Chapter 1 เจ้าสาวไร้ค่า
ฆาตกร!
สวะ!
ร่างบอบบางในชุดเจ้าสาวสีแดงมงคลนั่งตัวสั่นเทิ้มอยู่บนเตียงกว้าง มือบางบีบเข้าหากันแน่น เม้มริมฝีปากสีชาดเป็นเส้นตรงด้วยความหวาดกลัว
ปั้ง!
ออกไป!
ขยะ!
หญิงสาวสะดุ้งครั้งแล้วครั้งเล่าเมื่อมีสิ่งของปามาถูกประตูห้องหอ บ้างก็มีลูกดอกปาทะลุบานหน้าต่างเข้ามาเฉียดใบหน้าของนางไปเพียงน้อยราวกับต้องการข่มขวัญหมายให้นางวิ่งหนีออกไปจากจวนสกุลถางราวกับสุนัขจนตรอกที่น่าสมเพช
ก่อนหน้านี้สองชั่วยามขบวนเจ้าสาวถูกส่งตัวจากสกุล ‘หู’ มายังสกุล ‘ถาง’ ตลอดทางคนของสกุลถางออกไปขว้างปาผักเน่า ผลไม้เน่า ไข่เน่าใส่ขบวนเจ้าสาวด้วยความเกลียดชัง
เมื่อ ‘หูเส่าหลิง’ ก้าวลงจากเกี้ยวเจ้าสาว เหยียบย่างลงบนผืนดินของสกุลถาง นางกลับไม่ได้รับการต้อนรับอย่างที่ควรจะเป็น
แววตาชิงชัง
ถ้อยคำด่าทอ
อีกทั้งยังไร้เงาของเจ้าบ่าวออกมาต้อนรับ
พิธีทุกอย่างถูกรวบจบโดยไวที่สุดเมื่อซื่อกงกงคนสนิทขององค์ฮ่องเต้เดินทางจากวังหลวงมาควบคุมพิธีวิวาห์คลุมถุงชนนี้ด้วยตนเอง แน่นอนว่าคนตระกูลถางไม่อาจขัดขืน ได้แต่ยืนกัดฟันด้วยความคับแค้นใจ
‘ฮ่องเต้มีรับสั่งให้แม่ทัพถางมีบุตรในเร็ววัน!’
คำประกาศสิ้นสุดพร้อมกับใบหน้าทะมึนตึงของเจ้าบ่าวที่จ้องมองมายังเจ้าสาวราวกับจะแล่เนื้อเถือหนัง
‘จะอ้วก!’
เขาสบถออกมาแผ่วเบา แต่ดังพอที่จะทำให้เจ้าสาวข้างกายได้ยินชัดเต็มสองหู เส่าหลิงหน้าร้อนผ่าวด้วยความอับอาย กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก กล้ำกลืนฝืนทนอย่างสุดกำลังที่จะไม่ร้องไห้แสดงความอ่อนแอออกมา
นางร้องไห้มามากพอแล้ว
นางร้องไห้มาทั้งชีวิตนับตั้งแต่จำความได้
นางเคยคิดว่าวันหนึ่งเมื่อนางแต่งงานออกเรือนหันหลังให้กับสกุลหูของบิดาเมื่อไหร่ ชีวิตของนางคงราวกับพ้นจากขุมนรก
ทว่าไม่เลย...
การแต่งงานที่เป็นความหวังดับวูบ เมื่อนางต้องแต่งงานกับบุตรชายคนโตของสกุล ‘ถาง’ ใครต่างก็รู้ว่าความเกลียดชังของสกุล ‘หู’ และสกุล ‘ถาง’ ยาวนานเพียงใด ความแค้นไม่มีวันหมดไปมีแต่จะเพิ่มทวีคูณนับอนันต์
‘ถางอี้เฟย’ ประมุขของตระกูล ‘ถาง’ ถูกลอบวางยาพิษให้ตายอย่างโหดเหี้ยม แน่นอนว่าผู้ต้องสงสัยไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น ‘หูจุนเหลียน’ บิดาของนางนั่นเอง
ไฟแค้นแผดเผายิ่งกว่าเปลวไฟลามทุ่งข้าวที่แห้งกรัง ลุกโชนดั่งว่ามีลมพายุกระพือโหม สองฝ่ายต่างลอบสังหารคนของกันและกันไปมา ตายตกราวกับผักปลา
ร้อนถึงพระเนตรพระกรรณองค์ฮ่องเต้ที่ต้องการให้สองตระกูลปรองดองกัน จึงมีพระราชโองการให้ตระกูล ‘หู’ ส่งบุตรสาวให้ไปแต่งงานกับ ‘แม่ทัพถางเล่อถง’ บุตรชายคนโตของตระกูล ‘ถาง’
เหวนรกจึงมาจ่อที่ปลายเท้า บุตรสาวไร้ค่าจากอนุภรรยาปลายแถวอย่างนางจึงถูกผลักลงไปในหุบเหวมืดมิดอย่างไม่ลังเล
มือเล็กจับชายผ้าคลุมหน้าสีแดงนิ่งนาน จังหวะที่กำลังจะดึงผ้าคลุมหน้าออกด้วยตนเองนางก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินใกล้เข้ามา
หูเส่าหลิงหยุดนิ่ง เลื่อนมือบอบบางลงมาวางไว้บนหน้าตักก่อนจะประสานเข้ากับมืออีกข้าง บีบแน่นจนรู้สึกได้ถึงหยาดเหงื่อชื้นมือ จนกระทั่งบานประตูห้องหอถูกกระชากเปิดออกอย่างแรง
โครม!
นางมองผ่านผ้าคลุมหน้าเจ้าสาว เห็นว่าเป็นบุรุษรูปร่างสูงใหญ่ รูปร่างเค้าโครงเช่นนี้นางจำได้ตั้งแต่ตอนทำพิธีกราบไหว้ฟ้าดิน
เขาคือ ‘แม่ทัพถางเล่อถง’ ผู้เป็นเจ้าบ่าวนั่นเอง
หญิงสาวนิ่วหน้าด้วยความแปลกใจ นางคิดว่าเขาคงไม่มาเหยียบห้องหอเป็นแน่เพราะเขาเกลียดชังนาง เกลียดชังบิดาของนาง เกลียดชังทุกชีวิตในสกุลหูเข้ากระดูก
เส่าหลิงยืดตัวตรงเมื่อเห็นว่าแม่ทัพถางเดินมาหยุดยืนอยู่เบื้องหน้า
หึ!
เสียงแค่นหัวเราะเย้ยหยันในลำคอจากคนตัวโตทำให้หญิงสาวรู้สึกราวกับมีก้อนหินแล่นมาจุกอยู่ที่ลำคอ ขอบตาของนางร้อนผ่าว บิดาจะรู้หรือไม่ว่าการที่ท่านผลักไสนางมายังสกุลถางเป็นการฆ่านางให้ตายทั้งที่ยังหายใจ
บิดาอาจจะรู้ และใช่... บิดาอาจจะจงใจส่งนางมาตายอย่างไม่ต้องสงสัย
ในเมื่อนางไม่ใช่บุตรสาวคนโปรด
ในสายตาของบิดานางก็ไม่ต่างจากสาวใช้คนหนึ่ง แม้จะมีศักดิ์สูงกว่าสาวใช้ แต่ก็ไม่อาจตีเสมอบุตรสาวคนอื่นๆ ที่เกิดจากภรรยาเอก หรือแม้แต่บุตรสาวจากอนุภรรยาที่มาจากตระกูลที่มีหน้ามีตาในสังคม หาใช่อนุภรรยาที่เลื่อนขั้นจากสาวใช้เฉกเช่นมารดาของนาง
บุตรสาวของสกุลหูนั้นมีทั้งหมดเก้านาง ทุกนางล้วนงดงามจนเป็นที่โจษขาน ได้ออกงานสังคม ได้ไปงานเลี้ยงน้ำชา ร่วมงานรื่นเริง งานชมดอกไม้ตามจวนขุนนางสูงศักดิ์
ยกเว้นนางที่ต้องหมกตัวอยู่แต่ในครัว แทบไม่ได้แหงนเงยใบหน้ามองดวงตะวันเสียด้วยซ้ำไป นั่นเพราะบิดาอับอายที่ให้กำเนิดนางออกมา
“ว้าย!”
แล้วโดยที่เส่าหลิงยังไม่ทันตั้งตัวแม่ทัพถางก็กระชากผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวออกอย่างแรง
พรึบ!
กระชากแรงจนผ้าคลุมเกี่ยวเอาปิ่นปักผมหลุดกระจายร่วงหล่นพื้น ผมที่ม้วนมวยสยายออกจนละเอวคอด ใบหน้าของนางตื่นตระหนกด้วยไม่คิดว่าเขาจะกระทำป่าเถื่อนกับนางเช่นนี้
“พร้อมที่จะผสมพันธุ์หรือยัง!”
น้ำเสียงห้วนกรรโชกราวกับราชสีห์คำรามใส่ลูกกระต่ายตัวน้อย เส่าหลิงเม้มริมฝีปากเข้าหากันเป็นเส้นตรง แหงนหน้ามองใบหน้าของผู้ที่กำลังจะเป็นสามีของนางเต็มสองตา
พลันหัวใจก็กระตุกแรง...
เขาหล่อร้าย ใบหน้าคมชัด ดวงตาคมกร้าวราวกับนัยน์ตามังกร สันกรามหนารับกับใบหน้าดุดัน รูปร่างสูงใหญ่เต็มไปด้วยมัดกล้าม
ไม่แปลกใจเลยเหตุใดทหารในกองทัพจึงตั้งฉายาให้เขาว่า ‘เหยียนหลัวหวาง[1]’ เพราะร่างที่สูงใหญ่ น้ำเสียงที่ห้าวแหบ และดวงตาที่จดจ้องมายังศัตรูราวกับจะฆ่าฟันให้ตายตกทุกเวลานั้นล้วนเต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งบุรุษเพศ
หากไม่ใช่เพราะแม่ทัพถางติดพันการรบ มีหรือที่บิดาของนางจะลอบส่งคนมาวางยาพิษประมุขสกุลถางได้ นางรู้มาตลอดว่าบิดาใช้วิธีสุนัขลอบกัด ในขณะที่สกุลถางสู้อย่างราชสีห์มาโดยตลอด
“ทันทีที่เจ้าตั้งครรภ์ตามพระบัญชาขององค์ฮ่องเต้ ข้าก็จะไม่แตะต้องเจ้าอีก ต่างคนต่างอยู่”
แม่ทัพถางประกาศย้ำชัด ก่อนจะจับจ้องไปตามใบหน้าหวานล้ำและรูปร่างผอมบางภายใต้ชุดเจ้าสาวมงคลสีแดงของอีกฝ่าย
‘งาม’
‘งามปานจะล่มเมือง’
งดงามแล้วอย่างไรเล่า หากความงามนั้นแพศยาก็หาได้มีค่าไม่ บุตรสาวของตระกูลหูนั้นเลื่องชื่อนัก ความแพศยาเจ้ามารยาขจรขจาย มีผู้ชายมากหน้าหลายตาต้องสังเวยชีวิตเพราะพิษรักที่พวกนางปักลงกลางหัวใจจนเน่าเฟะ
ไม่เว้นแม้แต่สหายสนิทของเขา ‘จ้าวเจี้ยนโป’ ก็ตายเพราะหญิงแพศยาอย่างหูเส่าหลิงมาแล้ว
[1] พญายม