6

2002 Words
ภายในห้องน้ำจุดเทียนหอมส่งกลิ่นผ่อนคลาย อ้ายนอนแช่น้ำอุ่นๆในเวลา 5 ทุ่มเพื่อรอคนที่บอกว่าจะกลับมาก่อนเที่ยงคืน เธอจัดการผู้หญิงคนนั้นก่อนจะโยนมันทิ้งข้างถนนที่ห่างไกลพอสมควรทั้งที่อยากจะทำมากกว่านี้แต่กวินห้ามเอาไว้ก่อน ก๊อกๆๆ “อ้ายพี่วางนมอุ่นไว้หัวเตียงนะ” อ้นพูดผ่านประตูห้องน้ำเสียงดัง “ขอบคุณค่ะ” “พักผ่อนได้แล้วนะ พี่ไปก่อน” เช้าวันต่อมาสนามบินแห่งหนึ่งที่คนค่อนข้างพลุกพล่านมากตามปรกติ อ้ายมาส่งพ่อขึ้นเครื่องบินไปทำงานในต่างประเทศเป็นเวลา 1 เดือนก่อนจะกลับมาอยู่กับเธออีกครั้ง “คริสฝากดูน้องด้วยนะ” ชารีฟบอกลูกเขยยิ้มให้ลูกสาว “ครับป๊า” “ปะป๊าต้องโทรหาอ้ายทุกวันนะ” อ้ายกอดพ่อแน่นขึ้น “เจ้าหญิงของป๊าเป็นเด็กดีนะ อีกเดี๋ยวป๊าก็กลับมาแล้ว กวินอ้นดูแลคุณหนูให้ดีที่สุดจำไว้” หลังจากส่งพ่อขึ้นเครื่องเธอให้ลูกน้องกลับไปทำงานอย่างอื่นก่อนเพราะตัวเองจะไปกินข้าวกับพี่คริสและเพื่อนของเขา เพื่อนเขาชอบหาผู้หญิงให้พี่คริสเธอยังไม่จัดการอะไรทั้งนั้นเพราะอยากให้คิดเอง แต่ถ้าวันไหนหมดความอดทนก็อีกเรื่องหนึ่ง เรามาถึงร้านอาหารญี่ปุนพี่กู๊ดกับพี่ม่านมานั่งรอแล้ว “ไงน้องอ้ายหายดีรึยัง?” กู๊ดทักเมียเพื่อนก่อนเลย “ดีแล้วค่ะ เมื่อคืนดื่มกันไม่เมาค้างเหรอ?” เธอถามก่อนเลยเพราะพี่คริสเนี่ยค้างปวดหัวแต่เช้าเลย “จะเหลือเหรอถามได้” ม่านตอบมาแทน “เมื่อคืนน้องอ้ายไปไหนมารึเปล่า?” ม่านถามขึ้นเพราะพึ่งจะรู้ข่าวเรื่องมิรินถูกทำร้ายอย่างหนัก “ก็อยู่บ้านค่ะ อยู่กับปะป๊า พี่ม่านมีอะไรรึเปล่าคะถึงมองอ้ายแปลกๆ” เขาถามแบบนี้แสดงว่าต้องรู้เรื่องอีร่านนั่นแน่ แต่เธอไม่สนเพราะคนเดียวที่สนคือพี่คริสเท่านั้น “เมียกูอยู่บ้าน” คริสบอกเพื่อนให้เข้าใจ “มึงแน่ใจเหรอไอ้คริส?” ม่านถามซ้ำ “แน่ใจสิ อ้ายอยู่บ้านคุยกับกูตลอดเวลามึงก็เห็น” เมียคนดีโทรหาเขาเกือบทุกชั่วโมงเลยก็ว่าได้เพื่อนก็เห็นแถมยังบ่นด้วย “พี่ม่านมีอะไรจะถามอ้ายรึเปล่าคะ?” เธอถามเขาสั้นๆเพราะดูเหมือนว่ามีเรื่องจะถามเธอ “พอดีเด็กพี่โดนทำร้ายเลยกลัวอ้ายจะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเด็กไอ้คริสแล้วไปทำอะไร” ม่านถามขึ้นอยากรู้จริงว่ายัยตัวร้ายเมียเพื่อนจะตอบอะไร "อ้ายจะไปทำเด็กของพี่ทำไมล่ะคะ อ้ายไม่ใช่คนโหดร้ายขนาดนั้นนะ” เธอยิ้มตบท้ายให้กับคำตอบพลางซบไหล่คนรักอ้อนเขาให้เห็นใจกัน “อ้ายตัวแค่นี้จะทำเหี้ยไรได้ มึงอย่ามั่วไอ้ม่าน!” มันพาลไปมั่ว เมียเขาน่ะเหรอจะทำร้ายคนจนเข้าโรงพยาบาลได้ อีกอย่างมิรินอาจจะมีโจทย์เก่ามาคิดบัญชีก็ได้ “มึงอะหลงเมียไอ้คริส!” “ไอ้ม่านพูดเหี้ยไรระวังหน่อยดิ” กู๊ดห้ามเพื่อนก่อนจะมีเรื่องกันเพราะผู้หญิงแค่คนเดียว “แล้วมึงว่าไม่แปลกเหรอที่อ้ายปล่อยไอ้คริสมาง่ายๆ” ม่านถามต่อมองหน้าเมียเพื่อนอย่างเอาเรื่อง “ก็อ้ายอยู่กับปะป๊าไงคะ พี่คริสไม่ได้บอกเหรอคะทำไมถึงรีบกลับมาขนาดนี้” เธอหันไปทางคนรักกำลังจะพูดต่อแต่ว่าเขาพูดขัดขึ้น “พ่ออ้ายไปแม็กซิโกเมื่อเช้านี่เอง มึงก็รู้นี่หว่าว่าพ่อเมียกูเป็นคนยังไง” คริสอธิบายให้เพื่อนฟังเพิ่มความจริงมันไม่ใช่เรื่องด้วยซ้ำ มิรินโดนทำร้ายแล้วเกี่ยวอะไรกับเมียเขาในเมื่อเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย “มันไม่แปลกเหรอวะ?” “ไม่แปลก มึงหยุดกล่าวหาเมียกูแล้วแดกข้าวได้แล้ว” เขาจะให้อ้ายมารับผิดแทนใครมั่วซั่วได้ไง “แล้วสรุปมันเรื่องอะไรกันแน่คะ ใครใจดีพอจะอธิบายให้อ้ายฟังได้บ้าง” คิดจะจับผิดเธอแบบนี้เหรอ มันจะง่ายเกินไปไหม คนอย่างเธอไม่ใช่หมูในอวยให้ใครเชือดเล่นๆด้วยสิ มีแต่เธอจะเชือดคนอื่นเล่นโดยเฉพาะคนที่กล้ามายุ่งกับคนของเธอ “ไม่มีอะไรหรอกอ้ายไอ้ม่านมันพาลเฉยๆ” คริสหันมาเอาใจเมียแทนเพราะถ้าอ้ายรู้เรื่องคนจะตายมันจะเป็นเขา “พี่คริสไม่ได้โกหกอ้ายใช่ไหม?” เธออยากรู้เหมือนกันว่าเขาจะโกหกเธอหรือยอมบอกความจริง ลึกๆเธอก็อยากให้เขาบอกความจริงนะ “เรื่องเด็กไอ้ม่านไม่มีอะไรจริงๆที่รัก” เขาโกหกเธอก็ยอมรับแต่ถ้าอ้ายรู้คงต้องทะเลาะกันแน่ เขาไม่อยากให้เธอต้องมาระแวงเรื่องพวกนี้ สุดท้ายเขาก็ทำเหมือนว่าเธอเป็นเด็กโง่ๆเหมือนเดิม เธอรักเขาก็ใช่ว่าจะยอมเขาหมดทุกอย่างโดยเฉพาะเรื่องนี้ พี่คริสคงคิดว่าเธอไม่รู้อะไรเลยโกหกกันแต่เปล่าเลยเธอรู้มากกว่าที่เขาคิดและจัดการอีร่านที่มันคิดจะแย่งของเธอไปก่อนมันจะทำสำเร็จ “อาหารไม่อร่อยเหรอหน้าบึ้งจัง” เมียหน้าบึ้งตึงแล้วก็เงียบจนน่างง “เปล่าค่ะ อ้ายแค่คิดถึงปะป๊า” เธอเบะปากเล็กน้อยเงยหน้ามองเขา “โอ๋...เด็กดีพี่อยู่ตรงนี้นะ” เขาขยี้ผมเธอเบาๆอยากจะจูบหน้าผากปลอบใจแต่ก็กินอาหารอยู่เดี๋ยวมันจะเปื้อนหน้าใสๆของเธอ คริสดึงเมียมาลูบไหล่ปลอบใจก่อนจะป้อนซูซิให้เธอ แล้วอ้ายเป็นเด็กติดพ่อมากพอพ่อไปทำงานก็หง่อยแบบนี้ตลอด แต่ไม่เป็นอะไรเขาจะดูแลให้ความอบอุ่นตามใจเธอเอง “พี่รักหนูนะอย่างอแง กินต่อดีกว่าเดี๋ยวพาซื้อเสื้อผ้าใหม่” เรื่องเปย์เมียไว้ใจเขาได้เลย เขาพร้อมจ่ายทุกอย่างจนหมดตัวก็ยอมเพื่อให้เมียอารมณ์ดีแล้วหายเครียดได้ “งั้นดูหนังด้วยนะ” เธอก็อยากมีเวลาสวีทกันกับเขาบ้าง “ตามหนูสิครับคนสวย อืม...กินซูซิให้อิ่มก่อนพี่สั่งแต่ที่หนูชอบมาเลยนะ” เขาหยิบอีกชิ้นมาป้อนเธอจนเต็มปากอ้ายยิ้มออกมายกมือปิดปากตัวเอง คนเป็นผัวแค่ได้เห็นเมียมีความสุขมันก็สุขใจแล้ว “แม่ง! เหม็นความรักฉิบหาย!” หลังจากอาหารเที่ยงคริสพาเมียคนดีมาเดินเลือกซื้อเสื้อผ้าตามที่บอกเอาไว้ เธอมีหน้าทีแค่เลือกส่วนการจ่ายเขาจัดการเองรวมถึงถือให้ทุกอย่าง ใครคิดว่าการทำเรื่องแค่นี้ให้เมียมันเป็นเรื่องน่ารำคาญวะ สำหรับเขาแค่เธอมีความสุขแค่นี้ก็มากเกินพอแล้ว “หนูอยากได้อะไรอีกไหม?” “หนูอยากได้ลิปอีกสักแท่งแล้วเราไปดูหนังกัน” “ครับ” คำเดียวเลยที่พูดได้ในตอนนี้เพราะแค่เมียยิ้มก็ขัดใจไม่ลง “น่ารักแบบนี้ไงอ้ายถึงหวงพี่คริสมากๆ” เธอหยิกแก้มเขาเบาๆดึงมือเขาเข้ามาในร้านเครื่องสำอาง พี่คริสไม่เคยบ่นสักครั้งเวลามากับเธอแบบนี้คงเพราะว่าเขาชินแล้วมั้ง เธอลองสีลิปสติกก็เป็นแขนเขาเพราะว่าเธอไม่กล้าจะทาปากไม่รู้ว่าตัวทดลองนี้ลองมาแล้วกี่คนแล้ว ถ้ามาเทสสีกับแขนตัวเองก็จะเปื้อนดังนั้นแขนพี่คริสนี่แหละเหมาะสมที่สุด เขาน่ะเป็นทุกอย่างให้เธอจริงๆ “พี่คริสคะสีไหนสวย” มันมีทั้งชมพูตุ่น ชมพูอ่อน ชุมพูนมเธอเลือกไม่ถูกเลยว่าจะเอาแบบไหน “แล้วหนูชอบสีไหนล่ะ?” พูดได้เลยว่าเขาไม่กล้าสบตาเมียมันเหมือนจะเจอรังสีบางอย่างมีฤทธิ์ทำลายล้างสูง แค่คิดก็ขนลุกแล้ว!! “เลือกไม่ถูกเลย พี่ช่วยหนูเลือกหน่อยนะ” เธอมองลิปสติกทั้ง 3 สีมันสวยหมดเลย เธอมองหน้าเขาอีกครั้งส่งสายตาขอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนเลย ตายครับ! สถานการณ์แบบนี้ยังไงก็ไม่รอด เขาไม่จะเลือกให้ยังไงในเมื่อมันก็เป็นสีชมพูเหมือนกันหมดเลย เขาควรจะเอายังไงดี หน้าก็ไม่เคยแต่ง ความรู้ด้านนี้แทบจะเป็นศูยน์เลย เวรกรรมกูจริงๆ “เอาทั้ง 3 สีเลย” วิธีการตัดปัญหาที่ง่ายที่สุดแล้ว “3 สีเลยเหรอ?” ทำไมพี่คริสใจดีจัง “พี่อยากให้หนูมีทุกสีเลยเพราะหนูสวย ไม่ว่าทาสีไหนก็สวยอยู่แล้ว ไปจ่ายตังดีกว่าเนอะเด็กดี” งานเอาใจเมียเขานี่แหละตัวพ่อ เขาไม่สนว่าราคามันจะเท่าไรขอแค่ไม่มีปัญหาก็พอแล้ว “ที่รักตามใจแบบนี้ตลอดเลยนะ” อ้ายควงแขนคริสซบหน้าลงที่ต้นแขนเขาแสดงความเป็นเจ้าของออกมา เธอรู้ว่าพี่คริสหล่อแต่ใครก็ห้ามสนใจทั้งนั้นเธอไม่ชอบ แต่ร้านเครื่องสำอางมีผู้หญิงมาเยอะแล้วหลายคนก็มองด้วย อ้ายหน้าบึ้งตึงขึ้นมาทันทีแล้วควงแขนเขาอย่างชัดเจนเพื่อประกาศความเป็นเจ้าของ เขาไม่รู้ว่าทำไมอ้ายถึงขี้หวงขนาดนี้แต่ว่ามันรู้สึกดีถึงแม้บางครั้งจะรับมือไม่ไหวและหงุดหงิดตามไปด้วยจนทะเลาะกัน แต่อย่างน้อยที่เธอแสดงออกมันก็แปลว่ารักเขามากด้วยไง เขาไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าวันหนึ่งมีคนมาจีบอ้ายแล้วจะหวงขนาดไหน อ้ายไม่ใช่คนขี้เหล่เลยแต่เธอหน้าตาน่ารักเหมือนเด็กน้อยเลย “คุณคะคุณ!!” “คุณลูกค้าคะ!” “มีอะไรรึเปล่าครับ” “ลูกค้าลืมบัตรเครดิตค่ะ” “ขอบคุณครับ “พี่คริสลืมจริงเหรอ?” เธอว่ามันแปลกๆแล้วคนบ้าอะไรจะลืมของสำคัญแบบนี้ “ก็พี่รีบไงอ้าย” เขารับบัตรเคดิตมาพนักงานร้านเครื่องสำอางก็ยังอุตส่าห์หาเรื่องให้เขาเพิ่มด้วยการยิ้มหวานเลี่ยนมือโดนมือเขาอีก เมียจ้องตาเขียวปั๊ดเลย!! “มันหมายความว่ายังไงห่ะ!!” เธอหันไปจับมือเขาหยิบบัตรดิตขึ้นมาดู เขาจับมือกับยัยป้าหน้าหนานั่นต่อหน้าเธอมันมากเกินไปแล้วนะ “ที่รักใจเย็นๆก่อนนะ คือมันไม่มีอะไรเลย” ยินดีต้อนรับช่วงเวลานรกต่อจากนี้ได้เลย “ไม่มี! แต่จับมือกับพี่คิดว่าอ้ายโง่เหรอห่ะ?” เธอผลักเขาออกห่างกำมือแน่นเกลียดสีหน้าแบบนี้ของเขาที่สุด “อ้ายอย่างี่เง่าสิเมื่อกี้พี่ไม่ได้คิดอะไรเลย” “แต่ว่ามันจับมือพี่!” “แล้วหนูจะให้พี่ทำไง?” เธอไม่อยากจะงี่เง่าแบบนี้แต่ว่าเมื่อกี้มันเกินไปแล้วนะ พี่คริสก็หน้าเสียเพราะเธอโวยวายอีนั่นก็เดินหน้าระรื่นหนีไป เธอค้นในกระเป๋าหยิบกระดาษทิชชูเปียกจับมือเขามาเช็ดที่ละนิ้ว “มันต้องขนาดนี้เลยเหรออ้าย?" นอกจากจะเช็ดมือเขาจนสะอาดทุกซอกทุกมุมแล้วยังทาโลชั่นที่มือให้เขาอีก เมียขี้หวงแต่ก็มีมุมน่ารักอย่างไม่น่าเชื่อเลยเพราะแบบนี้ไงเขาถึงรักเธอมากถึงจะปวดหัวมากก็ตาม “ต้องแบบนี้แหละ พี่ก็รู้ว่าอ้ายไม่ชอบทำไมต้องให้ใครมาโดนตัวด้วย” เธอจะบ่นต่อแต่ว่าพี่คริสมาหอมแก้มเธอ ฟอดด….. “พี่ระวังตัวให้มากขึ้นนะหนูจะได้สบายใจ” “อารมณ์ดีแล้วก็ยิ้มให้พี่หน่อยสิ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD