จุดเริ่มต้นของจูบแรก

2943 Words
#จุดเริ่มต้นของเขาทั้งคู่ "เชี้ยยยยยย!! โอ๊ย วันแรกก็สายแล้วอิฟลินท์เอ๊ย แกตายแน่ๆ ฮื่อ" สวัสดีฉัน ฟลินท์ ดามิสา พัฒนวีระกิต เป็นลูกสาวคนเดียวอยู่ไทยมีลูกพี่ลูกน้องคนเดียวเป็นผู้ชายแต่ครอบครัวเฮียเขาก็อยู่ที่จีนเลย พ่อแม่อากงอาม่าก็อยู่ไทยบ้างไปจีนบ้างเพราะป๊าฉันเป็นคนจีนเลยทำธุระกิจที่นู่นด้วย บ้านเกิดฉันอยู่ที่อยุธยาพอมีที่มีทางอยู่บ้างเพราะป๊าชอบซื้อ แต่พอฉันมาเรียนที่กรุงเทพฯ ป๊าเลยซื้อคอนโดแถวนี้ให้จะได้สะดวกแต่บ้านใกล้แค่ไหนก็สายได้อยู่ดีค่ะแม่ แล้วไม่น่าจะแก้หายนะฉันว่า มันอยู่ในกระแสเลือดอะเธอไม่น่าจะมีทางแก้ไข อิอิ ครืดดดดดดด "เอ้า ไอ้พิมพ์โทรมา เออว่าไงมึง" [นี่ อิฟลินท์คะ มึงอยู่ไหนแล้ว เขาเข้าแถวกันหมดแล้วเนี้ย] "ห๊ะ!!! เวรละ กูเพิ่งจะจอดรถเดี๋ยวรีบเดินไป" [เออรีบมา พวกกูรอมึงอยู่ในแถว] "เออๆ เดี๋ยวกูรีบ โอ๊ย เดินภาษาอะไรวะไม่เห็นคนหรือไง แม่งเอ๊ย ยิ่งรีบๆ อยู่" ฉันพูดพร้อมกับเงยหน้ามองคนที่มาชนเขาสูงสูงมากน่าจะเกิน 180 เซนติเมตร ได้มั้ง ผิวขาวๆ หน้าตาก็คือหล่อเลยอะ ใช้คำว่างานละเอียดได้ดีมากแต่ตอนนี้ฉันรีบไงไม่มีเวลามาสนใจหรอกนะพอพูดเสร็จก็เก็บของที่ตกพร้อมจะเดินออกไปแต่ไอ้คนตัวสูงข้างหน้ามาจับแขนฉันไว้ก่อนจะมองหน้ามาทางฉับแบบดุๆ แทบจะฆ่าฉันทางสายตาอยู่แล้วพร้อมกับพูดขึ้นมาเสียงดัง จนฉันอยากจะตะโกนกลับไปว่าหูฉันปกติดีค่ะคุณพี่ขา พูดเบาๆ ดิฉันก็ได้ยินค่ะ "นี่ ที่บ้านเธอไม่สั่งสอนหรือไงว่าเดินชนผู้ใหญ่ให้ขอโทษอะห๊ะ!!!! เดินไม่ดูทางแล้วยังจะมาโวยวายใส่คนอื่น!!! ถ้าตามันมีแล้วไม่ได้ใช้ก็ไปควักมันออกซ่ะ" เขาพูดเสียงดังจนคนที่เดินผ่านไปผ่านมาเริ่มให้ความสนใจมากขึ้น ฉันสะดุ้งขึ้นมาก่อนจะถามเขาออกไปเสียงเบาๆ เพราะไม่อยากเป็นที่สนใจแล้วมันน่าอายนะเธอ "อุ้ย ไอ้บ้านี่ นายจะเสียงดังทำไมห๊ะ พูดเบา ๆ ฉันก็ได้ยินปะ หูฉันปกติดี” ผมถอนหายใจก่อนจะยกนาฬิกาของตัวเองขึ้นมาดู พอเห็นเวลาเลยพุดกับยัยนี่ออกไปด้วยเสียงปกติ เพราะตอนนี้ใกล้จะได้เวลานัดน้องแล้วถ้าไปสายดูไม่ดีแน่ ๆ "ขอโทษฉันเดี๋ยวนี้ จะได้ต่างคนต่างแยกย้ายไปฉันไม่อยากเถียงกับเธอนาน ๆ นักหรอก” "ไม่ นายต่างหากที่ผิดทำไมฉันต้องขอโทษด้วย แล้วอีกอย่างทั้งฉันและนายก็ก้มหน้าด้วยกันทั้งคู่มันก็ผิดด้วยกันทั้งสองคนแหละ นายอย่ามาหาเรื่องคนอื่นเขา ฉันก็รีบเหมือนกันไม่ใช่นายรีบอยู่คนเดียว" ผมมองผู้หญิงที่ตัวเล็กกว่าผมมากอยู่นะกินนมบ้างหรือเปล่าเถอะอาการ พอได้ยินยัยนี่ตอบกลับมาผมเลยมองหน้าผู้หญิงตรงหน้านิ่ง ๆ ก่อนจะใช้มือดึงแขนให้เดินตามผมมา "ไม่ขอโทษฉันใช่ไหม งั้นมานี่!!!" "โอ๊ย ฉันไม่ไป ไอ้บ้า โอ๊ย!" ร่างสูงๆ ดึงแขนฉันแรงให้เดินตามเขาตรงหลังตึกที่ไม่ค่อยจะมีคนเดินผ่านไปมาพอถึงก็กระแทกฉันไปชนกับกำแพงจนรู้สึกเจ็บหลังไปหมด ไม่ใช่ว่ากระดูกที่หลังฉันจะหักหมดแล้วเหรอวะเนี่ย ฉันใช้มือจับหลังตัวเองก่อนจะมองมาที่เขาด้วยสายตาเอาเรื่อง "นี่ ผลักมาได้ไงวะ ฉันคนนะโว้ยไม่ลูกบอล แม่ง โคตรเจ็บเลย" "เธอจะขอโทษฉันดี ๆ ไหม" "นี่เดี๋ยวนะ แค่เดินชนมันขนาดนี้เลยหรือไงห๊ะ ปัญญาอ่อน คนอื่นเขาไม่เห็นมาดีดดิ้นหรือมีอาการแบบนายสักคนว่าง ๆ ก็ไปรักษาเถอะ" "นี่ เธอว่าฉันปัญญาอ่อนเหรอห๊ะ" "เออดิ ตาบอดหรือไงยืนอยู่สองคนว่าหมามั้ง หรือนายเคยเห็นใครด่าตัวเองล่ะ โอ๊ยย" คนตัวสูงที่สูงกว่าฉันมากกระชากร่างฉันเข้าหาตัวเขาอย่างแรงและใช้มือมากอดฉันไว้พร้อมกับเพิ่มแรงรัดฉันเอาไว้แน่นจนฉันจะหายใจไม่ออก สิ่งที่ทำได้ก็คือแรงๆและใช้มือทุบไปที่ตัวของเขาด้วยแรงทั้งหมดที่มี "ขอโทษฉันซะ ฉันอายุมากกว่าเธอ" "ไม่ ฉันไม่ขอโทษนาย ก็แค่อายุมากกว่าแต่สมองมะ อือออ" ฉันพูดยังไม่ทันจะจบประโยคดีเลยไอ้คนตัวสูงตรงหน้าก้มหน้าลงมาและใช้ปากเขาประกบที่ฝีปากของฉันอย่างรวดเร็ว พร้อมกับบดขยี้และใช้ฟันกัดริมฝีปากล่างของฉันอย่างแรงตามแรงอารมณ์ของเขา บ้าเอ๊ย โตมาขนาดนี้ยังไม่เคยมีใครมาจูบฉันเลยนะ แล้วพอมาเสียจูบแรกแม่งเป็นความรู้สึกที่แย่อีก คนตัวสูงบดขยี้ริมฝีปากของฉันอยู่สักพักจนตอนนี้น้ำตาฉันแทบไหลเพราะไอ้คนตัวสูงกัดจนรู้สึกได้ว่าปากมันแตกและตอนนี้ได้กลิ่นคาวของเลือดไปทั่วปากของตัวเองอะ ฉันเลยพยายามเบี่ยงหน้าหนีหลบเขาแต่เขาเลื่อนหน้าตามฉันมาจนไรเคราของเขามันเริ่มทิ่มและครูดกับหน้าฉันรับรู้ได้เลยว่ามันต้องแดงแน่ ๆ เพราะตอนนี้แสบหน้าไปหมด "อือออ อึก เอ็บ อ๊ะ อ๋อย" ฉันพยายามเปล่งเสียงของตัวเองออกมาและเบี่ยงหน้าหนีเขาและดิ้นแรง ๆ โดยที่ตอนนี้ใช้มือตีไปตามตัวของเขาที่พอจะตีได้ แต่ไอ้คนตัวสูงกลับรัดเข้าที่เอวฉันแน่นขึ้นไปอีกจนหน้าอกฉันมันไปชิดกลับอกแกร่งและเขาเลื่อนริมฝีปากไปที่ลำคอของฉันก่อนจะขบและกัดเบาๆ จนตอนนี้คอฉันมันมีแต่น้ำลายเขาเต็มไปหมด "นี่ปล่อยฉันนะ โอ๊ย ปล่อยดิวะ" ฉันดิ้นอยู่นานก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าแรงฉันสู้เขาไปไม่แล้วดิ้นยังไงไอ้บ้านี่ก็ไม่สะทกสะท้านหรอกดูจากอาการฉันเลยเอาเล็บของตัวเองข่วนกับคอเขาหลายที่ จนตอนนี้คอของเขามันเริ่มจะแดงและมีเลือดซิบออกมาตามรอยที่ฉันข่วน ฉันใช้ฟันกัดไปที่ลำคอของเขาแรงๆ จนได้ยินเสียงเขาร้องออกมา "โอ๊ย!!! ยัยตัวแสบ นี่เธอกล้ากัดคอฉันเหรอห๊ะ" "เออดิ ปล่อย โอ๊ย หยุดกัดฉันสักทีปล่อย" พอฉันกัดเขา เขาก็กัดฉันกลับมามันเจ็บจนแทบจะร้องไห้ฉันเลยหยุดดิ้นไอ้คนตรงหน้าก็หยุดพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมามองและพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงกวนๆ "หึ ไม่ดิ้นต่อละ" ผมมองคนตัวเล็กที่ทั้งทุบทั้งข่วนผมจนเจ็บไปหมด เธอเป็นผู้หญิงน่ารักผิวขาวมากอะจนตอนนี้คอของยัยนี่ก็เริ่มขึ้นรอยที่ผมทำไว้หลายที่ ตัวเล็กแต่แรงเยอะฉิบหายแถมตัวยังหอมอีก อืม ก็น่าสนใจดี เอาจริง ๆ ก็สนใจตั้งแต่เห็นแล้วนะดีไปหมดจริง ยกเว้นปาก "ปล่อย ฉันรีบ ฉันไม่มีเวลามากพอมาเถียงกับนาย" "หึ" "นี่ ฉันบอกให้ปล่อย เออ ฉันขอโทษ ขอโทษที่ฉันเดินชนจนทำให้นายต้องโมโห พอใจหรือยังพอใจแล้วก็ปล่อย" เพี้ยะ!!! หลังจากที่เขาปล่อยฉันก็ยกมือขึ้นฟาดไปที่แก้มเขาพร้อมกับมองไปด้วยสายตาที่ไม่พอใจมากด้วยและฉันตบเขาด้วยแรงทั้งหมดที่มี แล้วเสียงของแรงฉันที่กระทบกับแก้มเขาก็ดังมาก มากจนเขาหันไปตามแรงตบแล้วค่อย ๆ หันหน้ากลับมาก่อนจะเอาลิ้นดุนแก้มแล้วมองมาหาแทบจะฆ่าฉันนั่นแหละ แต่ถามว่ากลัวไม่ก็ไม่หรอกจังหวะนี้เพราะฉันโมโหไอ้บ้านี่มาก ๆ เหมือนกัน "ส่วนอันนี้ฉันไม่ขอโทษ เพราะฉันตั้งใจตบ" หลังจากที่ฉันพูดจบก็จัดเสื้อตัวเองแล้วกระดุมเม็ดแรกมันหลุดออกไปตอนไหนยังไม่รู้ ฉันใช้มือติดมันเข้าที่เดิมพร้อมกับเก็บของที่หล่นอยู่ที่พื้นและรีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว "หึ! เก่งซะด้วย ฉันไม่จบกับเธอแค่นี้แน่" ผมพูดพร้อมกับใช้หัวแม่มือเช็ดเลือดที่มุมปากตัวเอง ก่อนจะรีบเดินไปเข้ากิจกรรมที่คณะ ผมเป็นเฮดว๊ากด้วยไงเดินไปทางลัดเอาละกันเดี๋ยวไปถึงสายจะดูไม่ดี ดีนะมีทางลัดเลาะมา "ซี๊ดดด แสบฉิบหาย แม่งจะเอาคืนให้หนัก" ผมพูดเพราะตอนนี้เหงื่อเริ่มออกแถว ๆ ต้นคอ แล้วยิ่งโดนเหงื่ออีกแม่งโคตรแสบอะ ฝากไว้ก่อนเถอะเจออีกจะเอาคืนให้สาสม มือก็โคตรหนัก อ๋อ ลืมแนะนำตัวเลยผม เธียเตอร์ ธนวิชญ์ กิจธนะโสภณ เป็นลูกชายคนเดียว มีลูกพี่ลูกน้องก็ผู้ชายเหมือนกันแต่เรียนคนละมหาลัย ตอนนี้ผมก็เปิดผับแล้วก็รับงานของบริษัทพ่อมาทำบ้าง แต่ผมไม่ได้อยู่บ้านกับพ่อแม่หรอกนะ ออกมาอยู่คอนโดใกล้มหาลัยเพราะจะได้ไปกลับสะดวกไม่ต้องรีบมาก แค่นี้ก่อนละกันเพราะตอนนี้ผมต้องรีบไปลานกิจกรรมก่อนแล้วจะมาเล่าให้ฟังใหม่ ฉันรีบเดินมาพอใกล้ถึงคณะก็เห็นรุ่นพี่เขาว๊ากกันเสร็จแล้วมั้งเพราะเพื่อน ๆ ปีเดียวกันก็นั่งอยู่เฉย ๆ เห็นพี่ผู้หญิงคนหนึ่งยืนพูดอยู่แล้วมีพี่ผู้ชายที่หน้าโหด ๆ อีกหลายคนยืนกอดอกอยู่นิ่ง ๆ แล้วก็ล้อมพวกรุ่นน้องไว้ ฉันถอนหายใจก่อนจะพูดกับตัวเองขึ้นมา "เข้าพรุ่งนี้ก็ได้ไหมวะ เดี๋ยวโทรบอกไอ้พวกนั้นละกันว่าอยู่คาเฟ่ใกล้มอ ไปดีกว่าคนอื่นก็เข้ากันไม่คบหรอก" พอตัดสินใจได้ฉันก็เลยรีบหันเพื่อจะเดินออกไปเพราะยังไม่มีใครเห็นรีบไปจากตรงนี้ดีกว่าพรุ่งนี้ค่อยเข้าแล้วกัน แต่พอจังหวะที่หมุนตัวเท่านั้นแหละ หมับ!! "จะไปไหน!! คุณอยู่คณะนี้หรือเปล่า!!!" เชี้ยเอ๊ย ไม่ทันแล้วอิฟลินท์ จะดีอยู่แล้วแล้วทำไมพี่เขาต้องพูดเสียงดังด้วยว่ะโอ๊ยใจบ่ดี แล้วมาเห็นแบบนี้อีกตาย ๆ ถ้าบอกไม่ได้อยู่ก็ไม่ได้อีก เพราะวันอื่นเราก็ต้องมาเข้าร่วมกิจกรรมอยู่ดีเอายังไงดีวะ ในจังหวะที่ฉันกำลังคอดกับตัวเองก็ได้ยินเสียงของคนตัวสูงพูดเสียงดังขึ้นมาอีกรอบ "ถาม!! หันมาตอบ!!!" คนตัวสูงที่มีแรงมากกว่าฉันดึงแขนฉันแรงๆ เพื่อให้หันกลับมา พอหันมาเจอเท่านั้นแหละ อือหื้อ เวรกรรมฉันยังไม่หมดอีกเหรอวะเนี่ย "นี่" "หึ จะไปไหนอยู่คณะนี้หรือเปล่า!!!" "ยะ อยู่" "แล้วทำไมไม่เข้าไป!! คุณเห็นไหมคนอื่นเขานั่งรออยู่!! ทุกคนนั่งอยู่ในแถวทำกิจกรรมแล้วคุณมาทำอะไรตรงนี้!!! มาก็สายยังจะทำให้ทุกคนรอมานี่!!!" "โอ๊ยยย" ใครวะที่ทำให้ฉันมาสายอะก็เขาไม่ใช่หรือไงถ้าไม่เจอเขาก่อนฉันก็มาทันเถอะแล้วเขาเพิ่งจะแยกกับฉันเมื่อกี้เองปะแหม่ว่าแต่ฉัน เขาลากฉันมาตรงหน้าที่เพื่อนรุ่นเดียวกันนั่งอยู่ พร้อมกับปล่อยแขนแล้วกอดอกมองมาที่ฉันก่อนจะถามออกมาเสียงดังจนทุกคนสะดุ้ง "ผมต้องลงโทษคุณยังไงดีห๊ะ!! มาก็สายยังคิดจะหนีอีก!! ที่สำคัญคิดจะหนีกิจกรรมด้วย!! ถาม เธอเป็นใบ้หรือไง!!!" ฉันมองคนตรงหน้าและได้แต่เม้มปากตัวเอง พร้อมมองเขาแบบโกรธ ๆ เพราะสิ่งที่ทำได้ตอนนี้ก็ทำได้แค่นี้แหละ "มองหน้าผมทำไม ผมถามว่าผมควรทำไงกับคุณ ให้ตอบไม่ใช่ให้มายืนเป็นใบ้แล้วจ้องหน้าผม!!!" ผมกอดอกพร้อมกับถามยัยตัวแสบตรงหน้าออกไปเสียงดัง ฮึ อยู่คณะนี้ซะด้วยเดี๋ยวจะเอาให้เข็ด "รุ่นพี่จะให้ฉันทำยังไงก็บอกเถอะค่ะ เพราะฉันก็ตอบรุ่นพี่ไม่ได้ ไม่รู้ว่าเขาลงโทษกันยังไง" "เก่งดีนี่! แล้วอย่ามาบ่นให้ได้ยิน!!!" "เออ เฮดว๊ากคะ ให้น้องมาลงชื่อแล้วก็จับพี่รหัสทางนี้ก่อนนะคะ" "เอ้า ยื่นบื้อทำไม!! ขาไม่มีเหรอ!! เดินไปจับซิ!!!" หื้ม วันนี้ไอ้บ้านี่ด่าฉันกี่คำแล้ววะ ฉันเดินตามพี่ผู้หญิงที่แสนจะน่ารักพร้อมกับเขียนชื่อลงบนป้ายห้อยคอแล้วพี่ผู้หญิงก็พูดกับฉันว่า "เสร็จแล้วรวบผมขึ้นนิดหนึ่งนะ เดี๋ยวพี่มัดให้จากด้านหลังจะได้ง่าย เราจะได้ไม่ต้องมัดเอง" งานเข้าละ ถ้ารวบผมขึ้นทุกคนเห็นรอยที่ไอ้บ้านี่ทำไว้แน่ ๆ แต่พอหันไปมองที่แถวเพื่อนบางคนก็ยังไม่ห้อยเลยนี่หน่าค่อยไปนั่งห้อยตรงนู้นแล้วกัน ฉันจะบอกกับพี่ผู้หญิงว่าไม่เป็นอะไร แต่ได้ยินเสียงดัง ๆ มาจากคนตรงหน้าที่กอดอกมองมาที่ฉันอยู่แล้ว "เออ มะ" "รวบผมขึ้นไป!!!" โอ๊ย พ่อฉันยังไม่บังคับขนาดนี้เหอะ ฉันเม้มปากจนเป็นเส้นตรงพร้อมกับรวบผมขึ้นไป และแน่นอนทุกคนที่อยู่ตรงนั้นเห็นรอยตรงคอฉันแน่ ๆ แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงใครพูดอะไรเลยนะทุกคนก็นั่งก้มหน้าเงียบ ๆ มีแต่กลุ่มเพื่อนฉันแหละที่มองมาแล้วก็พวกรุ่นพี่ที่มองมาที่ฉันจนตอนนี้ฉันอยากจะหายตัวออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุดเลย ฉันมามีสติตอนที่พี่ผู้หญิงยิ้มให้ฉันและพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงเบาๆ "โอเค เสร็จแล้วจ้า" ฉันยื่นกระดาษสี่เหลี่ยมเล็กที่พับจนไม่เห็นว่าข้างในเขียนว่าอะไร ใครก็ได้ไม่เอาไอ้บ้านี่ก็พอ ฟ้าคงเห็นใจและมีเมตตากับฉันแหละ เพราะในกล่องที่ฉันจับมีกระดาษอยู่แค่สองใบเอง "หึหึ ปีนี้เป็นปีแรกที่น้องรหัสไม่ต้องหาพี่รหัสนะจ๊ะ ได้พี่คนไหนพวกพี่จะบอกเลยเพราะจะมีหลายกิจกรรมพี่จะได้ดูแลกันอย่างทั่วถึงนะ" พี่ตัวเล็กๆ พูดกับฉันก่อนที่ฉันจะพยักหน้ายิ้มรับ เออเป็นแบบนี้ก็ดีเพราะถ้าให้หาพี่รหัสเองฉันคงยอมแพ้อะ กว่าจะหาเจอแล้วบางคนก็ชอบปั่นอีกดีนะที่นี่บอกเลยก็ยังมีเรื่องที่ดี "งั้นพี่บอกเลยนะ พี่รหัสของน้องก็คือคนนี้นะจ๊ะ พี่เขาชื่อพี่เธียร์เตอร์ เป็นเฮดว๊ากของคณะ คนที่เสียงดังเมื่อกี้นี้แหละ แล้วเพื่อนที่ยังไม่ได้มาเข้าร่วมในวันนี้พี่ฝากบอกด้วยนะว่าได้พี่รหัสเป็นพี่ธีร์คนนู้น” “อ๋อ ค่ะ ถ้าหนูเจอเพื่อนหนูจะบอกให้นะคะ” “จ้าๆ” ฉันมองตามมือพี่เข้าไปเห็นพี่ผู้ชายหนึ่งที่ก็น่าจะสูงเท่าไอ้บ้านี่แหละแล้วก็มองมาที่ฉันแบบนนิ่งๆ เหมือนกัน ไม่ใช่แค่พี่คนนี้หรอกเหมือนคณะนี้พี่เขายิ้มกันไม่เป็นอะ มีแต่พี่ผู้หญิงที่ส่งยิ้มให้น้องๆ แต่ทำไมฉันต้องได้ไอ้บ้านี่วะ ไม่เอานะ โอ๊ย น่าจะจับอีกใบหนึ่งอะ "พี่เธียร์เตอร์คะ น้องเขาเป็นสายรหัสโปรดดูแลน้องเขาด้วยนะคะ อย่าลืมนะคะว่าถ้าน้องมีปัญหาพี่ต้องอยู่ข้างน้อง น้องมีอะไรให้ช่วยถ้าช่วยได้ช่วยทันที และถ้าน้องโดนอาจารย์ทำโทษไม่ว่าจะฝ่ายไหนพี่ต้องโดนทำโทษพร้อมน้องด้วยนะคะ เฮดว๊าก" พี่ผู้หญิงร่ายยาวฉันก็ได้แต่ถอนหายใจเบาๆพร้อมกับหันหน้ามองไปทางอื่นก่อนจะได้ยินเสียงของคนตรงหน้าพูดกลับมาเสียงดัง "หึ เอ้า ยืนเป็นนางเอกเอ็มวีหรือไง!! เสร็จแล้วทำไมคุณไม่รีบไปนั่ง!!!" ฉันถอนหายใจก่อนจะมองหน้าเขาอย่างไม่สบอารมณ์ พร้อมเดินออกจากตรงนั้นไปหาเพื่อน แต่ก็ยังได้ยินเสียงเขาที่พูดไล่หลังตามมาอีกคิดว่าเจ้ากรรมนายเวร "เสร็จกิจกรรมมาหาผมด้วยมีเรื่องจะคุย และอย่าหนีกลับ ถ้าคุณหนีคุณคอยดูว่าจะเป็นไง!!!"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD