8

1393 Words
เช้าวันต่อมาเขาตื่นก่อนเมียตามเคยเพราะมีประชุมแต่ก็ต้องไปส่งเมียด้วย เขาเป็นคนบอกเธอเองว่าจะไปรับไปส่ง ถ้าหากไม่ว่างๆจริงถึงจะยอมให้อ้ายขับรถเอง “อ้ายง่วง” น้ำเสียงคล้ายคนละเมอดังขึ้นเมื่อถูกกวน “เช้าแล้วที่รักตื่นเร็วนะ” เมื่อคืนเขาก็เล่นเธอหนักด้วยคงจะเพลียมากแน่ๆเลย “เป็นผัวที่ใจร้ายมากเลย!” อ้ายลุกนั่งขึ้นขยี้ตาตัวเองเบาๆก่อนจะเดินเซนิดๆไปเข้าห้องน้ำตามแบบคนครึ่งหลับครึ่งตื่น “โธ่ที่รักพี่แค่ไม่อยากให้สาย” เมียอารมณ์ไม่ดีแต่เช้าเลย อ้ายมีนิสัยอย่างหนึ่งที่เหมือนเด็กคือถ้านอนไม่อิ่มจะหน้าบูดบึ้งอารมณ์ไม่ดีแบบตอนนี้ แต่มันก็เป็นความน่ารักดีนะ เขาขับรถมาส่งเธอก่อนจะไปทำงานแบบนี้เกือบทุกวัน “หอมแก้มพี่ก่อนสิอ้าย” ถึงมหาวิทยาลัยแล้วอ้ายยังอารมณ์ไม่ค่อยดีเลย ฟอด.... “ตั้งใจทำงานนะคะ อ้ายไปเรียนก่อน” เธอหอมแก้มก่อนจะจูบปากเขาเบาๆ รักจังเลยผู้ชายคนนี้ พี่คริสขับรถคันใหม่ที่พึ่งซื้อมาส่งเธอด้วย เขาน่ารักจังเลย “เย็นนี้พี่มารับนะครับ เป็นเด็กดีถ้ามีอะไรโทรหาพี่ก่อนจะทำอะไรนะอ้าย” “ค่ะ ห้ามมาช้านะขี้เกียจรอ” “ก็คุยกับเพื่อนรอพี่ก็ได้สัญญาว่าถ้าสายจะไม่เกินครึ่งชั่วโมง” พี่คริสน่ารักเสมอเลย ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงได้ยอมเธอมากขนาดนี้ เธอเอาแต่ใจตัวเองมาก เหวี่ยงเก่ง โวยวายตลอดและหวงเขามาก จนบางทีเธอยังหงุดหงิดตัวเองเลยที่ไม่มีเหตุผล “อ้าย” เสียงคุ้นๆนะ “อ้าว! พุฒิกลับจากอังกฤษแล้วเหรอ?” เพื่อนรักเธอนี่เองนึกว่าใคร “อื้ม มีของฝากให้ด้วยนะ” พุฒิเดินมากอดคอเพื่อนรักอีกคน “แห่มๆน้อยๆหน่อยไอ้พุฒิอ้ายมันมีผัวแล้วนะ” ปรินเพื่อนสาวอีกคนเดินมา “แล้วจะเอาไหมของฝาก?” “เอาดิ!” เธอจะปฏิเสธได้ไงของฝากเพื่อนแต่ละอย่างเธอเก็บไว้อย่างดีเลย “อยู่ในรถเดี๋ยวเลิกคลาสก่อนค่อยเอานะ” พุฒิเดินนำเพื่อนปล่อยมือออกจากคอเพื่อนแล้วเดินไปเรียนพร้อมกัน มันก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ปี 1 แล้วที่สนิทกันมากจนสามารถเที่ยวและนอนห้องเดียวกันได้อย่างไม่คิดอะไรเลย เขาสนิทกับปรินก่อนจะเจออ้ายเพราะเรียนโรงเรียนเดียวกัน ส่วนอ้ายมารู้จักตอนรับน้องแล้วได้ทำกิจกรรมร่วมกันอีกทั้งฐานะก็ไม่ต่างกันและเรื่องนิสัยก็เข้ากันได้ดี “อังกฤษเป็นไงบ้างพุฒิ?” อ้ายเอียงตัวมาถามเพื่อน “ก็ทั่วไปๆเธอล่ะได้ข่าวว่าเข้าโรงพยาบาล” เขาเห็นรูปที่ถ่ายลงอินสตาแกรมเมื่อไม่กี่วันก่อน “ก็แพ้อากาศเฉยๆไปภูเก็ตมันไม่ค่อยชินกับอากาศแถวนั้น” เธอจำเป็นต้องโกหกเพราะถ้าบอกว่าโดนเอาจนเข้าโรงพยาบาลคงอายเพื่อนแย่เลย “ฉันไปญี่ปุ่นมาทำไมมีคนถามฉันมั้ง?” ปรินพูดแทรกขึ้นมารู้สึกว่าตัวเองเหมือนส่วนเกินเข้าทุกที “แล้วไหนของฝากฉันล่ะ?” ไหนๆก็พูดมาแล้วขอทวงของฝากหน่อยแล้วกัน “อยู่บ้าน พรุ่งนี้เดี๋ยวเอามาให้นะเพื่อนเลิฟ” ปรินยิ้มแห้งเพราะลืมเอามาจริงๆ “ลืมตลอดเลย!” อารมณ์เสียเพื่อนชอบมามุกนี้ตลอด คอยดูเถอะถ้าไม่ได้ของฝากนะจะงอนให้ เราห่างจากการเรียนไปหลายวันเพราะหยุดยาวแล้วเธอก็ไปก่อนวันหยุดด้วยเพราะเป็นวันเกิดพี่กู๊ด พอกลับเรียนเลยงงหน่อยๆ แต่ก็ไม่เป็นไรเดี๋ยวให้พุฒิช่วยติวดีกว่าเพราะไอ้เพื่อนบ้าเรียนเก่งมาก มิหนำซ้ำกีฬายังเป็นเลิศอีกต่างหาก ส่วนปรินเนี่ยเรื่องเรียนถือว่าเก่งพอๆกับเธอเลย เพื่อนเธอแต่ละคนไม่มีใครธรรมดาเลยนะ เวลาบ่ายกว่าๆเธอไม่มีเรียนต่อส่วนเพื่อนยังมีต่อเพราะไปลงเรียนคลาสอะไรไม่รู้ไม่ชวนกันเลย แต่ก็ยังอุตส่าห์มานั่งรอพี่คริสเป็นเพื่อนเพราะยังไม่ถึงเวลาเรียนมั้ง ถ้าเรียนตอนนี้คงเลิกค่ำแน่ซึ่งเธอขยันแบบนั้นไม่ไหวจริงๆ “อะนี่ของอ้ายแล้วนี่ของแก” พุฒิว่างถุงของฝากแยกสุเอาไว้ให้เพื่อน “กระเป๋าเหรอสวยดีอะ” ปรินหยิบขึ้นมาดูก่อนจะเทของในกระเป๋าตัวเองใส่กระเป๋าใบใหม่ทันที “เฮ่อจังวะปริน!” พุฒิบ่นเบาๆ “ก็สวยนี่หว่าแล้วของแกล่ะอ้ายได้เป็นอะไร?” ปรินหยิบกระเป๋าใบนั้นมาสะพายแต่ก็สงสัยว่าเพื่อนได้อะไรอยู่ดี “สร้อย! สวยมากเลยซื้อที่ไหนเนี่ย?” เธอแกะกล่องสร้อยที่มีจี้เป็นรูปไม้กางเขนสวยมาก “ก็แกนันถือคริสต์น่าจะชอบ” พุฒิหยิบสร้อยขึ้นมาดูก่อนจะใส่ให้เพื่อน “เอาผมขึ้นจะใส่สร้อยให้” อ้ายเอาผมขึ้นตามที่บอกเขาใส่สร้อยให้เธอมันสวยมากเมื่ออยู่บนตัวคนที่คู่ควร เขายิ้มกว้างมากขึ้นที่เห็นว่าอ้ายชอบ ปรินได้แต่ยิ้มแล้วก็มองเงียบๆเห็นได้ชัดอยู่แล้วว่าพุฒิใส่ใจของอย่างไหนมากกว่ากัน กระเป๋าถึงจะสวยมากแต่ก็หาซื้อได้ทั่วไป ต่างกับสร้อยที่ต้องไปตามหาในร้านเฉพาะแทน “พุฒิเนี่ยคือเพื่อนที่ดีที่สุดเลย” “พุฒิก็เป็นได้แค่เพื่อนที่ดีของอ้ายใช่ไหม?” “ใช่ เป็นได้แค่เพื่อน!” คริสเห็นตั้งแต่ใส่สร้อยได้ยินคำพูดเมื่อกี้ชัดเจนเลย เขากำมือแน่นไม่ให้ความโกรธปะทุออกไปจนทำใหเมียอารมณ์เสีย “อุ้ย! ใครมานะ” ปรินเหล่ตามองพุฒิที่ชักสีหน้าไม่พอใจชัดเจนมาก “อ้ายไปกันเถอะพี่รีบ” ไอ้เพื่อนเวรของเมียเนี่ยมันจ้องจะแทรกตัวมาตลอด “พี่คริสเป็นอะไรหน้าบึ้งจัง” เธอเดินควงแขนเขางงนิดหน่อยแต่คิดว่าคงเกี่ยวกับพุฒิแน่เพราะจ้องกันขนาดนี้ พี่คริสหันมายิ้มอ่อนให้เธอก่อนจะโอบเอวเธอแทน “ที่รักไปรอพี่ที่รถก่อนนะ เดี๋ยวพี่ตามไป” “ทำไมไม่ไปพร้อมกันคะ?” “พี่จะไปซื้อน้ำน่ะ อ้ายเอาไหม?” “งั้นแตงโมปั่นสักแก้วคงดีค่ะ” เธอหยิบกระเป๋าหันมาโบกมือลาเพื่อนแล้วไปขึ้นรถของเขาที่จอดรอใกล้ๆ พี่คริสมารับเธอแบบนี้เกือบทุกวันเพราะว่าเธอขับรถยังไม่แข็งแล้วก็จำทางไม่ค่อยเก่งเท่าไรด้วย โอ๊ะ! พี่คริสจูบเธอไม่เกรงใจเพื่อนเลย! “ไม่เกิน 10 นาทีนะที่รัก” เขาจูบหน้าผากเมียเด็กแล้วยืนมองจนแน่ใจว่าอ้ายขึ้นรถไปแล้วถึงหันมามองเพื่อนชายคนสนิทของเธอ “เมื่อกี้มึงว่าอะไรไอ้พุฒิ?” คริสเดินมายืนเกือบชิดถามเพื่อนเธอ “พี่ก็ได้ยินนี่ครับ” พุฒิยิ้มมุมปากแคร์ที่ไหนกันแค่ผัวเพื่อนเอง “เป็นเพื่อนอย่าสะเออะมาอยากเป็นอย่างอื่น” เขาเกลียดไอ้เด็กเวรนี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นเพื่อนเมียมันไม่รอดแน่ “แล้วไง” พุฒิถามสั้นๆก่อนจะหน้าหันไปตามแรงหมัดที่กระแทกเข้าเต็มเบ้า ผลัวะ!! “กูเตือนมึงแล้วนะไอ้พุฒิ! ถ้ากูไม่แน่จริงเป็นผัวอ้ายไม่ได้หรอกจำใส่หัวมึงเอาไว้” เขาชี้หน้าไอ้เด็กเวรแล้วอยากจะซ้ำอีกสักที แต่เมียรออยู่และเขาไม่ต้องการให้อ้ายต้องมารู้เรื่องแบบนี้ ในตอนนี้เธอมองมันเป็นแค่เพื่อนก็ควรจะมองเป็นแค่เพื่อนต่อไป “เจ็บไหมพุฒิ?” ปรินพยุงเพื่อนให้ลุกขึ้นแอบตกใจที่เห็นเลือดออกมา “ทำไมวะ! กูมาพร้อมกับมันแท้ๆทำไมอ้ายไม่เลือกกู” “ไอ้พุฒิ” “อไรอีกห่ะ!?” เผียะ!! “เลิกคิดแย่งเมียคนอื่นได้แล้ว!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD