CEO 04
*********************************
พี่คีรีถอนหายใจออกมาเหมือนว่าเขาเบื่อหน่ายฉันมาก ฉันเองก็พอจะรู้มานานแล้วล่ะว่าเขาไม่ได้อยากให้ฉันเข้าใกล้เขาเลยด้วยซ้ำ
แต่ก็ช่วยรำคาญและเบื่อหน่ายฉันต่อไปก่อนนะ เพราะไม่ว่ายังไงฉันก็จะไม่ล้มเลิกความพยายามของตัวเองที่จะได้เป็นเมียท่านประธานอย่างเขาหรอก
เพราะฉันต้องการที่จะให้พี่คีรีมาเป็นของฉันให้ได้ไง อีกอย่างฉันก็รู้เรื่องระหว่างเขากับแฟนเก่าของเขาแล้วล่ะ
และมันก็ทำให้ฉันรู้ว่าที่เขาไม่ยอมเปิดใจให้ฉันมันเป็นเพราะว่าเขายังลืมแฟนเก่าไม่ได้ มันเลยทำให้เขาไม่สามารถที่จะเปิดใจให้คนใหม่เข้าไปในใจเขาได้
แต่ฉันนี่แหละที่จะทำให้เขาลืมแฟนเก่าแล้วอยากเริ่มต้นใหม่กับฉันให้ได้ ไม่รู้หรอกนะว่าตัวเองจะทำยังไงให้เขาหันมาสนใจฉันได้
แต่ไม่ว่ายังไงฉันก็จะต้องทำให้ได้ไง ลงทุนตามจีบมาเป็นปีแบบนี้ถ้าจะให้ถอดใจก็คงไม่ใช่นาราหรอก
“คุณเบนคะทำไมพี่คีรีเขาถึงได้ปฏิเสธหนูมาตลอดเหรอคะ หรือเป็นเพราะว่าเขาไม่ชอบเด็กอย่างหนูเหรอ?”
“ก็คงจะเป็นอย่างนั้นมั้ง”
“แต่ว่า…หนูอยากทำให้เขารักหนูนี่คะ ทำไมนะ ทำไมต้องปฏิเสธหนูแบบนี้ ทำไมต้องเย็นชากับหนูแบบนี้ด้วยก็ไม่รู้”
ฉันบ่นกับตัวเองเสียงดังและคุณเบนก็ได้ยินที่ฉันบ่นถึงเข้านายเขาด้วย ฉันไม่สนหรอกนะว่าใครจะมาได้ยินหรือเปล่า
แต่ฉันแค่ไม่เข้าใจเท่านั้นเองว่าทำไมเขาถึงได้ชอบปฏิเสธฉันแบบนี้ด้วย
นี่ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นลากฉันขึ้นเตียงไปนานแล้วล่ะ ไม่ปล่อยให้ฉันตามจีบมาเป็นปีแน่
“หรือเพราะพี่คีรีไม่ชอบหนูแค่คนเดียวหรือเปล่า แต่พอเป็นผู้หญิงคนอื่นก็อาจจะชอบก็ได้”
“เพราะคุณคีรียังลืมแฟนเก่าไม่ได้ไง”
“พี่คีรียังลืมพี่เอมี่ไม่ได้อีกเหรอคะ มันผ่านมาเป็นปีแล้วนะ”
ฉันมองหน้าคุณเบนที่ตอนนี้หันมามองหน้าฉันในตอนที่รถจอดติดไฟแดง พี่เอมี่ที่ฉันพูดถึงก็คือแฟนเก่าของพี่คีรีเอง และพวกเขาสองคนก็เลิกกันมาเป็นปีแล้วนะ
คิดดูสิว่าฉันตามอ่อยพี่คีรีมาเกือบปี นั่นก็หมายความว่าพวกเขาสองคนได้เลิกกันมาก่อนหน้านั้นแล้ว แต่ทำไมพี่คีรีถึงยังลืมเธอไม่ได้อีกล่ะ
คุณเบนพยักหน้าแล้วบอกว่าคนที่อยู่ในใจของพี่คีรีมาตลอดก็คือพี่เอมี่ และที่เขาไม่ได้สนใจผู้หญิงคนไหนเลยก็เพราะว่าเขายังรอให้แฟนเก่ากลับมา
ฉันเองก็เพิ่งรู้เรื่องนี้เหมือนกันว่าการที่เขาปฏิเสธฉันน่ะมันเป็นเพราะว่าเขารอให้แฟนเก่ากลับมา
“ทีนี้เข้าใจหรือยังว่าทำไมเขาถึงต้องปฏิเสธเธอน่ะนารา”
“รอให้แฟนเก่าที่ทิ้งตัวเองไปแล้วกลับมาอย่างนั้นเหรอคะ?”
“ฉันว่าเรื่องนี้เธอไม่ควรยุ่งนะ เพราะคุณคีรีไม่ชอบให้ใครยุ่งเรื่องส่วนตัวของเขา และที่ฉันบอกเธอเพราะฉันต้องการให้เธอทำใจได้แล้วว่าเจ้านายฉันเขาอาจจะไม่ได้เปิดใจให้เธอก็ได้”
“แบบนั้นมันจะไม่เป็นการใจร้ายกับคนใหม่หน่อยเหรอคะ?”
“แล้วยังไง เธอจะไปสั่งให้เขาลืมคนเก่าเพื่อเอาคนใหม่อย่างนั้นเหรอ”
“…”
ฉันมองหน้าคนตรงหน้าแล้วไม่ได้พูดอะไร เพราะมันเพิ่งได้รู้เหตุผลที่พี่คีรีปฏิเสธฉันมาตลอดไงว่าเพราะอะไรทำไมเขาถึงไม่ยอมเปิดใจให้ฉัน
“คนที่อยู่ในใจของคุณคีรีก็คือเอมี่ และเขาก็ยังรอให้เธอกลับมา”
“รอทำไมคะในเมื่อเลิกกันไปนานแล้วไม่ใช่เหรอ?”
“ฉันเองก็ไม่รู้หรอกนะว่ารอทำไม ฉันรู้แค่ว่าที่เขาไม่ยอมเปิดใจให้เธอมันเป็นเพราะว่าเขามีคนที่เขายังรักและคิดถึงอยู่แล้วส่วนเธอก็คงต้องทำใจจากเขาแล้วล่ะ”
“ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ หนูก็คงต้องทำให้พี่คีรีลืมพี่เอมี่เอง แล้วหันมาสนใจหนูแทน”
“ถ้าคุณคีรีจะสนใจเธอเขาก็คงสนใจเธอไปนานแล้วล่ะนารา เพราะงั้นตัดใจจากคุณคีรีได้แล้ว”
“ที่พูดแบบนี้เพราะพี่คีรีบอกให้คุณเบนมาพูดกับหนูใช่มั้ยคะ?”
“เปล่า แต่ฉันเห็นว่าเธอเจ็บเพราะเขามาเยอะแล้วไง เพราะงั้นก็พอได้แล้วนะ”
“ไม่ค่ะ เพราะหนูจะต้องได้เป็นเมียท่านประธานอย่างพี่คีรีให้ได้”
ฉันตอบกลับไปทันทีว่าเรื่องแค่นี้ไม่ทำให้ฉันตัดใจจากพี่คีรีได้หรอก ลืมแฟนเก่าไม่ได้อย่างนั้นเหรอ
ฉันนี่แหละที่จะเป็นคนทำให้เขาลืมแฟนเก่าให้ได้เอง
ฉันเดินเข้ามาในห้องของพี่คีรีอย่างเงียบๆ ถึงแม้ว่าเจ้าของห้องจะไม่เต็มใจให้ฉันเข้ามาก็ตาม แต่ฉันก็ไม่ได้ดื้อรั้นที่จะไม่ฟังเขาหรอกนะ
เวลาที่ฉันเห็นว่าเขาโมโหหรือหงุดหงิดฉันก็จะหยุดดื้อทันที แต่ที่ฉันทำทั้งหมดนั้นฉันอยากให้เขารู้ไงว่าฉันจริงจังกับเขามากเลยนะ และฉันก็อยากจะให้เขาลืมอดีตแล้วเริ่มต้นใหม่ได้แล้ว
พวกเขาสองคนเลิกกันมานานแล้วนะก็ควรที่จะเปิดใจให้คนใหม่ได้แล้วหรือเปล่า ไม่ใช่จมปรักกับอดีตที่มันไม่มีอะไรดีขึ้นมาเลย
ฉันเดินไปนั่งที่โซฟาข้างๆ พี่คีรีที่เดินไปนั่งก่อนฉันและไม่ได้สนใจฉันเลย เหมือนว่าการที่เขาทำตัวเย็นชากับฉันแบบนี้จะบีบบังคับฉันทางอ้อมให้ฉันต้องออกจากห้องเขาเร็วๆ
แต่ฉันจะบอกอะไรให้นะว่ามันไม่ได้ผลหรอก อย่างที่ฉันบอกไงว่าฉันจะต้องเป็นเมียเขาให้ได้ และเขาเองก็ต้องเป็นของฉันเหมือนกัน ยิ่งหนีฉันก็ยิ่งตาม
“ทำไมต้องชอบมองหน้าหนูเหมือนว่าหนูเป็นคนที่พี่ไม่อยากเข้าใกล้ด้วยคะ”
“ก็เพราะว่าพี่คิดแบบนั้นกับเราไงนารา”
“เฮ้อ แล้วเคยได้ยินคำนี้มั้ยคะว่ายิ่งหนีหนูก็ยิ่งตาม”
“…”
พอเห็นว่าพี่คีรีเงียบไปฉันเองก็ไม่กล้าที่จะชวนเขาคุยเลยล่ะเพราะกลัวว่าอาจจะทำให้เขาอารมณ์ไม่ดีขึ้นมาก็ได้
ก็เลยได้แต่นั่งเงียบๆ มองหน้าเขาเท่านั้นก่อนที่เสียงแจ้งเตือนข้อความไลน์ในมือถือของฉันมันจะดังขึ้น
ทำให้ฉันต้องละสายตาจากพี่คีรีหยิบมือถือตัวเองออกมาจากกระเป๋าสะพายเพื่อที่จะดูว่าใครที่ทักข้อความไลน์มาหาฉัน พอเปิดดูก็เห็นว่าเป็นพี่เกรทพี่รหัสของฉันเอง
เกรท : อยู่ที่ห้องหรือเปล่า พี่มีเรื่องอยากคุยด้วย
เกรท : เดี๋ยวพี่ไปหาที่คอนโดนะ
นารา : หนูไม่ได้อยู่ที่ห้องค่ะ
นารา : ตอนนี้อยู่ที่คอนโด K พี่เกรทมาหาหนูที่นี่ก็ได้ค่ะ
เกรท : โอเคครับ เดี๋ยวพี่ไปหาตอนนี้เลย
ฉันอ่านข้อความไลน์ที่พี่เกรทส่งมาเหมือนว่าเขามีเรื่องอยากจะคุยกับฉันมากเลยนะ และฉันก็ไม่รู้ด้วยว่าเรื่องที่เขาจะคุยกับฉันเป็นเรื่องอะไร
ปกติแล้วถ้าไม่มีเรื่องอะไรที่สำคัญจริงๆ พี่เกรทจะไม่ทักมาหาฉันแบบนี้เลย ฉันเก็บมือถือเข้ากระเป๋าก่อนจะหันไปมองหน้าพี่คีรีที่ตอนนี้ไม่ได้สนใจอะไรฉันเลยด้วยซ้ำ
จริงๆ ฉันเองก็อยากจะให้เขาถามฉันเหมือนกันนะว่าใครทักไลน์มา แต่ก็นั่นแหละเราสองคนได้เป็นอะไรกันไงมันเลยไม่แปลกที่เขาจะไม่ถามว่าใครที่ไลน์มาหาฉัน และไม่ได้ให้ความสนใจฉันด้วย
“ชอบทำหน้าเย็นชาแบบนี้เวลาที่อยู่กับหนูแค่คนเดียวหรือเปล่าผัวขา”
“ก่อนจะเรียกคนอื่นว่าผัว เช็กดูดีๆ หรือยังว่าเขาอยากเป็นผัวเราหรือเปล่า”
“อยากเป็นหรือไม่อยากเป็นไม่รู้ค่ะ แต่ที่รู้ก็คือหนูอยากเป็นเมียพี่คีรีและอยากให้พี่คีรีเป็นผัวหนูด้วยค่ะ”
“หึ เดี๋ยวก็รู้ว่าจะได้เป็นหรือเปล่า”
คนตรงหน้าตอบกลับมาทันที คำพูดของเขาน่ะเหมือนว่าเขาไม่คิดที่จะเปิดใจให้ฉันแน่
ก็รู้นะว่ามันยากมากที่จะทำให้พี่คีรีเปิดใจให้ฉัน แต่ฉันคิดว่าการที่เขาโสดฉันมีสิทธิ์ที่จะตามจีบตามอ่อยเขาไม่ใช่เหรอ
ไม่ว่าเขาจะสนใจหรือไม่สนใจก็ไม่เป็นไรหรอก อย่างน้อยมันก็ทำให้ฉันได้อยู่ใกล้ๆ คนที่ฉันรักไง
“หนูจะกลับแล้วนะคะ เอาไว้วันหลังหนูจะมาตามอ่อยใหม่นะ และห้ามไปหวั่นไหวให้ผู้หญิงคนไหนด้วยนะคะ”
“เรามีสิทธิ์สั่งพี่ด้วยเหรอคะนารา”
“มันไม่ได้เป็นประโยคคำสั่งนะคะ แต่มันเป็นประโยคขอร้องที่ไม่อยากให้พี่คีรีไปชอบผู้หญิงคนอื่นค่ะ”
“กลับไปได้แล้วไป พี่จะทำงาน”
“ก็ได้ค่ะ รู้แล้วว่าไม่อยากเห็นหน้าแต่วันหลังจะมาให้เห็นหน้าใหม่”
“อืม”
“พูดแค่นี้เองเหรอคะ หรือว่าหนูจะไม่ไปดีนะ จะนั่งอยู่แบบนี้ให้พี่คีรีรำคาญเล่นดีหรือเปล่า?”
“จะกลับก็กลับไปได้แล้วพี่มีงานมีต้องทำต่อ”
“ไม่เป็นห่วงหนูหน่อยเหรอคะว่าจะกลับยังไง ตอนนี้มันก็ดึกแล้วนะ”
“ที่ไม่ถามเพราะไม่อยากรู้ไงว่ากลับยังไง”
“โอเคค่ะ งั้นหนูกลับแล้วนะคะ”
ฉันยิ้มให้คนตรงหน้าและใช้จังหวะที่เขาไม่ทันได้ระวังตัวยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มเขาทันที ทำให้เขาหันมามองหน้าฉันแล้วทำหน้าดุใส่ เพราะเขาไม่ชอบให้ฉันทำแบบนี้ไง
ฉันก็แค่อยากอ้อนเขาบ้างถึงแม้ว่าเขาจะไม่ต้องการก็ตาม ฉันยิ้มให้พี่คีรีก่อนที่จะเดินออกมาจากห้องของเขาเพื่อมารอพี่เกรท
ฉันเดินมานั่งที่ล็อบบี้ รอได้ไม่นานเขาก็ไลน์มาบอกว่าตอนนี้อยู่ที่หน้าคอนโดแล้ว ฉันเดินออกมาที่หน้าคอนโดก็เห็นรถของพี่เกรทจอดรอฉันอยู่ ฉันเลยเดินไปขึ้นรถของเขา
ฉันกับพี่เกรทค่อนข้างที่จะสนิทกันมากพอสมควร เพราะเวลาที่ฉันมีปัญหาเรื่องเรียนมักจะปรึกษาเขาหรือไม่ก็เรื่องให้เขาช่วยติวข้อสอบ
เดมี่เพื่อนสนิทของฉันก็สนิทกับพี่รหัสฉันคนนี้เหมือนกัน พอฉันเข้ามานั่งในรถสายตาพี่เกรทก็มองหน้าฉันอย่างจริงจังทันที
ก่อนหน้านี้ฉันไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจหรือเปล่า เพราะปกติแล้วพี่เกรทจะไม่มองหน้าฉันด้วยสีหน้าแบบนี้เลยนะ
“พี่เกรทมีอะไรหรือเปล่าคะ?”
“พี่มีเรื่องอยากคุยกับเราหน่อยน่ะนารา”
“เรื่องอะไรเหรอคะทำไมดูซีเรียสเชียว”
“พี่อยากจะบอกเราวันนี้ เพราะพี่ไม่รู้ว่าถ้าไม่บอกวันนี้จะได้มีโอกาสได้บอกอีกมั้ย?”
“ทำไมพูดแบบนี้ล่ะคะมันเป็นเรื่องที่สำคัญมากเลยเหรอ?”
“สำหรับพี่มันอาจจะสำคัญนะ แต่พี่ไม่รู้ว่าสำหรับเราแล้วมันจะสำคัญหรือเปล่า?”
“ถ้างั้นเรื่องอะไรเหรอคะ?”
“พี่ชอบเรานะนารา”
และพี่เกรทก็พูดเรื่องที่เขาต้องการที่จะพูดกับฉันออกมาทันที และฉันก็ไม่คิดด้วยซ้ำว่าเขาจะพูดเรื่องนี้กับฉัน
“อะไรนะคะ?”