บทที่ 3 ใจสั่นไหว

2239 Words
บทที่ 3 ใจสั่นไหว ฉันกัดฟันดังกรอดอย่างระงับอารมณ์ที่พุ่งพล่านขึ้นมาเพราะเด็กวัยเพียงแค่สิบเจ็ดปี เขาทำให้ฉันโมโหสุดจะทน ฉันอายุยี่สิบปี ห่างกันแค่สามปีเอง ไม่เห็นต้องมาเรียกป้าเลย! “อย่าพูดหยาบคายอย่างนั้นสิ เรียกพี่ว่าพี่ต้นหอมสิจ๊ะ” ฉันเสแสร้งส่งยิ้มอย่างเป็นมิตรมากที่สุด “ยัยป้า ไม่ต้องมาเสแสร้งแกล้งทำเป็นยิ้มหรอก ฉันดูเธอออกนะ” ร่างสูงหรี่ตามองอย่างรู้ทัน ก่อนจะก้าวขาทีละก้าวมาจนถึงร่างบางที่ยืนนิ่งอยู่กับที่ไม่ขยับไปไหน ร่างบางเริ่มรู้สึกตัวว่าร่างสูงนั้นเขยิบเข้ามาใกล้ๆตัวเรื่อยๆ จนต้องก้าวเท้าหนีไปทางด้านหลังตามสัญชาติญาณ “นะ...น้องจ๊ะ เข้ามาใกล้พี่ทำไมขนาดนี้” ฉันรู้สึกตัวอีกที เขาก็เริ่มขยับเข้ามาใกล้ๆ พร้อมกับโน้มใบหน้าลงมาจนสายตาเราทั้งสองคนปะทะกัน ระยะห่างระหว่างใบหน้าห่างกันเพียงแค่สามเซนติเมตร “เลิกพูดจาแปลกๆแบบนั้นเหอะ ฟังแล้วขำว่ะ” ร่างสูงเอ่ยก่อนที่จะก้มหน้าลงไปใกล้ๆร่างบาง จนตอนนี้ริมฝีปากของทั้งคู่เริ่มใกล้ชิดกันจนจะประกบกันได้อยู่แล้ว เสียงลมหายใจของทั้งสองประสานกันเป็นจังหวะเดียวกัน “ไอ้บ้าเอ้ย!!!” ฉันเริ่มทนไม่ไหวเมื่อใบหน้าของคนตรงหน้าขยับเข้ามาใกล้จนริมฝีปากของเราสองคนนั้นแทบแนบชิดกัน ฉันตะโกนใส่หน้าเขาทันทีก่อนจะ... พลั่ก! ฉันผลักร่างของเขาออกไปเต็มแรง ทำให้ร่างสูงที่ไม่ทันได้ตั้งตัวทำหน้าเหวอโดยทันที ขาข้างซ้ายก้าวถอยหลังเล็กน้อยเหมือนคนจะเซล้ม เขายิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย เขาคงจะไม่คาดคิดว่าฉันจะผลักเขาสินะ! “พี่กล้ามากเลยนะครับที่ผลักผมเกือบล้ม” ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “อะไรกันย่ะ พอฉันทำดีด้วยก็บอกให้เลิกทำ พอฉันผลักก็ว่าฉันกล้า เด็กอย่างนายนี่มัน… โอ๊ย!!!” ฉันใช้น้ำเสียงแหลมปลี๊ดอย่างไม่สบอารมณ์ ฉันเพิ่งจะรู้ว่าไอ้เด็กนี่มันกวนประสาทมากแค่ไหน เหอะ! “นายควรจะรู้มารยาทด้วยนะว่ากับรุ่นพี่ควรจะพูดจายังไง” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงดุดันก่อนจะกอดอก พร้อมกับจ้องตาของเขาอย่างแข็งกร้าว “งั้นผมควรจะทำตัวยังไงเหรอครับ... ป้า ?” ร่างสูงยักคิ้วพร้อมกับส่งรอยยิ้มกวนๆมาให้ร่างบางที่ตอนนี้กำลังหงุดหงิดกับคนตรงหน้าอยู่ “หยุดเรียกฉันว่าป้าเดี๋ยวนี้เลยนะ!” ฉันกำมือแน่น ตอนนี้อารมณ์ฉันเริ่มจะปะทุเรื่อยๆ เพราะคนตรงหน้าที่ส่งรอยยิ้มกวนๆมาให้ ฉันอยากจะตบเขาให้หน้าชาเลย! “งั้นป้าก็หยุดวุ่นวายกับพี่ผมก่อนดิ” ร่างสูงกล่าด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ไม่มีทาง!!!” ฉันตอบปฏิเสธทันควัน “งั้นผมก็จะเรียกป้าว่าป้าต่อไป” “หยุดเรียกเดี๋ยวนี้เลยนะ!” ร่างบางที่ยืนกอดอกอยู่ตะคอกเสียงใส่ เด็กบ้านี่มันใหญ่มาจากไหนบังอาจมาเรียกคนอย่างฉันว่าป้า ฉันไม่ได้แก่ขนาดนั้นสักหน่อย ฮือ ฮือ “จะไปไหนย่ะ!?” ฉันตะโกนเรียกร่างสูงที่กำลังจะเดินหนีออกไปจากบริเวณนี้ ฉันกับเขาคงต้องเคลียร์กันให้รู้เรื่องซะก่อน ทั้งเรื่องพี่ชายของเขา และเรื่องที่เขาเรียกฉันว่าป้า! “เข้าบ้านไง” มือเรียวยาวของร่างสูงกำลังจะเปิดประตูบ้าน แต่ก็ต้องชะงักทันทีเพราะเสียงเรียกแหลมๆจากผู้หญิงที่ยืนอยู่ใกล้กันเพียงไม่กี่เมตร “มาคุยกันให้รู้เรื่องก่อนสิ!” “คุยอะไร มีอะไรต้องคุยด้วยเหรอครับ ?” “เรื่องพี่ชายนายไง!” “อ่อ ป้าคงยอมรับแล้วสินะ จะจับพี่ชายผมทำผัวงั้นสิ” ร่างสูงทำท่าครุ่นคิด ก่อนจะดีดนิ้วดังเป๊าะเหมือนกับคิดอะไรได้ “มะ...ไม่ใช่สักหน่อย” ร่างบางใบหน้าเริ่มแดงแจ๋เป็นลูกแตงโม ก่อนจะพูดต่อ “ ฉันแค่อยากจะทำความรู้จักกับพี่ชายนายให้มากๆก็เท่านั้นเอง ” ร่างบางยืนเอ่ยอย่างเขอะเขินพร้อมกับก้มลงมองพื้นอย่างเขินอาย “คุณมันก็เหมือนกับทุกๆคน” ร่างสูงมองไปยังหญิงสาวที่อายุห่างกันไม่กี่ปีด้วยสายตาว่างเปล่า พลางคิดว่า เธอก็เหมือนผู้หญิงคนอื่นๆที่เคยเจอ “เหมือน ?” ร่างบางขมวดคิ้วเป็นปมด้วยความสงสัย เขาหมายถึงอะไรกัน ? ร่างบางได้เพียงแต่คิดคำตอบไว้ในใจ “เหมือนกันทุกคนนั่นแหละ คิดจะตีสนิทผมเพื่อจีบพี่” ใบหน้าหล่อหวานตราตรึงใจเศร้าสลดเล็กน้อย ก่อนจะพยายามปรับสีหน้าให้กลับเป็นปกติ พร้อมกับกระตุกยิ้มมุมปาก “...” “ผมเกลียดคนแบบคุณที่สุดเลย!” เมื่อได้ยินคำว่า ‘เกลียด’ ออกมาจากปากคนตรงหน้า ร่างบางได้แต่ยืนนิ่งไม่ขยับ ร่างกายเหมือนหนักอึ้ง พยายามกลืนก้อนน้ำลายเหนียวๆลงคอ ก่อนจะกระพริบตาปริบๆเพื่อเรียกสติตัวเอง เพี๊ยะ! “ทำอะไรของเธอนะ !?” ร่างสูงขบริมฝีปากแน่นด้วยความเจ็บแสบตรงบริเวณแก้มตัวเอง แรง ‘ตบ’ ของคนตรงหน้าทำให้อารมณ์ของร่างสูงตอนนี้ก่อเกิดเป็นความโมโหขึ้นมา “อย่ามาคิดว่าคนอื่นๆจะเหมือนกันหมดนะ!” เหตุการณ์เมื่อสักครู่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน มือเจ้ากรรมของฉันเผลอไปตบเข้าที่ใบหน้าหล่อๆของร่างสูงอย่างแรงโดยไม่ทันให้ได้ตั้งตัว ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายเด็กผู้ชายคนนี้ คำพูดของเขาต่างหากที่พูดเหมือนกำลังจะดูถูกเหยียดหยามฉัน แต่ชั่วครู่ฉันรู้สึกว่าใบหน้าของเขากำลังหดหู่... ความคิดของเขาคิดว่าผู้หญิงทุกคนจะเป็นเหมือนกันอย่างนั้นเหรอ มันหมายความว่ายังไงกัน ? “...” ร่างสูงเงียบลง พร้อมกับเอามือหนาลูบแก้มตัวเองเบาๆ “อย่างน้อยๆ ฉันก็ไม่เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นที่นายกำลังพูดถึง” ฉันหลับตาพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะเงยมองคนตรงหน้า “เธอกล้ามากนะที่ตบหน้าฉัน!” ร่างสูงกระชากเสียงใส่ฉัน ทำให้ฉันชะงักไปสักพักใหญ่ๆ “โอ๊ย!” ฉันร้องเสียงหลงออกมา แขนข้างขวาของฉันที่ใช้ตบเขาเมื่อสักครู่ โดนกระชากอย่างแรงจากร่างสูง ถึงเขาจะเป็นแค่เด็กมัธยมปลายที่ดูตัวไม่ได้ใหญ่มากมายอะไร แต่พละกำลังนั้นใช่ย่อย “มากับฉัน!” ร่างสูงพยายามลากร่างบางให้เข้าไปในบ้านที่ตอนนี้เงียบสงบเหมือนไม่มีใครอยู่สักคน “ไม่ไป ปล่อยฉันนะ!” ฉันพยายามออกแรงขัดขืนเขา แต่มันกลับไม่เป็นผล ยิ่งฉันขัดขืนมากเท่าไหร่ก็ถูกเขาออกแรงกระทำที่แขนขวาของฉันมากขึ้นเท่านั้น แขนขวาของฉันเริ่มเป็นรอยแดงจ้ำตามรอยนิ้วมือของเขาที่ออกแรงบีบ ร่างสูงลากร่างบางจนกระทั่งมาถึงประตูบ้าน นิ้วเรียวยาวค่อยๆหยิบกุญแจที่ใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงนักเรียนโรงเรียนเอกชนสีน้ำเงิน เขาปลดล็อคประตูบ้านภายในเวลาไม่กี่วินาที อีกมือหนึ่งก็คอยดึงแขนของร่างบางที่ตอนนี้เอาแต่ดิ้นพยายามจะหนี “ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นฉันจะตะโกนเรียกพี่นายให้มาช่วยแน่” ฉันขู่เสียงแหบพร่าอย่างไร้หนทาง “พี่ฉันไม่อยู่ ตะโกนให้ตายเขาก็ไม่มาช่วยเธอหรอก!” เขากระแทกเสียงตอบด้วยความโมโห “นายลากฉันเข้ามาในบ้านทำไม” ฉันถามเสียงเบาด้วยความอยากรู้ อารมณ์ของเราทั้งสองเริ่มจะสงบลงมาได้นิดนึง “…” เงียบ “ได้ยินที่ฉันถามไหม ?” ฉันย่นคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะจ้องไปที่ใบหน้าที่ตอนนี้มีรอยมือประทับลงไปบนแก้ม “ผมโกรธที่พี่สาวตบหน้าผม” จู่ๆเสียงเด็กผู้ชายตรงหน้าก็อ่อนโยนขึ้นมาทันตา พร้อมกับก้มหน้าหงุด มือที่ตอนแรกจับแขนฉันไว้แน่นเริ่มคลายลง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสัมผัสอย่างแผ่วเบา “อะ...เอ่อ ฉันไม่ได้ตั้งใจ” ฉันเอ่ยเสียงเบาอย่างรู้สึกผิด เด็กตรงหน้าของฉันตอนนี้ดูเหมือนเป็นลูกหมาที่อ่อนแอ ผิดจากตอนแรกที่เป็นเหมือนปีศาจที่ตั้งใจจะฆ่าฉัน ฉันเอื้อมมือกำลังจะไปลูบหัวเขาอย่างปลอบโยน แต่แล้ว... “โอ๊ย!” ฉันร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บอีกครั้ง มือข้าวซ้ายของฉันโดนเขาจับเอาไว้อย่างแรงโดยทันที “ปล่อยฉันนะ นายจะทำอะไร!? กรี๊ด!” ฉันดิ้นอย่างไม่ยอมแพ้กับแรงของร่างสูง คนตรงหน้ายิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย ก่อนจะพยายามลากฉันมาที่ห้องรับแขก พร้อมกับผลักตัวฉันให้ล้มบนโซฟาสีแดงสวย “นายคิดจะทำอะไรกับฉันกันแน่” ฉันเอ่ยถามออกไป ก่อนจะจ้องมองเขาด้วยแววตาแข็งกร้าวอย่างคนไม่ยอมแพ้ “ลงโทษพี่ทิ้งไงครับ” ร่างสูงไม่สนใจแววตาของฉันที่จ้องมองเขา ใบหน้าหล่อๆก้มลงมากระซิบที่หูของฉันอย่างแผ่วเบา ทำให้ฉันต้องถลึงตาอย่างตกใจ ก่อนจะพยายามออกแรงดิ้นจากพันธะนาการที่เขากอบกุมแขนทั้งสองข้างของฉันไว้ ตอนนี้เขาจับแขนทั้งสองข้างของฉันพาดตึงไว้ข้างบนหัวของฉันด้วยมือเดียว “ฮือ ฮือ อย่าทำอะไรฉันเลยนะ” ใช้ไม้แข็งไม่ได้ก็ต้องใช้ไม้อ่อน ฉันพยายามทำเสียงเล็กเสียงน้อยให้ดูน่าสงสารที่สุด ก่อนจะพยายามบีบน้ำตาเบาๆ แต่มันติดตรงที่ว่าน้ำตามันไม่ไหลออกมานี่อ่ะดิ T**T** “อย่ามายุ่งกับพี่ชายผมอีก” ร่างสูงว่าพลางงับเข้าที่ใบหูของฉัน ทำให้ฉันสะดุ้ง ก่อนจะออกแรงดิ้น เขากำลังจะทำอะไรนะ “แต่ฉันชอบพี่ชายนายจริงๆนะ ถ้าฉันได้เป็นแฟนพี่ชายนาย ฉันสัญญาเลยฉันจะไม่ทำให้เขาเสียใจ” ฉันพยายามอธิบายสิ่งต่างๆที่ฉันคิดตอนเกี่ยวกับพี่ชายของเขาให้เข้าใจ ไม่แน่บางที เด็กวัยอายุสิบเจ็ด อาจจะมีนิสัยติดพี่ชายงอมแงมจนไม่ยอมรับผู้หญิงที่เข้ามาหาที่ชายตัวเองก็ได้ “ผมเชื่อพี่ไม่ได้หรอก” ร่างสูงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง ใบหน้าหล่อยังเด็กเริ่มขยับเข้ามาใกล้ใบหน้าสวยหวานที่นอนอยู่บนโซฟา ตอนนี้ร่างบางมีร่างสูงคล่อมทับอยู่ “อะ อือ!” ร่างบางตาเบิกโพรงขึ้นมาทันที เมื่อร่างสูงนั้นประกบริมฝีปากกับร่างบางที่อยู่ใต้ร่าง “อะ อ่อยอะ (ปะ ปล่อยนะ)” ร่างบางพูดไม่เป็นภาษา พร้อมกับพยายามดิ้นไปมาอย่างขัดขืน แต่ทว่าลิ้นร้อนจากร่างสูงนั้นเริ่มที่จะสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากได้รูปของร่างบางอย่างต้องการความหวาน ร่างบางเริ่มหมดแรงจะต้านทานพร้อมกับเคลิบเคลิ้มรสจูบของอีกฝ่าย เมื่อเวลาผ่านไปหลายนาที ร่างบางเริ่มจะหายใจไม่ออก ก่อนจะผละร่างสูงออกมา “แฮ่ก แฮ่ก นะ...นายจูบฉันทำไม” หน้าของฉันร้อนผ่าว หัวใจดวงน้อยๆเริ่มเต้นตึกตักอย่างไม่เป็นจังหวะ ใบหน้าเริ่มแดงก่ำ ถึงนี่จะไม่ใช่จูบแรก แต่มันเป็นจูบที่เร้าร้อนที่สุดในชีวิตของฉันเลยก็ว่าได้ “แค่ผมจูบแค่นี้ถึงกับหอบเลยเหรอ” ร่างสูงยิ้มขำเบาๆ “ไม่ใช่สักหน่อย นายจูบได้ห่วยมาก!” “หึ คำเตือนจากผม ถ้ายังไม่อยากโดนอะไรแบบนี้อีก ให้ถอยห่างออกจากพี่ผมซะ” ร่างสูงเอามือแตะริมฝีปากของอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา ก่อนจะแสดงยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย “ถอยห่าง ที่ผวนกลับเป็น ‘ถ่างหอย’ นะเหรอ อ๋อ! ได้สิ อีกไม่นานฉันได้ทำแบบนั้นแน่น” ฉันต่อปากต่อคำกับเขาอย่างไม่ยอมแพ้ ใครจะไปกลัวคำขู่ของเขากันละ แค่รสจูบของเขาก็ห่วยมากพอแล้ว แค่นี้ไม่ทำให้ฉันหวั่นไหวได้หรอก T///T จะว่าไปฉันพูดอะไรออกไปกันเนี่ย น่าอายชะมัด! ตึก ตัก ตึก ตัก เสียงหัวใจของฉันเริ่มจะเต้นไม่เป็นจังหวะซะแล้วสิ... ตึก ตัก ตึก ตัก โอ๊ย! รำคาญเสียงหัวใจตัวเองชะมัด ทำไมฉันจะต้องใจเต้นกับเด็กไร้มารยาทแบบนี้ด้วยนะ! เสียงทุ้มใหญ่ดังขึ้นมาทำให้ฉันต้องตื่นจากภวังค์ “หึ ยัยป้า งั้นก่อนจะไปถ่างให้พี่ฉันดู ขอฉันตรวจสอบก่อนได้ไหมว่ามันจะไม่มีพิษมีภัยอะไร” “พูดบ้าอะไรกันย่ะ!” ฉันตะโกนใส่หน้าของเด็กหนุ่มตรงหน้า เขายังเด็กอยู่เลยนะที่จะมาทำอะไรแบบนี้ จะบ้าตาย มันไม่สมควรเลยจริงๆ ฉันเกลียดเขาที่สุด! L “ขอผมดูหน่อยนะครับ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD