“เฮียรอน้องครีมอยู่หน้าหอตั้งนาน น้องครีมไม่ยอมออกมาจากหอสักที เฮียมีข้อเสนอให้น้องครีมนะ”
“ไม่รับข้อเสนออะไรทั้งนั้น! บอกแล้วไงว่าครีมจะแจ้งความ ครีมจะเอาเรื่องเฮียให้ถึงที่สุด” ดารินทร์ตะโกนเสียงดัง เธอกำลังจะวิ่งออกไปขอความช่วยเหลือ แต่กลับถูกลูกน้องของเตโชยืนขวางทางไว้
เตโชเองก็ชักจะเริ่มเอื่อมระอาและหมดความอดทนกับเธอเสียแล้ว อะไรมันจะยากเย็นขนาดนั้นอีแค่ผู้หญิงคนเดียว
“น้องครีมไม่กล้าแจ้งความหรอก ถึงจะกล้าน้องครีมก็ทำอะไรเฮียไม่ได้ หลักฐานก็ไม่มีนี่นา” เขาเอ่ยพูดพลางเดินไปหย่อนตัวลงนั่งบนเตียงนอนของเด็กสาว
“จะไม่มีได้ยังไง” ดารินทร์คว้าโทรศัพท์ออกมาเพื่อเปิดข้อความที่สนทนากับต้นกล้าให้เขาดู ทว่าข้อความทั้งหมดถูกลบทิ้งออกไปตั้งแต่เมื่อคืน เธอไม่ยอมแพ้หรอก มันต้องมีหลักฐานอื่นที่สามารถเอาผิดเขาได้ “ครีมจะไปตรวจร่างกาย”
“ไปตรวจร่างกายก็ไม่มีทางพบน้ำเชื้อของเฮียหรอก ตอนทำเสร็จเฮียไม่ได้ปล่อยใส่น้องครีมซะหน่อย” เขาเผยรอยยิ้มแฝงความเจ้าเล่ห์ “แจ้งความไปก็มีแต่น้องครีมที่เสียหาย เผลอ ๆ เฮียอาจะแจ้งความกลับ คิดดูให้ดีสิ น้องครีมจะยอมแลกเหรอ”
“เลว!”
“หึ ทีนี้น้องครีมจะยอมคุยกับเฮียได้หรือยัง” เขากระตุกแขนของเธอเพียงเล็กน้อย ด้วยความไม่ทันได้ตั้งตัวส่งผลให้เธอเซจนล้มลงไปนั่งบนตักแกร่ง
“ฮือ ๆ” ดารินทร์ทำอะไรไม่ได้นอกจากร้องไห้ออกมา เธอไปทำอะไรให้เขานักหนา ทำไมเขาต้องมารังแกเธอด้วย
“ร้องไห้ทำไม หืม ตาบวมหมดแล้วเห็นไหม” ปลายนิ้วโป้งเกลี่ยน้ำตาบนพวงแก้มออกให้เด็กสาวอย่างอ่อนโยน
“ครีมไม่อยากคุยกับเฮีย ทำไมต้องบังคับครีมด้วย”
“ไม่ฟังข้อเสนอของเฮียหน่อยเหรอ”
“ครีมไม่อยากฟัง ฮึก!” สองมือเล็กเช็ดคราบน้ำตาตัวเอง เธอก็ตัวแค่นี้จะไปสู้อะไรเขาได้ ถ้าเขาบังคับให้ฟัง ต่อให้เธอไม่อยากฟัง เธอก็จำใจต้องฟังอยู่ดี
เตโชใช้สายตาสั่งลูกน้อง เพียงไม่นานคีย์การ์ดห้องและบัตรเครดิตไม่จำกัดวงเงินก็ถูกวางไว้อยู่ตรงหน้าของดารินทร์
“เฮียให้เวลาน้องครีมหนึ่งเดือนลองคิดดูอีกที ระหว่างนี้น้องครีมสามารถเอาบัตรเครดิตไปใช้ได้ตามสบาย อยากจะรูดใช้เท่าไหร่ก็แล้วแต่น้องครีม หรืออยากจะมานอนเล่นอยู่ที่คอนโดของเฮียก็ได้ หลังจากหนึ่งเดือนไปแล้ว ถ้าน้องครีมยังอยากเอาเรื่องเฮียอยู่ เราก็ไปเจอกันที่ศาล แต่ถ้าน้องครีมยอมไม่แจ้งความ เฮียจะให้เงินสดน้องครีมสองแสน ถือว่าเรื่องทั้งหมดไม่เคยเกิดขึ้น”
ดารินทร์เช็ดน้ำตาพลางเม้มปากตัวเองอย่างใช้ความคิด เธอเองก็กำลังจะถูกไล่ออกจากหอ คิด ๆ ดูแล้ว ข้อเสนอของเตโชก็เข้าท่าดีเหมือนกัน
“ถ้าครีมยอมไม่แจ้งความครีมจะได้เงินสองแสนเหรอ”
“อาจจะได้มากกว่านั้นถ้าน้องครีมยอมรับข้อเสนอของเฮียอีกข้อ”
“ข้อเสนออะไร?”
“เฮียจะบอกหลังจากที่น้องครีมยอมรับข้อเสนอว่าจะไม่แจ้งความ” เตโชตอบพลางยื่นบัตรเครดิตและคีย์การ์ดคอนโดให้คนบนตัก
ดารินทร์มองมันอย่างพิจารณา โดยหารู้ไม่ว่ามีใครบางคนแอบลอบอมยิ้ม เธอก็เหมือนกระต่ายตัวน้อยที่ไม่รู้ตัวว่ากำลังจะโดนหมาป่าตะครุบ
“คอนโดของเฮีย ครีมย้ายไปอยู่ได้เลยไหม”
“ได้สิ เฮียให้น้องครีมอยู่ฟรี ๆ เลยหนึ่งเดือน” มือหนาลูบศีรษะดารินทร์อย่างเอ็นดู ทั้งที่ในใจอยากให้เธอดูเอ็นมากกว่า “น้องครีมยังไม่ต้องรีบรับข้อเสนอของเฮียตอนนี้ก็ได้ ลองไปอยู่ที่คอนโดและใช้บัตรเครดิตรูดซื้อของให้สบายใจก่อน”
ดารินทร์เงยหน้ามองเตโชพลางกะพริบตาปริบ ทางเลือกของเธอมีไม่มากเท่าไรนักหรอก
“ช่วยครีมขนของออกจากห้องนี้ได้ไหมคะ”
หลายชั่วโมงต่อมา...
ต้นกล้ากับเหล่าลูกน้องช่วยดารินทร์เก็บข้าวของออกจากห้องเช่าแคบ ๆ มายังคอนโดของเจ้านาย โดยที่เงินในบัญชีและเงินในกระเป๋าของดารินทร์ยังเหลือครบทุกบาท เนื่องจากเงินค่าเช่าห้องที่เธอค้างไว้เตโชจ่ายให้ทั้งหมด
ทันทีที่มาถึงดารินทร์ก็กวาดสายตามองรอบ ๆ ห้อง มันทั้งน่าอยู่ หรูหรา และกว้างกว่าห้องเช่าของเธอเป็นสิบเท่า เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งออกโทนเทาซะส่วนใหญ่ ตามทางเดินมีแสงไฟสลัวช่วยให้บรรยากาศผ่อนคลาย
“น้องครีมชอบไหมครับ” เตโชเดินไปซ้อนหลังดารินทร์พลางรั้งศีรษะทุยเล็กแนบอกแกร่ง เขาไม่ต้องการคำตอบหรอก เห็นแค่แววตาของเธอก็บ่งบอกทุกอย่างแล้ว
“ครีมอยากอยู่คนเดียวเฮียกับลูกน้องของเฮียกลับไปเลย” สองมือเล็กผลักไสเขาให้ออกจากห้องพลางปิดประตูใส่อย่างไม่ใยดี
คนที่เพิ่งถูกไล่ออกไปจากห้องไม่ได้รู้สึกเสียหน้าแต่อย่างใด ปล่อยให้เธอได้ใจไปเถอะ
หมาป่าแค่รอให้กระต่ายน้อยติดกับดักที่วางไว้ก่อนเท่านั้นแหละ
อย่าพลาดเชียว เดี๋ยวพ่อจะจูบให้ล้มแล้วจับกระแทกให้จมเตียง
มาแล้วค๊าบ
เฮียอยากให้ยัยน้องดูเอ็นพ่ะน่ะ ?