บทที่7

1167 Words
ธเนศตื่นขึ้นก็พบเพียงความว่างเปล่า คนที่เคยนอนซุกอยู่ในอกมาตลอดวันบัดนี้กลับหายไปไหนก็ไม่รู้ มันทำให้เขาร้อนรนรีบลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินตามหา ก่อนจะพบว่าแม่ตัวดีไม่ได้หายไปไหนไกลเลย นอกจากกำลังนอนหนุนตักแม่ของเขา ที่คงจะเดินทางมาเยี่ยมด้วยตัวเอง “ตัวยังอุ่นๆ อยู่เลย แม่ว่าไปหาหมอดีกว่าไหม” คุณวารีเอ่ยขึ้นพร้อมลูบหัวคนช่างประจบไปพลางๆ สำหรับเอื้องทรายแล้วนางก็รักเหมือนกันลูกคนหนึ่ง แค่ได้รู้ว่าเธอป่วยก็รีบทำของโปรดมาให้ด้วยตัวเอง “แค่ทรายได้กินข้าวต้มฝีมือคุณแม่ พรุ่งนี้ทรายก็วิ่งเล่นไปทั่วสวนได้แล้วคะ เพราะว่าข้าวต้มคุณแม่อร่อยที่สุดในโลกเลย” อีกคนตอบกลับด้วยวาจาน่าฟังซุกหน้าเข้าที่ตักแม่สามีอย่างออดอ้อน ขณะที่ลูกแท้ๆ เริ่มมีอาการหน้างอให้เห็น เพราะแม่ของเขาทั้งรักทั้งหลงแม่ตัวดีมากกว่าใครๆ “คนอะไรขี้ประจบ!” “ตาวิน ไปว่าน้องอย่างนั้นได้ยังไง เดี๋ยวเถอะ!” เอื้องทรายแสยะยิ้มให้คนที่เพิ่งทิ้งตัวลงนั่ง ก่อนล้มตัวลงนอนบนตักมารดาของเขาก่อนจะขยับเบียดจนเธอแทบกระเด็น สุดท้ายเลยกลายเป็นสงครามแย่งแม่กันไป “พอๆ กันเลยสองคนนี้ ขี้ประจบพอกัน” คุณวารีอดจะเอ่ยขึ้นไม่ได้ มันเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่ทั้งสองคนจะแย่งกันเอาใจนางเพราะอยากได้ความรัก แต่สุดท้ายก็ไม่เคยเห็นธเนศจะเอาชนะหนูเอื้องทรายได้จริงๆ จังๆ สักที สิ่งเดียวที่นางอยากเห็นคือหลานตัวน้อยๆ แต่ก็ไม่รู้จะมีโอกาสนั้นรึเปล่าเพราะจุดเริ่มต้นของคู่นี้นั้น ไม่ค่อยเหมือนกับคู่ชาวบ้านเขาเท่าไหร่ เอื้องทรายอยู่พักรักษาตัวที่บ้านสวนนานสองวันจนหายสนิทดีถึงได้กลับมาบ้านสามีเพราะอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าจะมีงานเลี้ยงใหญ่ซึ่งก็ไม่ใช่งานของใครที่ไหนเลย นอกจากงานเลี้ยงวันเกิดแม่สามีของเธอเอง “จะออกไปไหนแต่เช้าล่ะนั่นตาวิน” คุณวารีที่กำลังนั่งหารืออยู่กับลูกสะใภ้ถึงเรื่องอาหารการกินภายในงานวันเกิดของตัวเองถามขึ้นเมื่อเห็นพ่อลูกชายตัวดีมีพิรุธให้ได้เห็น ซ้ำยังแต่งตัวหล่อเหมือนจะออกข้างนอก “ผมนัดป่านไว้ครับ ว่าจะพาเขาไปซื้อหนังสือสักหน่อย ไปนะครับแม่” ธเนศไม่คิดปิดบังมารดา เขาตอบก่อนจะเดินออกไปจากบ้านด้วยท่าทีรีบเร่ง ทิ้งเอื้องทรายที่ได้แต่มองตามสามีของตัวเองไปจนลับสายตา “แม่ล่ะไม่เข้าใจพวกเราสองคนเลยจริงๆ แต่งงานก็แต่งกันแล้วแท้ๆ แต่ทำไมเราถึงยังปล่อยให้ตาวินออกไปหาหนูป่านแบบนี้อีกล่ะลูก” คนถูกถามยิ้มรับเมื่อได้ยิน ไม่คิดจะบอกถึงข้อตกลงที่เธอกับลูกชายท่านมีร่วมกัน เพราะไม่อยากเอาเรื่องปวดหัวนี้ไปทำให้ท่านต้องหนักใจไปกับมัน “ก็ทรายไม่ชอบฝืนใจใครนี่คะคุณแม่ อีกอย่างคุณป่านเองก็น่ารักดีออกคะ ทั้งสวยทั้งเก่งแบบนั้นคุณแม่ไม่อยากได้มาเป็นลูกสะใภ้เหรอคะ” เอื้องทรายตอบกลับไปตามที่เห็น ป่านฤทัยไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรเลยสักนิด และเธอก็เชื่อว่าด้วยนิสัยและอะไรหลายๆ อย่างของเธอมันจะทำให้แม่สามีรักได้อย่างไม่ยากเย็น ขอเพียงแค่ท่านลองเปิดใจให้เธอบ้างสักนิด “แม่ชอบเรามากกว่า อยู่ด้วยแล้วไม่เหงาหูดี” “หนูก็รักคุณแม่ค่ะ อย่าไปสนใจคนอื่นเลยนะคะ เรามาช่วยกันออกแบบงานเลี้ยงกันดีกว่า รับรองว่าปีนี้หนูจะจัดงานวันเกิดให้คุณแม่อย่างยิ่งใหญ่ เอาให้พวกคุณหญิงคุณนายเงิบกันไปเลย ดีไหมคะ” คุณวารียิ้มตอบก่อนจะลูบผมลูกสะใภ้อย่างเอ็นดู นางชอบเอื้องทรายเพราะทุกครั้งที่อยู่ด้วยแล้วมีความสุข หนูป่านฤทัยก็พอรู้จักบ้าง อย่างไรก็ยังแอบคิดว่าคนที่เหมาะสมกับบุตรชายคือภรรยาคนปัจจุบัน คนที่นางรักและเอ็นดูมาตั้งแต่เด็กๆ ธเนศใช้เวลาไม่นานก็ขับรถมาจนถึงบ้านของคนรักที่ส่งกำลังยืนส่งยิ้มละมุนมาให้กันอยู่ไกลๆ เขาเดินออกไปรับเธอที่หน้าบ้านก่อนจะช่วยปิดประตูให้ด้วยตัวเอง “ป่านอยากไปไหนครับวันนี้ บอกมาได้เลยครับ วันนี้ผมว่างทั้งวัน” ป่านฤทัยอดแปลกใจไม่น้อยเมื่อไม่ได้เห็นใครบางคนที่มักจะตัวติดกับธเนศมาด้วยวันนี้ และเหมือนเขาจะรู้ถึงความสงสัยจึงได้เอ่ยเฉลยออกมา “ทรายเขาต้องช่วยคุณแม่วางแผนเรื่องจัดงานวันเกิดครับ เลยไม่ได้มาด้วย วันเกิดแม่ผมป่านต้องไปให้ได้นะครับ ผมอยากให้ป่านไป” หญิงสาวยิ้มรับก่อนจะตอบ “วันเกิดของคุณแม่วินทั้งที ป่านจะพลาดได้ยังไงคะ ถ้าอย่างงั้นเอาแบบนี้ดีไหมคะ ป่านว่าวันนี้เราช่วยกันเลือกของขวัญวันเกิดให้ท่านดีกว่า” “ก็ดีครับ” ธเนศเห็นด้วยในทันที เหมือนจะรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างมารดาและคนรักไม่ค่อยดีเท่าที่อยากจะให้เป็น อาจเป็นเพราะเธอต้องไปทำงานไกลกัน เวลาที่จะเดินทางไปเยี่ยมท่านจึงน้อยลงไปด้วย ถึงกระนั้นเขากลับไม่ได้นึกโทษโกรธเธอ เพราะเห็นว่ามันคือความจำเป็น ชายหนุ่มพาคนรักไปเลือกซื้อของขวัญให้มารดาก่อนจะพาเธอแวะทานข้าวที่ร้านอาหารเจ้าประจำของตัวเอง ที่มักจะแวะมากับอีกคนบ่อยๆ “ทานเยอะๆ นะครับป่าน ผมจำได้ว่าป่านชอบ” การที่คนรักเอาอกเอาใจมันเป็นเรื่องที่ดี หากแต่บางสิ่งที่เขาเพิ่งจะเอ่ยออกมานั่นต่างหากที่ทำให้ชะงักงัน นั่งมองกุ้งตัวโตที่เพิ่งจะถูกตักมาใส่จานให้ก่อนจะเอ่ยถาม “ป่านน่ะเหรอคะชอบ” ธเนศเริ่มใจคอไม่ดียามเมื่อได้เห็นสีหน้าบึ่งตึงของคนรักหลังจากได้ฟังคำตอบ มันทำให้เขาต้องรีบถามกลับไปรัวเร็ว “ไม่ใช่เหรอครับ” “ป่านแพ้กุ้งค่ะวิน เผลอทานเข้าไปทีไรผื่นขึ้นตลอดเลย วินคงจำผิดแล้วล่ะคะ” คำตอบนั้นทำให้ธเนศชะงัก ก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่ากุ้งมันไม่ใช่ของโปรดของคนรัก แต่ดันเป็นของโปรดของอีกคนที่ไม่ได้มาด้วยกัน “นี่แกอย่าแย่งฉันสิ! กุ้งตัวนี้ฉันอุตส่าห์เก็บเอาไว้กินทีหลังนะ!!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD