วถ้าพี่เอ็มไม่อยากตอบ ไม่ต้องตอบก็ได้ค่ะ” หล่อนเกริ่น
“เอยถามมาเลยครับ พี่ยินดีตอบทุกคำถาม”
“เอยแค่สงสัยน่ะค่ะว่า พี่เอ็มมีเมียแล้ว ทำไมไม่ชวนเมียพี่เอ็มมาเที่ยวงานนี้ล่ะคะ” พงศ์พัฒนาหยุดเดิน หันมองหน้าคนถาม ด้วยท่าทีและสีหน้าของคนถูกถาม ทำให้หล่อนรู้ได้ทันทีว่า เขาไม่อยากเอ่ยถึงเรื่องนี้ “พี่เอ็มไม่ต้องตอบก็ได้ค่ะ เอยไม่อยากรู้แล้ว”
“บางครั้งเราก็ต้องทำอะไรฝืนใจตัวเอง ต้องอดทน เพื่อคนที่เรารัก แม้เราปวดร้าวหัวใจมากก็ตาม” ประโยคนี้คล้ายฉุดหัวใจณศรินทร์ เพราะมันตรงกับความรู้สึกหล่อน “งานแต่งงานของพี่กับลูกจันทร์ ไม่ได้เกิดจากความรัก แต่มันคือหน้าที่ เรามีข้อตกลงกันว่า ต่างคนต่างอยู่ พอถึงเวลาก็เลิกกัน”
แม้ได้รับคำตอบแค่นี้ ณศรินทร์กลับเข้าใจความรู้สึกพงศ์พัฒนา รู้สึกผิดที่ตนถามคำถามสะกิดหัวใจเขาให้หมองเศร้า