สุดท้ายเธอก็ต้องวัดตัวให้เขาใหม่ตามที่ลูกค้าวีไอพีอย่างเขาต้องการ แถมยังต้องมานั่งรอเขาเลือกผ้าและแบบสำหรับตัดสูทชุดใหม่อีกต่างหาก
คนกวนประสาทเปลี่ยนใจไปมาจนสมุดบันทึกของเธอถูกขีดฆ่าจนเละเทะดูไม่ได้ ต้องเสียเวลาจดทุกอย่างลงไปใหม่อีกครั้งเมื่อเขาตัดสินใจได้
“เดือนหน้านะคะ เดี๋ยวฉันจะโทรไปบอกวันที่อีกทีค่ะ”
“ทำไมบอกตอนนี้ไม่ได้ หรือว่าอยากจะโทรหาฉัน อ้อ ฉันยังไม่ได้ให้เบอร์โทรไว้สินะ อยากได้นักก็เอาไปสิ”
เขาส่งนามบัตรให้ แต่เธอกลับมองหน้าเขาด้วยแววตาว่างเปล่า ไม่ได้ยื่นมือออกไปรับ เพราะไม่รู้จะพูดอะไรออกไปดี ด้วยรู้ว่าที่เขาทำทั้งหมดในวันนี้ก็แค่เพื่อตั้งใจกวนประสาทเธอเป็นการแก้แค้นเท่านั้น
จะทำอย่างไรได้ล่ะ ก็เรื่องเมื่อสิบปีที่ผ่านมา เธอมันเป็นคนผิดจริง ๆ แต่คนอย่างเธอมันไม่ได้มีทางเลือกมากมายนักในชีวิตเสียหน่อย ไม่ว่าจะเป็นตอนนี้..หรือตอนนั้น
เสียงห้ามล้อดังสนั่นท่ามกลางหยาดฝนโปรยปรายในช่วงที่พายุลูกใหญ่พัดเข้าไทย รถยนต์คันหรูสีดำมันปลาบจอดกึกอยู่กับที่ในซอยเล็ก ๆ ใกล้กับคอนโดมิเนียมของเขา
“น้ำมนต์ เมื่อกี้ว่าไงนะ พี่ฟังไม่ชัด”
เขาพยายามห้ามปลายเสียงไม่ให้สั่น แต่ก็ทำได้ยากยิ่ง เมื่อสิ่งที่เธอพูดออกมาในคราแรกนั้น เขาได้ยินมันอย่างชัดเจนทุกถ้อยคำ
“น้ำมนต์ขอโทษ เรา..เราเลิกกันเถอะค่ะ”
ไม่ใช่แค่เขาเท่านั้นที่ต้องพยายามห้ามปลายเสียงไม่ให้สั่น แต่คนตัวบางซึ่งนั่งกุมมือทั้งสองข้างแน่น พยายามอย่างยิ่งยวดไม่ให้แสดงอาการอะไรออกมา แม้ปลายเล็บจะจิกลงไปบนหลังมืออย่างแรงจนขึ้นรอย แต่ความรู้สึกที่เกิดขึ้น มันกลับไม่เท่าที่หัวใจของเธอรู้สึก
“ทำไม..”
“น้ำมนต์จะแต่งงานค่ะ น้ำมนต์กับเขาแอบคบกันมาพักใหญ่แล้ว เขาเป็นเจ้าของโรงแรมทางใต้ พ่อแม่ก็เห็นด้วย พี่ปุณณ์ปล่อยน้ำมนต์ไปเถอะนะคะ น้ำมนต์ขอร้อง”
เธอเงยหน้ามองเขาด้วยแววตาสั่นระริกภายใต้ม่านน้ำตา ดวงตากลมโตฉายแววเจ็บปวดอย่างไม่ต้องแกล้งทำ แต่เขากลับตีเจตนาว่าที่เธอแสดงออกถึงความเจ็บปวดนั้น มันเป็นเพราะเขา ที่เป็นตัวมารขวางความสุขของเธอกับมหาเศรษฐีคนนั้น
“ทำไมทำกับพี่แบบนี้ ที่ผ่านมาพี่รักเธอไม่มากพอหรือ น้ำมนต์”
“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ แต่น้ำมนต์รักเขา ไม่ได้รักพี่ปุณณ์อีกแล้ว”
เสียงหวานเจือสะอื้นจนแทบฟังไม่เป็นคำ หัวใจดวงน้อยรวดร้าวไม่เหลือชิ้นดี ซึ่งไม่ได้ต่างจากชายตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย
แต่เธอจำเป็นต้องทำ เธอจำเป็นต้องจบความสัมพันธ์กับเขา เพราะตอนนี้ ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปหมดแล้ว เธอไม่มีค่าคู่ควรกับผู้ชายดี ๆ ที่มีทุกอย่างเพียบพร้อมอย่างเขาอีก และนี่จะเป็นทางเดียวที่จะทำให้เขาได้ไปเจอคนดี ๆ ที่เหมาะสมคู่ควรกันกับเขา ซึ่งคนนั้น..ไม่ใช่เธอ
“เพราะมันรวยมากกว่าพี่ใช่ไหม เธอต้องการอะไร บอกสิ พี่จะหาให้เธอทุกอย่าง”
“ไม่ใช่ มันไม่ใช่แบบนั้น พี่ไม่เข้าใจหรือไง ว่าน้ำมนต์ไม่ได้รักพี่แล้ว น้ำมนต์รักคนอื่น น้ำมนต์นอนกับคนอื่น แล้วตอนนี้ก็กำลังจะแต่งงานกับคนอื่น พี่เข้าใจหรือยัง”
กรามแกร่งขบกันแน่นจนสันขึ้นนูน ดวงตาคมกริบวาบขึ้นในความมืด
ผู้หญิงอย่างเธอ มันเลวจนไม่มีอะไรมาเปรียบ เขาหรือสู้อุตส่าห์รักและทะนุถนอมเธอราวไข่ในหิน จะแตะต้องแต่ละทีก็กลัวว่าผิวเนื้ออ่อนบางของเธอจะบุบสลาย อยากจะทำอะไรเธอเหมือนที่เคยทำกับผู้หญิงคนอื่นก็ไม่กล้าหักหาญน้ำใจ ทนทุกข์ทรมานอยู่เพียงคนเดียว เพราะไม่ต้องการให้เธอเสียใจ
แต่ดูสิ่งที่เธอทำกับเขาสิ ดูสิ่งที่เขาได้รับตอบแทนกลับมา เธอไปนอนอ้าขาให้ผู้ชายคนอื่นกระแทกจนเต็มรัก แล้วมาเขี่ยเศษสวะอย่างเขาให้พ้นทางอย่างง่ายดาย
ได้..ในเมื่อเธอมันง่ายนัก ในเมื่อความรักของเขามันไม่มีค่าอะไรกับผู้หญิงหลายใจสารเลวอย่างเธอ เขาก็ไม่จำเป็นต้องขอร้องอ้อนวอนเอาสิ่งเน่า ๆ กลับมา
“เข้าใจแล้ว ไปซะน้ำมนต์ ก่อนที่ฉันจะหักคอเธอให้ตายตรงนี้ ไป..”
ปุณณิธิตะโกนก้องพร้อมกับเสียงฟ้าผ่าดังสะท้อนจนคนตัวบางสะดุ้งสุดตัว เธอปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อาย มองใบหน้าหล่อเหลาและแววตาที่แสดงความเกลียดชังอย่างชัดเจนของเขาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเปิดประตูรถแล้ววิ่งฝ่าฝนออกไป
จบสิ้นแล้ว..ความรักครั้งแรก และคงเป็นครั้งสุดท้าย..ในชีวิตเธอ
ดวงตาคมมองฝ่าความมืดจนแผ่นหลังบอบบางลับสายตาไป เขายกหลังมือขึ้นมาปาดน้ำตาลวก ๆ กรามแกร่งขบกันแน่น ก่อนจะทุบพวงมาลัยรถพร้อมร้องตะโกนอย่างบ้าคลั่ง เสียงแตรรถดังสนั่นหลายครั้งท่ามกลางสายฝนโปรยปรายและบรรยากาศเงียบเชียบวังเวง
หัวใจดวงโตที่เคยแข็งแกร่ง บัดนี้มันแตกสลายไม่เหลือชิ้นดี พื้นที่บนหน้าอกว่างเปล่า..ไม่มีอีกแล้ว หัวใจที่เอาไว้รักใคร
“ฉันไม่ได้อยากได้เบอร์โทรของคุณหรอกนะคะ แต่ที่ฉันไม่สามารถกำหนดวันให้คุณได้ในตอนนี้ เพราะงานของฉันยังค้างอีกเยอะ ขอเวลาเคลียร์คิวเก่าอีกสักอาทิตย์สองอาทิตย์ แล้วจะโทรไปแจ้งอีกครั้งค่ะ แต่ถ้าคุณไม่สบายใจที่จะให้ฉันโทรไป ฉันจะขอให้พี่บีเป็นคนโทรไปแจ้งวันลองชุดกับคุณแทน ดีไหมคะ”
คำพูดแก้ตัวยาวเหยียดไม่ได้ซึมเข้าสู่สมองของเขาเลยแม้แต่น้อย เขาทำเพียงเหยียดยิ้มหยัน ก่อนจะยัดนามบัตรใบนั้นลงไปในมือของเธอ
“อย่าเรื่องมาก รีบไปเคลียร์งานเจ้าอื่นให้เสร็จ แล้วรีบโทรมาหาฉัน อย่าลืมนะ ว่าฉันเป็นใคร แค่ฉันโพสต์ถึงบริการแย่ ๆ ของช่างตัดเสื้อมือดีในร้านพี่บี แค่นี้เธอก็ตกงานได้แล้ว น้ำมนต์”
“คุณต้องการอะไรกันแน่ เรื่องมันผ่านมาตั้งสิบปีแล้ว ทำไมถึงต้องเอาเรื่องเก่ามากลั่นแกล้งฉัน”
“เหอะ ตั้งสิบปีแล้วงั้นเหรอ แต่ทำไมฉันถึงรู้สึกว่ามันเพิ่งผ่านไปเมื่อวานเองล่ะ แบบนี้สินะ ที่เขาว่า สิบปี แก้แค้นก็ยังไม่สาย”
“ฉันรู้ว่าฉันทำคุณเสียใจมาก แต่ตอนนั้นเราสองคนก็ยังเด็ก จะคบกันรอดหรือเปล่าก็ไม่รู้ ยังไงวันหนึ่งก็อาจต้องเลิกกันอยู่ดี”
“อ๋อ เหมือนที่เธอเลิกกับผัวเศรษฐีของเธองั้นเหรอ ถูกมันเฉดหัวทิ้งมาล่ะสิ ถึงต้องมาเป็นช่างตัดเสื้อกระจอก ๆ แบบนี้”
“ใช่ค่ะ คนอย่างฉัน มันไม่มีค่าคู่ควรกับใครทั้งนั้น ฉันมันเลว พอใจไหมคะ ที่ฉันทำเลว ๆ กับคุณไว้ในอดีต ฉันเสียใจ ฉันขอโทษ แต่เรื่องมันผ่านมานานมากแล้ว คุณจะให้อภัยฉันไม่ได้เชียวหรือ ทั้งที่คุณเองก็คงลืมความรู้สึกนั้นไปหมดแล้ว คุณไม่ได้เจ็บปวดกับเรื่องของเราอีกแล้วด้วยซ้ำ”
เขาชะงักไปเล็กน้อยกับแววตาตัดพ้อที่แฝงไปด้วยความเจ็บปวดของเธอ แต่คนอย่างเขาจะไม่มีวันโง่ซ้ำสอง อย่าคิดว่าดวงตาเศร้า ๆ น้ำตา และมารยาของเธอจะใช้กับคนอย่างเขาได้ผลอีก
“รู้ตัวด้วยสินะ ว่าตัวเองเลวแค่ไหน ใช่ ฉันไม่ได้รู้สึกอะไรแล้ว ไม่ได้เจ็บ ไม่ได้ปวด แต่ที่ยังรู้สึกอยู่คือฉันเกลียดเธอ”
เขาเน้นคำสุดท้าย ตั้งใจให้คำว่า “เกลียด” แทงทะลุหัวใจของเธอ และแน่นอนว่ามันพุ่งตรงแทงทะลุผ่านหัวใจดวงน้อยที่มีแต่รูพรุนของเธอไปได้อย่างง่ายดาย
“เกลียดแล้วจะมายุ่งกับฉันทำไม ทำไมไม่ต่างคนต่างอยู่”
“เพราะฉันทนไม่ได้ที่จะเห็นเธอลอยหน้าลอยตาอย่างมีความสุข มีงานมีการทำ ใช้ชีวิตปกติแบบนี้นี่ไง”
ดวงตาคมวาบขึ้น ข้างในนั้นมีแต่คำว่าเกลียดชัง เธอรู้แล้ว ว่าเขาเกลียด ไม่เห็นต้องตอกย้ำเธอทั้งคำพูดและแววตาอย่างนี้ เธออยู่ของเธอมาถึงสิบปี แผลเป็นมันเกือบจะหายดีแล้ว ทำไมเขาถึงต้องใจร้ายมีกรีดซ้ำรอยแผลเป็นนั้นให้เหวอะหวะ ทั้งที่เขามีชีวิตดี ๆ มีผู้หญิงคนใหม่หลังจากเธออีกมากมาย..แล้วเธอล่ะ เขารู้ไหม ว่าเธออยู่ในสภาพไหน..แน่นอน ก็ต้องไม่รู้อยู่แล้วสินะ
“ฉันก็ไม่ได้มีความสุขนักหรอก ทั้งตอนนั้นและตอนนี้ คุณไม่รู้อะไร อย่ามาพูดดีกว่า”
เธอขึ้นเสียงใส่เขาอย่างเหลืออดกับความกดดันที่เกิดขึ้นมาตลอดสิบปี ไม่มีใครรู้หรอก ว่าเธอเองทนทุกข์ทรมานกับเรื่องที่ตัวเองไม่ได้ก่อมากมายแค่ไหน
ที่เธอบอกเลิกเขาไป เธอก็เจ็บปวดเจียนตายเหมือนกัน
“มันก็สมควรแล้วนี่ กับความเลวของเธอ ฉันไม่สนหรอกนะ แล้วก็ไม่มีวันให้อภัยด้วย”
น้ำตาใส ๆ ไหลอาบแก้มอย่างไม่ได้แกล้งทำ เธอไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้อีกแล้ว แต่ตอนนี้ จะทำอย่างไรให้เขาเลิกผูกใจเจ็บ และปลดปล่อยคนเลวอย่างเธอไปตามทางเสียที
“ฉันขอโทษนะคะคุณปุณณ์ ขอโทษกับเรื่องทุกอย่างที่มันเคยเกิดขึ้น ไม่ว่าคุณจะให้อภัยหรือไม่ แต่ฉันขอยืนยันว่าฉันเสียใจ เสียใจจริง ๆ”