“คุณพยาบาลมาแล้วค่ะ” ป้าวิยะดาเข้ารายงานคณิตศร หลังจากที่ออกไปรับเธอที่สถานีรถไฟ พยาบาลที่ถูกจ้างพิเศษให้มาดูแลคุณหญิงล้อมบุญที่นอนป่วยติดเตียงอยู่ในขณะนี้
คณิตศรวางนิตยสารในมือลงบนโต๊ะ เขาหันไปมองเธออย่างตะลึง ชายหนุ่มยิ้มมุมปาก มองสำรวจหญิงสาวรูปร่างสูงบาง แต่ดูสมส่วน ผิวขาวสะอาดสะอ้าน
ขวัญดาวยกมือไหว้ ยืนยิ้มอยู่ด้านหลังป้าแม่บ้าน ท่าทางของเธอดูนอบน้อมอ่อนหวานจนเขาเองไม่อาจละสายตาไปจากเธอได้
“ชื่ออะไรนะ”
“ขวัญดาว หรือเรียกว่าขวัญก็ได้ค่ะ” น้ำเสียงของเธอก็หวานละมุนหูเสียด้วย คณิตศรยิ้มอย่างพอใจ เธอดูเหมือนในรูปถ่ายจริง ๆ เขาคิดไม่ผิดที่เลือกเธอ
“อ้อ... ชื่อเพราะดี ขวัญดาว เออ... คือคุณได้อ่านข้อตกลงที่ผมส่งไปให้ดีแล้วใช่ไหมครับ” วาจาอ่อนนุ่ม และลุกขึ้นมาหาอย่างมีมนต์ขลัง
“ค่ะ” ขวัญดาวก็ใจสั่น ยืนทำตัวไม่ถูกกับการมองทักทายแบบนี้ นัยน์ตาของเขาดูกรุ้มกริ่มมาก
“ถ้าอย่างนั้น ป้าดาพาคุณขวัญไปดูห้องพักก่อนนะ แล้วจากนั้นก็พาไปดูห้องคุณแม่ได้เลยนะครับ”
“ได้ค่ะคุณศร” สองสาวต่างวัยก้มศีรษะเล็กน้อย แล้วพากันเดินออกไป โดยมีสายตาคมกล้ามองตามแผ่นหลังบางด้วยใบหน้าแต้มยิ้ม ป้าวิยะดาเดินนำ ร่างน้อย ๆ เดินตาม
ชายหนุ่มยังคงมองตาม และยิ้มกริ่ม เป็นอีกวันที่เขายิ้มออกมาอย่างเต็มวงหน้า หลังจากที่ไม่ได้ยิ้มมานานแล้ว เรื่องหม่นเศร้าที่เกิดขึ้นในครอบครัว การสูญเสียกะทันหันทำให้เขาไม่มีกะจิตกะใจจะออกไปเที่ยวกินเล่นเต้นรำเหมือนก่อน
ขวัญดาวเหมือนกับนางฟ้าที่เป็นของขวัญให้บ้านหลังนี้ที่เคยหมองหม่นกลับมาสดใสขึ้นอีกครั้ง คณิตศรหมดความกังวลเรื่องแม่แล้ว จากนี้ไป เขาจะกลับไปดูแลบริษัทอย่างไร้ความห่วงหาเสียที
และในทุกวัน คณิตศรรีบกลับมาบ้านหลังเลิกงาน ทั้งที่เมื่อก่อนต้องมีแวะสังสรรค์กับเพื่อนก่อนกลับบ้าน ซึ่งเป็นเช่นนั้นประจำ จนกระทั่งเกิดเรื่องกับครอบครัวจึงห่างหายจากเพื่อนฝูง
“เอ้ย! ไอ้ศร จะไปดื่มอะไรเย็น ๆ แก้เครียดกันก่อนไหมวะเพื่อน” สุทินเพื่อนรักที่คบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมเปิดประตูโผล่หน้าเข้ามาในห้องอย่างเคยชินโดยไม่บอกล่วงหน้า
เจ้าของห้องทำงานเก็บปากกาที่พกติดตัวตลอดเสียบในช่องเล็กของกระเป๋าเสื้อพร้อมถอนหายใจ แล้วเอ่ยบอกเพื่อนรักไปว่า
“จะโผล่มาก็ให้ซุ่มให้เสียงหน่อยสิ หรือโทรมาบอกก่อน”
“ทำไมวะ เดี๋ยวนี้กูต้องนัดกับมึงแล้วเหรอ แค่จะชวนไปกินเหล้าฮึ... เอ... หรือว่ามึงจะเตรียมตัวซิ่งหนี ทำตัวมีพิรุธ”
“เปล่า... กูต้องรีบกลับบ้าน” คณิตศรปฏิเสธเสียงสูง ทว่าแววตากลับปิดความพึงพอใจอะไรบางอย่างเอาไว้ไม่มิด
“เฮ้ย ๆ เดี๋ยวก่อนนะเพื่อน” สุทินช้อนสายตามองเพื่อน เห็นความสดใสวาบวับในแววตาของคณิตศร สีหน้าที่ระรื่น
“จะรีบกลับทำไมวะ ไหนบอกว่าได้พยาบาลสาวคนใหม่อยู่ดูแลคุณแม่แล้วไง ทำไมถึงต้องรีบกลับอีกล่ะ”
สุทินเดินวนรอบโต๊ะ และสังเกตท่าทางของคณิตศรไปด้วย สุทินหยุดแล้วยกมือขึ้นเกาศีรษะ
“เอ... หรือที่บ้านมีอะไรน่าสนใจมากกว่านั้น แบบนี้ฉันต้องตามไปดูซะแล้ว” นึกรู้ว่า พยาบาลของเพื่อนต้องเป็นที่ดึงดูดใจแน่นอน
“เฮ้ย! ไอ้ทิน ไม่มีโว้ย มึงห้ามไปบ้านกู”
“อ้าวไอ้ศร กูก็ไปกินเหล้าบ้านมึงเป็นประจำ แต่ตอนนี้จะมาห้าม ไม่ ๆ กูต้องไปแล้ว”
“ไม่ได้โว้ย ห้ามเด็ดขาด ช่วงนี้งดดื่ม กูเข้าพรรษา”
“พรรษาอะไรของมึงวะ มันไม่มีอยู่ในสารบบของพวกเรานะโว้ย”
“เอ่อนะ มึงอย่ารู้แล้ว แล้วค่อยว่ากันวันหน้าเถอะ กูจะกลับก่อน” คณิตศรคว้าเอาสัมภาระและกุญแจรถมาถือเอาไว้ทันที
“ไอ้เชี่ยศร มึงทำกับกูแบบนี้หรือวะ” เท้าสะเอวมองตามหลังเพื่อนอย่างไม่พอใจ คณิตศรเดินเร็วและฮัมเพลงออกมาด้วย
“อ้าว... เอ้ย! ไอ้ศร แล้วกูล่ะ อุตส่าห์มาชวนถึงที่แล้วนะ”
สุทินตะโกนตัดพ้อ คณิตศรชะโงกหน้าเข้ามาตรงประตูห้องทำงานของตัวเองอีกที
“โทษทีว่ะไอ้ทิน กูไม่ว่างจริง ๆ เอาไว้จะโทรนัดกันอีกทีนะ” พร้อมกับยกแขนโบกขึ้นไปมา โดยไม่หันกลับมามองเพื่อนที่ยืนทำหน้าเซ็งอยู่ข้างหลัง
“สงสัยจะมีความรัก เฮ้ย! มึงจะฟาดพยาบาลของคุณแม่หรือวะ ไอ้นี่ มันฉลาด แม่ง ยิงปืนนัดเดียวได้ถึงสอง ได้คู่นอน แล้วได้พยาบาลสาวมาดูแลแม่อีก เจ๋งว่ะ” สุทินยกนิ้วตามหลังเพื่อนไป
นิจนันท์โผล่หน้าเข้ามาในห้อง
“คุณสุทินจะกลับหรือยังคะ นิจจะปิดห้องค่ะ”
“กลับสิ ฉันจะอยู่ทำไม ว่าแต่นิจไปดื่มกับฉันไหม” เขายิ้มกรุ้มกริ่มตามนิสัยผู้ชายเจ้าชู้
“นิจต้องไปรับลูกที่บ้านแม่ค่ะ”
แค่นั้นแหละ สุทินก็วิ่งปรู๊ดหายไปในทันที
“เฮ้อ” นิจนันท์ได้แต่พ่นลมหายใจตามหลัง
บ้านของคณิตศร
หลังจากที่จอดรถเรียบร้อยแล้ว คณิตศรก็ตรงไปยังห้องมารดา เมื่อเขาเปิดประตูเข้าไป ก็พบว่าเป็นป้าวิยะดาอยู่ในห้องแทนที่จะเป็นพยาบาลสาวที่เขาจ้างมา
“แล้วคุณขวัญล่ะ เธอไปไหน”
ความตั้งใจแต่แรก หากมาถึงบ้านคงจะเห็นหน้าของหญิงสาวเป็นคนแรก
“คุณขวัญเธอออกไปซื้อของใช้จำเป็นให้คุณผู้หญิงน่ะค่ะ เธอยังไม่กลับเลย”
ป้าวิยะดาช้อนตามอง ตอนนี้คณิตศรหน้าตาสดใสกว่าเมื่อก่อนเยอะ ไม่ทำหน้าตาเหมือนเบื่อโลกอีกแล้ว คนแก่กว่าเหมือนโดนอ่านใจออก คณิตศรได้ผินหน้าหนี รู้สึกเขิน ๆ ที่ถูกจ้องแบบนั้น
คณิตศรเฉเดินไปดูแม่ที่นอนหลับโดยมีสายยางห้อยระโยงระยาง ความหวังที่รอให้แม่หายกลับมาเป็นปกตินั้นเริ่มหมดไปช้า ๆ หากแต่ว่าคณิตศรก็อยากให้คุณแม่อยู่กับเขาให้นานที่สุด เขาอยากจะยื้อเวลา ไม่ว่าแม่จะตื่นขึ้นมาคุยได้หรือไม่ หรือว่าอยู่ในสภาพแบบไหน