บทที่ 4 ฮ่องเต้มาทำไมกัน?

1680 Words
            ครั้นทุกคนอิ่มหนำสำราญกันแล้ว หงซือซือก็ชวนทุกคนไปนั่งดื่มที่ระเบียงกว้างที่ยื่นลงไปในน้ำ “อีกไม่นานหมอกคงจะสลายแล้ว ยามนี้คงไม่มีใครคิดจะเข้ามาอีกหรอกเพราะค่ายกลจะน่ากลัวยิ่งกว่าค่ายกลหมอกแล้ว”             ตงชางขอตัวไปส่งเสื้อผ้าให้เสี่ยวเอ้อเอาไปซักให้ใหม่ โรงเตี๊ยมแห่งนี้มักมีผู้พลาดพลั้งตกน้ำไปเป็นประจำทำให้บริการซักรีดได้รับความนิยมอย่างมาก จอมยุทธ์ฉู่เจ้าของโรงเตี๊ยมยังหัวก้าวหน้าทำร้านขายเสื้อผ้าให้ลูกค้าได้ซื้อหาด้วยเพราะจอมยุทธ์ส่วนใหญ่มักจะเดินทางโดยไม่พกเสื้อผ้าไปด้วย พวกเขาเพียงแต่แบกกระบี่หรือดาบคู่ใจเท่านั้น ที่สำคัญร้านนี้ยังรับซื้อเสื้อผ้าเก่าของพวกเขาด้วย พระชายารู้เรื่องนี้จึงไม่ยอมให้พระสวามีเตรียมเสื้อผ้ามาด้วย นางตั้งใจจะมาซื้อเสื้อผ้าที่ร้านในโรงเตี๊ยมใส่เพราะได้ยินหงซือซือบอกว่าเสื้อผ้าที่ร้านนี้ปักลวดลายแปลกตาใช้เนื้อผ้าดีทนทานต่อการถูกคมอาวุธ “สุราที่นี่ก็เลิศรส เพราะจอมยุทธ์ฉู่ให้เถ้าแก่ขี้เมาแห่งตรอกคนโฉดหามาให้โดยเฉพาะไม่มีจำหน่ายที่อื่น” ท่านอ๋องเก้าที่มาเยือนโรงเตี๊ยมแห่งนี้หลายครั้งหันไปยืนยันกับภรรยา หานซู่ลี่ได้ยินก็ยิ้มกว้างรีบลากสามีไปยังระเบียงนั้น “เรารีบไปจองโต๊ะกันเถิด ข้าอยากนั่งชมจันทร์วิวทะเลสาบสวยๆ มานานแล้ว”  “เจ้าไม่ต้องห่วง ประเดี๋ยวข้าจะเลี้ยงสุราพวกเจ้าเองตามสัญญา” หงซือซือใช้ฝ่ามือตบอกตนเองสองสามที เมื่อได้ที่นั่งที่ถูกใจพร้อมกาสุราคนละกาแล้ว แต่ละคนก็รีบลิ้มรสเหล้าขึ้นชื่อที่เสี่ยวเอ้ออวดอ้างว่าหมักไว้กว่าสิบปีบนเทือกเขามังกรทะยาน อ๋องเก้ากระดกจอกเป็นคนแรกแล้วกล่าวชื่นชมออกมา “สมแล้วที่เป็นเหล้าหมักบนเทือกเขา รสชาตินุ่มลิ้นยิ่ง” หงซือซือดื่มไปสองจอกติดกัน นางมาที่นี่บ่อยกว่าทุกคนในโต๊ะ ทั้งมาพร้อมบิดามารดาและบางครั้งนางก็มาพร้อมพี่ชาย “สุราที่นี่ขึ้นกับโอกาสนะ หากเจ้าโชคดีบางทีก็จะได้ดื่มสุราที่มาจากเทือกเขาซงซานแถวบ้านเกิดเจ้า” นางเอ่ยกับหานซู่ลี่ “ดีจริง! เช่นนั้นข้าจะขอให้ท่านพี่พาข้ามาอีกคราวหน้า” พระชายาหันไปฉอเลาะสวามี เขายิ้มน้อยๆ เพราะรู้ว่าคงไม่อาจขัดใจภรรยาได้ “นี่ท่านจะตามใจนางจนเสียคนมิได้นะเพคะท่านอ๋อง” “สหายของผู้ใดก็อบรมกันเอาเถิด ข้าเห็นทีจะคัดค้านอันใดไม่สำเร็จ” หมิงหลีเหว่ยทำหน้าอ่อนอกอ่อนใจ เมื่อภรรยาหันมาแนบแก้มเข้าที่ต้นแขนเป็นเชิงประจบ หมอกค่อยๆ สลายไปจนหมด พระจันทร์ที่ยังไม่เต็มดวงดีทอแสงสุกสกาวสะท้อนบนผืนน้ำมืดดำกว้างใหญ่ มองไกลๆ เห็นร่องรอยหยักของภูเขาที่อยู่ลิบตาโอบล้อมรอบด้าน “ไม่คิดว่าอ๋องเก้าจะสุนทรีย์ถึงขนาดพาพระชายามาดื่มถึงที่นี่” เสียงที่ดังขึ้นข้างหลังทำเอาท่านอ๋องหันขวับ น้ำเสียงเช่นนี้มีคนผู้เดียวเท่านั้น “พี่สาม ท่านมาได้อย่างไร?” ชายหนุ่มร่างสูงสง่า ดวงตาเฉี่ยว จมูกโด่งเป็นสันตรง เส้นกรามที่คางชัดเจน ในชุดที่หงซือซือเคยเห็นแขวนไว้ด้านหน้าร้านเสื้อในโรงเตี๊ยมที่นางเพิ่งเดินผ่านมาเมื่อครึ่งชั่วยามที่แล้วทำให้เขาดูเป็นจอมยุทธ์ที่อาจหาญผู้หนึ่ง ‘มังกรขาวจอมเจ้าเล่ห์ มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน?’ หงซือซือร้องเอ็ดอึงในใจ     เมื่อวานนางเพิ่งคิดถึงเขาและหมายใจจะแปลงโฉมเข้าวังหลวงเพื่อสืบเรื่องต้นสกุลของตนเอง ทว่ายามนี้เขากลับมาปรากฏตัวต่อหน้าในสถานที่ที่ฮ่องเต้ไม่ควรจะเยี่ยมกรายมาถึง “ทำไมหรือ? ข้าก็เป็นจอมยุทธ์ผู้หนึ่ง ไม่มีสิทธิ์จะมาโรงเตี๊ยมนี่หรือไรกัน?” เขาเลิกคิ้วข้างหนึ่ง ในยามที่ไม่สวมชุดปักมังกรเหลืองอร่ามนั้นเขาช่างดูยียวนกวนประสาทดีแท้ พี่สามของท่านอ๋องเก้าถือวิสาสะนั่งลงข้างจอมยุทธ์หง บุรุษร่างบอบบางที่ยกสุราขึ้นดื่มโดยไม่มองหน้าผู้มาใหม่ซ้ำ “เจ้าจะไม่แนะนำให้ข้ารู้จักเพื่อนจอมยุทธ์ของเจ้าเลยหรือ?” หานซู่ลี่รีบทำความเคารพพี่สามในทันที ท่านอ๋องเก้าพลันนึกขึ้นได้รีบเอ่ยแนะนำ “พี่สามนี่คือจอมยุทธ์หงเพื่อนของลี่เอ๋อร์และหัวหน้าสวีผู้ดูแลสำนักคุ้มภัย   หงส์ไฟสาขาเมืองหมิง” “อ้อ! ยินดีที่ได้รู้จักพวกท่าน เรียกข้าว่าพี่สามก็พอแล้ว” แม้ท่านอ๋องเก้าจะไม่เอ่ยพระนามของฮ่องเต้แต่หัวหน้าสวีก็พอจะเดาฐานะ    พี่สามคนนี้ได้ว่าต้องเป็นหนึ่งในราชวงศ์เป็นแน่ เพียงแต่เขาไม่เคยพบเจอฮ่องเต้จึงคาดไปไม่ถึงว่าเป็นคนผู้นั้น อ๋องเก้าสบตาพี่ชายคล้ายอยากจะถามสาเหตุที่เขาเดินทางมาที่นี่ เสี่ยวเอ้อสองคนยกโต๊ะเตี้ยขึ้นไปตั้งบนเวทีที่อยู่มุมระเบียงด้านหนึ่ง “แขกผู้เกียรติทุกท่าน วันนี้เรามีนักเล่านิทานอันดับหนึ่งในยุทธภพมาให้ความบันเทิง ผู้คนเรียกขานท่านผู้นี้ว่า นักเล่านิรนาม ขอเชิญรับฟังได้แล้วขอรับ” ชายชราผมขาวโพลนผู้หนึ่งเดินขึ้นบนเวทีไปนั่งประจำที่ บนโต๊ะมีเพียงไม้ทรงสี่เหลี่ยมอันหนึ่งไว้เคาะให้จังหวะ ด้านหลังมีชายหนุ่มนั่งประจำอยู่ข้างกลองคอยรัวเรียกความสนใจ เมื่อผู้เล่านั่งลงเรียบร้อย ชายผู้นั้นก็รัวกลองดังขึ้น “ข้ามีเรื่องราวเล่าขานในยุทธภพให้พวกท่านฟังมากมาย วันนี้มาถึงโรงเตี๊ยมยุทธภพย่อมจะต้องเลือกเรื่องที่น่าสนใจมาให้พวกท่านฟังเป็นแน่ เรื่องร่ำลือหนึ่งที่เพิ่งกลับมาอยู่ในความสนใจของเหล่าจอมยุทธ์ทางแคว้นตอนเหนือคือวิชาแปลงโฉม บัดนี้ได้ปรากฏผู้มีความสามารถนี้ขึ้นที่แคว้นเว่ย คนผู้นี้ร้ายกาจยิ่งนัก ปลอมตัวเป็นเจ้าเมืองฉางเฉิงอยู่ได้ปีกว่า ภรรยาเจ้าเมืองรู้สึกสงสัยที่สามีผู้เคยโปรดปรานอนุภรรยา   ทั้งสองกลับไม่ยอมไปมาหาสู่กับพวกนาง ซ้ำยังทำตัวห่างเหินกับบุตรทั้งสาม ในยามรับประทานอาหารสิ่งที่เคยชื่นชอบกลับมิชอบ เขาอ้างว่าตนเองนั้นมีอาการเจ็บป่วยจึงเริ่มไม่ชอบอาหารชนิดเดิมขอให้ภรรยาทำอาหารอย่างใหม่ให้ ทีแรกนางก็เอาใจสามี แต่ต่อมาพบว่าสามีทำตัวเปลี่ยนไปจากเดิมทุกสิ่ง จึงเริ่มจับผิด ปกติแล้วในหนึ่งสัปดาห์สามีของนางจะต้องมานอนกับนางหนึ่งคืน ทว่าปีหลังมานี้เขากลับเก็บตัวอยู่ในเรือนตนเองและอ้างว่างานเยอะงานยุ่ง เจ้าเมืองฉางเฉิงปลดคนรับใช้สตรีที่อยู่เรือนตนเองออก ไปซื้อทาสชายมาทำงานแทนสองคน ทาสชายที่เขาซื้อมาล้วนเป็นบุรุษรูปร่างกำยำหน้าตาคมคายนัก” นักเล่านิรนามเคาะไม้กับโต๊ะหนึ่งครั้ง “คนใกล้ชิดมักจะเป็นผู้รู้ดีที่สุดว่าคนในครอบครัวตนเปลี่ยนไปเพียงใด?” กลองข้างหลังรัวไปอีกเจ็ดแปดครั้ง “ฮูหยินของเจ้าเมือง ข้องใจยิ่งจึงแอบไปดูในยามค่ำคืนว่าสามีของตนอยู่อย่างไร? สามคืนแรกก็เห็นว่าเขาอาบน้ำแล้วเข้านอนตามปกติ นางก็ยังไม่ถอดใจ เพราะคิดว่าสามีตนเองต้องไม่อาจซ่อนเรื่องที่แอบทำไว้ได้นาน คืนที่สี่ฮูหยินและสาวใช้คนสนิทก็ยังพากันไปแอบดูซ้ำอีกครั้ง คราวนี้นางถึงกับตาสว่างเมื่อได้เห็นสามีของนางลงอ่างไม้อาบน้ำพร้อมกับทาสชายคนหนึ่ง ทั้งสองหยอกล้อต่อกระซิกกันราวกับสามีภรรยา ที่น่าตกใจยิ่งกว่านี้ สามีของนางเข้าฟอนเฟ้นร่างกายของทาสชายอย่างหลงใหลและร่วมรักกับคนผู้นั้นในอ่างน้ำ” เขาผ่อนลมหายใจและทอดน้ำเสียงเนิบช้า “ฮูหยินแทบจะลมพับลงไป ทว่าสาวใช้ของนางประคองร่างเอาไว้ได้ พร้อมกระซิบให้นางดูให้จบ” กลองรัวอีกเจ็ดแปดครั้ง เร่งเร้าให้คนฟังทั้งหลายตื่นเต้น หงซือซือนิ่งขึง นางฟังด้วยใจลุ้นระทึกเรื่องนี้เกี่ยวพันกับครอบครัวนางโดยตรง วิชาแปลงโฉมนี้หากมิใช่ครอบครัวนางแล้ว ยังมีผู้ใดอีกเล่าที่นางไม่รู้? ****************** ไรท์แนะนำ.....นิยายซีรี่ย์นี้มีทั้งหมด 6 ภาคด้วยกัน (เขียนถึงต้นสิงหาคม 2564) ซึ่งแต่ละเรื่องสามารถอ่านแยกกันได้ เพียงแต่ตัวละครจะรู้จักหรือเป็นญาติกันคะ่ เรื่องที่ 1 "ท่านอ๋องอย่าคิดหนี" เรื่องที่ 2 "ท่านอ๋องเป็นของข้า" พระเอกคือ หมิงเฉินกง เป็นน้องชายของพระเอกภาค 1 เรื่่องที่ 3 "ท่านอ๋องกับชายาหมี" พระเอกคือ ท่านอ๋องเก้า เป็นน้องชายของพระเอกภาค 1 เรื่องที่ 4 "ท่านหญิงจีจอมพลัง" พระเอก คือ ฟ่านหลี่เจี๋ย เป็นพี่ชายของนางเอกภาค 1 เรื่องที่ 5 "ซือซือ ฮองเฮาพันโฉม" พระเอกคือ ฮ่องเต้หมิง พี่ชายของพระเอกภาค 1 เรื่องที่ 6 "สายลับจับอ๋องใหญ่" พระเอกคือ องค์ชายจินเสวี่ยหลงพี่ชายของนางเอกภาค 2 ทุกเล่มมี EBOOK จำหน่ายค่ะทางเว็บไซต์ขายอีบุ๊กหลายเว็บนะคะ.....ติดตามข้อมูลนิยายของไรท์ได้ทางเฟสบุ๊กจ้า https://web.facebook.com/Chaomuangtawanok2057 จำนวนตัวอักษรแก้ไข
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD