พอเห็นน้ำตาจากคนตัวเล็ก ความโมโหก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสงสาร เรนนี่รู้จุดอ่อนของเขาดี ถึงใช้น้ำตาในการลดความผิดของตัวเอง พอเขาไม่เถียงและจะไปก็ร้องไห้ฉุดรั้งเอาไว้
และมันดันได้ผลทุกครั้งเสียด้วย แต่มันจะไม่ใช่ครั้งนี้
“หาอะไรกินแล้วนอนพักเถอะ อย่าเถียงกันให้อารมณ์เสียเลยเรนนี่” ห้องนี้เคยเป็นสถานที่พักผ่อน ทว่าตอนนี้กลับไม่ใช่
เขาใช้คำว่าเคยได้บ่อยมากในช่วงนี้….
“แต่เรนอยากกินข้าวกับคุณ อยู่เป็นเพื่อนเรนก่อนนะคะ เรนจะไม่ชวนทะเลาะแล้วก็ได้” หญิงสาวทำหน้าหงอยเศร้า บีบน้ำตาให้เขาสงสารอย่างที่ชอบทำ เรนนี่เชื่อว่าเขาต้องใจอ่อน
ภามพยักหน้ารับเพราะทนการรบเร้าไม่ไหว จำต้องเดินไปเทน้ำใส่แก้วมาบริการคนเจ้าน้ำตา ก็เป็นเสียแบบนี้
เสียงสั่นของโทรศัพท์รุ่นใหม่ เรนนี่คว้าขึ้นมารับสายทันทีโดยไม่รอให้เจ้าของมาถึง เพราะหน้าจอคือชื่อของคนที่เธอไม่ไว้ใจ
“รถนิเสียค่ะ รบกวนคุณมารับนิได้ไหมคะ ถ้ากลับไปแบบนี้กลัวแม่จะบ่น” คำข้อร้องนั้นส่งผลให้เรนนี่โมโห การโทรมารบกวนแฟนคนอื่นมันสมควรเหรอ
แล้วทั่วกรุงเทพก็ใช่ว่าจะไม่มีอู่ซ่อมรถ นิสาจงใจดึงตัวภามไปมากกว่า
“รถเสียก็โทรหาช่างโน่น มารยาตื้น ๆ อย่าคิดว่ารู้ไม่ทัน ไปตอแหลที่อื่นเถอะ แล้วเลิกยุ่งกับคุณภามสักที!”
เธอตวาดใส่อีกฝ่ายที่ไม่ยอมเลิกยุ่งกับคนรัก และมากกว่านั้นคือภามไปให้ความหวังอีกฝ่าย
เรนนี่วางสายพร้อมกับบล็อกเบอร์พร้อมกับไลน์ของอีกฝ่ายโดยไม่รอให้ภามแย่งโทรศัพท์คืน เมื่อเสร็จทุกอย่างถึงยื่นให้
“คุณไม่ควรมายุ่งกับของส่วนตัวผมเรนนี่” เขารับมาด้วยความโกรธ การล้ำเส้นความเป็นส่วนตัวเป็นสิ่งที่ไม่มีใครชอบ
“ไม่ต้องมาโมโหเรนนี่ มันตอแหลดูไม่ออกเหรอ รถเสียก็เรียกช่างสิมาโทรหาคุณเพื่อ? คุณเป็นช่างตั้งแต่เมื่อไหร่คะ มันคงไม่ขาดใจตายเพราะคุณไม่ไปหาหรอก!” เรนนี่กอดอกเถียงจนลืมว่าเมื่อครู่เพิ่งบีบน้ำตาร้องไห้เพื่อรั้งภาม
ความโกรธมันบังตาใช้อารมณ์สาดใส่กันอีกรอบ
“อยากบ้าก็บ้าไปคนเดียว ผมไม่ทนกับคุณแล้วเหมือนกันเรนนี่ ถ้าการอยู่ด้วยกันมันทำให้คุณประสาทเสียก็ห่างกันไปเลย ห่างจนกว่าจะมีสติ!” ภามมองหญิงสาวที่เอาแต่ใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล นิสาแค่รถเสียไม่ได้มีอะไรเลยสักนิด
“เรนไม่ห่าง” เรื่องอะไรต้องยอมห่าง คนที่ห่างกันไปเคยได้กลับมาคบกันต่อด้วยเหรอ เลิกกันเกือบทุกราย
“ผมยังยืนยันว่าต้องการให้เราลองห่างกันดู บางทีเราอาจมีความสุขมากกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ได้นะเรนนี่” บางทีเรนนี่อาจจะแค่อยากเอาชนะมากกว่ารัก
“นานแค่ไหนคะ กี่เดือนกี่ปีหรือจนคุณไปแต่งงานมีลูกกับมัน”
พูดมาขนาดนี้มันเหมือนการอยู่กับเธอคือความทุกข์
เรนนี่ไม่รู้เลยว่าตัวเองควรทำอย่างไรต่อ
“ไม่รู้สิ” จนกว่าเรนนี่จะได้สติ
เขาก็ตอบตัวเองไม่ได้ว่านานแค่ไหน รู้แค่ตอนนี้ไม่พร้อมรับมือกับอารมณ์ของเรนนี่ และตัวเองก็อารมณ์ไม่คงที่พอจะอดทน
“เรนขอโทษ เรนจะปรับปรุงตัว เราอย่าห่างกันเลยนะคะ เราเคยมีความสุขด้วยกันตั้งเยอะ” นั่นคือประโยคที่เรนนี่คิดออกในตอนนี้ ความรักมันมีมากกว่าสิ่งอื่นใด
“ผมต้องกลับแล้ว” ภามไม่สบตากับหญิงสาวเพราะรู้ว่าเธอกำลังใช้น้ำตาเป็นอาวุธ ชายหนุ่มเดินออกมาถึงประตูยังไม่ทันได้เปิด เรนนี่ก็พูดในสิ่งที่น่าโมโหกว่าเดิม
“ถ้าคุณภามไปเรนจะฆ่าตัวตาย คุณห้ามไปหามันนะ!”
ร่างเล็กสั่นเทาด้วยความเสียใจระคนโมโห คิดหาคำขู่ไปเรื่อยโดยไม่รู้ว่าการเอาชีวิตตัวเองมารั้งคนรัก คือการกระทำสิ้นคิดที่สุด
เธอโกหกออกไปอย่างคนไร้หนทาง และกำลังชั่งน้ำหนักในใจว่าถ้าเขาจากไปโดยไม่เหลียวแลก็ควรหยุดวอแวเสียที
“…” เขาหยุดเดินทว่ายังไม่ยอมหันกลับมา สองมือกำแน่นอย่างคนกักเก็บอารมณ์ไม่ให้ปะทุ
“เรนพูดจริงนะคะ!” พอเห็นอีกฝ่ายชะงักไม่เดินต่อเรนนี่ก็ใจชื้น ทว่านาทีถัดมาก็ต้องเจ็บปวดกว่าครั้งไหน
“คนที่สนใจแต่ความต้องการของตัวเองแบบคุณไม่มีทางทำแบบนั้นหรอกเรน แล้วอย่าใช้วิธีงี่เง่าแบบนี้กับผมอีก ถ้าไม่รักแม้แต่ชีวิตตัวเองก็อย่ารักใครเลย” เจ้าของร่างสูงถอนหายใจเฮือกใหญ่ จากนั้นต่อว่าอีกฝ่ายทันที
ชีวิตมันไร้ค่าขนาดนั้นเลยเหรอ เรนนี่ถึงเอามาขู่ง่าย ๆ การทำแบบนี้น่าโมโหกว่าตอนไปวุ่นวายโทรศัพท์อีก ไม่พอใจเมื่อไหร่ก็ขู่จะฆ่าตัวตาย แบบนี้ก็ได้เหรอวะ
“ชอบเขามากเลยเหรอ ฮึก เรนรักคุณภามมากนะคะ เราไม่ห่างกันได้ไหม ฮึก พอห่างนาน ๆ ก็ต้องเลิกกัน คุณภามไม่ต้องมาหาข้ออ้าง” เรนนี่ไม่เชื่อว่าห่างกันแล้วทุกอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม
ภามคนเดิมไม่เคยพูดกับเธอรุนแรงอย่างนี้
“เลิกเป็นแบบนี้ให้ได้ก่อนเถอะเรนนี่ ทะเลาะกันบ่อย ๆ คุณไม่เบื่อแต่ผมเบื่อ” เขาเอื้อมมือไปเปิดประตู หางตาเหลือไปมองรูปคู่ข้างกำแพงเล็กน้อย
“ถ้าคุณไปก็เลิกกันไปเลยดีกว่า ฮือ อย่ามาทำตัวเหี้ย ๆ จับปลาสองมือ คอนโดนี้เรนก็จะไม่คืน บัตรที่ให้ไว้จะรูดให้ไม่เหลือสักบาท ฮือ ๆ ไม่เชื่อก็คอยดูได้เลย เรนจะไม่รักคุณภามแล้วด้วย”
ร่างเล็กทรุดตัวนั่งลงอย่างหมดแรง
ถ้อยคำด่าทอปนไปด้วยการตัดพ้อนั้นไม่สามารถดึงชายหนุ่มเอาไว้ได้ ถามตัวเองซ้ำ ๆ ว่าทำไมต้องผิดหวังเรื่องความรัก…
“อือ!” ภามตอบแค่นั้นก็ออกจากห้องโดยไม่หันกลับมาฟังคำด่าของเรนนี่อีก ใช่! เขามันคนเหี้ย เรนนี่อยากด่าก็ด่าเถอะ
ประเมินจากเสียงด่าตามหลังแล้วหญิงสาวไม่น่าจะคิดสั้น แต่คนที่อายุจะสั้นคือเขาแทน ครั้งนี้ถือเป็นการทะเลาะกันรุนแรงที่สุด เขาตกใจเหมือนกันที่โดนเรนนี่ด่า ปกติเธอไม่เคยด่าเขาไง แต่วันนี้ไม่รอด
“กรี๊ด!!!! ไอ้คุณภามบ้า ปากพูดได้แค่นี้หรือไง!”
ยิ่งเขาไม่ตอบเธอยิ่งโกรธ
หญิงสาวคว้าอะไรได้ก็ปาใส่ประตูจนสุดแรง แม้ของไม่โดนคนรักแต่เรนนี่ก็ไม่ยอมหยุด บางอย่างในใจมันร้องเตือนว่าเอาให้พอจะได้จบเสียที
ถ้าพูดขนาดนี้ผู้ชายยังเลือกจะเดินจากไปง่าย ๆ เธอยังคาดหวังจะฝากชีวิตไว้ที่คนอย่างนั้นอีกเหรอ
คำตอบคือไม่!
แต่ขอเวลาทำใจก่อน เรนนี่เชื่อว่าตัวเองทำได้ ต้องทำให้ได้!