ตอนที่ 2 สักวันก็ต้องไปจากกัน
หมวยเล็กยิ้มให้เพื่อนก่อนจะยักคิ้วให้หนึ่งที เธอก็เป็นคนอย่างนี้ ไม่ชอบให้ใครมองว่ากำลังอ่อนแอ เธอหันไปทางไอ ผู้หญิงที่เพียบพร้อมทั้งฐานะและหน้าตา ก่อนจะส่งยิ้มแล้วเชิญให้เธอไปนั่งที่ของลูกค้า
“เชิญค่ะ”
“เพลิงจะรออยู่ที่นี่หรือไปเดินเล่นก่อนก็ได้นะ คงนาน กลัวเบื่อ”
“อืม เดี๋ยวเราไปทำธุระก่อน”
หมวยเล็กไม่คิดจะหันไปมองเขาด้วยซ้ำจึงไม่รู้ว่าเวลานี้เขาจะมองเธออยู่หรือเปล่า ก็แค่หันหลังให้ มันก็ไม่ต้องเจ็บปวด เธอเชื่อว่าอย่างนั้น แต่ทำไมมันยังเจ็บที่ได้ยินแค่เสียงเขาอยู่ดี
น่าขำชะมัด ก็ไม่คิดว่าเขาจะทำกันได้ขนาดนี้ ใจร้ายเกินไปไหม ไอ้พี่เพลิง !
จริงอยู่ที่ว่าเธอรู้สถานะตัวเองมาตลอดและรู้ว่าเขาให้เป็นได้แค่ไหน แต่คนที่มันนอนด้วยกันเกือบทุกคืน มันก็ต้องมีบ้างละที่จะรู้สึกดีต่อกัน แล้วมันจะไม่ใจร้ายไปหน่อยหรือที่เขาพาผู้หญิงที่เขารักมาหยามเธอที่เป็นได้แค่คู่นอนของเขาถึงที่
แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นเธอจะทำอะไรได้ล่ะ นอกจากอยู่เงียบ ๆ อยู่อย่างเจียมตัว อยู่ในที่ของตัวเอง
“ลูกค้ามีลายมาเองหรือเปล่าคะ”
“ค่ะ ไออยากทำลายนี้”
สาวสวยตรงหน้าระบายยิ้มแล้วยื่นเครื่องมือสื่อสารราคาแพงส่งมาให้หมวยเล็กดูลวดลายที่ต้องการ คนยื่นมือไปรับพยายามอย่างหนักที่จะไม่ให้มีอาการประหลาดให้อีกคนต้องสงสัย ทว่ามือเล็กกลับสั่นอย่างกับอดข้าวมาทั้งวัน
“ไม่ต้องตื่นเต้นนะคะ ถ้าลายยากไปบอกไอได้เลย”
“อ้อ ไม่ค่ะ หมวยทำได้”
เธอฝืนยิ้มบอกกับอีกคนแล้วส่งเครื่องมือสื่อสารกลับไปให้เจ้าของ เดินเข้าไปเอาอุปกรณ์ พวกอะไหล่ที่ต้องใช้ หยิบสีที่ชั้นวางสามสีในโทนเดียวกันก่อนจะกลับมานั่งประจำที่ของตัวเอง
หมวยเล็กลอบมองลูกค้าคนสำคัญของร้านและเป็นคนสำคัญของเขาคนนั้น เธอมีอะไรเทียบเคียงผู้หญิงคนนี้ได้บ้างนะ
ไม่มีเลย
ทั้งสวย รวย เก่ง เหมาะกับเขาทุกอย่าง ส่วนตัวเองก็เป็นผู้หญิงที่เขาเอาเล่น ๆ เพื่อคั่นเวลา
“ตัวเองชื่ออะไร ไอน่าจะได้มาบ่อย ๆ เรามาทำความรู้จักกันดีไหมคะ เผื่อวันหลังไอจะติดต่อมาหาช่างโดยตรงเลย”
“ชื่อหมวยเล็กค่ะ” เจ้าของชื่อบอกเสียงเบาระหว่างที่กำลังทำความสะอาดหน้าเล็บให้กับลูกค้า
“ขอเสียมารยาทถามอายุได้ไหม หน้าเด็กมากเลย”
ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายตั้งใจชมกันจริงไหม แต่ใบหน้าสวยนั้นก็ยิ้มตลอด ทว่าระหว่างที่สายตาของทั้งคู่สบประสานกัน หมวยเล็กกลับรู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง
“ยี่สิบสองค่ะ” อีกแค่เดือนกว่าเธอก็อายุยี่สิบสองแล้ว ถึงตอนนั้นก็เรียนจบพอดี
“รุ่นน้องจริง ๆ ด้วย เด็กกว่าไอหนึ่งปี เรียกว่าน้องหมวยเนอะ”
หมวยเล็กรู้อยู่แล้ว ก็เพราะเมื่อปีก่อนเธอได้รับรู้ว่าผู้หญิงคนนี้มีตัวตนอยู่ในใจของเขา มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เธอจะสืบจนรู้ว่าเป็นใคร ผู้หญิงเกือบทุกคนมักจะเก่งเรื่องพวกนี้เสมอ ถ้าอยากรู้ต้องได้รู้
ถึงแม้ว่าเธอจะเคยถามถึงไอ แต่เพลิงก็ไม่เคยบอก เขาบอกแค่ว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ต้องรู้แล้วควรต่างคนต่างอยู่ เขาไม่ต้องการให้เธอไปก้าวก่ายเรื่องส่วนตัว คงรวมไปถึงห้ามยุ่งวุ่นวายกับผู้หญิงของเขา
“แบบนี้ที่ร้านคิดราคาเท่าไรกันคะน้องหมวย”
หลังจากที่เงียบไปนาน หมวยเล็กกำลังตั้งอกตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองอยู่ก็ถูกตั้งคำถามอีกครั้ง เธอเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายแล้วหลุบตามองลวดลายบนเล็บก่อน
“ปกติพี่มัดหมี่จะเป็นคนกำหนดราคาหรือแจ้งลูกค้าก่อนค่ะ พี่หมี่ไม่ได้แจ้งคุณไว้เหรอคะ” เธอไม่สนิทใจที่จะเรียกอีกฝ่ายว่าพี่จึงใช้สรรพนามมาตรฐานแบบนั้นไป
“ไม่นะ สงสัยจะลืม พี่ก็ไม่ได้ถามด้วยสิ”
“น่าจะประมาณสองพันบาทค่ะ”
ทั้งทาสีสามสี เพ้นท์ลาย ปั้นนูนลวดลายยาก ๆ แถมยังติดอะไหล่เพิ่ม ราคานี้ไม่เกินจริงสำหรับร้านดังและอยู่บนห้างสรรพสินค้าดังแบบนี้ เธอถึงบอกว่ารายได้ของเธอที่นี่ค่อนข้างดีทีเดียว
“อ้อ แล้วช่างต้องได้เท่าไรนะ”
หมวยเล็กไม่ตอบเธอทำเพียงแค่ยิ้มแล้วทำหน้าที่ของตัวเองไม่กี่นาทีต่อมาอีกฝ่ายก็เริ่มบทสนทนาต่อ
“นั่งหลังขดหลังแข็ง ได้เงินแค่นี้เองไม่คุ้มเลยเนอะ ทำอย่างอื่นได้เยอะกว่าอีกมั้ง”
ไม่รู้ว่ามันคือบทสนทนาหรือคำพูดลอย ๆ ที่อีกฝ่ายอยากให้เธอรับฟัง หมวยเล็กชะงักมือไปชั่ววินาที แกล้งยิ้มโดยที่ไม่เงยหน้าไปมองฝ่ายตรงข้าม
“เดี๋ยวสปาเท้าด้วยนะ”
“...ค่ะ”