ณ โรงแรม ดับเบิ้ลเอ็น
เมื่อเดินขึ้นมาร้านอาหารที่อยู่บนดาดฟ้าของโรงแรม ฉันพยายามมองหาคุณพ่อกับคุณแม่ แต่ก็ไม่เห็นพวกท่านเลย จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาคุณแม่ทันที
ตึดด ตึดด
“ฮัลโหลค่ะ...คุณแม่อยู่ตรงไหนค่ะ” ฉันได้เอ่ยถามทันทีเมื่อคุณแม่กดรับสาย
“ทางนี้ลูก” คุณแม่เอ่ยขึ้นจากปลายสาย
ฉันจึงหันมองซ้ายขวาไปมาก็พบคุณแม่ยืนขึ้นและโบกมือทันที แต่ทว่าท่านไม่ได้อยู่กับคุณพ่อสอง มีคนอื่นอยู่กับท่านด้วย ฉันจึงกดวางสายและรีบเดินตรงไปทันที
วันนี้ชุดที่ฉันใส่มาก็ไม่ค่อยเรียบร้อยมากนัก เพราะคิดว่ามาทานข้าวกับคุณพ่อคุณแม่เท่านั้น ซึ่งพวกท่านก็เข้าใจในการแต่งตัวของฉัน แต่ตอนนี้มีคนอื่นอยู่ด้วยซึ่งแน่นอนว่าเขาอาจมองว่าฉันแต่งตัวไม่รู้กาลเทสะเป็นแน่
พอเดินมาถึงโต๊ะก็ต้องตกใจเมื่อมองคนที่นั่งร่วมโต๊ะหนึ่งในนั้นเป็นผู้ชายคนที่เจอคอนโดเมื่อวันก่อน ซึ่งภาพพวกนั้นยังติดตาอยู่เลย สายตาของเขาตอนนี้กับจ้องมองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าและยกยิ้มมุมปากแบบคนเจ้าเล่ห์
“ปะแป้งลูก..นี่คุณลุงองอาจและคุณป้าสุภารัตน์ เป็นคุณพ่อคุณแม่ของพี่สายฟ้านะลูก” คุณแม่ได้แนะนำผู้ชายและผู้หญิงวัยกลางคน อายุราวๆ 40-50ปี ให้ฉันรู้จัก
“สะ..สวัสดีค่ะ คุณลุงคุณป้า” ฉันได้ยกมือไหว้ท่านทั้งสองและยิ้มให้ท่าน
“เรียกห่างเหินเลยจังเลยลูก” คุณลุงองอาจได้เอ่ยขึ้น
“จริงค่ะ..เรียกคุณพ่อคุณแม่ดีกว่าลูก” คุณป้าสุภารัตน์ได้เอ่ยแทรกขึ้น
....ฉันได้แต่เงียบและส่งยิ้มให้ท่านทั้งสอง
“นี่พี่สายฟ้า ลูกเคยเจอแล้วใช่มั้ยจ้ะ” คุณแม่ผายมือแนะนำผู้ชายที่นั่งตรงข้ามฉัน ซึ่งฉันไม่อยากจะรู้จักเขาเลย
“สวัสดีค่ะ พี่สายฟ้า” ฉันได้ทักทายเขาไปตามมารยาทและยิ้มออกไปเล็กน้อยตามมารยาท
“สวัสดีครับ...น้องปะแป้ง” เขาได้เอ่ยทักทายฉัน และพูดเน้นชื่อของฉัน พร้อมกับยิ้มแบบร้ายกาจ
จากนั้นพวกเราก็ทานข้าวกันไป ไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกันมาก ก็จะมีแค่คุณพ่อคุณแม่และคุณลุงคุณป้าที่คุยกันเท่านั้น ระหว่างที่ทานข้าวฉันก็รู้สึกอึดอัดยังไงก็ไม่รู้ ไอ้พี่สายฟ้าคนที่นั่งตรงข้ามก็เอาแต่จ้องมองใบหน้าหวานแล้วอมยิ้มอยู่ตลอดเวลา
“ไหนๆลูกทั้งสองก็เคยเจอกันแล้ว รู้แล้วใช่ไหมว่าลูกต้องหมั้นหมายกันนะ” คุณพ่อฉันได้เอ่ยขึ้นมา
“ครับ” พี่สายฟ้าได้ตอบกลับคุณพ่อ
เมื่อ 5 ปีก่อน ตอนที่คุณย่าของเธอเสีย ผมก็ได้รู้ว่าต้องหมั้นหมายกับเธอ หลังจากนั้นผมพยามหาข้อมูล และสะกดรอยตามเพื่อดูนิสัยของเธอมานานหลายปี ผมชอบเวลาที่ได้มองเธอ เพราะเธอสวยมาก ผมชอบเธอตอนไหนก็ไม่รู้ จนกระทั่งเธอไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ ผมก็ไม่ได้เจอเธออีกเลย และเธอก็ได้หายไปจากใจผม จนมาเจอกันอีกครั้งใจผมก็กลับมาเต้นแรงเหมือนครั้งก่อน
“แต่...แป้งและพี่สายฟ้ายังไม่เคยคุยกันและไม่รู้จักนิสัยใจคอกันเลยนะคะ แบบนี้ถ้าเกิดหมั้นและแต่งงานกันไป ถ้าไปกันไม่รอดต้องมาเลิกกัน คุณพ่อกับคุณแม่ก็ต้องอับอายขายขี้หน้าคนอื่นนะคะ แป้งว่าอย่าพึ่งหมั้นดีกว่าค่ะ” ฉันพูดซ่ะยาวเหยียดเลย เพราะไม่อยากหมั้นกับพี่สายฟ้า เห็นๆกันอยู่ว่าเขาเจ้าชู้ไม่ใช่เล่น เอาผู้หญิงไปทั่ว มีหวังถ้าฉันหมั้นและแต่งไปต้องมาเลิกกันแน่ๆ
“จริงด้วยเด็กๆยังไม่เคยคุยกันเลย งั้นเราให้เด็กๆหมั้นกันก่อน ยังไม่ต้องแต่งดีมั้ยค่ะ ระหว่างที่หมั้นเราก็ให้เด็กๆศึกษานิสัยใจคอกันไปด้วย” คุณแม่ฉันได้เอ่ยขึ้นมา
“แต่ว่า..” ฉันกำลังจะพูดคัดค้านการหมั้น แต่ก็มีเสียงแทรกขึ้นมา
“แป้ง…ลูกมาคุยกับพ่อก่อน ตามพ่อมา” คุณพ่อได้พูดแทรกขึ้นมา ฉันจึงลุกขึ้นและตามคุณพ่อออกไป
.
.
“คุณพ่อค่ะ แป้งยังไม่อยากหมั้น” ฉันพูดขึ้นทันทีเมื่อเดินไปถึงจุดที่คุณพ่อยืนอยู่
………………………………………………….
🖊️ไรท์นามปากกา “ขีดเขียนฝันNK” เป็นนักเขียนมือใหม่นะคะ นิยายที่ไรท์เขียนขึ้นมาจากจินตนาเท่านั้น ไม่ได้จะพลาดพิงหรือดูถูกการกระทำของผู้หญิงด้วยกัน
ฝากนักอ่านทุกท่านช่วยเอ็นดู และซัพพอร์ตไรท์หน่อยนะคะ หากเนื้อหาในเรื่องใช้คำผิด ไรท์ต้องขออภัยเป็นอย่างสูง
ขอให้นักอ่านทุกท่าน สนุกเพลิดเพลินไปกับเรื่องนี้นะคะ Enjoy And Happy 💕