ตอนที่ 3

1004 Words
‘แล้วใครจะรู้ล่ะลูก พ่อแม่ คุณลุงคุณป้า ไหนจะคนงานในบ้านของพี่พีทเขาอีกละ จะมีใครเชื่อที่เจ้าขาพูด ไม่มีใครเชื่อหรอกนะลูก แม้แต่แม่เอง ถ้าเจ้าขาไม่ได้เป็นลูกของแม่ แม่ก็ไม่มีวันเชื่อเด็ดขาดว่าเจ้าขากับพีทไม่ได้มีอะไรกัน ยังไงตอนนี้พีทเขาก็พร้อมรับผิดชอบแล้ว เจ้าขาทำใจให้สบายแล้วเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวคนสวยของพี่พีทดีกว่านะลูก’ เจ้าขาตื่นจากภวังค์เมื่อเสียงพิธีกรบนเวทีประกาศเชิญพ่อแม่เจ้าบ่าวเจ้าสาวขึ้นบนเวที เพื่อกล่าวขอบคุณแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ซึ่งพิธีการต่อจากนั้นก็จะเป็นเธอและเจ้าบ่าวขึ้นบนเวทีเหมือนกัน คุณลุงแพทริคและคุณป้าสมาพร พ่อแม่ของพี่พีทก้าวขึ้นบนเวที ตามด้วยพ่อกับแม่ของหล่อน เจ้าขาหันมองหน้าเจ้าบ่าวเพื่อหวังว่าเขาจะหันมาแล้วบอกให้หล่อนขึ้นไปด้วยกัน แต่เจ้าของดวงตาคมเข้มเพียงมองบนเวทีก่อนจะเดินตรงออกไปจากบริเวณงานปล่อยให้หล่อนยืนค้างอยู่กับที่ เสียงประกาศบนเวทีเรียกเจ้าบ่าวกับเจ้าสาว แต่เหลือหล่อนเพียงคนเดียวจะทำยังไง เหล่าแขกผู้มีเกียรติก็ต่างชะเง้อมองมาที่หล่อน เจ้าขาไม่มีตัวช่วยไม่มีตัวเลือก หล่อนจะไปไหนได้ก็ต้องเดินไปตามสายตาของแม่ที่มองมา แค่เจ้าสาวเดินผ่านเพียงลำพังเหล่าแขกผู้มีเกียรติทั้งหลายก็ต่างจับกลุ่มซุบซิบ ขนาดว่ามีเสียงเพลงดังกบหล่อนก็ยังได้ยินเสียงเหล่านั้นจนได้ “เจ้าบ่าวหายไปไหน” “ไม่ใช่หนีไปแล้วเหรอ” “อ้าว! แล้วอย่างนี้ใครจะแต่งแทน” “แต่งไม่แต่งจะเป็นไรไป ค่าสินสอดก็ได้ไปแล้วนี่” “เจ้าสาวยังเด็กอยู่เลย ถึงสิบแปดหรือยังเนี่ย” “ไม่เด็กแล้ว ใช้ได้แล้ว” สารพัดคำพูดของเหล่าแขกทำให้หล่อนอยากจะร้องไห้โฮ นี่เหรอแขกผู้มีเกียรติที่คุณลุงคุณป้ากับพ่อแม่หล่อนเชิญมา ไม่ควรเรียกว่าแขกผู้มีเกียรติเลย เพราะสารพันคำพูดที่เปล่งออกมาควรเรียกว่า ‘แขกน่ารังเกียจ’ เสียมากกว่า พวกเขาเหล่านั้นไม่ได้อยากจะมาร่วมแสดงความยินดีกับหล่อนเสียด้วยซ้ำ ที่มาก็เพราะถูกเชิญหรือไม่ก็เลี่ยงไม่ได้ “หนูเจ้าขาขึ้นมาหาป้าเร็วๆ ลูก เดี๋ยวพี่พีทเขาก็มา ไม่ต้องรอหรอกลูก พี่พีทเขาคุยโทรศัพท์แป๊บหนึ่ง” เสียงคุณป้าสมาพรประกาศออกไมค์เหมือนตัวช่วย หล่อนเดินสวนกับคุณลุงแพทริคที่มองด้วยสายตาเอ็นดูพร้อมกับเอื้อมมือมากระชับต้นแขน บีบน้อยๆ เป็นเชิงบอกให้เชื่อใจ เจ้าขาเดินเข้าไปบนเวที แม่สวมกอดหล่อนพร้อมกับพ่อที่สวมกอดทั้งหล่อนและแม่ เสียงปรบมือจากแขกผู้มาร่วมงานดังขึ้น หล่อนบอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง ในเมื่อถ้อยคำนินทายังดังก้องอยู่ในหัว “แม่คะ” “ไม่เป็นไรลูก เจ้าขารออยู่ตรงนี้นะลูก เดี๋ยวคุณลุงแพทริคจะไปตามพี่พีทเอง” “พ่อกับแม่อยู่ข้างๆ เจ้าขานะลูก ไม่ต้องกังวล” “ใช่ลูก เจ้าขารออยู่ตรงนี้นะ ป้าจะไม่ยอมให้พี่พีททำให้เสียเรื่องแน่” หัวใจหล่อนฟูขึ้นมาเมื่อได้รับกำลังใจจากพ่อแม่และคุณลุงคุณป้า หล่อนก็หวังว่าเจ้าบ่าวสุดหล่อจะมายืนเคียงข้าง หล่อนไม่อยากเป็นเจ้าสาวที่ยืนอยู่บนเวทีโดยข้างกายไร้เจ้าบ่าว แม้หล่อนยังเด็กเกินกว่าที่จะเป็นเจ้าสาว และไม่เคยคิดอยากจะแต่งงานตอนอายุ 18 ปีมาก่อน แต่ก็ต้องยอมรับว่าส่วนลึกของหัวใจนั้นหล่อนก็คาดหวังว่าจะมีเขายืนเคียงข้างในเวลานี้ เพราะตั้งแต่จำความได้ สายตาของหล่อนก็มีไว้แค่มองเขาคนเดียว รอกว่า 10 นาทีคุณลุงแพทริคก็ยังไม่กลับมาจนพิธีกรเข้ามากระซิบถามคุณป้าสมาพรว่าเจ้าบ่าวไปไหนแล้วจะเอายังไงต่อ คุณป้าสมาพรถอนหายใจเฮือกแต่สีหน้าก็ยังมีรอยยิ้มขยับปากน้อยๆ เหมือนพูดคุยในเรื่องสนุกสนาน แต่สิ่งที่พูดกับพิธีกรก็คือ “ตาพีทน่ะสิ ติดคุยงานกับลูกค้าฝรั่ง ดันโทร.มาวันนี้เสียอีก เนี่ย! ฉันก็ให้พ่อเขาไปเร่งแล้ว” “แต่จะนานไหมครับ จะไม่ทันฤกษ์ส่งตัวนะครับ” “นั่นน่ะสิจะทำยังไงดี คุณช่วยคิดหน่อยมีวิธีไหนที่จะทำให้งานผ่านไปได้บ้าง” เจ้าขากะพริบเปลือกตาถี่ พยายามผ่อนลมหายใจช้าๆ ไม่ให้หยาดน้ำตาที่เอ่อคลอไหลออกมา เพราะท่าทีของพิธีกรที่อึ้งไป แต่สายตามองหล่อนอย่างสงสาร นั่นทำให้หล่อนเข้าใจแล้วว่าเรื่องราวที่ครอบครัวหล่อนตั้งใจจับเจ้าบ่าวนั้นคงไม่ใช่ความลับแค่แขกกลุ่มนั้นพูดคุยกันสนุกปาก พี่พีทรังเกียจหล่อนถึงขนาดนี้ สุดท้ายพิธีกรก็แก้ปัญหาด้วยการประกาศบอกว่าเจ้าบ่าวติดธุระคุยเรื่องงานสำคัญอยู่ยังปลีกตัวมาไม่ได้ขอข้ามขั้นตอนนี้ไปก่อนเชิญแขกผู้มีเกียรติรับประทานอาหารต่อ ดูเหมือนเรื่องราวจะผ่านไปด้วยดี แต่เจ้าขารู้ว่ามันไม่เป็นอย่างนั้นเลยเพราะสายตาของทุกคนที่มองขึ้นมา เท่าที่หล่อนเห็นได้ผ่านม่านน้ำตาก็คือความสมเพชเวทนาที่หล่อนเป็นเจ้าสาวที่ถูกทิ้งอยู่บนเวทีเพียงลำพัง “แกทำอย่างนี้ได้ยังไงเจ้าพีท” แพทริคแผดเสียงลั่นในห้องพักผ่อนส่วนตัวสำหรับเจ้าบ่าวเพราะไม่ว่าอย่างไรพีทก็ไม่ยอมไปขึ้นเวที “ใช่! พีทตั้งใจทำให้พ่อกับแม่เสียหน้า” สมาพรเสียงเข้มเพราะไม่คิดว่าลูกชายคนเดียวจะกล้าทำแบบนี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD