6

1538 Words
เมฆาหัวเราะชอบใจเมื่อแม่เมียตัวอวบของเขาตอบรับได้ถูกใจนัก ก่อนจะบดจูบปากเต็มอิ่มอย่างแสนรัก แล้วจัดการพาเธอไปเล่นน้ำตกให้สมอยาก คนอยากเล่นน้ำตกอยู่คราแรกดีใจจนลืมเรื่องราวบาดหมางไปชั่วขณะ หยาดทิพย์อาศัยอยู่กับเมฆานานเป็นเดือน จนเธอรู้ว่าเขามีไร่เป็นของตัวเอง ไม่ใช่โจรป่ากระจอกอย่างที่คิดในคราแรก เธอมีอิสรเสรีจะทำอะไรก็ได้ แต่มีอย่างเดียวคือห้ามออกไปจากไร่ของเขา แต่ถึงเธอจะอยากออกไปจากที่นี่ก็ทำไม่ได้ เขาเล่นตามติดเธอไปเสียทุกย่างก้าว เขาให้เธอติดต่อไปหาบิดามารดาทางจดหมาย บอกว่าจะกลับไปในเร็ววัน เธอก็เอาแต่ลุ้นว่าเมื่อไหร่เขาจะพาไปหาบิดามารดา และนึกห่วงพวกท่านว่าจะมีปัญหากับเสี่ยไกรหรือเปล่า ซึ่งปัญหานี้เธอก็คุยๆ กับเมฆา แต่เขาก็ไม่เห็นจะพูดหรือให้ความหวังว่าจะจัดการอะไรให้เธอและครอบครัวพ้นจากเรื่องที่เกิดขึ้น หญิงสาวจึงได้แต่ทอดถอนใจ เพราะเมฆาเป็นคนสองบุคลิก เวลาเขาอยู่กับเธอก็ดีอยู่หรอก แต่บางทีเขาก็ดูหมกมุ่น เคร่งเครียดเหมือนมีเรื่องให้ต้องคิดอยู่ตลอดเวลา “วันนี้คุณหนูเล็กทำอะไรให้นายกินคะ” อัปสรเป็นเมียของนายกริช ลูกน้องคนสนิทของเมฆา ซึ่งเมฆาให้มาช่วยงานและดูแลช่วยเหลือเธออยู่ตลอด ทำให้สนิทกันพอสมควร “ทำยำตะไคร้ ต้มจืดมะระยัดไส้ น้ำพริก ผักลวก แล้วก็ปลาทอดค่ะ” ดีอย่างที่เมฆาเป็นคนกินง่าย เธอทำอะไรให้เขาก็กินไม่เคยบ่น กอปรกับเธอเป็นคนชอบทำอาหารอยู่แล้ว จึงมีความสุขไม่น้อยที่ได้ทำอาหารในทุกๆ วัน มันทำให้เธอไม่ฟุ้งซ่านเรื่องจะกลับบ้านมากนัก วันก่อนเธอเคยแกล้งเขาโดยการใส่พริกลงไปในต้มยำจนเผ็ด เห็นเขากินครั้งแรกก็ชะงักไป เธอทำท่าจะเผ่นหนี แต่เขาก็รวบร่างเข้าไปหา ก่อนจะบังคับให้เธอป้อน เขาทานได้หน้าตาเฉย ไม่บ่นสักคำ พอเธอแกล้งเติมเกลือลงไปในกาแฟ เขาก็กินเฉย ทำอะไรให้กินก็กิน ไม่ปริปากบ่นสักคำ แต่พอตกกลางคืน เธอก็โดนลงโทษอย่างหนักจนแทบจะคลานลงจากเตียง เลยไม่กล้าแกล้งเขาอีก คิดไปคิดมาเธอก็ชักจะติดใจรสสวาทของเขาเข้าให้แล้ว พอคิดมาถึงตรงนี้ก็หน้าแดง เลยต้องเสไปหยิบจับข้าวของอย่างอื่นไม่ให้อัปสรเห็น เรื่องหนีเธอไม่เคยลืมมันเลย เธอเคยคิดจะหนีหลายครั้ง แต่ก็หนีไม่รอด รอบกายมีคนของเขาเต็มไปหมด หูตาอย่างกับสับปะรด เธอเลยได้แต่ทำใจ เพราะบิดามารดาคงได้รับจดหมายเธอแล้ว หลังจากที่เธอออดอ้อนขอเมฆาเรื่องส่งจดหมายให้บุพการีทั้งสอง เพื่อให้ท่านคลายใจว่าเธอไม่ได้เป็นอะไร “น่ากินจังเลยค่ะ คุณหนูเล็กนี่ทำกับข้าวอร่อยนะคะ สงสัยอยู่แล้วเชียวว่าทำไมนายถึงทั้งรักทั้งหลงคุณหนูเล็กขนาดนี้” อัปสรชมไม่หยุดปากเพราะเคยชิมกับข้าวฝีมือของเธอออกบ่อย แต่ไม่เคยกินตอนที่เธอแกล้งใส่เกลือบ้าง พริกจนเผ็ดบ้างให้เมฆากินครั้งก่อน ถ้ารู้คงไม่พูดแบบนี้แน่นอน จริงๆ อัปสรเรียกเธอว่านายหญิง แต่เธอไม่อยากให้เรียกแบบนั้น จึงให้เรียกชื่อเล่น เมฆาเองก็ดูไม่ว่าอะไร เขาแค่ยักไหล่ ไม่บีบบังคับอย่างที่เธอนึกกลัว คนที่ไร่ดูรักเมฆามาก เขาสั่งชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ อาจเป็นเพราะพระเดชพระคุณของเขาที่มีให้กับลูกน้อง ทำให้ทุกคนดูเคารพยำเกรงและรักใคร่เขาจนแทบถวายชีวิต ยิ่งแบบนี้เธอก็ยิ่งจะหนีไปไหนไม่รอด “หนูเล็กแบ่งเอาไว้ให้พี่อัปสรแล้วนะคะ” “ขอบคุณค่ะ นายชมไม่ขาดปากเลยว่าคุณหนูเล็กทำอาหารอร่อย พี่กริชก็เหมือนกัน” อัปสรยิ้มแก้มปริเมื่อเห็นความมีน้ำใจของหญิงสาว พอได้ยินแบบนั้นหยาดทิพย์ก็ยิ้มเขิน เธอไม่เคยได้ยินเขาชมว่าเธอทำอาหารอร่อย แต่การที่เขากินของที่เธอทำจนเกลี้ยงทุกครั้งก็ทำให้เธอพอจะรู้ว่าเขาชอบอาหารที่เธอทำ “งั้นหนูเล็กไปก่อนนะคะ ป่านนี้พี่เมฆคงจะรอทานข้าวแย่แล้ว” เธอบอกยิ้มๆ ก่อนจะหิ้วปิ่นโตที่บรรจุอาหารออกจากกระท่อม ซึ่งกระท่อมที่เธอเอ่ยถึงดูยังไงก็หรูหรากว่ากระท่อมปลายนาเป็นไหนๆ หญิงสาวคิดว่าถ้าทำดีกับเขาให้มากๆ เขาอาจจะใจอ่อนปล่อยเธอกลับไปหาบิดามารดา และบางทีเขาอาจช่วยเหลือเธอเรื่องหนี้สินบ้าง แต่คิดแล้วก็นึกเศร้าใจ เขาไม่เอ่ยปากแล้วเธอจะกล้าขอได้อย่างไรกัน หยาดทิพย์ปั่นจักรยานไปตามทางเล็กๆ ที่มุ่งสู่ตัวไร่ ก่อนจะจอดรถคันสีชมพูสดใสตรงหน้าบ้านพักของเมฆา เพียงแค่เปิดประตูเข้าไป เธอก็สบกับแววตามีเสน่ห์ของเขา หนวดเคราที่รกครึ้มในคราแรกถูกโกนออกจนเกลี้ยงเกลา ทำให้เขาดูหล่อเหลาจนเธอตกตะลึงในคราแรก สายตาของเขาที่กำลังมองเธอเยื้องย่างไปหา ทำให้เธอขาสั่นแทบจะสะดุดล้ม แววตาล้ำลึกและมีเสน่ห์ บ่งบอกถึงความต้องการและอารมณ์ทางเพศที่รุนแรง ทำให้หยาดทิพย์มือสั่นตามไปด้วย “อาหารกลางวันค่ะ” เพราะเขามีอำนาจแบบนี้เอง เธอเลยหนีไปไหนไม่รอดและไม่กล้าแผลงฤทธิ์มาก คิดเพียงว่าหากเธอทำดีกับเขามากๆ เขาอาจจะใจอ่อนเท่านั้น “ทำไมมาช้าจัง” “ว้าย!” เพราะมัวแต่ก้มหน้างุด จึงโดนเขาดึงไปนั่งบนตักโดยง่าย “ถามว่าทำไมมาช้าจัง รู้หรือเปล่าว่าคิดถึง” คำว่า ‘คิดถึง’ เขาจะใช้กับเธอยามต้องการสินะ บางทีเธอก็มีความสุขเมื่ออยู่กับเขา แต่บางทีก็น้อยใจเขาเหลือเกิน “ทำกับข้าวให้พี่เมฆอยู่ค่ะ” “บอกแล้วว่าไม่ต้องกลับไป ให้อัปสรทำมาก็ได้” เขาทำเสียงขัดใจพอสมควร เพราะไม่อยากให้เธอห่างสายตาเขาไปไหน “หนูเล็กอยากทำให้พี่เมฆทานเองกับมือนี่คะ” เธอโอบกอดรอบคอเขา ซบหน้าที่ซอกคอหนาอย่างอ้อนๆ “ไม่ใช่เพราะว่าจะได้ห่างพี่ แล้วไปยิ้มให้พวกคนงานหรอกนะ” เขาทำเสียงดุ ลูบศีรษะเธออย่างหวงแหน “ไม่เคยไปยิ้มให้ใครเลย เจอใครก็ก้มหน้าก้มตาอย่างเดียว” เธอทำเสียงจริงจัง แต่จริงๆ เธอก็มีมนุษยสัมพันธ์กับคนงานไปทั่ว เพราะคิดว่ามีมิตรดีกว่ามีศัตรู ถ้าให้เธอเดินก้มหน้า ใครถามก็ไม่ต้องตอบเหมือนเมฆาว่า คงมีคนหมั่นไส้เธอมากแน่ๆ หาว่าหยิ่ง หาว่าเป็นเมียเขาแล้วแบ่งชนชั้นวรรณะ พอมีเรื่องหรือมีปัญหาขึ้นมา เธอนั่นแหละจะเดือดร้อน หยาดทิพย์คิดในใจ “อย่าให้เห็นว่าไปยิ้ม จะยิงไส้แตก” “จะ... จะยิงหนูเล็กเหรอคะ” คนบนตักสะดุ้งสุดตัว “ยิงคนที่กล้ามองเมียพี่เมฆ” เขาทำเสียงแข็งใส่ “เอ่อ... พี่เมฆกินข้าวดีกว่าค่ะ เที่ยงแล้ว” เธอรีบเบี่ยงเบนความสนใจของเขาทันที คนขี้โมโหแบบเขาน่ากลัวยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดในโลกหล้า “มีอะไรกินบ้าง” เขาถามและเหมือนเคย เธอต้องป้อนเขาจนถึงปาก แต่เมฆาเป็นคนกินง่าย เขาไม่เรื่องมากกับการกิน ขอแค่เป็นฝีมือเธอเป็นพอ แต่ถ้าไม่ใช่ฝีมือเธอ แค่เธออยู่ป้อนเขาก็ไม่ปริปากบ่นแม้แต่คำเดียว คนตัวโตอ้าปากรับไปเต็มๆ คำแล้วก็เคี้ยวตุ้ยๆ ถ้าเป็นเด็กเรียกว่าเลี้ยงง่าย “อ้าปากบ้างสิ พี่ป้อนให้” เขาแย่งช้อนจากมือเธอไปถือเอาไว้แล้วจ่อมาที่ปากเธอบ้าง “หนูเล็กไม่ค่อยหิวค่ะ” “ลดความอ้วนหรือไง ไม่ให้ลดนะ ชอบหุ่นแบบนี้” เขาอยากให้เธอกินเยอะๆ ให้อ้วนไปเลย จะได้ไม่มีใครแย่งเธอไปจากเขา “ไม่ได้ลดค่ะ แต่หนูเล็กไม่ค่อยหิวจริงๆ” “ไม่หิวก็ต้องกิน นี่เที่ยงแล้ว เดี๋ยวปวดท้องเป็นโรคกระเพาะ” เอาแล้วไง อะไรก็ตาม ถ้าเขาตัดสินใจไปแล้ว ห้ามขัดใจ ห้ามปฏิเสธ ห้ามมีข้อต่อรอง ห้ามมีข้อแม้ เธอเลยจำยอมอ้าปากรับอาหารที่เขาป้อนให้ แต่ในคำสั่งเผด็จการนั้น มันเต็มไปด้วยความห่วงใยเต็มเปี่ยม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD