บทที่7 สงสัย

1868 Words
ณ โรงแรมหรูตรงเคาน์เตอร์พนักงานต้อนรับปราภัทรสรกับมีนากำลังยืนฟังรับช่วงงานต่อจากกะกลางคืน คล้อยหลังเพื่อนร่วมงานออกไป ปราาภัทรสรก็หันไปเอ่ยพูดคุยกับมีนาทันที "นา เป็นอะไรหรือเปล่า" "ทำไมถามอย่างนั้นล่ะ นาไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย" "นา ไม่ได้โกรธอะไรแก้มใช่ไหม เมื่อวานตอนเย็นทำไมนาต้องทำท่าบึ้งตึงใส่แก้มด้วย แถมยังโทรไปคุยอะไรแปลกๆ ด้วย มีอะไรก็บอกแก้มมาตรงๆ เถอะ" "เราไม่ได้โกรธอะไรแก้มหรอก แก้มไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย เราควรจะโกรธตัวเองมากกว่า" "ทำไมเหรอ" ปราภัทรสรเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ "เปล่าหรอก ทำงานเถอะ" มีนารีบตัดบท "เรากับโอมจะหมั้นกันแล้วนะ นา" ปราภัทรสรเอ่ยข่าวดีออกไป "จริงเหรอ เราดีใจด้วยนะ ว่าแต่เมื่อไหร่เหรอ" มีนาแอบตกใจแต่ยังคงเก็บอาการเอาไว้ "ยังไม่รู้เลย คุณแม่เป็นคนหาน่ะ" "ยินดีด้วยนะ คงจะสมใจโอมเขาแล้วแหละ" มีนานึกถึงใบหน้าชายหนุ่มที่เธอไม่ยอมรับสาย "นาอย่าลืมไปร่วมงานด้วยนะ" "อืม งานสำคัญของเพื่อนสองคน เราไม่พลาดหรอก" "จ้ะ" ปราภัทรสรยิ้มรับ มีนานั่งมองหน้าจอโทรศัพท์ที่คมกฤษเพิ่งจะวางสายไป ที่เธอไม่ยอมรับสายจากชายหนุ่มเพราะกำลังสับสนกับตนเองอยู่ว่าเธอจะไปต่อหรือพอแค่นี้ หันไปมองปราภัทรสรที่นั่งอยู่ข้างๆ แวบหนึ่งเธอรู้อยู่เต็มอกว่าต่อให้ทำยังไงคมกฤษก็ไม่มีทางหันมารักเธอ เป็นได้แค่ที่รองรับอารมณ์ความต้องการของชายหนุ่มเท่านั้น ซึ่งเธอเป็นคนเสนอตัวให้ชายหนุ่มตั้งแต่แรกเอง แต่จะให้ทำยังไงได้ ในเมื่อหัวใจของเธอมันเรียกร้องหาแต่คมกฤษชายหนุ่มที่เธอรักหมดหัวใจ เธอจะปล่อยให้ทั้งสองคนหมั้นหมายกันให้ชะล่าใจไปก่อน แต่จากนี้ไปเธอจะทำให้คมกฤษเป็นฝ่ายวิ่งไล่ตามเธอ จะทำให้ชายหนุ่มขาดเธอไม่ได้ จนมันทำลายความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ไปเอง มีนายกยิ้มมุมปากพร้อมกับพิมพ์ข้อความ "อย่าโทรมาให้เสียเวลาเลย เราจบกันแค่นี้เถอะ" ส่งให้คมกฤษ และก็เป็นไปตามที่คิดคมกฤษโทรกลับมาหาเธอพร้อมกับส่งข้อความตามมา "เจอกันที่คอนโดเย็นนี้ เราต้องคุยกันให้รู้เรื่อง" ซึ่งเธอไม่ได้สนใจอะไร ตกเย็น ณ บ้านเช่าสองยายหลานกำลังนั่งทานมื้อเย็นด้วยกันอย่างเอร็ดอร่อย ชวนกันคุยเรื่องเมนูข้าวแกงที่จะทำขายในวันพรุ่งนี้เช้า ตามด้วยเรื่องหมั้นหมายที่กำลังจะเกิดขึ้น "ถ้าแก้มหมั้นกับโอมแล้ว ทำตัวดีๆ นะลูกให้เหมาะสมกับครอบครัวและฐานะของเขา" ยายบัวเอ่ยขึ้น "จ้ะ ยาย" ร่างบางยิ้มรับ "ว่าแต่ยังไม่รู้ใช่ไหมลูก ว่าได้ฤกษ์วันไหน" "ยังจ้ะ วันนี้โอมยังไม่ได้โทรมาบอกอะไรแก้มเลย อีกอย่างเราเพิ่งคุยกันเมื่อวานเอง แก้มว่าคงจะอีกนาน" "จ้ะ ลูก" กลางดึกภายในผับชื่อดังมีนาในชุดเดรสสั้นสายเดี่ยวสีครีมรัดรูปกำลังนั่งฟังเพลงไปเพลินๆ พลางจิบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปอย่างสบายอารมณ์ จนสายจากคมกฤษโทรเข้ามาอีกครั้งหลังจากที่วางไปไม่ถึงนาที มือบางจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสายด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม "ฮัลโหล" เสียงใสกรอกใส่ปลายสาย "ฉันโทรไปทำไมไม่รับสาย! ฉันบอกให้เธอมาหาฉันที่คอนโดไม่ใช่เหรอ ฉันรอเธอตั้งนาน! ทำไมไม่มา!" ปลายสายตะคอกใส่เธอด้วยอารมณ์เดือดดาล "เราบอกแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าเราจบกันแค่นี้ โอมกำลังจะหมั้นกับแก้ม เราไม่อยากเข้าไปแทรกกลางระหว่างใครอีกแล้ว" เอ่ยเสียงเศร้าสร้อย "เธออยู่ไหน" "โอมไม่ต้องรู้หรอก แค่นี้นะ" มือบางกดวางสายทันทีอย่างมีความสุข หลังจากที่มีนากดตัดสายคมกฤษไปชายหนุ่มก็พยายามนึกว่าเธอจะอยู่ที่ไหนได้ จนนึกขึ้นได้ว่าระหว่างคุยสายกับเธอ มีเสียงเพลงลอดเข้ามาในสายด้วย ชายหนุ่มคิดได้อย่างนั้นก็รีบบึ่งรถไปยังผับชื่อดังที่เขาไปประจำด้วยความรวดเร็ว ทันทีที่คมกฤษเดินเข้าไปถึงข้างในผับชายหนุ่มก็เห็นมีนากำลังนั่งคุยกับชายหนุ่มคนหนึ่งอย่างสนิทสนมกระซิบกระซาบพูดคุยส่งเสียงหัวเราะร่ามีความสุข ต่างจากเขาที่โกรธจนเลือดขึ้นหน้ากำมือแน่นยืนมองด้วยความเจ็บใจ โครม! เร็วเท่าความคิดคมกฤษเดินปรี่เข้าไปผลักชายหนุ่มแรงๆ จนตกเก้าอี้ลงไปกองกับพื้นโดยไม่ทันสังเกตว่าชายหนุ่มตรงหน้าเป็นใคร "โอ๊ย! ไอ้โอม นี่ฉันเอง แก่ผลักฉันทำไมวะ! เจ็บนะโว้ย" นิกเจ้าของผับเอ่ยต่อว่าเพื่อนสนิท "โทษทีว่ะ ฉันก็นึกว่าเป็นคนอื่น" คมกฤษเอ่ยเสียงราบเรียบเหมือนไม่ได้ทำอะไรผิด "มา นาช่วยค่ะ" ร่างบางหมายจะลงไปประคองร่างหนาลุกขึ้น "ไม่ต้อง ฉันเอง" คมกฤษจ้องหน้ามีนาด้วยความไม่พอใจ แล้วลงไปประคองเพื่อนลุกขึ้น "ทำไมต้องทำรุนแรงกับนิกเขาถึงขนาดนี้ด้วย" มีนาต่อว่าคมกฤษ "เพราะใครล่ะ" คมกฤษจ้องหน้ามีนา "นา ขอตัวกลับก่อนนะ นิก ไว้เจอกัน" มีนารีบคว้ากระเป๋าเดินหนีคมกฤษออกไปจากผับทันที "นา นา เธอจะไปไหน เรายังคุยกันไม่รู้เรื่องเลยนะ" คมกฤษรีบคว้าแขนมีนาให้หยุดเดิน "มีอะไรจะต้องคุยอีก"ร่างบางยอมหยุดยืนนิ่ง "ก็เรื่องของเราไง" "นายกำลังจะหมั้นกับแก้ม มันจบแล้ว ต่างคนต่างไปมันก็ถูกแล้ว" หมุนตัวหันหลังให้ชายหนุ่ม "หึ นี่เธอกำลังล้อเล่นกับฉันอยู่ใช่ไหม นา" "หึ ล้อเล่นอย่างนั้นเหรอ บางทีเราก็คิดนะ ถ้าเราเปิดใจคบกับนิก มันอาจจะทำให้เราลืมโอมไปได้" หันไปเผชิญหน้าชายหนุ่ม "ฉันไม่ยอม!" คมกฤษขบกรามแน่น "เราจะคบ นายจะทำไม นายไม่ต้องการเราอยู่แล้วนี่ เราจะอยู่ไปทำไมล่ะ" กอดอกทำท่าไม่รู้ไม่ชี้ "หุบปากเธอเดี๋ยวนี้นะ! อย่าพูดแบบนี้กับฉันอีก" "เราจะพูดนายจะทำไม!" ร่างบางขึ้นเสียงใส่ชายหนุ่ม "อื้อ! "ร่างบางถูกร่างหนาเข้าจู่โจมประกบปิดริมฝีปากด้วยความรวดเร็วโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ตรงหน้าผับโดยไม่สนใจผู้คนที่เดินผ่านไปมา ไม่กี่อึดใจก็ค่อยๆ ผละออกช้าๆ "กลับคอนโดกับฉันนะ" ร่างหนาจ้องใบหน้าเนียนไม่วางตา "อืม" ร่างบางพยักหน้าเป็นคำตอบ เมื่อทั้งสองคนไปถึงคอนโดก็พากันตรงไปทิ้งตัวลงนอนบนเตียงกอดจูบกันอย่างดูดดื่มหิวโหยในรสสวาทในกายกันและกัน ต่างฝ่ายก็ต่างใช้มือปลดเปลื้องเสื้อผ้าอาภรณ์ออกให้กันจนเปลือยเปล่าทั้งที่ริมฝีปากยังคงประกบจูบกันไม่ยอมห่าง จากนั้นก็เปลื่ยนท่วงท่าเล้าโลมก่อสร้างอารมณ์ให้กันจนลุกโชนร้อนเร่าสอดประสานกายเป็นหนึ่งเดียว จับจูงพากันไปสู่ความหฤหรรษ์อย่างสุขสมใจ "เรากลับก่อนนะ" ร่างบางเปลือยเปล่าลุกขึ้นนั่ง "เดี๋ยวก่อนสิ" มือหนารวบร่างบางเข้ามากอดแนบอก "มีอะไรจะคุยอีกเหรอ" "พรุ่งนี้เช้าค่อยกลับนะ" จูบไล้ไปตามซอกคอขาวเนียน "โอมทำแบบนี้ทำไม ปล่อยเราไปเถอะนะ เราไม่อยากจะสร้างปัญหาให้ใคร" "เราขอร้องอยู่ต่อเถอะนะ เราทำใจไม่ได้จริงๆ ถ้าจะไม่มีนาอยู่ข้างๆ " "แต่เราสงสารแก้ม เราไม่อยากจะทำร้ายแก้มลับหลังแบบนี้อีกแล้ว นาอยากให้โอมกับแก้มหมั้นกันอย่างมีความสุข ซึ่งเราก็ยินดี" "อย่าไปเลยนะ เราขอร้อง" กอดรัดร่างบางแน่นขึ้น "ถ้าเกิดว่าวันหนึ่ง นาเจอคนที่รักนาจริง นาก็คงต้องไป จะตอนนี้หรือตอนไหนก็เหมือนกัน ปล่อยนาเถอะ" ดิ้นจะผละออกจากร่างหนา "อย่าทำให้ฉันโกรธได้ไหม" กอดรัดร่างบางแน่นขึ้นไม่ยอมปล่อย "จะโกรธทำไม ในเมื่อโอมไม่ได้รู้สึกอะไรกับนาเลยสักนิด" "ฉันก็บอกเธออยู่นี่ไง ว่าฉันขาดเธอไปไม่ได้ อยู่ด้วยกันมาตั้งครึ่งปี เธอคิดว่ามันง่ายนักเหรอ" "ใช่ มันไม่ง่ายเลย" "เธอทำใจไม่รักฉันได้เหรอ" จ้องมองใบหน้าเนียน "ก็ได้ นาจะอยู่ต่อ จะไม่ไปก้าวก่ายเรื่องระหว่างโอมกับแก้มด้วย" ส่งยิ้มหวานให้ชายหนุ่ม "ได้ยินอย่างนี้ค่อยชื่นใจหน่อย ขอบคุณนะ นอนกันเถอะ" กกกอดร่างบางเอาไว้แล้วหลับตาลง ร่างบางซบหน้าลงแนบกับอกกว้างยิ้มมุมปากอย่างผู้ชนะ ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าจุดอ่อนของชายหนุ่มอยู่ตรงไหน ในเมื่อขาดเธอไปไม่ได้เธอก็จะคอยกระตุ้นมัน ให้ชายหนุ่มสนใจแต่เธอจนละเลยผู้หญิงอีกคนไป หนึ่งสัปดาห์ต่อมา ปราภัทรสรกับยายบัวกำลังนั่งพูดคุยกับมาลาภายในบ้านหลังใหญ่ถึงเรื่องงานหมั้นที่จะจัดขึ้นในอีกสามเดือนข้างหน้าด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม โดยมีคมกฤษนั่งร่วมวงสนทนาด้วยแต่ระหว่างนั้นชายหนุ่มก็ลุกออกไปคุยโทรศัพท์อยู่เป็นระยะ "ไม้ต้องห่วงอะไรนะคะ ทางเราจะจัดการให้ทุกอย่างเลย รอถึงวันงานอย่างเดียว" มาลาเอ่ยยิ้มแย้มมีความสุข "จ้ะ ขอบคุณมากนะจ๊ะ ที่เอ็นดูแก้มถึงขนาดนี้" ยายบัวส่งยิ้มให้มาลา "หนูแก้มน่ารักขนาดนี้ เป็นใครก็เอ็นดูค่ะ" มาลาส่งยิ้มให้ยายบัว "ว่าแต่เราจะไปเลือกแหวนวันไหนเหรอครับ" คมกฤษเอ่ยถามขึ้นหลังจากที่ออกไปคุยโทรศัพท์เพิ่งเสร็จ "ลูกว่างวันไหนล่ะ หนูแก้มด้วย" "ค่อยว่ากันก็ได้ครับ ไปทานข้าวกันเถอะ พอดีผมมีธุระด่วน" ร่างหนาเดินนำออกไปทันที หลังจากทานมื้อเย็นเสร็จคมกฤษก็บึ่งรถไปส่งสองยายหลานที่บ้านเช่าแล้วขอตัวกลับทันทีเพื่อไปรับมีนาไปเดินห้างดูหนังกันสองคน ท่าทางของชายหนุ่มที่เร่งรีบมันทำให้ปราภัทรสรแปลกใจ ยิ่งชายหนุ่มปฏิเสธไม่ให้เธอไปส่งที่รถเหมือนทุกครั้งมันยิ่งทำให้เธอแคลงใจสงสัยในตัวเขา ที่ดูเหมือนกำลังปกปิดอะไรบางอย่างสนใจแต่โทรศัพท์มือถือตนเอง เธอถามว่ามีธุระอะไรเขาตอบมาเพียงแค่ว่าไปหาเพื่อนแค่นั้น ซึ่งเธอไม่รู้ว่าจริงไหมยิ่งช่วงนี้คมกฤษไม่ค่อยจะโทรหาเธอเลย มันจึงทำให้เธออดที่จะสงสัยในตัวชายหนุ่มไม่ได้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD