ตอนที่ 15
ทางด้านเขมชาติก็รู้สึกไม่ต่างไปกับหญิงสาวที่เขาเพิ่งจากมา แม้จะเห็นไม่เต็มตาแต่แววตาที่เจนจิราผู้ช่วยเลขาที่เพิ่งเข้ามาทํางานที่นี่เมื่อต้นเดือน ที่มองเขากับพริมโรสเป็นแววตาที่ไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่ ทําให้เขารู้สึกที่จะสงสัยไม่ได้ว่า พริมโรสกับเจนจิราเคยมีเรื่องอะไรกัน มาก่อนหรือเปล่า
เขมชาติคิดว่าคงไม่ใช่เพราะถ้าไม่ถูกกันจริง ป่านนี้พริมโรสคงอาละวาดแล้วไม่นิ่งเงียบมองด้วยความสงสัยเหมือนเขาหรอก
ชายหนุ่มรู้ดีว่าหล่อนสงสัยเจนจิราเหมือนกับเขา ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้พูดอะไรกัน ทําให้เขมชาติมั่นใจยิ่งขึ้นไปอีกว่า ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่จะเคียงข้างเขาได้ นอกจาก...พริมโรส
ถึงแม้ว่าตอนนี้พริมโรสจะยังไม่ยอมรับเขาก็ตามที แต่หล่อนก็ยอมอ่อนข้อให้เขาไปมากแล้ว ต่อจากนี้เขาคงต้องขยันตามจีบเธอให้มากกว่านี้
เขมชาติเดินไปยิ้มไปกับความคิดของตัวเอง เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีความรู้สึกแบบนี้ ความรู้สึกที่อยากจะจริงจังกับผู้หญิงเพียงแค่คนเดียว
บรรดาลูกน้องคนสนิทสบตากันหลังจากที่เห็นรอยยิ้มอย่างอารมณ์ดีของเจ้านาย ทั้ง ๆ ที่เรื่องที่จะเจอต่อจากนี้เป็นเรื่องคอขาดบาดตายทั้งนั้น ทําให้พวกเขารู้ว่าตอนนี้ความคิดของเจ้านายไม่ได้อยู่ที่เรื่องที่กําลังจะประชุมเลยแม้แต่น้อย พวกเขาอดที่จะเป็นห่วงไม่ได้
‘เจ้านายไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน...’
ชงคม กับคาร์ลอต ได้แต่หวังว่าพริมโรสจะคิดอย่างเดียวกับเจ้านายของตน และที่พวกเขามากที่สุดตอนนี้คือ พวกเขาหวังว่าเจ้านายกําลังรู้ตัวอยู่ว่ากําลังทําอะไรอยู่
ฝ่ายหญิงสาวสองคนก็จมอยู่กับความคิดของตัวเองไม่ต่างกันกับสองหนุ่ม พรรณารายรู้สึกดีใจกับเจ้านายตัวเองที่จะลงเอยกับใครสักคนจริง ๆ เสียที หลังจากทําตัวเป็นคาสโนวามานาน และตามความเห็นส่วนตัว เธอคิดว่า...พริมโรสแข็งพอเอาเจ้านายอยู่ ยิ่งแววตาอ่อนโยนที่มองหญิงสาวคนนั้นแล้ว พรรณารายยิ่งมั่นใจว่าผู้หญิงคนนั้นกําลังจะมาเป็นนายหญิงของที่นี่อย่างแน่นอน
ส่วนสาวสวยอีกคนที่อ่อนกว่าพรรณนารายคือ เจนจิรา ไม่ได้คิดอย่างนั้น ทุกอย่างผิดแผนไปหมด ผู้หญิงคนนั้นเป็นตัวการที่ทําให้ เขมชาติไม่สนใจเธอ ทั้ง ๆ ที่เธออุตส่าห์วางแผนมาแล้วอย่างดีที่จะทําให้เจ้าของบริษัทแห่งนี้ เจ้าพ่อธุรกิจที่ใคร ๆ ต่างเกรงกลัวหันมาสนใจตัวเธอ แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับมาขวางเสียก่อน แล้วอย่างนี้งานของเธอจ ประสบผลสําเร็จได้อย่างไร ดูท่าเขมชาติจะไม่ใช่คนโลเลเสียด้วย ชายคนนั้นแม้จะมีฉายาว่า ‘เสือผู้หญิง’ แต่จากที่ร่วมงานกันมาเกือบเดือนทําให้เธอรู้แล้วว่า เขมชาติเป็นคนที่หนักแน่นมั่นคงแค่ไหน ท่าทางงานนี้จะไม่ง่ายอย่างที่คิดไว้ตั้งแต่แรกเสียแล้ว ทางที่ดีต้องรีบกันผู้หญิงคนนั้นออกไป
‘ต้องรีบกําจัด...’
“อย่าให้ใครเข้าไปรบกวนการประชุมนะ และที่สําคัญอย่าให้ใครเข้าไปรบกวนพริมโรส” เขมชาติหันมาสั่งคุณพรรณารายและเจนจิราก่อนที่จะเข้าห้องประชุมไป
เมื่อประตูห้องประชุมเล็กถูกเปิดออก คนที่นั่งรออยู่ก่อนแล้วลุกขึ้นยืนอย่างพร้อมเพียงกัน ชายฉกรรจ์จํานวนหกคนที่นั่งรออยู่ในห้องแห่งนี้ แต่ละคนท่าทางเอาเรื่องอยู่ไม่ใช่น้อย
“ขอโทษครับที่ทําให้ทุกคนต้องรอ”
เขมชาติกล่าวขอโทษทันทีที่เข้ามาถึง ก่อนจะนั่งเป็นประธานตรงหัวโต๊ะ โดยมีชงคมกับคาร์ลอต ยืนขนาบข้าง ส่วนคนเหลือนั่งลงที่เดิมทันทีที่เขาพูดจบ
“ไม่เป็นไรครับ คุณเขม” ชายคนที่นั่งใกล้เขาทางซ้ายมือเป็นคนพูด
“ผมสารวัตรก้องเกียรติ...ยินดีที่ได้ร่วมงานกับคุณ”
“ผมเองก็เช่นกันครับ” เขมชาติตอบอย่างสุภาพ
“ตอนนี้ทางเราได้ส่งกําลังเจ้าหน้าที่เข้ามาทํางานที่นี่แล้ว คงต้องรอใช้เวลาสักระยะเพื่อรวบรวมข้อมูลหวังว่าคุณคงไม่ขัดข้อง และคงให้ความร่วมมือกับเราเป็นอย่างดีนะครับ” สารวัตรก้องเกียรติพูดเข้าเรื่องทันทีอย่างไม่ยอมเสียเวลา
“ทางผมไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว ถ้าทางสารวัตรต้องการอะไรเพิ่มเติมบอกกับคาร์ลอตได้ เขาจะเป็นคนประสานเรื่องนี้ทั้งหมด”
นํ้าเสียงที่เปี่ยมไปด้วยอํานาจของเจ้าพ่อหนุ่มทําให้สารวัตรมองหน้าอีกครั้งอย่างพินิจพิจารณาแล้วก็อดที่จะกลัวแทนลูกน้องของเขาไม่ได้
เขมชาติไม่ได้ดูน่ากลัวเพราะบรรดาลูกน้องหรืออํานาจเงินหนุนหลังอยู่ แต่ความน่าเกรงขามของชายหนุ่มคนนี้มาจากตัวเขาเอง ไม่ว่าจะ เป็นนํ้าเสียงที่เปี่ยมด้วยอํานาจ ท่าทางที่มีสง่า บุคลิกที่แฝงไปด้วยรัศมีแห่งความเป็นผู้นํา ทุกอย่างฉายชัดอย่างชัดเจนโดยไม่ต้องอาศัยอะไรมาเป็นส่วนประกอบ แม้ตอนนี้ชายหนุ่มจะอยู่ในชุดเรียบง่ายดูสบาย ๆ แต่รังสีแห่งความเป็นน่ากลัวยังแผ่ออกมาข่มขวัญคนอื่นได้
สารวัตรก้องเกียรติต้องยอมรับกับตัวเองว่า นอกจากความน่ากลัวของชายหนุ่มคนดังกล่าวแล้ว เขมชาติยังจัดเป็นคนที่มีเสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้ามอีกด้วย แม้แต่เขาที่เป็นผู้ชายด้วยกันเอง แค่คุยกันไม่กี่ประโยคเขา ยังรู้สึกถูกชะตากับคนตรงหน้าขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ
แล้วอย่างนี้ลูกน้องคนเก่งของเขาที่ถูกส่งมาประกบเขมชาติจะรอดพ้น จากเสน่ห์ของเจ้าพ่อคนนี้ไปได้หรือเปล่า ตัวเขาเองก็ยังไม่รู้จึงได้แต่รู้สึกเป็นห่วง และคอยเอาใจช่วยว่าลูกน้องของเขาจะไม่ตกหลุมไปกับแผนการของตัวเองเสียก่อน
“เรากําลังคุยถึงแผนการที่กําลังดําเนินกันอยู่ครับท่าน” ชายร่างใหญ่ไม่แพ้กันกับยักษ์คู่ที่นั่งฝั่งตรงข้ามสารวัตรก้องเกียรติพูดขึ้น
เขมชาติรับฟังแผนการต่าง ๆ ที่ถูกวางไว้อย่างตั้งใจ เขายอมรับว่า หลังจากได้พูดคุยกับสารวัตรก้องเกียรติแล้ว เขารู้สึกโล่งใจขึ้นเยอะว่างานนี้เขาได้คนดีมีฝีมือมาร่วมงานด้วย
แผนการต่าง ๆ ที่ทางฝ่ายตํารวจได้วางไว้รัดกุมกว่าที่เขาคิดไว้เยอะ ท่าทางสารวัตรจะเป็นคนฉลาดไม่เบา และท่าทีที่ไม่เกรงกลัวใครของสารวัตรหนุ่มนี้แหละที่ถูกใจเขาที่สุด
ในห้องนี้ฝ่ายตํารวจมีแค่สารวัตรกับลูกน้องอีกแค่คนเดียว ส่วนคนที่เหลือเป็นลูกน้องของเขาทั้งนั้น
กว่าจะพูดคุยสรุปแผนงานต่าง ๆ เสร็จ เวลาก็ล่วงไปถึงจะห้าโมงเย็นแล้ว เขมชาติจึงปิดการประชุมแล้วรีบเดินออกจากห้องทันทีเพราะความเป็นห่วงว่าพริมโรสจะหนีกลับเสียก่อน
แต่เขาต้องมีเรื่องให้คิดอีกจนได้ เพราะคําพูดของสารวัตรที่เอ่ย ออกมาขณะประชุมว่า
‘ผมคงไม่สามารถบอกจํานวนที่แน่นอนของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานนี้ทั้งหมดได้ เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ แต่ผมรับรองได้คํา เดียวว่า ลูกน้องผมที่ทํางานนี้เป็นคนที่มีความสามารถทุกคน และที่สําคัญเราจับตามองอย่างละเอียดทุกด้าน ๆ’
สารวัตรเองก็ร้ายกาจไม่ใช่เล่น จะใช้โอกาสตอนนี้ส่งคนมาสืบดู ความเคลื่อนไหวของเขาด้วยล่ะสิ เห็นทีเขาต้องระวังตัวให้มากกว่านี้เสียแล้ว
เขมชาติคิดขณะประชุมอยู่ ทําไมการที่เขาพยายามจะวางมือจากอํานาจมืดที่สืบทอดมาจากผู้เป็นบิดามันยากเย็นอย่างนี้ เขาแค่อยากดําเนินธุรกิจต่าง ๆ ให้ถูกต้องตามทํานองคลองธรรม แต่กลับถูกพวกหัวเก่าที่เคยทํางานร่วมกับบิดามาขัดขวาง และเมื่อเห็นว่า ขัดขวางไม่ได้ กลับฉวยโอกาสนี ้ใช้ชื่อเขาหาผลประโยชน์เข้าหา ตัวเอง ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เขารับไม่ได้
เมื่อเขาสั่งเลิกกิจการทุกอย่างที่ผิดกฎหมายของบิดา นั่นหมายถึงทุกอย่างและทุกคนต้องเลิก แต่กลับมีคนฉวยโอกาส ที่สําคัญเป็นคนใกล้ตัวเขานี่สิ ที่ทําให้เขาต้องคิดนัก และขอความช่วยเหลือจากทางการให้เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แม้ว่าจะถูกลูกน้องคนสนิททั้งสองคัดค้านแล้วก็ตาม
แต่เมื่อทางตํารวจเข้ามาเกี่ยวข้องกับใช้โอกาสนี้สอดส่องดูแลความประพฤติของเขา ทําให้เขมชาติรู้สึกที่จะท้อใจไม่ได้ว่า ทําไม...การที่เขาจะทําดีต้องมีคนระแวงสงสัยด้วย ทุกฝ่ายต่างฉวยโอกาสจาก การกระทําของเขาไม่ว่าเขาทําการสิ่งใด ไม่ว่าสิ่งนั้นจะดีหรือไม่ดีก็ตาม