ตอนที่ 11 คนของผม

1693 Words
เพราะกว่าที่จะข่มตาให้หลับลงได้ก็ครึ่งค่อนคืนไปแล้ว ไหนจะปัญหาที่ทำให้เธอเหนื่อยล้าทั้งกายและใจทำให้เธอตื่นสาย เมื่อมองหาคนที่นอนกกกอดเธอแนบอกด้วยพื้นที่คับแคบของเตียงก็พบเพียงความว่างเปล่า เขาคงออกจากห้องของเธอไปนานแล้วเพราะมีงานมีการให้ทำ ไม่ใช่คนตกงานอย่างเธอ เมื่อนึกถึงปัญหาที่จะตามมาจากการตกงานก็ทำเอาเธอเด้งตัวลุกขึ้นแล้วรีบวิ่งเข้าไปอาบน้ำ ก่อนจะออกมาแต่งตัวด้วยชุดสุภาพเพื่อตระเวนออกหางานทำอีกครั้ง แต่ยังไม่ทันที่เธอจะออกจากห้อง กันตาซึ่งได้ยินข่าวว่าเธอถูกไล่ออกด้วยโทษฐานที่อ่อยแฟนเจ้าของร้านก็โทรเข้ามาเสียก่อน “น้ำมนต์ แกเป็นไงบ้าง เรื่องมันเป็นยังไง” ณกมลถอนหายใจยาวแล้วทิ้งตัวลงนั่งบนเตียง “แล้วแกได้ยินว่ายังไงล่ะ” “ก็ไอ้...นายโชคน่ะสิ ป่าวประกาศทั่วร้านว่าโดนแกแบล็กเมล พี่บีเลยไล่แกออก” “โดนไล่ออกน่ะเรื่องจริง แต่ไอ้เวรนั่นมันจะปล้ำฉัน ดีที่คุณปุณณ์เขาย้อนกลับมาเอาของที่ร้านเลยช่วยไว้ทัน ไม่งั้นฉันเสร็จมันแน่” “มันกล้าทำแบบนั้นได้ไงวะ พี่บีก็นอนอยู่บนร้านไม่ใช่เหรอ” “อืม พี่บีก็รู้ว่ามันจะปล้ำฉัน แต่พี่บีเลือกมัน เลยไล่ฉันออกแทน” “เฮ้ย ไล่ช่างอันดับหนึ่งของร้านออก แล้วเลือกไอ้แมงดาแทนนี่นะ เดี๋ยวโดนสูบเงินจนหมดตัวจะรู้สึก” “ช่างเขาเถอะ ใครก็ต้องเลือกคนที่ตัวเองรัก” “แต่ก็ต้องรู้ไหมว่าผัวตัวเองมันเป็นคนยังไง แล้วลูกค้าที่จองคิวแกไว้ล่ะ จะทำยังไง” “ก็คงต้องให้คนอื่นตัดแทนมั้ง ช่างร้านเราก็มีฝีมือกันทั้งนั้น” “มันใช่ แต่แกอันดับหนึ่งไง แล้วลูกค้าที่เข้าร้านเพราะแกก็ไม่น้อยนะ อย่าลืมตรงนี้” “ช่างเหอะ ฉันออกมาแล้ว เขาก็ต้องแก้ปัญหากันเอาเอง” “แล้วแกจะเอายังไงต่อ” “ก็ต้องออกหางานทำ ไม่งั้นสิ้นเดือนจะเอาเงินที่ไหนจ่ายหนี้เสี่ยธนู ถ้าไม่มีเงินจ่าย พวกมันบอกแล้วว่าจะเอาฉันไปขายชายแดนล้างหนี้” “แกหนีดีไหม หนีไปก่อน เรื่องงานค่อยว่ากัน เก็บกระเป๋าเลย เดี๋ยวฉันไปรับ” “ไม่ได้หรอก แกก็รู้ว่าคนของเสี่ยธนูหูตาเป็นสับปะรด ขนาดฉันกับแม่หนีมาอยู่กันตั้งไกล ไม่มีใครรู้สักคน พวกนั้นมันยังตามมาทวงหนี้ได้ถึงที่เลย เดี๋ยวแกจะซวยไปด้วย” “จริงด้วยว่ะ งั้นแกรีบไปหางานทำเลย อีกไม่กี่วันจะสิ้นเดือนแล้ว แล้วพี่บีจะจ่ายเงินเดือนแกไหม” “ไม่รู้ว่ะ เห็นเขาว่าจะให้เงินชดเชยฉัน แกช่วยถามให้หน่อยสิ” “อืม เดี๋ยวฉันจัดการให้” แต่แล้วคำตอบที่ได้จากกันตาก็ทำเอาคนที่กำลังเดินฝ่าแสงแดดยามสายหางานด้วยความยากลำบากแทบจะไร้ซึ่งเรี่ยวแรง เมื่อฝ่ายนั้นพลิกลิ้นว่าไม่เคยบอกจะให้เงินเธอ แถมที่เธอไม่รู้คือนาบีโดนโชคชัยล้างสมองให้โทรไปแจ้งแบล็กลิสต์เธอกับห้องเสื้อชื่อดังอีกหลายแห่งจนร้านที่เธอไปยื่นใบสมัครแทบจะปิดประตูใส่เธอทุกร้านไป หลายวันผ่านไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ไม่มีห้องเสื้อที่ไหนรับเธอเข้าทำงานเลย แม้ว่าเธอจะมีแฟ้มผลงานที่น่าทึ่งไปยื่นก็ตาม “ไง ทำไมวันนี้กลับค่ำล่ะคนสวย” เสียงลูกน้องจอมโหดทั้งสองคนของเสี่ยธนูดังขึ้นเบื้องหลังเมื่อเธอกำลังไขกุญแจเปิดประตูห้องพัก ทำเอาเธอสะดุ้งสุดตัว “ตกใจขนาดนั้นเลย ฉันมารอเธอตั้งนาน ไหนล่ะ ดอกเบี้ยเดือนนี้ของเสี่ย” ในแต่ละเดือน เธอจ่ายได้เพียงดอกเบี้ย กินระยะเวลายาวนานมานับสิบปีเงินต้นลดไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น “เอ่อ คือ ฉันเพิ่งตกงาน กำลังหางานใหม่ทำ ขอเลื่อนไปก่อนหนึ่งเดือนได้ไหม” “ไม่ได้ เป็นหนี้ก็ต้องจ่าย” “ฉันรู้ ฉันไม่ได้หนี ไม่ได้เบี้ยว แค่ขอเวลาเท่านั้น” “หึหึ สาวน้อย เสี่ยไม่มีทางให้เวลาเธอหรอกนะ เธอก็รู้ดีนี่ ว่าถ้าขาดส่งแม้แต่เดือนเดียว จะเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ไป ไปกับฉันเดี๋ยวนี้” มือใหญ่กร้านแดดคว้าข้อมือเล็ก ก่อนจะฉุดกระชากให้เธอเดินตามทั้งที่เธอพยายามอย่างยิ่งที่จะขืนแรงเอาไว้จนล้มลงไปกองที่พื้นอย่างหมดท่า “ปล่อยนะ ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย” “หุบปาก ใครไม่เกี่ยวอย่าเสือก นังนี่มันเป็นลูกหนี้ของเสี่ยธนู” เพื่อนร่วมชั้นที่ออกมาดูไม่มีแม้แต่คนเดียวที่จะกล้าเข้าไปช่วยเหลือเธอ ในจังหวะที่เธอกำลังเพลี่ยงพล้ำถูกคนใจร้ายลากไปทั้งอย่างนั้น ปุณณิธิก็เข้ามาขวางเสียก่อน “ทำอะไรวะ ปล่อยผู้หญิง” “เสือกอะไรด้วยวะไอ้รูปหล่อ ดารานี่หว่า มาถ่ายละครหรือไงวะถึงทำตัวเป็นพระเอก” เขาห่างหายจากเธอไปหลายวันเพราะต้องไปถ่ายละครที่ต่างจังหวัด เพิ่งกลับมาถึงเมื่อเย็นนี้ก็บึ่งรถมารอเธอที่หน้าหอพักโกโรโกโส ทั้งที่ไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำว่าทำแบบนี้ทำไม เมื่อเห็นเธอเดินกลับเข้ามาและขึ้นตึกไปแล้วก็ตัดสินใจจะกลับไปนอนพักผ่อนตากแอร์เย็น ๆ ที่คอนโด แต่ดันหันไปเห็นผู้ชายร่างใหญ่สองคนมายืนประกบตอนที่เธอกำลังจะไขกุญแจห้องเสียก่อน เพียงอึดใจเธอก็โดนไอ้สองคนนั้นฉุดกระชาก เขาจึงรีบวิ่งขึ้นไปหาเธออย่างไม่คิดชีวิต “กูบอกให้ปล่อยผู้หญิงไง” “มึงอย่ามาเสือกดีกว่า นังนี่มันเป็นลูกหนี้ของเสี่ยธนู มึงรู้จักใช่ไหม คนที่นี่เขารู้กันดี ไม่มีใครกล้าหือกับเสี่ยหรอก มึงรีบถอยไปจะดีกว่า ก่อนที่หน้าหล่อ ๆ ของมึงจะเป็นรอย” “กูไม่ถอย บ้านเมืองมีกฎหมาย เป็นหนี้มึงก็เก็บหนี้สิ จะมาฉุดกันแบบนี้ไม่ได้” “ก็นังนี่มันไม่มีเงินจ่ายหนี้น่ะสิ เสี่ยเคยบอกมันแล้วว่าขาดส่งแม้แต่เดือนเดียวจะเอามันไปขายชายแดนใช้หนี้ทันที จ่ายมาเป็นสิบปี เสี่ยยังไม่ได้เงินต้นคืนเลย” “ขายชายแดน” “ใช่ ขายในซ่อง ถ้ามันยอมไปแต่แรก ป่านนี้มันตั้งตัวได้ไปนานแล้ว เสี่ยก็ปรานีมันมาเป็นสิบปี หาเรื่องให้ตัวเองลำบาก หนี้ไม่ลด แถมสิบปีดอกทบต้นไปตั้งกี่ล้าน ช่วยไม่ได้นะโว้ย อยากโง่เอง ไป ถอยไปไอ้ดารา” ปุณณิธิมองหน้าอดีตคนรักด้วยความตกใจ ว่าเธอไปทำอะไรถึงเป็นหนี้สินเสี่ยธนูนักธุรกิจคนดังที่จับทั้งธุรกิจสีขาวและสีเทามากมายขนาดนั้น ทั้งที่ก็ไม่เห็นว่าชีวิตเธอจะมีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง “เท่าไหร่” “อะไรวะ” “น้ำมนต์ติดหนี้เสี่ยธนูเท่าไหร่” “อ้าว รู้จักกันเหรอ แต่รู้ยอดหนี้ไปแล้วจะยังไง จะใช้หนี้แทนหรือไง” “ฉันถามว่าเท่าไหร่ ถ้าจะปิดหนี้ตอนนี้” “เห็นว่าประมาณเกือบสิบล้าน” “โทรหาเสี่ยธนูให้หน่อย ฉันจะคุยด้วย” แม้จะงงไม่น้อยแต่ลูกสมุนสองคนก็ต่อสายหาเสี่ยธนูอย่างรวดเร็ว “เสี่ยครับ มีคนอยากจะคุยด้วยครับ เขาบอกว่ารู้จักกับนังน้ำมนต์ เป็นดาราดัง” “ใครวะ” เสี่ยวัยกลางคนสูบบุหรี่ราคาแพงแล้วพ่นควันสีขาวออกมา ในขณะที่ข้างกายมีสาวสวยใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นนั่งคลอเคลียไม่ห่างอยู่ในบ่อนชายแดนของตัวเอง “ผมจำชื่อไม่ได้ครับ เดี๋ยวเสี่ยลองคุยกับมันดูนะครับ” “อืม” “สวัสดีครับเสี่ยธนู ผมปุณณิธิ อธิพัฒน์โภคิน” “คุณปุณณ์หรือครับ” เสี่ยใหญ่แปลกใจเล็กน้อย ขยับตัวลุกขึ้นนั่งหลังตรง ก่อนจะโบกมือไล่เด็กสาวแสนสวยให้ออกไปจากห้องทำงานของตนก่อน “ครับ” “ไม่น่าเชื่อเลยว่าคนอย่างคุณปุณณ์จะรู้จักกับน้ำมนต์ ว่าไงครับ มีอะไรจะคุยกับผมหรือ” “น้ำมนต์ติดหนี้เสี่ยเท่าไหร่หรือครับ ผมอยากจะใช้หนี้แทน” “คุณปุณณ์ หนี้นั่นไม่ใช่น้อย ๆ เลยนะครับ พ่อของเด็กนั่นเล่นเสียที่บ่อนของผม ตอนนี้ตายเป็นผีไปเป็นสิบปี ดอกทบต้น ต้นทบดอกเกือบสิบล้านแล้ว” ปุณณิธิชะงักไปกับความจริงที่ได้รู้เรื่องที่มาของหนี้สิน ไม่ได้สนใจเรื่องจำนวนเงินนั่นแม้แต่น้อย “ไม่เป็นไรครับ ผมจะจ่ายแทนให้ รบกวนเสี่ยบอกจำนวนมาได้เลย ผมจะฝากเช็คไปกับคนของเสี่ย แล้วเรื่องหนี้สินของเสี่ยกับน้ำมนต์ก็ให้จบกันแค่นี้นะครับ อย่าให้ลูกน้องของเสี่ยมารบกวนคนของผมอีก” “อ่อ ได้ครับ งั้นผมคิดให้เป็นตัวเลขกลม ๆ ตัดส่วนเกินทิ้งไปให้เลยแล้วกันนะครับ เห็นว่าจ่ายมาหลายปีแล้ว ทั้งหมดก็เก้าล้านครับ” “ครับ ผมจะฝากเช็คเก้าล้านไป เช็คไม่เด้งแน่นอนครับ เสี่ยวางใจได้” “ฮ่า ๆ ๆ โธ่คุณปุณณ์ ระดับทายาทอธิพัฒน์โภคิน จะจ่ายเช็คเด้งได้ยังไงล่ะครับ ผมเชื่อใจ ไม่ต้องกังวล เอาเป็นว่าตอนนี้น้ำมนต์เป็นอิสระ สิ้นสภาพลูกหนี้ของผมแล้วนะครับ” “ขอบคุณมากครับเสี่ย” เขายื่นเช็คจำนวนเงินเก้าล้านบาทให้กับคนของเสี่ยธนู ก่อนจะคว้ามือเล็กของคนที่ยังยืนช็อกเข้าไปในห้องคับแคบทันที
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD