ตอนที่ 1

980 Words
ค่ำคืนของงานวิวาห์สุดหรูในโรงแรมระดับ 5 ดาวประจำจังหวัด ซึ่งสามารถบรรจุผู้มาร่วมงานได้นับพันคน ด้วยนี่คืองานแต่งงานของลูกชายเจ้าของที่ดินที่ร่ำรวยที่สุดในจังหวัดและลูกสาวสวนส้มที่ใหญ่สุดในอำเภอ แขกผู้มีเกียรติต่างทยอยกันเข้ามาในงานและจุดสนใจที่สุดคงไม่พ้นเป็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่สวยสมกัน เจ้าบ่าวสุดหล่ออยู่ในชุดทักซิโด้สีขาวยืนขนาบข้างกับเจ้าสาวที่อยู่ในชุดกระโปรงฟูฟ่องประหนึ่งเจ้าหญิงในนิทาน แต่บรรยากาศน่าจะชื่นมื่นกว่านี้ถ้าเจ้าบ่าวไม่ทำหน้าเฉยเมยเสมือนว่าไม่ได้ยินดีที่จะแต่งงาน “คุณพี่คะดูสิคะทำไมเจ้าบ่าวไม่ยิ้มเลยหน้าบึ้งเชียว” “ก็ถูกบังคับให้แต่งงานจะให้ยิ้มได้ยังไงล่ะ” “บังคับเหรอคะ เจ้าสาวก็ดูสวยเชียว ไม่น่าเชื่อเลยนะคะตอนเห็นแกไปเรียนก็ดูเป็นเด็กกะโปโลธรรมดาแท้ๆ แต่พอมาแต่งองค์ทรงเครื่องเป็นเจ้าสาว แกก็ดูสวยดูเป็นสาวขึ้นเต็มตัวเลยนะคะ” “ก็เพราะเป็นสาวเต็มตัวนี่ไง เลยต้องรีบหาสามีดีๆ” “น้องไม่เข้าใจค่ะ คุณพี่หมายความว่ายังไงคะ ทำไมแกต้องรีบหาสามีด้วย เนี่ยแกก็รุ่นราวคราวเดียวกับลูกเราเลยนะคะ ปีนี้ก็เรียนมหาลัยแท้ๆ ไหงแกจบแค่มอหกแล้วต้องรีบแต่งงานเลย” “ก็เพราะมันมีสาเหตุน่ะสิ” สิ่งที่แขกผู้มีเกียรติพูดคุยอยู่ในพื้นที่ของห้องจัดเลี้ยง โดยไม่รู้ว่าช่างภาพประจำงานพาบ่าวสาวมาถ่ายภาพร่วมกับญาติๆ และแขกที่มุมหนึ่ง และเพียง Backdrop กั้น เจ้าบ่าวรูปหล่อราวเทพบุตรกรีดยืนนิ่งสีหน้าเรียบเฉยไม่ได้แสดงอารมณ์ แต่เจ้าสาวกลับหน้าร้อนผ่าวจนอยากจะร้องไห้โฮ เพราะสิ่งที่คนเหล่านั้นพูดคุยก็คือเรื่องพ่อแม่หล่อน เสียงพูดคุยออกรสชาติบอกเล่าเรื่องพ่อแม่ของหล่อนประสบปัญหาธุรกิจล้มเหลว เนื่องจากทั้งภัยแล้งและสภาวะโควิชที่ผ่านมา ทำให้ไม่มีพ่อค้าคนกลางเข้ามารับซื้อส้มในสวน ผลผลิตที่พร้อมจำหน่ายต้องเน่าเสียเป็นจำนวนมาก ซึ่งเท่ากับว่าน้ำพักน้ำแรงและน้ำเงินที่ลงทุนไปตลอดทั้งปี ศูนย์สลายไปหมด ดังนั้นจึงต้องเสี้ยมสอนลูกสาวให้จับคนรวยให้ได้และลูกชายเจ้าของที่ดินที่ร่ำรวยที่สุดในอำเภอและบังเอิญเป็นเจ้าของฟาร์มสเตย์ที่อยู่ติดกับสวนส้ม รู้จักมักจี่คุ้นเคยกันอย่างดีก็คือเป้าหมาย พ่อแม่ของหล่อนจึงต้องรีบผลักไสให้ลูกจับลูกชายฟาร์มสเตย์ให้ได้ แล้วก็คงยืนยันว่าได้ผล ไม่อย่างนั้นงานแต่งงานในวันนี้คงไม่เกิดขึ้น “โหย... เห็นเขาเม้าท์กันว่าค่าสินสอดห้าสิบล้านไม่ใช่เหรอคะ และไหนจะค่าใช้จ่ายจัดงานช้างอีกละ ฝ่ายเจ้าบ่าวออกเองทั้งนั้นแหละค่ะ” “แบบนี้ คุณเมฆกับคุณจันทร์ก็รวยไปเลยสิคะ ขายลูกสาว เฮ้ย! ลูกสาวแต่งงานได้เงินค่าตัวตั้งห้าสิบล้านอย่างนี้” “สวนส้มไม่ต้องทำแล้วมั้งคะ ขายทิ้งเลยดีกว่า หรือไม่ก็ยุบรวมฟาร์มสเตย์ไปเลย แล้วก็นอนใช้เงินห้าสิบล้านแบบสบายๆ” “น่าอิจฉาคนมีลูกสาวสวยนะคะ ตัวเท่าเมี่ยงทำเงินได้ตั้งเยอะ” “แต่พี่น่ะเสียดายเจ้าบ่าว ไม่น่ามาตกหลุมสวาทเด็กเลย” “ก็อย่างว่าล่ะค่ะ ใครๆ ก็ชอบทั้งนั้น สาวรุ่น” “คุณเมฆกับคุณจันทร์นี่ สุดยอดเลยนะคะ ว่าไหม” ‘เจ้าขา’ หน้าร้อนผ่าว หล่อนอยากจะเถียงคนเหล่านั้นนักว่าพ่อแม่หล่อนไม่ได้เต็มใจให้หล่อนต้องแต่งงานตั้งแต่อายุเพิ่ง 18 ปีแบบนี้ แต่เพราะมันมีสาเหตุจำเป็นที่เลี่ยงไม่ได้ และค่าสินสอดที่คนเหล่านั้นพูดคุยกันอย่างสนุกปากว่าพ่อกับแม่ของหล่อนได้รับ 50 ล้าน มันแปลกเหรอ ในเมื่อครอบครัวหล่อนรวย ลำพังแค่ค้าส้ม ปีปีหนึ่งก็ได้กำไรราว 20 ล้านบาท เท่ากับขายส้ม 3 ปี ก็เท่ากับค่าสินสอดหล่อนแล้วนะ ยังไม่รวมที่ดินกว่า 300 ไร่ ที่พ่อแม่ของหล่อนบริหารและจัดการทำผลไม้อีกหลายอย่างด้วยกัน หล่อนจึงเรียกได้ว่าเป็นลูกคนรวยในจังหวัดคนหนึ่ง แต่พ่อแม่ก็ไม่เคยสอนให้หล่อนดูถูกใครว่าจนหรือรวย เพราะทุกคนมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เทียมกัน โดยเฉพาะค่าสินสอด 50 ล้านนั้น พ่อแม่ของหล่อนก็ไม่ได้เป็นคนเรียกไป คุณลุงแพทริคกับคุณป้าสมาพรบอกว่าจะจัดมาให้สมน้ำสมเนื้อ ซึ่งหล่อนไม่รู้หรอกว่าเท่าไรจึงจะถือว่าสมน้ำสมเนื้อ ในเมื่อพ่อแม่ไม่ได้จะขายลูกกินตามคำคนนินทา “ส้มอะไรเอ่ย? ลูกละห้าสิบล้าน” เจ้าขาตัวชาวาบหน้าร้อนเพราะเสียงหัวเราะคิกคักของคนเหล่านั้น ราวเข้าใจคำตอบตรงกันว่าส้มลูกนั้นคือหล่อนเอง เมื่ออดรนทนอยู่เฉยไม่ไหว เจ้าขาจึงขยับตัว มือกระชับกระโปรงเจ้าสาวที่เป็นสุ่มกว้างให้ขยับตาม หล่อนจะไปอธิบายให้พวกป้าเหล่านั้นได้เข้าใจ ว่าพ่อแม่หล่อนไม่ได้ขายลูกสาวกิน แต่บทสนทนาต่อมาก็ทำให้หล่อนชะงักเท้า “คืนนี้ล่ะค่ะ เจ้าบ่าวจะแกะเปลือกส้ม อิอิ...” “ข่าวว่าแกะกันมาแล้วนะคะ” “จริงสิคะ ไม่งั้นจะได้แต่งกันเหรอ เดี๋ยวป่องขึ้นมาก่อนจะยุ่ง” “ว้าย... เห็นหน้าใสๆ แบบนั้น ไม่น่าไวไฟเลยนะคะ” “ของแบบนี้ลูกสาวทำเองไม่ได้หรอกค่ะ พ่อแม่ต้องช่วยด้วย” “ว้าย... จริงเหรอคะ แบบไหนคะ คุณพี่เล่าหน่อย อยากรู้ค่ะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD